หากพูดถึงเมนูขนม หรือของหวาน “ทอฟฟี่เค้ก” ถือเป็นอีกหนึ่งขนมที่ขึ้นชื่ออีกอย่างและได้รับความนิยมมาตลอดด้วยหน้าตาที่เป็นเค้กช็อกโกแลตราดหน้าด้วยถั่วและคาราเมลให้รสสัมผัสที่หวานมันไม่เลี่ยนจึงกลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ที่ได้ทานซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากร้านดังของสวนดุสิตที่มีผู้เชี่ยวชาญและมากฝีมือการันตีถึงคุณภาพและฝีมือจนกลายเป็นที่โด่งดังและหลาย ๆ ร้านได้ทราบถึงชื่อเสียงจึงมีการเรียน หรือบางร้านได้มีการพัฒนาและปรับปรุงสูตรจนกลายมาเป็นสูตรทอฟฟี่เค้กที่มีมาอย่างหลากหลายให้ได้ลองไปฝึกทำกันได้ง่าย ๆ ที่บ้านทั้งไว้ทานเอง หรืออาจจะขยายต่อยอดเปิดเป็นร้านขนมในอนาคตก็ได้ซึ่งเรื่องราวของทอฟฟี่เค้กยังไม่จบเพียงแค่นี้จะมีอะไรที่น่าสนใจและน่าน่าติดตามต่อมาดูกัน
ที่มาของทอฟฟี่เค้ก
ก่อนอื่นขอนำทุกคนมารู้จักความเป็นมาของ “ทอฟฟี่เค้ก”ซึ่งเป็นขนมหวานที่ขึ้นชื่อมาก ๆ จากฝั่งตะวันตกโดยผู้คิดค้น “ผงฟู หรือ เบกกิ้งโซดา” ทำให้สามารถทำขนมปังชนิดที่ไม่มียีสต์ขึ้นได้เป็นครั้งแรกและได้ถูกถ่ายทอดอารยธรรมจากตะวันตกมาสู่ประเทศไทยโดยการติดต่อค้าขายซึ่งเมืองไทยได้รับการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับขนมอบมานานกว่า 60 ปีแต่อาจไม่เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยกันมากนักเช่นเดียวกับ“เค้กทอฟฟี่” ที่คนไทยพึ่งได้รู้จักราว 10 ปีที่ผ่านมาจากร้านดังอย่างโฮมเบเกอรี่ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตที่มีจุดเด่นในเรื่องของเนื้อเค้กชิฟฟ่อนบางเบา เนื้อแน่นและเต็มคำทานร่วมกับคาราเมลถั่วเข้ากันเป็นอย่างดีที่วันนี้จะพาทุกผู้อ่านทุกคนไปลองทำกันโดยมาพร้อมสูตรทอฟฟี่เค้กและวิธีทำ ดังนี้
วิธีทําทอฟฟี่เค้ก
ทอฟฟี่เค้กสูตรทำง่าย
ถึงแม้สูตรทอฟฟี่เค้กที่นำมาฝากคุณผู้อ่านวันนี้เป็นสูตรของคุณตรีซึ่งรับประกันความอร่อยไม่แพ้ทอฟฟี่เค้กสวนดุสิตอย่างแน่นอนโดยเริ่มกันที่
ส่วนผสมและวัตถุดิบ
เนื้อเค้ก
- แป้งอเนกประสงค์ 125 กรัม
- กาแฟแบบผง 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- เนยจืด (ละลายแล้ว) 150 กรัม
- ไข่ไก่เบอร์ 1 หรือ 2 จำนวน 4 ฟอง
- เกลือ ⅛ ช้อนชา
หน้าทอฟฟี่เค้ก
- เนยจืด 150 กรัม
- นมจืด 60 กรัม
- น้ำตาลทราย 140 กรัม
- เกลือ ¼ ช้อนโต๊ะ
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 170 กรัม
- กาแฟผง 1 ช้อนชา
- แป้งสาลี 3 ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทําทอฟฟี่เค้ก (หน้า)
- เริ่มต้นด้วยการร่อนของแห้งได้แก่ แป้ง เกลือ ผงโกโก้ ผงกาแฟและผงฟูโดยนำทั้งหมดมารวมกันควรร่อนประมาณ 3 รอบ
- ตอกไข่ไก่ 4 ฟองลงในภาชนะจากนั้นให้ใช้เครื่องตีไข่ตีที่ระดับความเร็วสูงสุดโดยให้ตีไปเรื่อยประมาณ 3 – 5 นาทีทยอยเติมน้ำตาลลงไปครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะสลับกับการตีให้น้ำตาลละลายจนกว่าน้ำตาลจะหมดจากนั้นให้ติดต่อไปประมาณ 15 นาทีเมื่อตีเสร็จจะได้ส่วนผสมของไข่ขึ้นฟู ขาว เนียนและมีฟองละเอียด
- นำส่วนผสมเทลงในถาดที่ปูด้วยกระดาษไขโดยใช้พิมพ์ประมาณ 10 X 10 นิ้วโดยใช้ไฟล่างประมาณ 175 องศาเซลเซียสอบทิ้งไว้ 30 – 35 นาที
- เมื่อครบเวลาให้นำตัวเค้กออกมาโดยหากไม่มั่นใจว่าสุกหรือไม่ให้นำไม้จิ้มลงไปในเนื้อเค้ก หากไม่มีเศษเค้กเปียก ๆ ติดขึ้นมาแสดงว่าเนื้อเค้กนั้นสุกดี
- ให้ทำการยกพิมพ์กระแทกบนพื้นโต๊ะเบาๆ เพื่อให้โครงสร้างเค้กอยู่ตัว แล้วพักเนื้อเค้กไว้ให้เย็น
- เมื่อเนื้อเค้กเย็นแล้วให้ทำการคว่ำเค้กลงในถาดอีกใบโดยลอกกระดาษไขที่ติดอยู่กับเนื้อเค้กออก จากนั้นให้คลิกเค้กกลับมาหน้าเดิมแล้วพักไว้
วิธีทําทอฟฟี่เค้ก (เนื้อ)
- เริ่มจากการผสม เนยสด นมข้นจืด น้ำตาลและเกลือป่นทั้งหมดเข้าด้วยกัน
- เปิดเตาแล้วนำส่วนผสมในภาชนะไปตั้งบนเตาโดยใช้ไฟกลางให้คอยคนเรื่อย ๆ จนกระทั่งเนยและน้ำตาลละลายเข้ากันได้ดีให้นำกาแฟผงใส่ลงไปแล้วคนกาแฟผงให้ไม่ละลายเป็นเม็ด
- จากนั้นตามด้วยแป้งสาลีแล้วคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันโดยสังเกตให้แป้งไม่เป็นเม็ด พอแป้งเริ่มสุกส่วนผสมต่าง ๆ จะเหนียวขึ้นให้คนทิ้งระยะ เมื่อส่วนผสมต่าง ๆ เริ่มเหนียวขึ้นอีกครั้งก็เป็นอันใช้ได้ให้ทำการปิดเตาและยกลง
- เมื่อยกลงจากเตาแล้วให้นำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ได้อบไว้ในอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 10 นาทีใส่ลงไปในภาชนะจากนั้นคนให้เข้ากันแล้วนำไปราดบนเนื้อเค้กในถาดให้ทั่วและเสมอกัน
- นำเข้าเตาอบอีกครั้งโดยใช้ไฟบนที่ 200 องศาเซลเซียสประมาณ 20 นาทีเมื่อครบกำหนดเวลาให้นำทอฟฟี่เค้กออกแล้วนำมาตัดแบ่งเป็นชิ้น ๆ แล้วนำไปจัดใส่จานพร้อมทาน
เคล็ดลับการทำทอฟฟี่
- สำหรับคนใดที่ชอบรสชาติเข้มข้นอาจปรับส่วนผสมเพิ่มขึ้น อาทิเช่น ผงโกโก้ กาแฟผง เนยสดอย่างละนิดแต่ทั้งนี้ก็ต้องระมัดระวังเนื่องจากอาจจะกลายเป็นรสชาติที่ขมแทน (ต้องอาศัยการฝึกฝน)
- ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากนำเค้กออกจากเตาให้พักไว้ให้เย็นแล้วนำมาตัดแบ่งเป็นชิ้น ๆ ใส่กล่องเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานหลายวัน
- สำหรับใครที่ไม่ชอบรสชาติหวาน หรือกลัวเลี่ยนสามารถนำเค้กทอฟฟี่มาทานคู่กับชา หรือกาแฟซึ่งจะช่วยเพิ่มอรรถรสและลดความหวานเลี่ยนลงได้
ซึ่งสูตรเค้กทอฟฟี่ของคุณตรีก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสูตรที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สูตรทอฟฟี่เค้กสวนดุสิตสำหรับใครที่อยากลองทานก็สามารถเดินทางไปได้ที่ร้านโฮมเบอเกอรี่ มหาลัยสวนดุสิตซึ่งนอกจากเมนูทอฟฟี่เค้กแล้วยังมีเมนูขนมอื่น ๆ ให้ได้ลองทานอีกมากมาย หรือสำหรับใครที่อยากเรียนทำทอฟฟี่เค้กสวนดุสิต หรือต้องการเพิ่มทักษะสามารถไปเรียนได้ที่โรงเรียนการเรือน มหาลัยสวนดุสิตโดยผู้เชี่ยวชาญที่มากฝีมือที่จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะจนสามารถออกมาเปิดขายขนมเป็นอีกหนึ่งช่องทางง่าย ๆ ที่ทำได้และเหมาะกับยุคปัจจุบันที่สามารถเปิดจำหน่ายได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ก็จบไปแล้วกับทอฟฟี่เค้กสูตรคุณตรีที่ได้ถูกนำมาปรับและดัดแปลงตามความชอบซึ่งหวังว่าเนื้อหาเกี่ยวกับทอฟฟี่เค้กในวันนี้จะช่วยให้คุณได้ลองใช้เวลาว่างไปฝึกทำเล่น ๆ ที่บ้าน หรือใครที่กำลังมองหารายได้เสริมนี่ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้โดยสามารถลองนำสูตรและวิธีทำไปฝึกทำเนื่องจากเป็นเมนูขนมที่ทานง่าย หวานมันกำลังดีไม่เลี่ยนมาก รวมไปถึงวัตถุดิบในการทำก็ค่อนข้างหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปพร้อมทั้งช่องทาง หรือแพลตฟอร์มในการขายปัจจุบันเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย