มะขามป้อม พืชโอสถสรรพคุณใช้เป็นยา ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยพุทธกาล ถือได้ว่าเป็นพืชเก่าแก่ชนิดหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งปัจจุบันมีการศึกษาประโยชน์ของมะขามป้อมมากยิ่งขึ้น จึงได้พบว่ามะขามป้อมไม่เพียงแต่เป็นพืชโบราณเท่านั้นแต่ยังมีสรรพคุณเป็นยาอายุรเวท ที่สามารถใช้ป้องกันโรคได้จริงมีงานวิจัยรองรับ และได้รับการยอมรับอย่างเป็นสากล ซึ่งหากใครยังไม่รู้จักมะขามป้อม ห้ามพลาดกับบทความนี้ เพราะเราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก “มะขามป้อม” ผลไม้สมุนไพรพื้นบ้านแบบเจาะลึกกันค่ะ
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
มะขามป้อม ภาษาอังกฤษ
มะขามป้อมมีชื่อภาษาอังกฤษสั้น ๆ ว่า “Amla, Amalaka หรือ Indian gooseberry” ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวอินเดียเรียกสมุนไพรชนิดนี้มานานนับพันปี
ทำความรู้จักกับ “มะขามป้อม”
“มะขามป้อม” เป็นชื่อเรียกที่คนไทยตั้ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Phyllanthus emblica Linn” ในอินเดียชาวบ้านหรือพระภิกษุนิยมเก็บไว้ใช้รักษาโรคสามัญทั่วไป ทั้งเป็นยาระบาย ยาแก้ไอมะขามป้อม ยาแก้ปวดท้อง และยังใช้ทาแก้ปวดเมื่อยกระดูกตามร่างกายอีกด้วย โดยในปัจจุบันมีการวิจัย “มะขามป้อม”อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เรารู้ว่าสรรพคุณต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากตัวมะขามป้อมนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย โดยเฉพาะวิตามินซีที่มีมากกว่าผลแอปเปิ้ล หรือส้มกว่า 20 เท่าเลยทีเดียว กลายเป็นพืชสมุนไพรทรงคุณค่าที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคร้ายและมีส่วนช่วยบำรุงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เรียกได้ว่า ชื่อ “Amalaka” ที่ชาวอินเดียใช้เรียกพืชชนิดนี้ เป็นคำศัพท์ที่เหมาะสม เพราะคำ ๆ นี้แปลว่า “พยาบาล” ซึ่งสะท้อนให้เห็นสรรพคุณมากมายของมะขามป้อมนั่นเอง
ลักษณะของมะขามป้อม
มะขามป้อม เป็นพืชตระกูลไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นไม่ใหญ่และสูงมาก โตเต็มที่จะมีขนาด 8-20 เมตร เท่านั้น มีลำต้นขนาดกะทัดรัด เปลือกสีน้ำตามอ่อน มีจุดเด่นสังเกตได้ง่ายที่ใบโดยจะมีลักษณะใบเป็นช่อ แต่ละช่อประกอบด้วยใบย่อยขนาดเล็ก ขนานกันเรียงกันเป็นแพ สีเขียวอ่อน ที่ตรงกิ่งบริเวณโคนช่อใบจะมีลูกหรือผลของมะขามป้อมขนาดเล็กเป็นทรงกลมเส้นผ่านศูนย์หลางประมาณ 1-2 เซนติเมตร ออกผลเป็นพวง 2-4 ลูกติดกัน ผลของมะข้ามป้อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล่าวคือเป็นผลสีเขียวค่อนข้างใส มีริ้ว ๆ จากหัวไปท้าย ด้านในมีเมล็ด 6 เมล็ด/1 ผล สามารถเด็ดกินจากต้นได้ทันที โดยเนื้อภายในของมะขามป้อมมีรสอมเปรี้ยว อมฝาดและขมที่ปลายลิ้นเล็กน้อย นิยมออกดอกและผลในช่วงหน้าหนาว พฤศจิกายนถึงปลายมกราคม และสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง เพราะชอบอากาศร้อนชื้นและเป็นพืชที่ทนต่อสภาพอากาศได้ดีมากพอสมควร
สรรพคุณ มะขามป้อมและประโยชน์
มะขามป้อม มีสรรพคุณเป็นยา ที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศอินเดีย ที่เชื่อว่าเป็นถิ่นกำเนิดของต้นไม้ชนิดนี้ โดยสำหรับประเทศไทยแล้วมีการตีแผ่งานวิจัย ที่ยืนยันว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้สมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณเป็นยาต้านและป้องกันโรคหลายชนิด เนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี3 แคลเซียม ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร และเด่นที่สุดคือวิตามินซี ที่ได้รับการวิจัยงว่าเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีมากที่สุดในโลก เรียกได้ว่า มะขามป้อมเล็ก ๆ เพียง 1 ลูกมีปริมาณวิตามินซีมากกว่าแอปเปิ้ลและส้ม 1-2 ผลเลยทีเดียว และด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นเหล่านี้ ทำให้มะขามป้อมมีสรรพคุณและมีประโยชน์ที่น่าสนใจ ดังนี้
มะขามป้อมป้องกันไข้หวัด
ด้วยสรรพคุณ มะขามป้อม ที่มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่สูง มะขามป้อมจึงเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้ป้องกันและแก้ไอ-ไข้หวัดได้เป็นอย่างดี โดยชาวบ้านนิยมนำผลของมะขามป้อมมาคั้นน้ำสด ดื่มวันละ 1-2 ช้อนชา ปริมาณ 2-3 ครั้งต่อวัน จะช่วยบรรเทาอาการไอ และไข้หวัดเนื่องจากอากาศเปลี่ยนได้ เพราะน้ำมะขามป้อมมีฤทธิ์เป็นธาตุเย็น จึงช่วยระบายความร้อนในร่างกาย พร้อมช่วยละลายเสมหะ บำรุงเสียง ทำให้ชุ่มคอและลดอาการระคายเคืองจากการไอได้เป็นอย่างดี
มะขามป้อมบำรุงผิวและผม
นอกจากการกินมะขามป้อมเพื่อบำรุงร่างกายและป้องกันโรคแล้ว ชาวอินเดียเชื่อว่ามะขามป้อมมีสรรพคุณโดดเด่นในเรื่องบำรุงผมและผิวพรรณอีกด้วย เพราะวิตามินซีที่สูงและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้นิยมรับประทานมะขามป้อมวันละ 2-3 ผลทุก ๆ วัน เพื่อบำรุงผิวพรรณจากภายใน และนิยมนำผลมาฝานบาง ๆ ผสมน้ำและนำมาทาหน้าเพื่อทำให้หน้าขาวใส ไร้ริ้วรอยและจุดด่างดำ และด้วยสรรพคุณการชะล้างอ่อน ๆ มะขามป้อมจึงนิยมนำมาทำเป็นยาสระผมสำหรับชาวอินเดีย พร้อมใช้น้ำที่แช่ผลมะขามป้อมมาข้ามคืน เป็นน้ำสุดท้ายในขั้นตอนการสระผม เพราะมีการจดสิทธิบัตรว่ามะขามป้อมมีสรรพคุณทำให้ผมดกดำ กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ป้องกันผมร่วงและผมหงอกก่อนวัยได้เป็นอย่างดี
มะขามป้อมป้องกันมะเร็ง
สำหรับสรรพคุณ มะขามป้อมเพื่อป้องกันและรักษาไข้หวัดแล้วนั้น มะขามป้อมยังเป็นพืชสมุนไพรทางเลือกที่อาจใช้ควบคู่กับยาเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็งบางชนิด อย่างมะเร็งตับ หรือโรคตับอักเสบ เพราะรสฝาดของมะขามป้อมมีส่วนผสมของกรดแกลลิคและสารแทนนิน ร่วมด้วยวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก จึงอาจมีส่วนสำคัญในการช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้เจริญเติบโต กระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลือง และเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โทษของมะขามป้อมและข้อควรระวัง
มะขามป้อมแม้ว่าจะมีสรรพคุณเป็นยา อุดมไปด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุมากมาย แต่ด้วยรสฝาดอมเปรี้ยว พร้อมสรรพคุณเป็นธาตุเย็น ทำให้การรับประทานมะขามป้อมควรอยู่ในปริมาณพอเหมาะ ไม่ควรกินต่อเนื่องมากเกินไป และควรระมัดระวังสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องเลือดจาง เลือดเหลว หรือผู้ที่มีปัญหาในกระเพาะเรื้อรังและมีปัญหาการขับถ่ายหรือท้องเสียง่าย เพราะมะขามป้อมมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ คล้ายสับปะรด นอกจากนี้หากรับประทานเพื่อเป็นพืชสมุนไพรทางเลือกในการรักษาโรค อย่างโรคมะเร็ง หรือควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อรับประทานทุกครั้ง
ผลิตภัณฑ์จากมะขามป้อม
ด้วยสรรพคุณของมะขามป้อมที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสสระ และวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก พร้อมทั้งสามารถคงคุณค่าไว้ได้นานแม้ว่าจะอยู่ในสภาพแห้งหรือเย็นจัดเป็นเวลานาน ในตอนนี้จึงมีผลิตภัณฑ์ของมะขามป้อมออกมามากมาย เพื่อให้สามารถรับประทานได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งมะขามป้อมแคปซูล น้ำมะขามป้อมคั้นสด ผลและใบมะขามป้อมตากแห้งเพื่อใช้ในการชงดื่ม และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยาสระผมร่วมด้วยครีมทาหน้าที่มีมะขามป้อมเป็นส่วนประกอบมากมาย ทำให้เราสามารถรับประทานและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากมะขามป้อมแบบธรรมชาติได้ง่ายยิ่งขึ้น สะดวกสบายต่อการพกพาอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า การรับประทานมะขามป้อม ผลไม้ที่อุดมไปด้วยสรรพคุณทางยา ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะมะขามป้องเป็นผลไม้เก่าแก่ที่นิยมใช้เป็นยารักษาโรคมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ซึ่งหากใครกำลังมองหาตัวช่วยในการแก้ไข้หวัด แก้ไอ บำรุงผิวและร่างกายที่เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ต้องห้ามพลาดเลือกมะขามป้อม เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่ควรมองข้าม
แหล่งข้อมูล : en.wikipedia, doctor.or.th, doa.go.th