วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาใหญ่ที่กวนใจ ปัญหาที่หนุ่มสาวทุกคนต้องพบเจอสิ่งแรกคือ สิว นั่นเอง แถมตอนสิวหายก็ทิ้งร่องรอยบนใบหน้า อย่างรอยดำจากสิว รอยแดงจากสิวเอาไว้อีก ซึ่งมักเกิดหลังจากที่สิวยุบไปหรือถูกบีบออกไปแล้ว และอีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากผิวหนังบริเวณนั้นเป็นสิวและโดนแสงแดดโดยไม่มีผลิตภัณฑ์กันแดดคอยป้องกัน ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเปลี่ยนสีและเกิดเป็นรอยขึ้นมาได้ ทำให้ต้องคอยโบกรองพื้นกลบด้วยคอนซีลเลอร์กันให้วุ่นวาย แต่ต่อจากนี้ไม่ต้องไปกังวลกับรอยสิวแล้วนะ มาลบรอยแดงจากสิวให้ราบคาบด้วยวิธีง่ายๆ รับรองว่าทำตามได้ทุกคนแน่นอน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
สาเหตุของการเกิดรอยดำและรอยแดงจากสิว
สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีขาว (สิวหัวขาว) หรือตุ่มสีดำ (สิวหัวดำ) เกิดจากของการอุดตันบริเวณรูเปิดของต่อมไขมัน เมื่อการอุดตันที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการแก้ไขจะก่อให้เกิดภาวะการอักเสบและการติดเชื้อแบคทีเรียตามมา จนสิวกลายเป็นตุ่มแดง (สิวอักเสบ) และตุ่มหนอง หากการอักเสบลุกลามมากขึ้น สิวจะกลายเป็นไตแข็งบวม แดงและกดเจ็บ หรือเรียกอีกอย่างว่า “ซีสต์” หรือสิวหัวช้าง รอยแดงจากสิวที่เกิดขึ้นขณะเป็นสิวอักเสบแล้วยุบ เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดบริเวณที่เกิดการอักเสบ ภาวะการอักเสบของสิวหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวกลายเป็นรอยแดงอยู่นานหรืออาจเป็นรอยแดงที่ถาวรได้
การลดรอยดำและรอยแดงจากสิว
การลดรอยดำและรอยแดงจากสิว คือ การลดหรือป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบของสิว เมื่อมีสิวที่เป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง หรือเป็นไตแข็งกดเจ็บ ควรรีบรักษาโดยเร็ว ควรหลีกเลี่ยงการบีบ เค้น และแกะสิว เพราะการกระทำเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้รอยแดงจากสิวหรือรอยดำที่เป็นอยู่มีสีเข้มขึ้นหรือเป็นอยู่ในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น รวมถึงการรักษาสิวอุดตันโดยการกดสิวอุดตันก็ควรทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญ เพราะหากทำที่ไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดรอยแดง รอยดำ และแผลหลุมตามมา การรักษารอยดำและรอยแดงจากสิว ส่วนมากใช้เวลาเป็นเดือน ต้องใจเย็นและควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด การรักษาที่ได้ผลเร็วและปลอดภัยควรอยู่ภายใต้การดูแลและแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
รอยแดงในขณะที่เป็นสิว
รอยแดงในขณะที่เป็นสิวอยู่ ควรรักษาโดยใช้ยาทาหรือเวชภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบของสิว สิวที่เป็นไตแข็ง บวมแดง และกดเจ็บ (สิวหัวช้าง) ควรรักษาด้วยการรับประทานยา ทายา ร่วมกับการฉีดยาสตีรอยด์เข้าเฉพาะจุด
รอยแดงที่คงอยู่เมื่อสิวหายแล้ว
การรักษารอยแดงจากสิวด้วยการทายามักไม่ค่อยได้ผล โดยปกติจะรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อลดความแดง เช่น เลเซอร์เพาซ์ดายด์ (pulsed dye) ก็จะช่วยลบรอยแดงจากสิวได้


วิธีลดรอยแดงจากสิว หน้าเนียนใส


1. กินวิตามินเสริม
การทานอาหารเสริมโดยเฉพาะการทานวิตามินซี บีและเอ จะช่วยในเรื่องของผิวเป็นหลัก ยิ่งหากทานวิตามินเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารประเภทนี้ไปเพื่อไปบำรุงผิว วิตามินซีและวิตามินบี3หรือไนอะซิน เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบของผิว และช่วยรักษารอยแดงจากสิวได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว โดยเราสามารถกินวิตามินซีเพื่อลดรอยสิวได้ ส่วนวิตามินบี 3 หรือไนอะซินนั้นให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของสารนี้ 4 % ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่พอเหมาะและมีประสิทธิภาพในการรักษารอยสิว การทานอาหารเสริมโดยเฉพาะการทานวิตามินซี บีและเอ จะช่วยในเรื่องของผิวเป็นหลัก ยิ่งหากทานวิตามินเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารประเภทนี้ไป เพื่อไปบำรุงผิว


2. ทาครีมลดรอยสิว
แน่นอนว่า เมื่อเกิดรอยจากสิวแล้ว การหายาลดรอยเหล่านี้มาทา ก็สามารถช่วยให้รอยสิวจางลงได้ การรักษารอยแดงจากสิวต้องใช้เวลาพอสมควร สำหรับครีมที่ใช้ทาลดรอยสิวนั้น ให้เรามองหาส่วนผสมในยาที่มีชื่อว่าคอร์ติโซน (Cortisone) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดภาวะการอักเสบของสิว ลดรอยแดงและอาการบวม ซึ่งยาที่มีส่วนผสมของคอร์ติโซนนั้นสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป อย่างไรก็ตามควรขอคำแนะนำจากเภสัชกรก่อนการใช้งานนะ


3. พอกหน้า
สูตรพอกหน้าเพื่อช่วยลดรอยสิวนั้นมีหลายสูตรเลยทีเดียว แต่ส่วนผสมหลักๆ นั้นควรจะมีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดรอยดำรอยแดง สมานแผลและทำให้ผิวชุ่มชื่น การรักษารอยแดงจากสิวธรรมชาติ อย่างเช่น มะนาวที่มีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดรอยดำ น้ำผึ้งที่มีสาวนช่วยในการสมานแผลและลดการอักเสบ ว่านหางจระเข้ที่ช่วยลดอาการบวมและช่วยให้ผิวชุ่มชื้น


4. ใช้ชีทมาส์ก
การใช้ชีทมาส์กก็ถือเป็นอีกวิธีลดรอยแดงจากสิวได้เช่นกัน โดยเราสามารถเลือกใช้ชีทมาส์กที่มีสารที่ช่วยลดรอยสิวและบำรุงผิวในคราวเดียวกัน เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นและเป็นการลดโอกาสที่จะเกิดสิวซ้ำขึ้นอีก ซึ่งสิวก็ถือเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดรอยแดง


5. ทาครีมกันแดด
การทาครีมกันแดดจะช่วยป้องกันใบหน้าจากการถูกแสงแดดทำร้ายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยให้การรักษารอยสิวหายเร็วขึ้นอีกด้วย ป้องกันไม่ให้ผิวที่เป็นรอยสิวนั้นต้องสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ซึ่งจะทำให้ผิวมีสีเข้มและเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้การทาครีมกันแดดยังช่วยปกป้องให้ผิวได้ฟื้นฟูสภาพ โดยครีมกันแดดที่เหมาะแก่การเลือกใช้นั้นควรมี SPF 30 หรือมากกว่า


6.พอกหน้าด้วยแตงกวา
รักษารอยแดงจากสิวธรรมชาติด้วยแตงกวา แตงกวาเป็นผักที่ชุ่มชื้น มีน้ำเยอะ เหมาะกับการนำมาใช้บำรุงผิวหน้าที่สุด โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องรอยแดงจากสิว เพราะการที่ใบหน้าของเราได้รับความชุ่มชื้นบ่อยๆ จะทำให้เซลล์ผิวปรับสภาพให้ดีขึ้น เนื่องจากมีน้ำไปหล่อเลี้ยงผิวหน้า รอยแดงที่เกิดก็จะค่อยๆ หายเป็นปกตินั่นเอง แถมยังทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม และกระจ่างใสอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม วิธีลดรอยแดงจากสิว นั้นต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยด้วย หากสาวๆ มีปัญหาหลุมสิวหรือเป็นรอยแผลเป็นที่ยากแก่การดูแลด้วยตนเอง การเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้นน่าจะเป็นวิธีที่ช่วยให้สาวๆ กลับมามีหน้าเนียนใสไร้รอยแดงจากสิวได้อย่างแน่นอน