‘สิว’เป็นสภาวะปกติที่เกิดขึ้นกับผิวหนังได้ โดยเฉพาะใบหน้า เมื่อเกิดแล้วก็หายไป โดยอาจทิ้งรอยรอยไว้เป็นแผลเป็นรอยแดง รอยดำที่คอยกวนใจทุกครั้งเมื่อส่องกระจก โดยเฉพาะ หลุมสิว ที่หายยาก บอกเลยว่านี่น่าจะเป็นปัญหาที่หนุ่มๆสาวๆ หลายคนเคยเจอ แค่เป็นสิวก็วุ่นวายตอนรักษาจะแย่แล้ว ยังต้องมาเจอกับหน้าเป็นหลุมอีก ทิ้งรอยเอาไว้บนหน้าให้เจ็บใจเล่นๆ เราเลยขอพาเพื่อนๆ ไปเช็คผิวหน้าตัวเองว่าหลุมสิวที่เราเป็นอยู่นั้นเป็นแบบไหน แล้วต้องรักษายังไงถึงถูกวิธี ไปดูกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
หลุมสิวคืออะไร?
หลุมสิว นับว่าเป็นปัญหากวนใจของคนที่ปล่อยให้สิวอักเสบมันลุกลามจนกินพื้นที่ลึกลงไปถึงเนื้อใน ถึงขั้นทำให้เนื้อหายจนกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ ส่วนบางคนก็พลาดหนักยิ่งกว่านั้น คือพยายามบีบสิวอย่างผิดวิธีจนทำให้สิวอุดตันธรรมดา ๆ กลายเป็นสิวอักเสบ พร้อมกับไปกระตุ้นสิวนั้นให้รุนแรงหนักกว่าเดิม ถ้าจะบอกว่าหลุมมันเกิดจากตัวคุณเองก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะความจริงแล้วทางป้องกันที่ดีที่สุด คือ การพยายามป้องกันไม่ให้ตัวเองมีสิวอักเสบ หรือถ้าเป็นแล้วก็ต้องรีบหาทางปฏิบัติเพื่อทำให้สิวอักเสบยุบเร็วขึ้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ แต่ถ้าเราเจอกันช้าไป จนคุณพลาดไปหน้าเป็นหลุม ก็ไม่เป็นไร ค่อย ๆ แก้ไขกันต่อไป แม้ว่าเราจะไม่สามารถทำให้ผิวเติมเต็มหลุมได้เหมือนเดิม 100% แต่เราก็สามารถทำให้เซลล์เนื้อเยื่อใหม่ฟื้นฟูและเติมเต็มหลุมได้ถึง 70-80%
สาเหตุหลุมสิว
หลุมสิวเป็นกระบวนการการรักษาตัวเองของร่างกายหลังจากเกิดบาดแผลหรือการอักเสบ โดยส่วนมากถ้าการอักเสบหรือบาดเจ็บเกิดแค่ผิวชั้นบนก็จะไม่ทิ้งรอยแผลที่ยุบตัวให้เห็น แต่ถ้าหากเกิดในชั้นที่ลึกลงยังผิวชั้นใน การรักษาแผลจะสร้างพังผืดที่ดึงรั้งทำให้ผิวหนังยุบลงไป จึงเกิดเป็นหลุมนั่นเอง


โอกาสทำให้เกิดหลุมสิวคือ?
1.สิวหัวช้างเม็ดโตๆ
2.สิวอักเสบรุนแรง
3.ผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม
สิวพวกนี้ถ้าขึ้นมานาน แล้วไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะทำให้ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณนั้นเป็นหนอง เกิดเป็นโพรงขึ้นมา ยิ่งถ้ารักษาผิดวิธี เช่น หลายคนชอบไปบีบ แคะ แกะ เกา หรือปล่อยให้หายเอง จนเป็นแผล ผิวก็จะยุบตัว ทำให้คอลลาเจนภายในผิวลดลง จนกลายเป็นพังผืดขึ้นมาใต้รอยแผล กลายเป็นหลุม
ระดับความรุนแรงของหลุมสิว
1.ระดับ Ice pick scar (ระดับรุนแรงที่สุด)
หลุมแบบแรกนี้แน่นอนว่ารักษายากที่สุด หลุมสิวระดับนี้จะเป็นหลุมลึก มีปากแคบ รักษาได้ยากมาก มีขนาดประมาณ 0.5 มิลลิเมตร เกิดจากการกดหรือบีบสิวอุดตัน เพราะแนวหลุมเป็นไปในทางลึก กว่าผิวจะฟื้นฟูจนเต็มคงต้องใช้เวลานานในการรักษา ซึ่งหลุมระดับนี้ใช้ยาทาก็มักจะเอาไม่อยู่ แต่ทำได้แค่ช่วยให้รอยมันตื้นขึ้นมาเท่านั้น จึงควรปรึกษาคุณหมอเพื่อรักษาโดยวิธีทางการแพทย์
วิธีการรักษาหลุมสิวที่นิยม เช่น
– ทำทรีตเมนต์ เช่น AHA ลอกผิวด้านบนออก
– ทำเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ควรปรึกษาคุณหมอเรื่องระดับความแรงของเลเซอร์แต่ละชนิดก่อนนะ
– ตัดพังผืดใต้ผิวหนัง (Subcision) วิธีนี้จะใช้ทำให้ผิวช้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่หลุมสิวจะดูตื้นขึ้น – ศัลยกรรมผ่าตัดหลุมสิว (Punch Excision & Grafting) สำหรับการรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่หาย


2.ระดับ Box scar (ระดับรุนแรงปานกลาง)
แบบนี้จะสามารถมองเห็นได้ชัดกว่าแบบแรก เกิดจากสิวอักเสบที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่หรืออีสุกอีใส ขนาดประมาณ 3-5 มิลลิเมตร หลุมระดับนี้จะมีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบชัดเจนและมีขอบเขตกว้างกว่าระดับ Ice pick scar แต่จะมีความตื้นมากกว่า เพราะมันจะกินความลึกแค่ชั้นผิวเท่านั้น ไม่ได้กินไปจนถึงชั้นรูขุมขน หลุมระดับนี้ เราสามารถใช้ยาทาควบคู่ไปกับการทำทรีตเมนต์ได้ ซึ่งรอยหลุมอาจจะเหลือร่องรอยจุดด่างดำอยู่บ้าง แต่ถ้าคุณตั้งใจดูแลหลุมสิวรักษาให้ดี ก็ค่อนข้างจะให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจหลังการรักษา
รักษาหลุมสิวลักษณะนี้จะรักษายากกว่าแบบแรก โดยวิธีการรักษามีหลายแบบ เช่น
– ใช้ยาอนุพันธ์วิตามินเอ หรือ RETINOIDS
– ทำทรีตเมนต์ เช่น AHA ลอกผิวด้านบนออก
– ทำเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ควรปรึกษาคุณหมอเรื่องระดับความแรงของเลเซอร์แต่ละชนิดก่อนนะ
– ตัดพังผืดใต้ผิวหนัง (Subcision) วิธีนี้จะใช้ทำให้ผิวช้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่หลุมสิวจะดูตื้นขึ้น
– ฉีดฟิลเลอร์ เติมเต็มผิวส่วนที่เป็นหลุม และกระตุ้นคอลลาเจน
– กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Microdermabrasion) ข้อดีคือไม่เป็นแผลหลังทำ แต่ต้องทำซ้ำหลายๆ ครั้งจะทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น – ศัลยกรรมผ่าตัดหลุมสิว (Punch Excision & Grafting) สำหรับการรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่หาย


3.ระดับ Rolling scar (ระดับทั่วไป)
เป็นหลุมที่รุนแรงระดับทั่วไป ด้านบนพื้นผิวมีขนาดกว้างประมาณ 4-5 มิลลิเมตร เป็นหลุมที่รักษาได้ง่ายที่สุด หลุมระดับนี้จะมีลักษณะเป็นหลุมแบบตื้นๆ เป็นแอ่งเว้าลงไป กินพื้นที่แค่ส่วนบนของผิวเพียงเล็กน้อย จากการไปแกะหรือเกาสิว ซึ่งหลุมระดับนี้มักจะเกิดจากการแกะเกาสิวที่อยู่ในระดับที่ไม่ลึกมากนัก และทำการรักษาได้ง่ายกว่าระดับอื่นๆ คุณสามารถใช้ยาทาในการเติมเต็มเนื้อผิวได้
หลุมสิวรักษาโดยมีวิธีการดังนี้
– ใช้ยาที่มีส่วนผสมของอนุพันธ์วิตามินเอ หรือ RETINOIDS เพื่อเติมเต็มผิวส่วนที่เป็นหลุม
– ทำทรีตเมนต์ เช่น AHA ลอกผิวด้านบนออก
– ทำ IPL หรือใช้คลื่นแสงกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวกลับมาเรียบเนียน
– ฉีดฟิลเลอร์ เติมเต็มผิวส่วนที่เป็นหลุม
– กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Microdermabrasion) ข้อดีคือไม่เป็นแผลหลังทำ แต่ต้องทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งจะทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นค่ะ – ทำเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ควรปรึกษาคุณหมอเรื่องระดับความแรงของเลเซอร์แต่ละชนิดก่อนนะ


วิธีการที่ดีที่สุดในการลดการเกิดหลุมสิวคือ รีบรักษาสิวทันทีที่สิวเริ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ทางที่ดีหนุ่มๆสาวๆ ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการรักษาได้อย่างตรงจุดและไม่รุนแรงต่อผิวหน้าจนเกินไปนะ หวังว่าเพื่อนๆจะมีใบหน้าที่เรียบเนียน หายจากสิวและหลุมภายในเร็ววัน