ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีนเข้ามา ของขวัญวันตรุษจีนที่นอกจากอั่งเปาแล้วก็ยังมีขนมอีกหนึ่งชนิดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ “ขนมเปี๊ยะ” ที่สื่อถึงความเป็นสิริมงคลและแสดงถึงความปราถนาดีทั้งต่อผู้ให้และผู้รับจึงมักนำไปใช้ในเทศกาลต่าง ๆ ของชาวจีนทั้งงานมงคล อาทิ งานแต่ง งานหมั้น งานสังสรรค์ หรืองานเซ่นไหว้บรรพบุรุษอย่างวันตรุษจีนซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าจริง ๆ แล้วขนมเปี๊ยะทำยากหรือไม่ซึ่งถ้าหากสนใจจะต้องเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมอะไรบ้าง วันนี้มีคำตอบมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านกับวิธีทำขนมเปี๊ยะจะน่าสนใจแค่ไหนมาติดตามกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
สูตรขนมเปี๊ยะลาวา
หากพูดถึงขนมเปี๊ยะเป็นขนมที่อร่อยมีรสชาติที่หอมหวานและให้รสชาติที่ลงตัวโดยมีขนาดตั้งเล็ก-ใหญ่ให้ได้เลือกรับประทานซึ่งในปัจจุบันสูตรขนมเปี๊ยะนั้นมีหลากหลายไส้โดยมีการปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากยิ่งขึ้นและหนึ่งในสูตรขนมเปี๊ยะที่ถูกใจเป็นอย่างมากก็คือ ขนมเปี๊ยะลาวาแบบไส้เยิ้ม ๆ พร้อมแป้งเหนียวนุ่ม กัดเปี๊ยะลาวาแล้วไส้ทะลักออกมาทำให้รู้สึกอร่อยเต็มคำซึ่งขนมเปี๊ยะลาวาก็มีการนำมาดัดแปลงหลากหลายสูตรเช่นกันแต่ที่จะนำมาให้คุณผู้อ่านได้รู้จักนั่นก็คือ “ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา” พร้อมขั้นตอนและวิธีทำขนมเปี๊ยะดังนี้
ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา
สำหรับเปี๊ยะไข่เค็มลาวาถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสูตรขนมของเปี๊ยะลาวาที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเนื่องความหวานของไส้ไข่เค็มเมื่อทานแล้วจะช่วยตัดเลี่ยนจากความหวานของลาวาทำให้เมื่อทานแล้วรู้สึกละมุนลิ้น เนื้อแน่นและพอดีโดยสูตรขนมเปี๊ยะไข่เค็มที่นำมาฝากจะเป็นสูตรลาวาไข่เค็มแบบเยิ้ม ๆ โดยเริ่มกันที่
- ส่วนผสมและวัตถุดิบของเปี๊ยะลาวาไข่เค็ม
ส่วนผสมแป้งชั้นนอก
- แป้งอเนกประสงค์ (ตราว่าว) 120 กรัม
- แป้งสาลี (แป้งเค้ก) 80 กรัม
- น้ำตาลทราย 35 กรัม
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา
- เนยรำข้าว 25 กรัม
- น้ำมันพืช 25 กรัม
- น้ำสะอาด 75 กรัม
ส่วนผสมแป้งชั้นใน
- แป้งอเนกประสงค์ (ตราว่าว) 70 กรัม
- แป้งสาลี (แป้งเค้ก) 70 กรัม
- เนยรำข้าว 20 กรัม
- น้ำมันพืช 20 กรัม
ส่วนผสมไส้ครีมลาวา
- ไข่แดงเค็ม 18 ฟอง
- วิปปิ้งครีม 250 กรัม
- นมข้นหวาน 100 กรัม
- ผงคัสตาร์ด 50 กรัม
- เนยเค็มละลาย 70 กรัม
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
ไข่แดงทาหน้า
- ไข่แดงแยกไข่ขาว 1 ฟอง
- สีผสมอาหาร (เหลือง) ½ ช้อนชา
- น้ำมันพืช 3 – 4 หยด
- น้ำเปล่า ½ ช้อนชา
- งาขาวคั่ว
วิธีทำขนมเปี๊ยะ
- สำหรับแป้งชั้นนอกให้ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดเข้าด้วยกันโดยนำเกลือใ่ขณะมีการร่อนแป้ง
- เตรียมภาชนะสำหรับนวดแป้ง จากนั้นให้นำน้ำตาลทรายและน้ำเปล่ามาผสมโดยคนให้ละลายเข้ากัน เมื่อใส่ส่วนผสมลงไปครบแล้วให้ทำการนวดแป้งจนเนียนนุ่มไม่ติดมือโดยใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาทีเมื่อนวดเสร็จให้คุลมด้วยฟิล์มถนอมอาหารและพักไว้ในตู้เย็น
- สำหรับแป้งชั้นในให้ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดเข้าด้วยกันเช่นเดียวกันกับชั้นนอกจากนั้นนำน้ำมันพืชและเนยรำข้าวใส่ลงแป้งแล้วนวดเป็นก้อน
- นำแป้งชั้นในที่นวดแล้วคลุมด้วยฟิล์มถนอมอาหารและแช่ในตู้เย็นพักเอาไว้ประมาณ 30 นาที
- ลูกใหญ่สำหรับแป้งชั้นนอก ลูกเล็กสำหรับแป้งชั้นในโดยเมื่อครบเวลา 30 นาทีให้นำแป้งมาแบ่งปั้นเป็น 10 ก้อนจากนั้นห่อแป้งชั้นนอกและชั้นในเข้าด้วยกันแล้วนำไปใส่ในกล่องที่มีฝาปิดให้สนิทพักทิ้งไว้ 1 คืนโดยไม่ต้องแช่เย็น
- นำแป้งที่พักไว้มารีดเป็นแผ่นวงรี ๆ หรือยาว ๆ แล้วม้วนให้เป็นแท่งจากนั้นนำไปใส่กล่องพลาสติกและปิดฝาอีกประมาณ 20 – 30 นาที
- พบครบ 30 นาทีให้นำแป้งมารีดอีกครั้งตามแผ่นยาวและม้วนให้แน่นเสร็จแล้วใส่กล่องปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีเหมือนเดิม
- นำไข่แดงเค็มไปนึ่ง หรือเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาทีให้ไข่แดงเค็มสุกแล้วนำมาบด หรือขยี้ในถ้วยแบบหยาบ ๆ
- สำหรับการทำไส้ครีมลาวาให้นำส่วนผสมไข่แดงเค็ม วิปปิ้งครีม นมข้นหวาน ผงมัสตาร์ดละลาย เนยเค็มละลาย เกลือและกลิ่นวนิลามาใส่ลงไปในโถแล้วปั่นให้ละเอียด
- เมื่อปั่นผสมเสร็จแล้วเทใส่กล่องปิดฝา นำไปแช่ในช่องฟรีซข้ามคืนเมื่อแช่เสร็จวันรุ่งขึ้นให้นำที่ตักไอศกรีมปั้นเป็นลูก ๆ เมื่อตักจนเสร็จให้นำไปแช่ฟรีซต่ออีกประมาณ 30 นาที
- นำแป้งที่พักไว้มาตัดออกเป็น 2 ชิ้นนำไปรัดเป็นแผ่นกลม ๆ แล้วนำไส้ที่แช่ฟรีซไว้มามาวางลงบนแป้งเพื่อห่อและปั้นเป็นลูก ๆ ลงในถาดจัดเรียงเปี๊ยะแต่ละลูกลงในถาดเพื่อนำไปอบโดยใช้ไฟบนล่างที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส
- อบครั้งแรกใช้เวลาประมาณ 5 – 6 นาทีแล้นำออกจากเตาเพื่อมาทาหน้าด้วยไข่แดงโดยนำแปรงจุ่มลงในไข่แดงจากนั้นนำไปทาบนหน้าขนมเปี๊ยะโดยเกลี่ยให้ไข่แดงติดทั่วเสมอกัน
- นำไปขนมเปี๊ยะไปอบครั้งที่ 2 โดยใช้เวลาประมาณ 4 – 5 นาทีแล้วนำออกจากเตาพักให้เย็นเพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทาน
เคล็ดลับวิธีทำขนมเปี๊ยะ
- ควรรีดแป้งให้เสร็จก่อนแล้วค่อยห่อไส้ลาวาไข่เค็มเนื่องจากไส้ค่อนข้างละลายเร็ว
- การทาหน้าขนมเปี๊ยะด้วยไช่แดงจะช่วยให้ขนมมีสีสันสวยงามดูน่ารับประทานแต่ต้องระมัดระวังในการทาให้เสมอและทั่วกันเพื่อให้ได้โทนสีเดียวกัน
- สามารถเปลี่ยนรูปทรงขนมเป็นรูปอื่น ๆ อาทิ รูปส้ม รูปสัตว์ หรืออื่น ๆ เพื่อเพิ่มลูกเล่น หรือสามารถนำสูตรขนมเปี๊ยะลาวาไข่เค็มไปดัดแปลงเป็นซาลาเปาไข่เค็มลาวาก็ได้เช่นเดียวกัน
จะเห็นได้ว่าแต่ละวิธีทำขนมเปี๊ยะที่นำมาฝากจะเป็นสูตรแบบดั้งเดิมซึ่งทานง่ายและถูกปากผู้คนส่วนใหญ่จึงเหมาะสำหรับใครที่อยากลองฝึกทำขนมเปี๊ยะทานเองโดยมีส่วนผสมและวิธีการทำเพียงไม่กี่ขั้นตอนซึ่งไม่ได้ยากอย่างที่คิดแน่นอน อีกทั้งวัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและถ้าหากทำแล้วถูกปาก อร่อยจนเพื่อน ๆ หรือญาติติดใจก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คุณได้ลองทำธุรกิจเพื่อสร้างรายได้อีกช่องทางได้อีกด้วย