การขายของกินเล่นหน้าโรงเรียน เป็นหนึ่งในอาชีพเสริมที่เริ่มง่าย รายได้ดี และไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ รวมถึงคนที่กำลังมองหาวิธี ทําอะไรขายดี ง่ายๆ ทุนน้อย เพื่อสร้างรายได้เสริมในทุกวัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภท ของกินเล่นขายดีลงทุนน้อย ที่ตอบโจทย์ทั้งต้นทุนต่ำ ทำง่าย และขายออกไวมาก
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก พฤติกรรมผู้ซื้อหน้าโรงเรียน, เกณฑ์การเลือกสินค้า, และรวมไอเดียสินค้าขายดีหน้าโรงเรียนที่ทำตามได้จริง พร้อมเทคนิคเริ่มต้นให้ขายดีตั้งแต่วันแรก เหมาะกับทั้งมือใหม่และคนที่อยากขยายอาชีพให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ของกินเล่นขายดีลงทุนน้อย ทำไมถึงขายดีหน้าโรงเรียน
ของกินเล่นที่ขายดีหน้าโรงเรียนมักเป็นสินค้าที่มีจุดเด่น 3 อย่าง คือ
- ทำง่าย ไม่ซับซ้อน
- ใช้เงินทุนน้อย เหมาะสำหรับเริ่มต้นแบบเบา ๆ
- ขายออกไว เด็กนักเรียนตัดสินใจซื้อเร็ว
สาเหตุที่สินค้าประเภทนี้ขายดี เพราะช่วงเวลาเลิกเรียนหรือตอนพักเบรก เด็ก ๆ มักมองหาขนมที่ทั้งอร่อย ราคาถูก และได้ปริมาณพอดี ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่กำลังมองหาสินค้าไปขายหน้าโรงเรียนสามารถทำกำไรต่อวันได้ดีมาก แม้จะตั้งราคาเพียง 5–20 บาทก็ตาม
พฤติกรรมผู้ซื้อของหน้าโรงเรียน ที่พ่อค้าแม่ค้าต้องรู้
การเข้าใจผู้ซื้อคือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขายของกินเล่นหน้าโรงเรียน ซึ่งผู้ซื้อมักเป็นเด็กเล็ก–วัยประถม–มัธยม มีพฤติกรรดังนี้
เด็ก ๆ ชอบรสหวาน เคี้ยวเพลิน
สินค้าที่รสหวาน เช่น โดนัท, วุ้นแฟนซี, นมปั่น มักขายดีมาก เพราะเด็ก ๆ มองว่า “คุ้ม–อร่อย–กินง่าย”
ราคาต้องไม่แพง อยู่ในช่วง 5–20 บาท
เด็กนักเรียนส่วนใหญ่มีงบจำกัด การตั้งราคาไม่แพงทำให้สินค้าขายได้จำนวนมาก โดยเฉพาะประเภทของกินเล่นขายดีลงทุนน้อยที่ยังทำกำไรต่อชิ้นได้ชัดเจน
ต้องเป็นของที่เห็นง่าย หยิบง่าย กินง่าย
ถ้าขนมจัดวางสวย ทำสดให้เห็น หรือมีสีสันโดดเด่น จะดึงดูดเด็ก ๆ ให้เดินเข้ามาดูและซื้อทันที
ของที่ทำสดตรงหน้า กระตุ้นให้ซื้อทันที
เสียงทอดลูกชิ้น กลิ่นหอมของเครป หรือภาพขนมปังปิ้งเนยกำลังร้อน ๆ ล้วนทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น
เกณฑ์เลือกของกินเล่นขายดี ทำง่าย ทุนน้อย สำหรับมือใหม่
ก่อนเลือกว่าจะขายอะไร ควรดูองค์ประกอบสำคัญเหล่านี้
ต้นทุนต่ำ กำไรต่อชิ้นชัดเจน
เลือกวัตถุดิบที่ซื้อยกแพ็คได้ราคาถูก เช่น ไส้กรอก, แป้งสาลี, ขนมปังแผ่น เพื่อให้ราคาขายยังมีกำไร
ทำเร็ว ไม่ยุ่งยาก
ตอนพักเบรกมีเวลาแค่ 15–20 นาที ถ้าของทำช้าจะขายไม่ทันลูกค้า
วัตถุดิบหาง่าย
ซื้อได้จากตลาดหรือห้างใกล้บ้าน ทำให้เติมของได้ทุกวัน
เก็บรักษาง่าย ไม่เสียง่าย
ยิ่งขายหน้าโรงเรียนกลางแจ้ง ต้องเลือกของที่ทนแดด ทนลม หรือแพ็คใส่ถุงได้ง่าย
ปลอดภัย เหมาะกับเด็กนักเรียน
หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดมาก ผงชูรสสูง หรือวัตถุดิบที่ไม่สดใหม่
ไอเดียของกินเล่นขายดีลงทุนน้อย สำหรับขายหน้าโรงเรียน
ต่อไปนี้คือไอเดียที่ทำตามได้จริง ขายดีแทบทุกโรงเรียน โดยเน้นทำง่าย ต้นทุนต่ำ และราคาเข้าถึงได้
1. ไส้กรอกทอด
ไส้กรอกทอด เป็นสินค้ายอดฮิตหน้าโรงเรียนเพราะ “ทำเร็ว–เสิร์ฟง่าย–รสชาติคุ้นเคย” เด็ก ๆ เลือกไซซ์ได้ตามงบ เช่น ไม้เล็ก 5–10 บาท จึงตัดสินใจซื้อได้ทันที ระหว่างทอดกลิ่นหอมจะช่วยดึงดูดคนให้หยุดดูและลองชิม
ข้อดี
- ต้นทุนต่อไม้ต่ำ ควบคุมกำไรได้ง่าย
- ทำง่าย ไม่ต้องมีสูตรซับซ้อน
- อร่อยทุกวัย เด็กซื้อซ้ำสูง
- เตรียมวัตถุดิบล่วงหน้าได้ (หั่น–บั้ง–เสียบไม้)
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ใช้น้ำมันสะอาด เปลี่ยนน้ำมันสม่ำเสมอ
- บั้งไส้กรอกเป็นรูปดาว/กุหลาบ ให้พองสวย เพิ่มความน่ากิน
- ตั้งราคาไม้ละ 5–10 บาท
2. โดนัทจิ๋ว
โดนัทจิ๋ว เป็นของกินเล่นขายดีลงทุนน้อย ที่เหมาะกับการขายหน้าโรงเรียนมาก เนื่องจากกินเพลิน ซื้อแบ่งเพื่อนได้ เหมาะมากกับช่วงพักสั้น ๆ เพราะทอดทีละหลายชิ้นได้ กลิ่นหอมช่วยเรียกลูกค้า เด็กมักซื้อแบบ “ถุงเล็ก 10–20 บาท”
ข้อดี
- ใช้แป้งชุดเดียวทอดทีละหลายชิ้น
- กลิ่นหอมดึงดูดเด็ก ๆ
- ตกแต่งหน้า/ท็อปปิงได้หลากหลาย
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- โรยน้ำตาลไอซิ่งให้ดูน่ากิน
- ห่อถุงใส/แก้วใส เพื่อโชว์ชิ้นโดนัท
- แพ็คถุงขาย 10–20 บาท ได้กำไรดี
3. ลูกชิ้นปิ้ง
ลูกชิ้นปิ้ง ขายดีทั้งตอนพักเที่ยงและหลังเลิกเรียน เพราะกินง่าย จิ้มแล้วเดินกินได้ เด็กกลับมาซื้อซ้ำบ่อย ร้านไม่จำเป็นต้องมีสูตรลับ แค่คุมไฟและซอสรสอ่อน กลมกล่อม
ข้อดี
- ไม่ต้องมีสูตรมาก
- ต้นทุนประหยัด
- ทำได้เร็ว เสิร์ฟได้ไว
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ใช้น้ำจิ้มไม่เผ็ดมาก
- ปิ้งให้หอมและชิ้นไม่ไหม้
- ตั้งราคาตั้งแต่ 5–10 บาท
4. ขนมปังปิ้งเนยนม
เมนูคลาสสิก ต้นทุนต่ำ ขายได้ราคาดี (เช่น 10–15 บาทต่อแผ่น) จุดเด่นคือทำสดหน้าร้าน ขนมปังและเนยหอม ๆ เด็กจะตื่นเต้นและรอคิวได้
ข้อดี
- ทำสดหน้าร้าน เพิ่มประสบการณ์และความหอม
- หน้าเลือกได้ เช่น เนยนม ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี
- ตัดชิ้นคำเล็ก ๆ กินง่าย ไม่เลอะมือ
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ทาเนยบาง ๆ ให้กรอบหอม แล้วราดนมข้นตอนเสิร์ฟ
- เสนอ “ครึ่งหน้า” (เช่น เนยนม+ช็อกโกแลต) ในราคาเท่าเดิม เพิ่มความคุ้ม
- ใช้มีดตัดเป็น “9 ชิ้นจิ๋ว” เด็กแบ่งเพื่อนง่าย
5. เครปแป้งบางกรอบ
ขายดีมากทุกโรงเรียน เพราะเด็กเลือกไส้เองได้ สามารถดูตอนทำโชว์ ส่วนใหญ่ตั้งราคาเริ่มต้น 15–25 บาท ตามจำนวนไส้และท็อปปิ้ง
ข้อดี
- ทุนแป้งและไส้ราคาถูก
- ทำโชว์หน้าร้าน เพิ่มแรงดึงดูด
- เลือกไส้หวาน/เค็มได้
- ปรับไซซ์ตามงบของเด็ก ๆ ได้
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ทำเมนู “ไส้แนะนำวันนี้” 2–3 แบบ ให้ตัดสินใจเร็ว
- แพ็คซองเครปทรงสามเหลี่ยม ถือสะดวก ไม่หกเลอะ
- อย่าทาไส้หนาเกินไป แป้งจะไม่กรอบ ควบคุมไฟสม่ำเสมอ
6. น้ำปั่น / นมปั่น
ใช้อุปกรณ์ไม่เยอะ แค่เครื่องปั่น 1 เครื่องก็เริ่มขายได้แล้ว เลือกรสพื้นฐาน เน้นหวานนุ่ม เช่น นมสดปั่น โกโก้ปั่น สตรอว์เบอร์รีนมปั่น เด็กชอบมาก
ข้อดี
- ทุนน้อย อุปกรณ์หลักเครื่องปั่น+แก้ว+หลอด
- รสหวานกำลังดี เด็ก ๆ ถูกใจ ซื้อซ้ำ
- ตั้งราคาแก้วละ 15–20 บาท
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ใช้แก้วใส มีสเกลไซซ์ S/M
- มีสูตรหวานน้อย/หวานปกติ
- ลดน้ำแข็งให้พอดี เครื่องดื่มเข้มข้น ไม่จืด
7. เยลลี่ / วุ้นแฟนซี
เยลลี่หรือวุ้นแฟนซี สีสันสดใส รูปทรงน่ารัก ทำล่วงหน้าได้ แช่เย็นให้เด้งกรอบ เด็กเห็นแล้วอยากลอง เหมาะมากกับอากาศร้อน
ข้อดี
- วัตถุดิบถูก
- แม่พิมพ์มีหลายแบบ ซื้อครั้งเดียวใช้ยาว
- เด็กชอบมาก กินง่าย
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ใช้น้ำผลไม้บางส่วนผสม เพิ่มรสธรรมชาติ สีสวย
- วางตู้แช่ให้เห็นชัด ตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์การ์ตูน
8. ผลไม้เสียบไม้ / ผลไม้หั่น
ผลไม้เสียบไม้ / ผลไม้หั่น ถือเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่พ่อแม่ชอบ เด็กก็ซื้อบ่อยเพราะราคาไม่แพงและกินง่าย เลือกผลไม้ทั่วไป เช่น แตงโม สับปะรด ฝรั่ง ชมพู่ หั่นเป็นคำ ๆ เสียบไม้พอดีคำ
ข้อดี
- ใช้ผลไม้ทั่วไป เช่น แตงโม สับปะรด ฝรั่ง ทำให้หาซื้อได้ง่าย
- เตรียมหั่นล่วงหน้าได้ ประหยัดเวลา
- เหมาะกับอากาศร้อน กินแล้วสดชื่น
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ตั้งราคาไม้ละ 5–10 บาท
- หั่นเป็นคำๆ ให้เด็กกินง่าย
- แช่เย็นเพิ่มความสดชื่น
9. ไข่นกกระทาทอด
ไข่นกกระทาทอด เป็นเมนูทานเล่นที่ทั้งเด็กและผู้ปกครองคุ้นเคยกันดี ขายง่าย เหมาะกับช่วงพักเที่ยงหรือหลังเลิกเรียน ความกรุบเล็ก ๆ ของไข่นกกระทาเมื่อทอดใหม่ ๆ ทำให้กินเพลินจนซื้อต่อได้ไม่ยาก
ข้อดี
- ทุนต่ำ ทำง่าย
- เด็กชอบกิน ไม่เผ็ด
- หน้าตาน่ารับประทาน กินเพลิน
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- โรยพริกไทยนิด ๆ เพิ่มความหอม
- ใช้แม่พิมพ์หลุมช่วยให้สวยเท่ากันทุกชิ้น
- แพ็คกล่องใสโชว์ปริมาณชัดเจน
10. เฟรนช์ฟรายส์
เฟรนช์ฟรายส์ เมนูที่เด็กเห็นแล้วอยากซื้อทันที เพราะเป็นของโปรดยอดฮิตตลอดกาล ทำง่าย ไม่ต้องเตรียมวัตถุดิบเยอะ เพียงแค่ทอดให้กรอบร้อนแล้วเสิร์ฟ คู่กับซอสมะเขือเทศหรือชีส ก็ขายได้แล้ว
H4 ข้อดี
- ทอดเร็ว
- ต้นทุนคุ้มค่า
- แบ่งขายถุงเล็กกำไรดี
H4 เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ใช้เกลือปรุงรสหรือชีสผงเพิ่มรสชาติ
- ใช้ซองกระดาษกันมัน
- ทำไซซ์ S/M ให้เด็กเลือกตามงบ
11. ไข่ม้วน / ไข่เจียวห่อ
ไข่ม้วนหรือไข่เจียวห่อ เป็นเมนูโปรตีนที่ขายดีไม่แพ้อย่างอื่น เพราะทำเร็ว ปรับรสให้อ่อนเพื่อให้เหมาะกับเด็กได้ง่าย และดูน่ากินเมื่อม้วนเป็นแท่งเล็ก ๆ (หรือจะหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำก็ได้) เด็ก ๆ ชอบเพราะกินสะดวก และผู้ปกครองก็สบายใจเพราะเป็นเมนูที่ให้พลังงานดี
H4 ข้อดี
- วัตถุดิบง่ายมาก
- ปรับหน้าได้หลายแบบ
- ทำสดใหม่ทุกชิ้น
H4 เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ม้วนเป็นแท่งเล็ก ๆ ถือสะดวก
- เพิ่มชีสเล็กน้อย ดึงดูดเด็ก ๆ
- ใช้กระทะเล็กให้ชิ้นเท่ากัน
12. ปังเย็น / น้ำแข็งใสราดนม
ปังเย็น หรือน้ำแข็งใสราดนมในช่วงอากาศร้อน เมนูหวานเย็นแบบนี้ขายดีมาก เด็ก ๆ เห็นแล้วตาลุก เพราะทั้งสีสันสดใสและรสชาติหวานชื่นใจ ทำง่าย ต้นทุนต่ำ และสามารถสร้างกำไรได้ดี แม้จะขายถ้วยละ 10–15 บาทก็ตาม
H4 ข้อดี
- วัตถุดิบราคาถูก
- เด็กชอบความหวานเย็น
- ใส่ท็อปปิงเพิ่มได้
H4 เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
13. ข้าวโพดคลุกเนย
ข้าวโพดคลุกเนย เมนูหอมหวานที่ถูกใจเด็ก ๆ ทุกวัย เพราะกินง่าย รสชาติถูกปาก และราคาไม่แพง อีกทั้งยังมีกลิ่นเนยที่ยั่วให้คนเดินผ่านต้องมอง
ข้อดี
- วัตถุดิบถูก
- ทำเป็นถ้วยเล็ก ๆ ได้
- หอมเนยโดนใจเด็ก
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ใช้ข้าวโพดหวานแท้เพื่อให้รสชาติดี
- คลุกเนยตอนร้อนเพิ่มความหอม
- ใส่ถ้วยใสพร้อมช้อนเล็กกินง่าย
14. ทาโกะยากิ
ทาโกะยากิ เมนูที่เรียกลูกค้าได้แบบเห็นผล เพราะวิธีทำบนเตานั้นทั้งหอม ทั้งดูสนุก เวลาเจ้าของร้านกลับลูกบอลแป้ง เด็ก ๆ จะยืนดูตาไม่กะพริบ ทำให้เป็นเมนูที่ดึงดูดได้มาก และขายได้ต่อเนื่องทุกวัน
ข้อดี
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ใช้น้ำซอสหวานกลมกล่อม
- ทำไซซ์เล็กพอดีคำ
- แพ็คกล่อง 4–6 ลูก ราคาน่ารัก
15. บัวลอยนมสดถ้วยเล็ก
บัวลอยนมสดถ้วยเล็ก เป็นเมนูหวานอุ่น ๆ ที่ขายดีในช่วงอากาศเย็น เด็ก ๆ ชอบเพราะหวานละมุน กินง่าย ส่วนพ่อแม่ก็มั่นใจเพราะใช้วัตถุดิบไม่เยอะและทำสดใหม่ได้เรื่อย ๆ ราคาถ้วยเล็กเข้าถึงง่ายมาก
ข้อดี
- ทำล่วงหน้าได้
- เม็ดบัวลอยต้นทุนต่ำ
- ขายเป็นถ้วยเล็กกำไรดี
เคล็ดลับให้ขายดีขึ้น
- ใช้นมสดแท้ทำให้น้ำกะทิหอมมัน
- ทำเม็ดบัวลอยหลายสีให้ดูน่ากิน
- ใช้ถ้วยฝาปิด ไม่หกเลอะง่าย
วิธีเริ่มต้นสำหรับมือใหม่
ก่อนเริ่มขาย ควรเตรียมระบบต้นทุนให้พร้อม เพื่อให้คำนวณกำไรได้อย่างแม่นยำ
คำนวณต้นทุน–กำไรเบื้องต้น
1. วัตถุดิบ
เลือกซื้อวัตถุดิบแบบ “ยกแพ็ค–ยกลัง” เพื่อให้ได้ราคาต่อหน่วยที่ถูกที่สุด เช่น ลูกชิ้น 1 กิโลกรัม อาจแบ่งขายได้หลายไม้
2. อุปกรณ์
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ เช่น กระทะ เตาแก๊ส เครื่องปั่น ถาดคีบ โต๊ะพับ รวมถึงอุปกรณ์เสริม เช่น ถุงร้อน กล่องใส ถุงพลาสติก และป้ายราคา
3. จุดคุ้มทุน
จุดคุ้มทุนคือ “ขายเท่าไหร่ถึงจะคืนทุนทั้งหมด” ผู้ขายควรคำนวณค่าใช้จ่ายเริ่มต้น เช่น อุปกรณ์ + วัตถุดิบล็อตแรก + ค่าแก๊ส/ค่าน้ำแข็ง แล้วนำมาหารกับกำไรต่อชิ้น ก็จะรู้ว่าต้องขายกี่ชิ้นถึงคุ้มทุน
4. ราคาขายต่อชิ้น
กำหนดราคาให้เหมาะกับกลุ่มเด็ก ๆ เช่น 5–20 บาท
เลือกทำเลขายหน้าโรงเรียนที่ถูกต้อง
ทำเลดีคือกำไรครึ่งหนึ่งของธุรกิจ โดยจุดที่เหมาะในการขาย ได้แก่
จุดที่ผู้ปกครองรอรับลูก
โซนนี้ถือว่าเหมาะสุด เพราะผู้ปกครองมีเวลานั่งรอ และมักจะซื้อของให้ลูกกินหลังเลิกเรียน หรือบางครั้งซื้อกินเองด้วย ทำให้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากกว่าเด็กเล็ก
ทางเข้าออกประตูโรงเรียน
โซนนี้เป็นจุดที่มี “คนเดินผ่านมากที่สุด” โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้าเรียนและเลิกเรียน ถ้าตั้งร้านบริเวณนี้ เด็กจะเห็นร้านชัดเจนและหยุดซื้อได้ง่าย ช่วยเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็ว
โซนนั่งรอของเด็ก
ในบางโรงเรียนจะมีพื้นที่ให้เด็กนั่งรอผู้ปกครอง ถ้าตั้งร้านใกล้โซนนี้ เด็กจะเห็นของกินใกล้ ๆ มีโอกาสตัดสินใจซื้อสูง โดยเฉพาะเมนูที่กินง่าย เช่น โดนัทจิ๋ว ไส้กรอกทอด หรือผลไม้เสียบไม้
รู้เคล็ดลับเรียกลูกค้าให้ขายดีแบบมือโปร
นอกจากทำเลดีและราคาถูกใจเด็กแล้ว การจัดหน้าร้านและบรรยากาศก็มีผลต่อยอดขายอย่างมาก เคล็ดลับต่อไปนี้ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ร้านได้ในทันที
ป้ายราคาชัดเจน
เด็ก ๆ มักจะตัดสินใจซื้อจากราคา ถ้าป้ายราคาใหญ่ เห็นง่าย จะช่วยให้เด็กตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น และลดปัญหาถามราคาซ้ำ ๆ ทำให้ร้านทำงานได้ลื่นขึ้น
สีสันอาหารสดใส ถูกใจเด็ก
สีอาหารมีผลต่อการดึงดูดลูกค้ามาก เช่น วุ้นแฟนซีสีพาสเทล ขนมปังปาดแยมหลากสี หรือโดนัทโรยผงน้ำตาล เด็กจะสนใจทันทีเมื่อเห็นสีสดใส
ทำสดใหม่ตรงหน้า
การทำอาหารสดใหม่ตรงหน้าลูกค้า เช่น ปิ้งขนมปัง เครปแผ่นร้อน หรือทอดไส้กรอก จะเพิ่มความน่ากินอย่างมาก กลิ่นหอมจากอาหารยังช่วยดึงคนที่เดินผ่านให้หยุดดูและอยากลองซื้อ
จัดโต๊ะให้ดูสะอาด น่าเชื่อถือ
ความสะอาดคือสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ปกครอง หากจัดโต๊ะเรียบร้อย มีผ้าปูสะอาด ใช้ถุงมือ มีที่คีบแยกจากเงินทอน จะช่วยให้พ่อแม่มั่นใจและกล้าซื้อให้ลูกกินมากขึ้น
เข้าใจข้อควรระวังในการขายของหน้าโรงเรียน
แม้ว่าการขายของกินหน้าโรงเรียนจะไม่ซับซ้อน แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรรู้เพื่อให้ธุรกิจดำเนินได้ต่อเนื่อง ไม่ติดปัญหาในอนาคต
เรื่องกฎหมายและพื้นที่ขาย
บางโรงเรียนต้องขออนุญาตก่อนตั้งซุ้มขาย ควรตรวจสอบให้ชัดเจน
ความสะอาดและความปลอดภัยของอาหาร
เลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ อย่างลูกชิ้นต้องได้มาตรฐาน ไม่ผสมแป้งเกินไป ใช้น้ำมันใหม่หรือกรองบ่อย ๆ เพื่อให้รสชาติดีและปลอดภัย
หลีกเลี่ยงผงชูรสหรือความเผ็ดเกินไป
เด็กส่วนใหญ่กินเผ็ดจัดไม่ได้ น้ำจิ้มควรใช้สูตรอ่อน หรือสูตรกลมกล่อมไม่เผ็ดมาก เพื่อตอบโจทย์เด็กเล็กและผู้ปกครองที่ใส่ใจสุขภาพลูก
ควบคุมต้นทุนไม่ให้บานปลาย
จดบันทึกต้นทุนทุกวัน จะช่วยให้มองเห็นกำไรจริง
ของกินเล่นขายดีลงทุนน้อย เหมาะสำหรับขายหน้าโรงเรียน มือใหม่ก็ทำได้
การเริ่มขายของกินหน้าโรงเรียนไม่ยากอย่างที่คิด ขอเพียงเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า รู้ว่าควรขายอะไร และจัดการต้นทุนให้ดี คุณก็สามารถสร้างรายได้ต่อวันได้ตั้งแต่ 300–1,000 บาทขึ้นไป โดยสินค้าประเภท ของกินเล่นขายดีลงทุนน้อย เหล่านี้ทำตามได้จริง ไม่ต้องมีทักษะมากก็เริ่มขายได้ทันที
หากต้องการต่อยอด ลองศึกษาไอเดียสินค้าอื่น ๆ หรืออ่านบทความแนะนำจาก Shopee Blog
