สายหวานต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีกับ ชีสเค้กหน้าไหม้ สวรรค์ของคนรักชีสเค้ก ด้วยรสชาติที่อร่อย เนื้อเค้กนุ่มละมุนสัมผัสได้ตั้งแต่คำแรก กลิ่นก็หอมของชีสก็ชวนให้หลงใหลจนคนรักชีสยากจะถอนตัว และเสน่ห์ของเค้กชนิดนี้ก็คือ ตัวเค้กหน้าไหม้นิด ๆ และความหอมของชีสหน้าไหม้ แต่บางคนอาจจะมองว่าไหม้แล้วจะกินได้ไหม ขมหรือเปล่า บอกว่าไม่เลยจ้า ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปหาซื้อกินได้ หรือใครที่อยากลองทำกินเอง หรือกำลังมองหาสูตรชีสเค้กหน้าไหม้ เพื่อที่จะทำขายก็เชิญทางนี้ วันนี้เรามีสูตรเด็ดสูตรอร่อยมาฝากกันด้วย และไม่ใช่แค่นั้นยังมีวิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้มาฝากกันด้วย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
สูตรชีสเค้กหน้าไหม้ หวานหอมอร่อย ชีสเต็มคำ ทำได้ง่าย ๆ
ชีสเค้กหน้าไหม้ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสเปน แล้วก็แพร่หลายกลายเป็นที่นิยมกินกันในบ้านเราซึ่งจะเห็นได้ชัดเลยก็ช่วงโควิดที่หลายคนกักตัวอยู่บ้านแล้วไม่รู้จะทำอะไรดีก็หันมาทำอาหารหรือขนม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ชีสเค้กหน้าไหม้ ที่บ้านก็ทำกินเองหรือทำขาย เรียกได้ว่าขายดิบขายดีกันเลย ราคาต่อชิ้นก็แพง จะหากินก็ยาก งั้นก็ทำกินเองที่บ้านเลยแล้วกัน วันนี้เราก็มีชีสเค้กหน้าไหม้สูตรต่าง ๆ มาฝากพร้อมกับวิธีทําชีสเค้กหน้าไหม้ที่ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเค้กหน้าไหม้ของเรา จะมีอะไรบ้าง เข้าครัวแล้วทำตามได้เลยจ้า
ชีสเค้กหน้าไหม้สูตรต้นตำรับจากสเปน By PIMMY TAST
ชีสเค้กหน้าไหม้สูตรต้นตำรับจากสเปน ซึ่งใช้ส่วนผสมเพียงแค่ 6 อย่าง ได้แก่ ครีมชีส วานิลลา แป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย วิปปิ้มครีม และไข่ไก่ ผสมผสานเข้ารวมกันแล้วก็นำไปเข้าเตาอบเพียงไม่กี่นาที คุณก็ได้กินชีสเค้กหน้าไหม้สูตรต้นตำรับที่แสนอร่อย หอมหวานมัน ส่วนเนื้อในก็จะมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ และความอร่อยก็จะอยู่ตรงที่ชีสหน้าไหม้ที่จะมีรสชาติหวานกลมกล่อม และที่สำคัญวิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้นี้ก็ทำง่ายมาก ๆ มือใหม่ก็ทำได้เหมือนกัน
ส่วนผสมชีสเค้กหน้าไหม้
- ครีมชีส 500 กรัม
- วานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 15 กรัม
- น้ำตาลทราย 140 กรัม
- วิปปิ้มครีม 250 กรัม
- ไข่ไก่เบอร์ 1 จำนวน 3 ฟอง
วิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้
- เริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์พิมพ์เค้กแล้วรองด้วยกระดาษเพื่อกันการติดของขนม
- ให้ใส่ครีมชีส น้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด ลงไปในชามผสม แล้วตีให้เข้ากันจะใช้มือตีเองก็ได้ หรือใช้เครื่องตีก็ให้เลือกความเร็วระดับกลางเกือบสูง เพื่อให้ส่วนผสมแตกแล้วเข้ากันได้เร็ว
- จากนั้นก็ตามด้วยวิปปิ้มครีมและกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วก็ตีผสมให้กันเข้ากัน
- ในระหว่างที่ตีส่วนผสมให้เข้ากันก็ให้ให้ไข่ไก่ลงไปทีละฟองจนกว่าไข่ไก่จะหมด
- ให้ลดความเร็วของเครื่องตีให้เป็นระดับต่ำสุด เพื่อตัดฟองอากาศ และที่สำคัญเนื้อเค้กก็จะเนียน
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันได้ที่แล้ว ก็ให้นำมาเทลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ ซึ่งส่วนผสมนี้ก็จะได้ประมาณ 3 ปอนด์ หรือกว้าง 8 นิ้วนั่นเอง
- นำพิมพ์เค้กไปเข้าเตาอบโดยจะอบด้วยกัน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกก็จะใช้ไฟ 220 องศา เวลา 20 นาที และครั้งที่สองใช้ไฟ 200 องศา เวลา 10 นาที
- เมื่อสุกแล้วก็จะให้นำออกมาพักไว้ให้เย็น จากนั้นก็ให้แรปแล้วนำไปเข้าตู้เย็นไว้อีกประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วค่อยนำออกมาทาน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้กินชีสเค้กหน้าไหม้ที่อร่อยกันแล้ว หรือใครที่ชอบททานผลไม้ก็สามารถนำมาตกแต่งเพิ่มเติมได้น้า
ชีสเค้กหน้าไหม้คีโต By Keto Concepts
Credit : Keto Concepts / Youtube
สาว ๆ คนไหนที่กำลังลดหุ่นดูแลสุขภาพด้วยการเลือกกินคีโตแล้วอยากจะกินชีสเค้กหน้าไหม้แต่ก็กลัวว่าจะอ้วน แนะนำให้เลือกกินเป็นสูตรชีสเค้กหน้าไหม้คีโต เป็นขนมคีโตที่มีส่วนผสมที่ใช้ในการทำชีสเค้กหน้าไหม้คีโต ก็จะไม่ใช้แป้ง ไม่ใช้น้ำตาล แต่จะเลือกใช้เป็นสตีเวียหรือหญ้าหวาน เพื่อแทนความหวานของน้ำตาลแทน ทำให้สาว ๆ ที่กินคีโตไม่อยากอ้วนก็ทานได้ แต่ก็อย่าทานจนเยอะเกินไปน้า อาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เพราะด้วยความรสชาติความอร่อยที่ยังคงจัดเต็มเหมือนกับชีสเค้กหน้าไหม้ปกติทั่วไปเลย สูตรชีสเค้กหน้าไหม้จะมีส่วนผสมอะไรบ้าง ขั้นตอนเป็นยังไง มาดูกัน
ส่วนผสมชีสเค้กหน้าไหม้คีโต
- ครีมชีส 250 กรัม
- สตีเวีย 70 กรัม (หญ้าหวาน)
- วิปปิ้งครีม 120 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ใบ
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
วิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้คีโต
- นำครีมชีสมาตีให้แตกแล้วก็เติมสตีเวียผสมลงไปจากนั้นก็ตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- แล้วใส่วิปปิ้งครีมลงไปแล้วก็ตีให้เข้ากัน แล้วตามด้วยวานิลลาแล้วก็คนให้เข้ากันอีกครั้ง
- ใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟองก็แล้วก็ตีส่วนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เตรียมพิมพ์เค้กขนาด 1 ปอนด์ แล้วรองด้วยกระดาษ
- เทส่วนผสมของชีสเค้กลงไปในพิมพ์เค้ก และก็ให้เคาะให้เซ็ทตัวและไล่ฟองอากาศออก
- จากนั้นก็นำพิมพ์เค้กเข้าเตาอบใช้ความแรงของไฟ 200 องศา ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นก็ให้อบต่ออีกครั้งใช้ไฟ 230 องศา เวลา 15 นาที ในระหว่างที่เข้าเตาอบก็ให้คอยสังเกตดูสีของเค้กหน้าไหม้ว่าได้สีที่ต้องการหรือยัง หรือชีสหน้าไหม้พอไหม ซึ่งสามารถปรับเพิ่มหรือลดเวลาได้ตามความเหมาะสม
- เมื่อสุกแล้วก็ให้นำออกจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็นลง แล้วค่อยนำเข้าตู้เย็นแช่ทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง จากนั้นก็ค่อยนำออกมาตัดทานได้ วิธีทําชีสเค้กหน้าไหม้ง่าย ๆ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ชีสเค้กหน้าไหม้คีโตที่อร่อยทานแล้ว
ชีสเค้กหน้าไหม้สูตร Buttermilk Pantry
Credit : buttermilkpantry
สูตรชีสเค้กหน้าไหม้ โดย Buttermilk Pantry อีกหนึ่งสูตรที่ถูกปากคนไทย ด้วยลักษณะพิเศษของหน้าเค้กที่จะมีชีสหน้าไหม้สีเข้ม ๆ และมีความเกรียมกำลังดี แต่เมื่อตัดเข้าไปด้านในก็จะสัมผัสได้กับเนื้อเค้กที่มีเนียนนุ่ม หอมหวานมันเข้นข้นของครีมชีส และใครที่อยากรู้ว่าสูตรนี้จะต้องใช้ส่วนผสมอะไรบ้าง และวิธีทําชีสเค้กหน้าไหม้เป็นยังไง ก็ตามมาดูกันเลย
ส่วนผสมชีสเค้กหน้าไหม้
- ครีมชีส 430 กรัม
- แป้งเค้ก 20 กรัม
- วานิลลา 1 ช้อนชา
- น้ำเลมอน 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- ไข่ไก่เบอร์ 1 จำนวน 3 ฟอง
- วิปปิ้มครีม 270 กรัม (เลือกที่มีไขมันต่ำ)
วิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้
- ให้นำกระดาษไปรองไว้ที่พิมพ์เค้กขนาด 6 นิ้ว ซึ่งจะต้องด้วยกัน 2 ชั้น
- นำน้ำตาลทรายและครีมชีสมาตีเข้าด้วยกันจนได้เนื้อเนียน
- ใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟองแล้วก็ตีให้เข้ากันจนเนื้อเนียน
- ตามด้วยใส่กลิ่นวานิลลาและน้ำเลมอนลงไปแล้วก็ตีให้เข้ากัน
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็ให้แบ่งครีมชีสออกมาครึ่งหนึ่ง แล้วก็ค่อย ๆ ผสมแป้งเค้กกับ ¼ ของครีมชีสแล้วก็ตีให้เข้ากัน และก็เพิ่มครีมชีสลงไป ¼ แล้วก็ผสมจนเนียน
- แล้วก็ค่อย ๆ เทส่วนผสมของครีมชีสและแป้งลงในส่วนผสมของครีมชีสในขณะที่เครื่องตีส่วนผสมกับทำงานอยู่ ซึ่งจะต้องใช้ระดับต่ำที่สุดในการตีให้เข้ากัน จากนั้นก็ค่อยเพิ่มความเร็วใช้เวลาเพียงแค่ 15 วินาทีเท่านั้น
- ให้เปิดเตาอบเพื่อวอร์มด้วยไฟ 240 องศา ใช้เวลา 30 – 35 นาที ให้อบจนกว่าด้านบนของเค้กหน้าไหม้และขอบเปลี่ยนสีเข้ม ๆ จนเกือบไหม้ แต่ในส่วนเนื้อตรงกลายยังคงมีความนุ่มเด้งเมื่อเขย่าก็จะรู้สึกได้
- นำพิมพ์เค้กออกมาจากเตาอบแล้วก็พักให้เย็น ใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่าเค้กเย็นจริง ๆ
เป็นยังไงกันบ้างกับชีสเค้กหน้าไหม้ที่เราได้นำมาฝาก เห็นไหมว่าวิธีทำชีสเค้กหน้าไหม้ไม่ได้ยากเลยถ้าเทียบกับการทำเบเกอรี่ทั่วไป ส่วนผสมที่ใช้ก็มีแค่ไม่กี่อย่าง ขั้นตอนและวิธีการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือมีความซับซ้อนอะไร อีกทั้งยังสามารถนำสูตรที่ให้ไปดัดแปลงเพิ่มเติมได้ตามต้องการ หรือจะเสริมด้วยผลไม้สด ๆ ก็ช่วยทำให้สดชื่นได้เหมือนกัน ช่วงนี้ใครว่าง ๆ ก็เข้าครัวทำกินเองก็ได้น้า หรือถ้าจะเปิดขายแบบออนไลน์ พูดเลยว่าปังชัวร์ งั้นไม่รอช้าแล้วเราไปเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมแล้วเข้าครัวไปทำขายกันได้เล้ยยย