หากพูดถึงผลไม้ที่คนไทยนิยมกินกันในช่วงหน้าร้อน คงจะต้องคิดถึงแตงโมเป็นอย่างแรง เป็นผลไม้ที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำจำนวนมาก จะกินเลยก็ชื่นใจ หรือจะกินแบบแช่เย็นมาก็ยิ่งเย็นชื่นใจ สำหรับคนไทยโบราณ คนเฒ่าคนแก่ยังนิยมกินกับข้าว หรือจะทำเป็นเมนูต่าง ๆ ให้น่ากินและมีรสชาติหลากหลายมากขึ้น อย่าง เมนูชาววังโบราณ แตงโมปลาแห้ง พูดแล้วก็นึกอยากจะทำกินบ้างเหมือนกัน แต่ก่อนอื่นประโยชน์ของแตงโมยังมีมากกว่าการกินแล้วอร่อย แต่ยังมีประโยชน์อื่น ๆในเรื่องสุขภาพอีกมากมายเลย
แตงโม ชื่อวิทยาศาสตร์
Citrullus lanatus
แตงโม คือ
เป็นพืชล้มลุกวงเดียวกับแคนตาลูปและฟัก จะมีอายุสั้นและผลจะมีลักษณะทรงกลม หรือเป็นทรงกระบอก เปลือกจะมีสีเขียวเข้มบ้างเหลืองบ้าง หรือจะมีลวดลายบ้างตามแต่ละพันธุ์ที่ปลูกและมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละภาค ภาคอีสานเรียกบักโม ภาคเหนือเรียกบะเต้า ที่ตรังเรียกแตงจีน ประโยชน์ของแตงโมยังมีในเรื่องของเศรษฐกิจการส่งออกอีกด้วย
แตงโมสายพันธุ์ต่าง ๆ
โดยแตงโมที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไปจะมี 3 สายพันธุ์ คือ
- แตงโมพันธุ์ธรรมดา จะมีเมล็ดขนาดเล็ก และมีรสหวานมาก จะแบ่งออกได้อีกหลายสายพันธุ์ เช่น แตงโมจินตรา แตงโมกินรี แตงโมน้ำผึ้ง แตงโมไดอานา ฯลฯ
- แตงโมพันธุ์ไม่มีเมล็ด เป็นการผสมพันธุ์ ปลูกเพื่อต้องการจะส่งออก
- แตงโมพันธุ์กินเมล็ด ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาคั่ว โดยพันธุ์นี้จะมีเนื้อมาก
ประโยชน์ของแตงโม
ประโยชน์ที่มีต่อร่างกายคนเรา นอกจากจะกินเพื่อคลายร้อน แก้กระหาย ทำให้ชุ่มคอ หายจากความเครียดได้ ยังอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน การรักษาแผล ป้องกันการติดเชื้อ และความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และอย่างที่บอกคือช่วยคลายเครียดจากภาวะต่าง ๆ ได้ มาดูประโยชน์แตงโมด้านอื่น ๆ กันเลย
- ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ ระบบขับปัสสาวะ โดยแตงโมจะมีเบต้าแคโลทีน (Beta Carotene) ที่จะไปช่วยสร้างวิตามินเอ ที่มีผลต่อภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ในร่างกาย
- รักษาแผลให้หายเร็ว ในแตงโมจะมีสารซิตรัลลีน (citrulline) ที่ช่วยเรื่องการรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ แตงโมมีสารชื่อว่า ไลโคปีน (Lycopene) ในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ
- ประโยชน์ของแตงโม ลดความอ้วน แตงโมจะมีกรดอะมิโนชื่อว่า อาร์จินิน (Arginine) ซึ่งมีอยู่มากมายในเนื้อแตงโมรวมไปถึงเปลือกเนื้อขาว ๆ ด้วย เป็นสารที่ช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างมีประสิทธภาพ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและกลูโคสส่วนที่ร่างกายไม่ต้องการ ไขมันในแตงโมมีเพียง 96 กิโลแคลอรี่เท่านั้น จึงเหมาะจะใช้ในการกินเพื่อลดความอ้วนได้เพราะน้ำในแตงโมจะทำให้รู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น แต่ก็ควรจะกินในปริมาณที่พอดี ไม่เยอะจนเกินไป และก็ควรจะกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ด้วยเช่นกัน เพราะไม่ว่าอะไรที่มีประโยชน์แต่หากกินมากจนเกินไปก็ไม่ได้แสดงว่าจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้
- แตงโม ประโยชน์ต่อความสวยความงาม ในแตงโมมีสาร เรียกว่า ไลโคปีน ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) จะสามารถดูดซับความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี และมีวิตามินเอที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ผิวกระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัย และยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และยังมีสารอาหารอื่น ๆ อีกมากที่จะช่วยบำรุงผิวให้สวยใสได้

วิธีทำน้ำแตงโมปั่น
การเตรียมวัตถุดิบ
- เนื้อแตงโม นำเมล็ดออกเรียบร้อยหั่นเป็นชิ้น 160 กรัม
- น้ำเชื่อม 0.5 Oz.(น้ำเชื่อมมิตรผล) หากไม่ต้องการน้ำเชื่อมหรือกำลังลดความอ้วน อาจจะใช้หญ้าหวานแทน หรือเติมน้ำสะอาดแทนเพียงเล็กน้อย เพื่อให้โถปั่นทำงานได้เต็มที่
- น้ำแข็ง เต็มแก้ว 16 Oz.
- เครื่องปั่น
วิธีทำ ใส่เนื้อแตงโมลงไปในโถก่อน ตามด้วยน้ำเชื่อม และน้ำแข็งลำดับสุดท้าย เขย่าโถปั่นให้เนื้อแตงโมและน้ำแข็งเข้ากัน จากนั้นปั่นจนละเอียด เทใส่แก้วตกแต่งตามใจชอบ พร้อมรับประทานได้เลย เหตุผลที่ไม่ใส่น้ำสะอาดลงไปปั่นด้วย เพราะแตงโมขึ้นชื่อว่ามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 90 % อยู่แล้ว และอาจจะทำให้รสสัมผัสของเนื้อแตงโมเปลี่ยนไป
ประโยชน์ของเปลือกแตงโม
ในส่วนของเปลือกแตงโม สามารถจะนำไปประกอบอาหารได้ อย่างแกงส้มเปลือกแตงโม ซึ่งก็มีสรรพคุณและประโยชน์เช่นเดียวกับเนื้อแตงโม โดยจะมีรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ยิ่งกินกับข้าวร้อน ๆยิ่งอร่อย แต่ปัจจุบันนี้คงจะหากินได้ยากมาก หากไม่ได้ลงมือทำเอง ดังนั้นไปดูกันว่าถ้าเราทานเปลือกแตงโม จะได้ประโยชน์ของเปลือกแตงโมอะไรบ้าง
- เนื้อสีขาวของแตงโมมีสารที่ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายจากการออกลังกาย
- มีสารที่ชื่อว่า ไลโคปีน (Lycopene) เช่นเดียวกับมะเขือเทศ ช่วยเข้าไปปกป้อง และ ยับยั้งการเป็นมะเร็งได้ถึง 34%
- ช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้
อันตรายจากแตงโม
ประโยชน์ของแตงโมมีมากมาย แต่การกินแตงโมมากเกินไปอาจจะไม่ได้ส่งผลให้เกิดประโยชน์เลย อาจจะทำให้เกิดโทษต่อร่างกายด้วยซ้ำ
- ในคนที่เป็นโรคเบาหวานเองไม่ควรจะกินแตงโม เพราะน้ำแตงโมจะอุดมไปด้วยน้ำตาล
- ส่วนผู้ป่วยโรคไตกินได้แต่น้อย เพราะไตจะทำงานได้ไม่เต็ม 100% อาจจะทำให้มีการบวมน้ำ
- คนที่กำลังเป็นหวัด อาจจะทำให้มีระยะเวลาเป็นหวัดที่นานมากขึ้น หรือหายช้า
- คุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก ซึ่งแตงโมจะมีฤทธิ์เย็น จะมีผลต่อการผลิตน้ำนมได้น้อยลง
แตงโม ประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพทั้งทางด้านความสวยความงามการชะลอวัย หรือระบบการทำงานในร่างกายต่าง ๆ และยังเป็นพืชเศรษฐกิจของคนไทย แต่ไม่ว่าจะมีประโยชน์มากเพียงใด ก็ยังมีโทษกับคนบางกลุ่ม ซึ่งควรจะต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ หากต้องการลดความอ้วน ก็ต้องรู้ปริมาณที่เหมาะสม และต้องรู้ว่าถ้าหากกินมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยซ้ำไป
แหล่งข้อมูล : th.wikipedia, pt.toluna
Discussion about this post