ชาเขียวร้อน ชาเขียวเย็น ชาเย็น ชาดำเย็น หรือ ชานมไข่มุก ล้วนแต่เป็นเมนูเด็ดยอดฮิตที่ใครหลาย ๆ คนเลือกดื่มกัน บางคนติดมากถึงขนาดที่จะต้องทานทุกวัน วันนี้ Shopee Thailand ชวนคนรักการดื่มชามารู้จักกับความแตกต่างของชาแต่ละชนิด รวมทั้งชาอู่หลง ให้คุณอินกับการดื่มชามากขึ้น
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ต้นกำเนิดของการชงชา
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่าชาเขียวต้นตำหรับจากญี่ปุ่น แต่แท้จริงแล้วจุดเริ่มต้นของการดื่มชานั้นมีมายาวนานกว่า 4,000 ปีแล้ว โดยต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน มีตำนานการบอกเล่าเรื่องราวต่อกันมาหลายเรื่องราว มักจะกล่าวถึง จักรพรรดิ เสินหนิง ที่พระองค์นั้นชื่นชอบในการศึกษาและค้นคว้าสมุนไพรต่าง ๆ จนชาวจีนยกย่องให้พระองค์นั้นเป็นบิดาแห่งแพทยศาสตร์
จากคำบอกเล่านั้นเชื่อว่าการค้นพบชานั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญ จากการที่ จักรพรรดิ เสินหนิง ทรงต้มน้ำเพื่อดื่มใกล้กับต้นชา ทำให้ใบไม้และกิ่งไม้ของต้นชานั้นปลิวตกลงไปในหม้อต้มน้ำ ด้วยความบังเอิญนี้ทำให้น้ำที่ต้มไว้เกิดกลิ่นหอมฟุ้ง และเมื่อพระองค์ได้ลองนำมาดื่มก็รู้สึกสดชื่น จึงได้นำมาศึกษาค้นคว้าถึงสรรพคุณของชาต่อ และเผยแพร่การดื่มชาทำให้การเป็นที่นิยมในเวลาต่อมา จนเกิดเป็นโรงน้ำชา รวมถึงการชงชาได้ถูกพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่ง
เมื่อการดื่มชากลายเป็นธรรมเนียม
เรื่องเล่าของ ใบชา นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มสมุนไพรแต่เพียงเท่านั้น เพราะ ชา นั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และประเพณีต่างๆ อย่างเช่น หากมีแขกมาบ้านให้รับแขกด้วยน้ำชา หรือ พิธีการดื่มชา ในวันแต่งงานของชาวจีน มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นตำราการชงชา เล่มแรกของโลก ที่ถูกเขียนขึ้นโดย นายลู่อวี่ ภายในหนังสือเขียนถึง ต้นกำเนิดของชา วิธีการปลูกต้นชาให้ได้คุณภาพ วิธีการชงชา และธรรมเนียมการชงชาที่ถูกต้องของชาวจีน จากหนังสือที่มีชื่อว่า “วรรณกรรมชาคลาสสิกฉาชิง” ซึ่งภายหลังหนังสือเล่มนี้ได้เป็นส่วนในการเรียนการสอนพื้นฐานของจีน
ชาหนึ่งต้น แต่หลากหลายรสชาติ
หลายคนนั้นยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว ชาเขียว ชาอู่หลง ชาดำ หรือ ชาขาว นั้น มีต้นกำเนิดมาจาก ต้นชาเดียวกัน มีลักษณะของต้นชานั้นจะมีความสูงตั้งแต่ 1- 6 เมตรลำต้นแตกกิ่งก้านได้เยอะ และมาขนเล็ก ๆ ปกคลุม ใบมีลักษณะแหลมคล้ายหอก ขอบใบคล้ายฟันเลื่อย ซึ่งสาเหตุที่ชาแต่ละประเภทนั้นมีสีและรสชาติที่แตกต่างกันนั้น เกิดจาก ระยะเวลาในการเก็บชา และกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน
มารู้จักกับความแตกต่างของชาแต่ละประเภท
ชาขาว
การผลิตชาขาว นั้นต้องเลือกเก็บจากยอดอ่อนของใบชาแล้วนำมาผึ่งลม เพื่อลดความชื้นที่อยู่ในใบชา หลังจากนั้นนำไปผ่านความร้อน จากการอบไอน้ำ หรือการคั่ว เมื่อชงแล้วจะได้สีที่อ่อนมาก แต่อุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์อย่างเช่น สารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ชาขาวนี้มีราคาที่แพงกว่าชาชนิดอื่นๆ
ชาเขียว
กระบวนการผลิตชาเขียวนั้น แตกต่างกับชาขาวเพียงแค่ ใบชา ที่ไม่ได้เป็นยอดอ่อนของต้นเท่านั้น หลังจากนั้นนำใบชาไปผ่านการแปรรูปโดยการอบไอน้ำ หรือการคั่วในกระทะ เช่นเดียวกับชาขาว โดยนำใบที่ผ่านการอบแล้วมากลิ้งให้ม้วนตัวก่อนทำให้แห้ง เพื่อไม่ให้ใบชาสัมผัสกับอากาศมากเกินไป เป็นวิธีการรักษาเพื่อให้สามารถเก็บชาได้นานขึ้น
ชาดำ หรือ ชาแดง
ชาดำหรือที่เรามักจะเคยชินกับชื่อ ชาดำเย็น ชามะนาว ชาไทย ชาเย็น หรือ ชาแดง สำหรับชาดำนั้นมีต้นกำเนิดมาจากใบชาชนิดเดียวกับชาประเภทอื่นๆ แต่แตกต่างกันที่กระบวนการผลิตโดยชำดำนั้นจะถูกนำไปผึ่งลมเป็นระยะเวลาราว ๆ 18 ชั่วโมง นำไปม้วนใบชาเช่นเดียวกับชาขาวและชาเขียว และถูกส่งต่อไปหมัก ก่อนนำไปอบแห้งอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ใบชากลายเป็นสีดำ และมีกลิ่นที่แตกต่างออกไป รวมถึงสีที่ได้จากการชงชานั้นก็แตกต่างไป
ชาอู่หลง
ใบชาที่จะสามารถนำมาผลิตเป็นชาอู่หลงได้นั้นต้องมีลักษณะที่โตเต็มที่ ไม่ใช่ยอดอ่อนของต้น และใช้วิธีการผลิตใกล้เคียงกับชาขาวและชาเขียว แต่ชาอู่หลงใช้ระยะเวลาในการผลิตที่นานกว่า คือ ต้องนำไปผึ่งลมเป็นระยะเวลา 15 ชั่วโมง และนำไปผ่านการม้วนและอบไอน้ำ
ในใบชานั้นมีสรรพคุณทางยาและคุณประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งการชะลอความแก่ ช่วยในการกำจัดสารพิษ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรู้จักการดื่มชาอย่างถูกวิธีด้วยเช่นกัน เพราะ การดื่มชาที่ผสมนม หรือน้ำตาลที่มากเกินไปก็จะส่งผลให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้เช่นกัน
Credit:pixabay