ตามปกติของชาวพุทธศาสนิกชน ที่ทุกๆ วันพระจะต้องทำกิจกรรมทางศาสนา ไม่ว่าจะไปวัด ทำบุญ ใส่บาตร ถวายสังฆทาน ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ฟังธรรมเทศนา หรือเวียนเทียน และเพื่อการเตรียมตัวให้พร้อม มาดูปฏิทินวันพระ ปี 2564 กันว่า วันไหนวันพระ และวันพระวันที่เท่าไหร่กันบ้าง
ความหมายของวันพระ
วันพระ หรือวันธรรมสวนะ หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชน เพื่อมาปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา และถือศีลฟังธรรม โดยวันพระเป็นวันที่มีกำหนดเดือนตามปฏิทินจันทรคติ เดือนละ 4 วัน ได้แก่ วันขึ้น 8 ค่ำ, วันแรม 8 ค่ำ และวันพระใหญ่ วันขึ้น 15 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ (หากเดือนใดเป็นเดือนขาด ให้ถือเอาวันแรม 14 ค่ำ) และจึงเป็นที่มาของปฏิทินวันพระในยุคปัจจุบัน
ความเป็นมาของวันพระ
เดิมทีนั้นวันพระ เป็นธรรมเนียมของเหล่านักบวชนอกพระพุทธศาสนา ที่จะมาประชุมเพื่อแสดงธรรมกันทุกวัน 8 ค่ำ และวัน 15 ค่ำตามปกติ ในกาลครั้งนั้น พระเจ้าพิมพิสาร พระราชาแห่งแคว้นมคธ ได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และกราบทูลขอพุทธานุญาตให้เหล่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาได้กระทำเช่นนั้นบ้าง เพื่อความเลื่อมใส ศรัทธา เฉกเช่นนักบวชนอกศาสนานั้นได้รับ ในประชุมสนทนาเกี่ยวกับหลักธรรมคำสั่งสอนในศาสนาที่พุทธศาสนายังไม่มี พระพุทธองค์จึงทรงอนุญาตให้มีการประชุมพระสงฆ์ขึ้นในทุกๆ วัน 8 ค่ำ 15 ค่ำ และอนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์แสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชนในวันดังกล่าว
วันพระสำหรับพุทธศาสนิกชนถือเป็นวันสำคัญ โดยจะถือโอกาสในวันพระนี้ไปวัดเพื่อทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ และฟังพระธรรมเทศนา สำหรับผู้ที่เคร่งครัดอาจถือศีลแปดหรือศีลอุโบสถในวันพระด้วย นอกจากนี้ ตามความเชื่อของชาวพุทธยังถือว่าวันพระเป็นวันสำคัญ และไม่ควรทำบาปใดๆ ในวันนี้ เพราะการทำบาปหรือไม่ถือศีลห้าในวันพระถือเป็นบาปยิ่ง

ปฏิทินวันพระ ปี 2564
ปี พ.ศ. 2564 หรือตรงกับ ค.ศ. 2021 นั้น จะตรงกับนักษัตรปีฉลู และมีวันไหนวันพระ ที่ตรงตามปฏิทินวันพระ ดังนี้
เดือนมกราคม 2564
วันพระเดือนนี้ตรงกับวันพุธที่ 6 มกราคม, วันพุธที่ 13 มกราคม, วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม และวันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม
เดือนกุมภาพันธ์ 2564
วันพระตรงกับวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์, วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์, วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ และวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 จะตรงกับวันมาฆบูชา ที่เป็นวันพระใหญ่
เดือนมีนาคม 2564
วันพระตรงกับวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม, วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม, วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม และวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม
เดือนเมษายน 2564
วันพระเดือนนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 5 เมษายน, วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน, วันจันทร์ที่ 19 เมษายน และวันจันทร์ที่ 26 เมษายน
เดือนพฤษภาคม 2564
วันพระตรงกับวันอังคารที่ 4 พฤษภาคม, วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม, วันพุธที่ 19 พฤษภาคม และวันพุธที่ 26 พฤษภาคม โดย26 พฤษภาคม เป็นวันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ตรงกับวันวิสาขบูชา
เดือนมิถุนายน 2564
วันพระตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน, วันพุธที่ 9 มิถุนายน, วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน และวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน
เดือนกรกฎาคม 2564
วันพระตรงกับวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม, วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม, วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม และวันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งวันที่ 24 กรกฎาคม ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันอาสาฬหบูชา และวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันเข้าพรรษา
เดือนสิงหาคม 2564
วันพระตรงกับวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม, วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม, วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม, วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม และวันอังคารที่ 31 สิงหาคม
เดือนกันยายน 2564
วันพระเดือนนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 6 กันยายน, วันอังคารที่ 14 กันยายน, วันอังคารที่ 21 กันยายน และวันพุธที่ 29 กันยายน 2564
เดือนตุลาคม 2564
วันพระตรงกับวันพุธที่ 6 ตุลาคม, วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม, วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม และวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม ซึ่งวันที่ 21 ตุลาคม ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันออกพรรษา
เดือนพฤศจิกายน 2564
วันพระตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน, วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน, วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน และวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน
เดือนธันวาคม 2564
วันพระตรงกับวันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม, วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม, วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม และวันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม
นอกจากนี้ในประเทศไทยเรายังมีคำเรียกวันก่อนวันพระหนึ่งวันว่า วันโกน เพราะจะตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ ซึ่งก่อนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ 1 วันนั้น จะเป็นธรรมเนียมของพระสงฆ์ที่จะโกนผมในวันนี้นั่นเอง
เตรียมตัวไปวัดเพื่อทำบุญวันพระอย่างไร
หลังจากที่เราดูปฏิทินวันพระ แล้วรู้แล้วว่าวันไหนบ้างที่เป็นวันพระ หรือถ้าถึงเวลาที่พรุ่งนี้วันพระ จะต้องเตรียมตัวไปวัดเพื่อทำบุญอย่างไรบ้าง ดังนี้
1. การเตรียมกาย
ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูสุภาพเรียบร้อย เน้นสีขาวเรียบ หรือสีที่ไม่ฉูดฉาด เสื้อผ้าควรมีลักษณะไม่รัดรูป ไม่เน้นทรวดทรงจนเกินไปนัก ไม่ใส่เครื่องประดับ และไม่ใส่น้ำหอม เพื่อให้ร่างกายสะอาดบริสุทธิ์ รวมถึงควรกินอาหารก่อนไปให้อิ่มพอดี เพื่อประทังความหิวในระหว่างทำกิจกรรมทางศาสนา
2. การเตรียมใจ
ทำจิตใจให้สบาย ผ่องใส ไม่เครียด และตัดความวิตกกังวลที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว หรือความรัก
3. การเตรียมสิ่งของ
อย่าลืมจัดเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน เพื่อนำไปไหว้บูชาพระ และเตรียมอาหารคาว อาหารหวาน รวมถึงสิ่งของอื่นๆ เพื่อไปถวายภัตตาหารพระสงฆ์ตามกำลังและความศรัทธา
ในประเทศไทย วันพระได้ถูกยกเลิกไม่ให้เป็นวันหยุดราชการ ทำให้วันพระตามปฏิทินวันพระไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนไทย เนื่องจากวันพระไม่ตรงกับวันหยุด ทำให้ทุกคนยังคงต้องไปทำงานตามปกติ ทำให้พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ต้องห่างจากการเข้าวัด สวดมนต์ประจำวัน เพื่อทำบุญในวันพระนั่นเอง แต่เมื่อถึงวันพระใหญ่ ที่จะเป็นวันหยุดราชการ เราก็จะเห็นพุทธศาสนิกชนออกมาทำบุญที่วัด ถวายสังฆทานกันมาก นับว่าเป็นเรื่องที่ดี และหากมีโอกาสในการเข้าวัดทำบุญ อย่าลืมระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ ด้วยการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เป็นประจำ เพื่อให้จิตใจผ่องใส และทำให้การเข้าวัดทุกวันพระกลายเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันเป็นประจำ
Discussion about this post