การรักษาเครื่องซักผ้าให้สะอาดถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าของคุณจะดูสดและเครื่องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีล้างถังเครื่องซักผ้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักฝาบนหรือฝาหน้า ก็จำเป็นต่อการรักษาให้เครื่องซักผ้าสะอาด ผ้าหอมไม่เหม็นอับ และอยู่นาน บทความนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับวิธีการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า วิธีล้างถังเครื่องซักผ้า พร้อมขั้นตอนง่ายๆ และเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ในการรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการบำรุงรักษาเครื่องซักผ้า
การล้างและวิธีล้างถังเครื่องซักผ้าเป็นประจำมีความสำคัญไม่เพียงแต่เพื่อความสะอาดของเสื้อผ้า แต่ยังป้องกันการสะสมของเชื้อราซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ เมื่อเวลาผ่านไป เครื่องซักผ้าจะสะสมคราบผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม และสิ่งสกปรก ซึ่งอาจนำไปสู่กลิ่นอันไม่พึงประสงค์และประสิทธิภาพลดลง ด้วยการเรียนรู้วิธีทำความสะอาดเครื่องซักผ้า คุณจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องซักผ้าจะทำงานได้อย่างราบรื่นและยังคงถูกสุขอนามัย
ขั้นตอน-วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า
Cr. Unsplash
- ก่อนการล้างถังซักผ้าของเครื่องซักผ้าฝาหน้า ต้องทำความสะอาดขอบยาง และช่องจ่ายน้ำยาและผงซักฟอกก่อนเสมอ โดยการใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ ฉีดลงบนส่วนต่าง ๆ แล้วเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดเพื่อเป็นการกำจัดเศษฝุ่นผ้า เศษผม และเชื้อรา รวมถึงคราบฝังแน่น
- ตั้งโปรแกรมซักผ้า หากเครื่องซักผ้ามีระบบน้ำร้อน ให้ปรับเป็นน้ำร้อนด้วย ก่อนใส่น้ำส้มสายชูลงไปประมาณ 2 แก้ว แล้วกดปุ่มเริ่มให้เครื่องซักผ้าทำงานตามปกติได้เลย
- หลังจากซักรอบแรกเสร็จแล้ว ให้ซักซ้ำเหมือนเดิมโดยใช้ระบบน้ำร้อนหากมี แต่เปลี่ยนจากน้ำส้มสายชูเป็นการใส่เบกกิ้งโซดาลงไปแทน ปริมาณครึ่งถ้วย แล้วกดให้เครื่องซักผ้าทำการซักปกติ
- เมื่อเครื่องซักปั่นเสร็จแล้วจนถึงขั้นตอนสุดท้าย นำผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดเศษฝุ่นผ้า และคราบต่าง ๆ ออกอีกครั้ง
ขั้นตอน-วิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาบน
Cr. Unsplash
- การล้างเครื่องซักผ้าฝาบน เริ่มด้วยการทำการซักปกติ โดยไม่ต้องใส่ผ้าลงไป หากมีระบบน้ำร้อน ให้ปรับเป็นน้ำร้อนที่สุด ก่อนจะเติมน้ำส้มสายชูลงไปประมาณ 4 แก้ว แล้วปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำงาน
- เมื่อเครื่องซักผ้าทำงานไปได้ซักพัก ให้กดหยุดเครื่องซักผ้าให้เครื่องหยุดทำงานประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดและขจัดเชื้อโรค
- ระหว่างที่เครื่องซักผ้าฝาบนหยุดทำงาน ให้นำผ้าสะอาดชุบน้ำส้มสายชูแล้วเช็ดทำความสะอาดเครื่องซักผ้าบริเวณฝา และตัวเครื่อง รวมไปถึงใช้แปรงสีฟันเก่า ขัดถูกตามช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มดาวนี่หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม และผงซักฟอก หลังจากผ่านไปแล้ว 1 ชั่วโมง กดปุ่มเพื่อให้เครื่องซักผ้าทำความสะอาดต่อจนเสร็จ
- หลังจากนั้นให้ทำการซักซ้ำอีกรอบโดยการใส่เบกกิ้งโซดาแทน กดปุ่มทำงานเครื่องซักผ้าจนเสร็จกระบวนการซักปกติ หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดถังซักและขอบต่าง ๆ อีกรอบ
วิธีล้างถังเครื่องซักผ้าด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ผงแอมโมเนีย
ถึงแม้ว่าผงแอมโมเนียจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ แต่สามารถช่วยเราล้างเครื่องซักผ้าได้ โดยทำตามขั้นตอนวิธีล้างถังเครื่องซักผ้าที่ด้านบน แต่เปลี่ยนจากผงเบกกิ้งโซดามาเป็นผงแอมโมเนียแทน หลังจากทำตามขั้นตอนแล้ว ให้ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำเปล่าอีกรอบ แล้วจึงเช็ดทำความสะอาดคราบตะกอนตกค้าง
ก้อนฟู่ล้างเครื่องซักผ้า
ก้อนฟู่ หรือ Washer Cylinder Cleaner เป็นก้อนสีฟ้าขาว ใช้ในการล้างเครื่องซักผ้าและทำความสะอาด ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยใส่เข้าไปในถังซักผ้า 1-2 ก้อนต่อถัง 7 กิโลกรัม หากถังใหญ่กว่านี้ ให้เพิ่มจำนวนก้อนฟู่ลงไป แล้วกดระบบล้างถังซักหากมี แต่ถ้าไม่มีให้ทำการปั่น 5 นาที แล้วแช่ทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง ก่อนจะตักตะกอนที่ลอยออก ปล่อยน้ำทิ้ง แล้วล้างถังด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ รอบ
น้ำยาโซจิแมน
น้ำยาโซจิแมน เป็นน้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้าจากแบคทีเรียต่าง ๆ ไม่ทำลายขอบยาง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ใช้งานง่ายโดยการใส่น้ำยาโซจิแมนลงไปเหมือนการใส่ผงซักฟองลงไปในถังซัก ก่อนจะทำการกดปุ่มเดินเครื่อง หากมีระบบน้ำอุ่น ให้เลือกน้ำอุ่นไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส น้ำยาโซจิแมนจะทำงานได้ดียิ่งขึ้น หลังจากนั้นค่อยเช็ดคราบตะกอนออก
การทำความสะอาดตัวกรองอย่างล้ำลึก
ทำไมการทำความสะอาดตัวกรองจึงเป็นสิ่งสำคัญ
แผ่นกรอง ตัวกรอง ฟิลเตอร์ หรือถุงกรองในเครื่องซักผ้าจะดักเศษต่างๆ เช่น ผ้าสำลี เหรียญ และสิ่งของชิ้นเล็กๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากกระเป๋าของคุณ ตัวกรองที่อุดตันอาจทำให้เกิดปัญหาการระบายน้ำและทำให้ปั๊มของเครื่องเสียหายได้
วิธีทำความสะอาดตัวกรอง
1. ค้นหาตำแหน่งของตัวกรองหรือลองเปิดคู่มือเครื่องซักผ้าเพื่อหาว่าตัวกรองอยู่ตรงไหนและทำความสะอาดอย่างไร ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ส่วนล่างด้านหน้าของเครื่องซักผ้า
2. ถอดตัวกรองมาทำความสะอาดโดยเปิดฝาครอบและค่อยๆถอดตัวกรองออก เตรียมตัวให้น้ำบางส่วนรั่วไหลออกมา ล้างตัวกรองใต้น้ำไหล และค่อยๆ ขจัดสิ่งสกปรกออกด้วยแปรงขนนุ่ม หรือ แปรงสีฟันที่คุณไม่ใช้
3. เมื่อทำความสะอาดแล้ว ติดตั้งตัวกรองกลับเข้าไปในเครื่องซักผ้าอีกครั้ง และปิดฝาครอบให้แน่น
การป้องกันเชื้อราและแบคทีเรียสะสม
นอกจากวิธีล้างถังเครื่องซักผ้าให้สะอาดแล้ว เราคงไม่อยากให้มีเชื้อราหรือแบคทีเรียสะสมเอาไว้ให้ผ้าเหม็นอับและติดเชื้อโรค แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุดในการป้องกันเชื้อรา คือการดูแลให้ดีในทุกครั้งที่ซัก และบำรุงรักษาเป็นครั้งคราวอย่างสม่ำเสมอ มีสิ่งที่คุณทำได้ดังต่อไปนี้
1. เปิดประตูทิ้งไว้
หลังการใช้งานแต่ละครั้ง ให้เปิดประตูเครื่องซักผ้าทิ้งไว้เพื่อให้อากาศไหลเวียนและป้องกันการสะสมของเชื้อรา
2. ใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่เหมาะสม
การใช้ผงซักฟอกมากเกินไปอาจทำให้เกิดฟองและสารตกค้างมากเกินไป ตวงผงซักฟอกตามแนวทางของแบรนด์น้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่คุณใช้
3. ดำเนินการล้างเพื่อบำรุงรักษา
กดซักน้ำเปล่าที่อุณหภูมิสูงเดือนละครั้ง นอกจากจะช่วยฆ่าเชื้อที่อาจติดอยู่กับตัวเครื่องซักผ้าแล้ว ยังช่วยขจัดกลิ่นที่ตกค้างอยู่ได้อีกเช่นกัน
ตารางสรุปเคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลรักษาเครื่องซักผ้าของคุณ
เคล็บลับ | รายละเอียด | ความถี่ |
---|---|---|
ทำความสะอาดตู้จ่ายผงซักฟอก | นำออกมาล้างออกด้วยน้ำร้อนเพื่อขจัดสิ่งตกค้าง | เดือนละครั้ง |
ตรวจสอบและทำความสะอาดซีลยางรอบขอบถังซักผ้า | เช็ดด้วยน้ำยาฟอกขาวเพื่อป้องกันเชื้อรา | 2-3 เดือนครั้ง |
ล้างตัวถังเครื่องซักผ้า | ล้างทำความสะอาดถังซักผ้าของเครื่องซักผ้า ด้วยเม็ดฟู่ น้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำส้มสายชู หากเป็นไปได้ให้ถอดถังออกมาล้างแล้วค่อยประกอบกลับเข้าไป หรืออาจจ้างผู้เชี่ยวชาญมาทำการถอดล้างประกอบ | ปีละครั้ง หรือ ครึ่งปีครั้ง |
ตรวจสอบและทำความสะอาดท่อน้ำ | มองหาส่วนนูนหรือรอยรั่วตรงท่อและตรวจสอบให้แน่ใจว่าสมบูรณ์และปลอดภัย | ปีละครั้ง |
รักษาระดับเครื่องซักผ้าให้วางอย่างมั่นคงและแข็งแรง | ปรับขาเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนและการสึกหรอ | ตามความจำเป็น |
เคล็ดลับเพิ่มเติมจากวิธีล้างถังเครื่องซักผ้า
การทำความเข้าใจวิธีล้างถังเครื่องซักผ้าและทำความสะอาดอย่างละเอียดรวมถึงการตระหนักถึงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เครื่องได้รับการดูแลอย่างดี เรามีเคล็ดลับเพิ่มเติมบางประการมาฝากเพื่อให้คุณดูแลเครื่องซักผ้าของคุณได้เหมือนใหม่
ใช้น้ำส้มสายชูเป็นประจำ
น้ำส้มสายชูเป็นสารกำจัดกลิ่นและทำความสะอาดตามธรรมชาติ การเพิ่มลงในการซักปกติสามารถช่วยรักษาสภาพแวดล้อมภายในให้สะอาดได้ ปริมาณที่ใช้อาจตวงน้ำส้มสายชูประมาณ 1-2 ถ้วยตวง คุณสามารถเทน้ำส้มสายชูที่ตวงแล้วนี้ลงในเครื่องจ่ายผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าโดยตรงเพื่อดำเนินการทำความสะอาด ได้ตามปกติ ปริมาณนี้มีประสิทธิภาพในการสลายผงซักฟอกที่ตกค้าง ขจัดกลิ่น และช่วยฆ่าเชื้อถังซักแล้ว
หลีกเลี่ยงปริมาณผ้าที่มากเกินไป
การใส่ผ้ามากเกินไปในเครื่องซักผ้าอาจทำให้มอเตอร์และถังซักตึงได้ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของแบรนด์เครื่องซักผ้าที่คุณซื้อมาสำหรับขนาดการรับเสื้อผ้าที่จะซักในแต่ละครั้ง อย่ายัดให้เต็มเพราะนอกจากจะเป็นการไม่ถนอมเครื่องซักผ้าแล้ว เสื้อผ้าคุณจะไม่สะอาดอีกด้วย!
เสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับหลังการซักและตาก อาจไม่ได้มากจากสภาพอากาศ แต่มาจากปัญหาเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในเครื่องซักผ้า ดังนั้นเราควรทำวิธีล้างถังเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือเมื่อได้กลิ่นไม่พึงประสงค์จากเครื่องซักผ้า เพื่อให้เสื้อผ้าหอมสดชื่น
Credit:freepik