คอลลาเจน ถือเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากวิตามินซี และวิตามินต่าง ๆ แล้ว แต่ในบ้านเราก็มีแบรนด์คอลลาเจนมากมาย ทำให้เกิดคำถามว่า จะเลือกซื้อคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี หรือคอลลาเจนตัวไหนดี เพราะแต่ละแบรนด์ก็มีความเข้มข้นและส่วนประกอบที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะมาแนะนำคอลลาเจน ที่ชาวเน็ตยกให้เป็น Top of mind คอลลาเจนที่ดีที่สุด ไปดูกันว่ามียี่ห้อไหนบ้าง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
คอลลาเจน คือ
คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลากหลายชนิด คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกาย พบมาในผิวหนัง ขน เส้นผม กระดูก เล็บ ข้อต่อ เส้นเอ็น ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย โดยปกติร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณคอลลาเจนตามธรรมชาติก็จะลดลง หากร่างกายขาดคอลลาเจน จะทำให้ผิวดูแห้งกร้าน มีริ้วรอยเหี่ยวย่น มีอาการปวดหลัง ปวดข้อ ข้อต่อเสื่อม แผลหายช้า รวมไปถึงเส้นผมขาดหลุดร่วง และเกิดผมขาวเร็วขึ้น
ที่มา: honestdocs.co
“ทั้งนี้หากเราต้องการทานคอลลาเจนให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ควรทานคู่กับวิตามินซี เพราะวิตามินซีจะเป็นตัวพาคอลลาเจนเข้าสู่ผิวและร่างกายส่วนต่าง ๆ”
ประเภทของคอลลาเจน
ความจริงแล้วก่อนจะไปถามว่า คอลลาเจนตัวไหนดี ควรทำความเข้าใจกับประเภทของคอลลาเจนกันก่อนดีกว่า คอลลาเจนมีหลายประเภทมาก ๆ แต่ชนิดที่นักวิทยาศาสตร์สามารถแยกโมเลกุลออกมาได้ เพื่อมาทำงานวิจัยประโยชน์ในทางการแพทย์ และเป็นตัวที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป มีเพียง 4 ชนิด เท่านั้น ดังนี้
คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I)
เป็นคอลลาเจนที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกายตีไปประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในร่างกาย มีคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอยมากที่สุดใดบรรดาคอลลาเจนตัวอื่น ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องริ้วรอยคือยืนหนึ่ง! คอลลาเจนชนิดนี้ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนไกลซีนประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งหมด มักจะพบร่วมกับ Collagen Type III
คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II)
คอลลาเจนชนิดเดียวที่พบในกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ และหมอนรองกระดูกสันหลัง โปรตีนชนิดนี้พบในกระดูกอ่อนประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ และพบในข้อต่อในปริมาณ 85% – 90% งานวิจัยต่าง ๆ จึงพบว่า คอลลาเจนชนิดนี้จะช่วยลดอาการปวด อาการสึกกร่อนของข้อต่อได้ เหมาะกับคนที่เป็นข้อเข่าเสื่อม โรคไขข้ออักเสบ แถมคอลลาเจนชนิดนี้จะมีปริมาณไฮดรอกซีไลซีนสูงกว่าชนิด Collagen Type I มากกว่าถึง 3 เท่า!
คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type III)
คอลลาเจนชนิดนี้จะมีโครงสร้างที่แตกต่างกับคอลลาเจนชนิดอื่น คือ เป็นคอลลาเจนสายเดี่ยว ที่พบได้ประมาณ 10% ของคอลลาเจนทั่วร่างกาย ถือว่าพบได้น้อยมากเลยทีเดียว มักพบในผิวหนังที่มีการสร้างใหม่ ส่วนมากพบในผิวของเด็ก เช่น ผิวหนังบริเวณที่เป็นแผล หลอดเลือด นอกจากนี้ยังมีการจับตัวกับ Collagen Type I จึงสามารถพบ Collagen Type III ปะปนกับ Collagen Type I หลังจากผ่านการสกัดคอลลาเจนแล้วนั่นเอง
คอลลาเจนชนิดที่ 4 (Collagen Type IV)
เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยสามารถพบได้เฉพาะบริเวณเส้นใยฝอยของเยื่อบุผิวแผ่นบาง ๆ บริเวณนอกเซลล์ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท และเส้นเลือดอีกด้วย
คอลลาเจนธรรมดา VS คอลลาเจนเปปไทด์ ต่างกันอย่างไร
คอลลาเจนเปปไทด์บำรุงกระดูก เป็นกรดอะมิโนสายสั้นที่เป็นส่วนประกอบของคอลลาเจน โดยนำคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดใหม่มาผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ พูดง่าย ๆ ก็คือ นำคอลลาเจนมาเข้าสู่กระบวนการใหม่เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น ทำให้คอลลาเจนเปปไทด์บำรุงกระดูก เป็นโปรตีนที่พบมากในร่างกายมนุษย์ หรือมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง
คอลลาเจนผง กับ เม็ด อันไหนดีกว่ากัน
คำถาม collagen ยี่ห้อไหนดี เป็นอันว่าตอบข้อนี้ได้แล้ว แต่คำถามต่อไปนี้สิ แบบผงหรือแบบเม็ด การทานคอลลาเจนแบบไหนที่ให้ประโยชน์สูงที่สุด มาดู! แน่นอนว่า คนเราต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง การทานคอลลาเจนก็เช่นเดียวกัน ทั้งรูปแบบผงและแบบเม็ด มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าตัวไหนจะตอบโจทย์ได้ดีกว่ากัน เราเลยได้ข้อดี ข้อเสียมาเปรียบเทียบดูให้ชัด ๆ ไปเลย
แบบผง
ข้อดี
- ชงง่าย ทานคล่อง เหมาะกับคนไม่ชอบทานยาเม็ด
- ดูดซึมได้ดีกว่าแบบเม็ด
- ให้ผลลัพธ์ได้รวดเร็วทันใจกว่า คนจึงนิยมการทานแบบชงค่อนข้างเยอะ
ข้อเสีย
- ราคาจะสูงกว่าแบบเม็ด
- อาจจะติดปัญหาเรื่องรสชาติกับกลิ่นคาวอยู่บ้าง แต่บางยี่ห้อก็มีการปรับรสชาติให้ทานง่ายยิ่งขึ้น
แบบเม็ด
ข้อดี
- พกพาได้ง่าย ไม่เสียเวลาชง คนที่ทานยาเม็ดได้จะสะดวกกับการทานแบบนี้มากกว่า
- ราคาย่อมเยา
- ไม่ได้มีกลิ่นหรือรสชาติแปลก ๆ
ข้อเสีย
- อาจมีกลิ่นคล้ายกับยาเม็ด
- ดูดซึมได้ช้ากว่าแบบอื่น ๆ
ร่างกายต้องการคอลลาเจนเท่าไรต่อวัน
ตามหา collagen ยี่ห้อไหนดี แล้วก็อย่าลืมหาด้วยว่า ทานคอลลาเจนในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ คงลืมหากันแน่ ๆ ใช่ไหม งั้นมาดูต่อกันเลย! ปริมาณคอลลาเจนที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน คือ ไม่ต่ำกว่า 3,000 มิลลิกรัม ตามที่องค์การอาหารและยา แนะนำให้กินคือ 5 – 7 กรัม (5,000 – 7,000 มิลลิกรัม) ต่อวัน และไม่ควรเกิน 10 กรัม (10,000 มิลลิกรัม) แต่เป็นส่วนน้อยที่เราจะได้รับคอลลาเจน ในปริมาณอย่างเพียงพอแต่ละวัน ด้วยการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว เขาจึงสร้างทางเลือกใหม่ที่สะดวก เช่น ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ไม่ว่าจะเป็น ชนิดผง ชนิดแคปซูล ชนิด Tablet ออกมา วิธีนี้ร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้โดยตรง เป็นการทานเสริมจากการรับประทานคอลลาเจนจากอาหารนั่นเอง แอบกระซิบด้วยว่า ให้ทานน้ำตามเข้าไปเยอะ ๆ เพื่อการดูดซึบที่ดี และประโยชน์สูงสุด!
1. Vistra marine collagen tripeptide
ใครที่กำลังมองหาคอลลาเจนยี่ห้อไหนดีชนิดเม็ด แนะนำ วิสต้ามารีน คอลลาเจน เป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่ชอบชงดื่ม หรือไม่ชอบกลิ่นคาวของคอลลาเจน โดยในหนึ่งเม็ดจะประกอบไปด้วยคอลลาเจนไตรเปปไทด์ 1,300 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี 60 มิลลิกรัม ปริมาณคอลลาเจนอาจจะไม่เยอะเมื่อเทียบกับตัวอื่น แต่มีวิตามินอี และไกลซีนที่ช่วยเรื่องลดริ้วรอยอยู่แล้วด้วย เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยเล็กน้อย วัยประมาณ 18-25 ปี เน้นการปกป้องปัญหาเรื่องผิวที่จะเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เป็นหนึ่งในคอลลาเจนที่ดีที่สุดที่คนมักนิยม
2. Bloss natura
คอลลาเจนยี่ห้อ บลอสส์ เนเชอร่า เป็นคอลลาเจนที่มาในรูปแบบเจลลี่ ช่วยให้ทานง่ายขึ้น โดยในหนึ่งซองจะมีปริมาณคอลลาเจนไตรเปปไทด์อยู่ที่ประมาณ 2,000 มิลลิกรัม เป็นคอลลาเจนที่ได้จากปลาทะเลน้ำลึกในประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งวิตามินซีช่วยดูดซึมคอลลาเจนอีก 40 มิลลิกรัม สารสกัดจากอะเซโรล่าเชอร์รี่ 100 มิลลิกรัม และวิตามินตัวอื่น ๆ ช่วยลดเลือนริ้วรอยพร้อมให้ผิวกระจ่างใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ใครที่มองหาคอลลาเจนยี่ห้อไหนดีที่ทานง่าย บลอสส์ ก็ถือเป็น Collagen ที่ตอบโจทย์
3. Donut collagen tripeptide HACP
โดนัท คอลลาเจนตัวนี้ เป็นคอลลอเจนไตรเปปไทด์ Type 2 เน้นเรื่องกระดูก ข้อต่อ ความแข็งแรงของเส้นผมเป็นหลัก เป็นคอลลาเจนชนิดผง โดยใน 1 ซองจะมีคอลลาเจน 5,000 มิลลิกรัม แถม Donutt Collagen ยังมีรางวัลเหรียญทองด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์จาก MONDE SELECTION Gold Quality Award 2013 มารองรับอีกด้วย คอลลาเจนตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของวิตามินซี แต่มีส่วนผสมของแคลเซียม แอล-ทรีโอเนต และกระดูกอ่อนปลาฉลาม
4. Mone Collagen
สำหรับโมเน่ คอลลาเจน เป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ Type 2 แบบผง เน้นในเรื่องกระดูก ข้อต่อ และช่วยเรื่องริ้วรอย ที่สกัดมากจากปลาแซลมอนในแถบมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในหนึ่งช้อนตวงจะมีปริมาณคอลลาเจนประมาณ 3,350 มิลลิกรัม และมีปริมาณวิตามินซีอยู่ที่ 30 มิลลิกรัม พร้อมทั้งวิตามินตัวอื่น ๆ อีกกว่า 10 ตัว ไม่ว่าจะเป็น แอล-กลูตาไธโอน สารสกัดจากเปือกสน ทับทิม มะเขือเทศ อะเซโรลาเชอร์รี่ ฯลฯ และไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะโมเน่ คอลลาเจน ไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลอีกด้วย
5. Amado P collagen tripeptide
คอลลาเจนยี่ห้อ อมาโด้ พี เป็นคอลลาเจนแบบผง ซึ่งอมาโด้คอลลาเจนสูตรนี้ หลายคนอาจเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว ใน 1 ช้อนตวงประกอบไปด้วยคอลลาเจนไตรเปปไทด์ 5,000 มิลลิกรัม ที่ได้มาจากปลาทะเลน้ำลึกประเทศญี่ปุ่นอีกเช่นกัน แต่อมาโด้คอลลาเจนสูตรนี้มีการใส่วิตามินซีมาให้ 30 มิลลิกรัม เป็นการรวมคอลลาเจนทั้ง Type 1, Type 2 และ Type 3 ซึ่งช่วยทั้งเรื่องผิวและกระดูก
6. Colligi collagen tripeptide
คอลลิจิ คอลลาเจน เป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ Type 2 จากอมาโด้คอลลาเจนอีกหนึ่งสูตร ที่เน้นในเรื่องข้อต่อและกระดูก ชนิดผงทานโดยการผสมกับดื่ม ปริมาณคอลลาเจนต่อ 1 ช้อนตวงอยู่ที่ 5,000 มิลลิกรัม พร้อมวิตามินซีอีก 30 มิลลิกรัม ช่วยคืนความยืดหยุ่นให้ผิว เพิ่มความแข็งแรงให้เซลล์ผม เล็บ และกระดูก ใครถามหาคอลลาเจนตัวไหนดี สำหรับผู้ใหญ่วัย 40 ตัวนี้ถือว่าใช่เลยทีเดียว
7. Chamé collagen tripeptide
ชาเม่ คอลลาเจน พลัส เป็นอีกหนึ่งคอลลาเจนที่ดีที่สุดที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก นอกจากมีรางวัล “Best Collagen Supplement” การันตี ใน 1ซองของ “ชาเม่” นี้ถือเป็นการรวมที่สุดของคอลลาเจนคุณภาพพรีเมี่ยมและวิตามินจากสารสกัดธรรมชาติที่มากถึง 24 ชนิด เพื่อประโยชน์สำหรับผู้รับประทาน ด้วยคุณสมบัติคอลลาเจนจากปลาหิมะประเทศนอร์เวย์และคอลลาเจนไตรเปปไทด์รวมกันกว่า 10,000 มิลลิกรัม ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ บำรุงเล็บ ผม และกระดูกข้อต่อให้แข็งแรง และยังมีการเสริมประสิทธิภาพด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีสูงกว่า 19% จากซีบัคธอร์น (ราชินีแห่งการดูและผิว) อะเซโรล่าเชอร์รี่ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รวมกว่า 3,000 มิลลิกรัม จึงยิ่งช่วยฟิ้นบำรุงผิวให้สวยเนียนขึ้น นอกจากนี้ Chamé Collagen Plus ยังช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใส เพราะคอลลาเจนยี่ห้อนี้เค้าก็มีการใส่โคเอ็นไซม์คิวเท็น กลูต้าไธโอน และสารสกัดเปลือกสนมายับยั้งเม็ดสีผิวไม่ให้หมองคล้ำ สำหรับสาว ๆ ทั้งหลายที่กลัวอ้วน ตัวนี้ดื่มได้ทุกวันหมดห่วงแน่นอน เพราะไม่มีน้ำตาล และไขมัน 0% พร้อมเปลี่ยน “ผิวโทรมบี้” ให้สวยแบบพี่อั้ม พัชราภา กันไปเลย
8. Girl Boss Supreme Collagen
เครื่องดื่มคอลลาเจนจากผลไม้ชนิดผง ที่สุดแห่งการผสมผสาน 3 คอลลาเจนไว้ในซองเดียว ไม่ว่าจะเป็น, คอลลาเจนไดเปปไทด์ และคอลลาเจนไตรเปปไทด์ และคอลลาเจนเปปไทด์บำรุงกระดูก พร้อมสารสกัดธรรมชาติ รวม 25 ชนิด อุดมไปด้วยวิตามิน B1 B2 C E ที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน เพื่อการการทำงานตามปกติของกระดูกอ่อน สรรพคุณปังขนาดนี้ คงไม่ต้องถามแล้วไหมว่า คอลลาเจนตัวไหนดี!
9. Nutrilite Collagen
คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2022 คงต้องขอยกให้ตำนานอย่าง คอลลาเจนแอมเวย์ นิวทริไลท์ ชนิดผงไปเลย เพราะเขามีส่วนประกอบของไฮโดรไลซ์คอลลาเจนจากปลาทะเล ผงเปปไทด์จากถั่วเหลือง และสารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สามารถช่วยลดเลือนรอยฝ้าได้ สุดปังไปอีก! ที่สำคัญ no sugar เน้นการใช้ความหวานจากหญ้าหวานแทน ทานแล้วผิวก็สวย สุขภาพก็ดี มีหรอจะพลาด
10. DHC-Supplement Collagen
แค่เห็นรูปก็ต้องมีคุ้นตากันบ้าง เป็นอีกคอลลาเจนขนาดพกพาที่กระแสดีเวอร์ ๆ นับได้ว่าเป็นคอลลาเจนที่ดีที่สุด ที่เด่นเรื่องช่วยบำรุงดูแลสุขภาพผิว สกัดจากปลาน้ำลึก โดยมีวิจัยด้านโภชนาการที่ได้ออกมาบอกว่า สามารถช่วยเติมคอลลาเจนที่ลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้นได้ แถมยังพร้อมเสริมคุณค่าด้วยวิตามิน B1 และ B2 ที่มีส่วนช่วยปรับผิวให้สวยชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ผิวดูเนียน ผิวกระชับขึ้นจนสังเกตได้ แบบนี้สวยจากภายในจากภายนอกของจริง ไฮไลท์ของคอลลาเจนตัวนี้คือ เป็นคอลลาเจน ไฮโดรไลเสท ซึ่งมีขนาดโมเลกุลเล็กมาก เพราะฉะนั้นจึงดูดซึมเข้าร่างกายได้ง่ายกว่าคอลลาเจนทั่วไปแน่นอน! แนะนำให้ทาน 6 เม็ด ต่อ 1 วัน / รวม 6 เม็ด จะได้รับคอลลาเจน 2,050 mg คนที่ไม่ชอบทานยาเม็ด อาจจะรู้สึกทานยากกว่าคอลลาเจนชนิดอื่น
11. Colla Rich Collagen
แล้วมันจะขาดคอลลาเจนตัวดังอย่าง Colla Rich Collagen ไปได้อย่างไรล่ะซิส! เพราะเจ้าอาหารเสริมบำรุงผิวตัวนี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตั้งแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ มีส่วนผสมของวิตามินซี อะเชอโรล่าเชอร์รี่ และซิงค์ สามารถลดสิว ผิวขาวกระจ่างใส กระชับรูขุมขน ซึ่งทางแบรนด์เขาก็ได้มีการพัฒนาสูตรให้ดีขึ้น แต่ราคาเท่าเดิม เป็นราคาที่นักเรียน นักศึกษาจับต้องได้
12. Blackmores Marine Collagen CoQ10+
อีกแบรนด์ดังที่หลายคนคุ้นเคย เป็นคอลลาเจนในรูปแบบเม็ด ที่มีโปรตีนสกัดจากปลาทะเล โคเอนไซม์คิวเทน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และซิลีเนียม เน้นเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยผิวกระจ่างใส สดใส นุ่มชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้านและริ้วรอย ตัวนี้รีวิวเขาก็เลิศ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผิวดูสดใสขึ้น ไม่แห้งกร้าน ลดจุดด่างดำได้จริง โดยรวมแล้วคือ ประทับใจ! จะปีไหน ๆ คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี 2022 ก็ต้องเป็นแบรนด์นี้แน่นอน!
13. Sakana Collagen
คอลลาเจนตัวไหนดี ก็ต้องตัวนี้แล้วล่ะ! คอลลาเจนตัวเก่งของแม่ชม ซาคานะ คอลลาเจน นำเข้าจากญี่ปุ่น มาในรูปแบบซอฟเจล กินง่าย กลืนคล่อง สารสกัดอัดแน่นไปด้วยวิตามินรวม สามารถดูดซึมได้มากกว่าปกติ 55 เท่า เป็นคอลลาเจนไดเปปไทด์ 100% นอกจากนี้ยังมีสารสกัดเซราไมด์เข้มข้น ที่สกัดจากข้าวอีกด้วย ทำให้ผิวนุ่นลื่น สร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นให้กับผิว ทานแล้วเห็นผลเร็วว่าผิวขาวใสขึ้น ใครเน้นงานผิว แนะนำตัวนี้เลย!
คอลลาเจนเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม อีกหนึ่งตัวเลือกที่คอยดูแลคุณ
การทานคอลลาเจนไม่ได้ช่วยแค่เรื่องผิวอย่างเดียว แต่ยังไปบำรุงส่วนอื่น ๆ ได้ด้วย รู้แบบนี้แล้ว ต้องลองหาอาหารเสริมมาทานกันบ้างแล้ว แต่ใดใดคือควรทานในปริมาณที่เหมาะสม และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้คนที่ตั้งครรภ์ หรือคนที่มีการแพ้อาหารบางชนิด เช่น อาหารทะเล ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกำหนดอาหารที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ เนื่องจากคอลลาเจนเป็นสารสกัดที่ได้จากพิชและสัตว์ บางคนอาจจะแพ้ได้ อย่ามองข้ามเชียว!