หากพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันคงไปปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องของการใช้งาน ฟังก์ชัน รวมถึงการเพิ่มความสะดวกสบายต่าง ๆ จากการคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อเอื้ออำนวยให้เรานั้นเพิ่มมากขึ้นและยิ่งในปัจจุบันหน่วยค่าไฟก็สูง การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดไฟจึงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคหลายคนนั้นปราถนาซึ่งช้อปปี้จะพาคุณผู้อ่านไปเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า กระติกน้ำร้อน ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนคุ้ม พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อและการดูแลที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานให้คุ้มค่าทั้งราคาและคุณภาพ
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
กระติกน้ำร้อน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ควรมีติดบ้าน
กระติกน้ำร้อน ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับการต้มน้ำเพื่อใช้ดื่มชา ดื่มกาแฟ หรือจิบเป็นน้ำอุ่นช่วงที่อากาศหนาว หรือไม่สบายทำให้แทบทุกบ้านมีอุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นนี้อยู่เสมอ แต่ก็ค่อนข้างสิ้นเปลืองไฟฟ้าเนื่องจากหลักการทำงานจะเป็นแบบการให้กระแสไหลผ่านขดลวดความร้อนที่อยู่ภายในอุปกรณ์เช่นเดียวกับเตารีดที่จะต้องใช้ความร้อนทำให้ผ้าเรียบจึงต้องอาศัยขนาดกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ระหว่าง 500 – 1,300 วัตต์ การเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างกระติกน้ำร้อนจึงมีความจำเป็นเพราะหากเลือกดี ใช้งานถูกวิธีก็ช่วยประหยัดไฟฟ้าทำให้เสียค่าไฟถูกลง
กาต้มน้ำ VS กระติกน้ำร้อน
แต่ก่อนจะไปถึงการเลือกกระติกน้ำร้อนก็อยากจะแยกให้เห็นความแตกต่างระหว่าง “กาต้มน้ำ” กับ “กระติกน้ำร้อน” ต่างกันอย่างไร?
กาต้มน้ำ การใช้งานจะต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งเมื่อต้องการใช้น้ำร้อนเนื่องจากไม่สามารถคงความร้อนไว้ได้ แต่เคลื่อนย้ายสะดวกด้วยขนาดที่กะทัดรัดซึ่งเหมาะกับการใช้งานแบบส่วนตัว หรือคนกลุ่มเล็ก ๆ แต่กระติกน้ำร้อนจะมีประสิทธิภาพในการต้มน้ำและรักษาอุณหภูมิไว้ได้นานกว่า (แต่ต้องเสียบปลั๊กตลอด) เหมาะกับการใช้น้ำปริมาณมากทั้งวัน อาจจะเคลื่อนย้ายลำบากกว่ากาต้มน้ำแต่เหมาะกับการใ้ช้งานในออฟฟิศ ร้านอาหาร หรือสถานที่ที่มีคนจำนวนมากกว่าได้ดีกว่า
ข้อดีกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า
สำหรับข้อดีในการใช้งานของกระติกน้ำร้อนด้วยลักษณะที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ต้มน้ำได้ครั้งละมาก ๆ และยังสามารถเก็บรักษาอุณหภูมิให้คงที่ได้ตลอดทั้งวัน แต่ทั้งนี้ก็จะต้องเสียปลั๊กตลอดเวลาทำให้ใช้งานได้สะดวกและง่ายกว่าการต้อมน้ำกับเตาแก๊ส หรือจากกาน้ำร้อนที่อาจจะต้องใช้เวลาและยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่า รวมถึงเหมาะกับการใช้งานที่มีสมาชิกเยอะ ๆ ทั้งสถานที่ทำงาน ร้านอาหาร บ้านที่มีสมาชิกครอบครัวหลายคนและอื่น ๆ นอกจากนี้หากเลือกรุ่นกระติกน้ำร้อนดี ๆ จะช่วยประหยัดไฟฟ้า แม้เสียบปลั๊กทิ้งไว้ทั้งวันก็ยังกินไฟน้อย
แชร์ทริคในการเลือกกาต้มน้ำไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
- ขนาดความจุเหมาะสม เป็นปัจจัยแรกที่เราควรพิจารณาว่าเรานำไปใช้ในกับใคร หรือต้องการปริมาณน้ำเยอะหรือไม่ เพราะหากจะช่วยให้ง่ายต่อการเลือกขนาดความจุ เช่น ถ้าหากใช้ส่วนตัว หรือคครอบครัวเล็กขนาด 1 ลิตรก็พอแล้ว หรือหากใช้ในออฟฟิศไม่เกิน 20 คนขนาด 3-5 ลิตรก็เหมาะสมให้ขยับขนาดความจุตามจำนวนคนที่ใช้งาน
- วัสดุต้องเกรดดี มีคุณภาพ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยวัสดุที่แนะนำ คือ สเตนเลสเนื่องจากมีโอกาสเกิดสนิม หรือตกตะกอนได้น้อยกว่าหม้อต้มวัสดุเหล็กธรรมดา หรือทองเหลืองและยังทำความสะอาดได้ง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์ เพราะฟังก์ชันเสริมจะช่วยให้เราสะดวกมากขึ้น เช่นระบบการตั้งเปิดปิดเวลาออโต้ ตัดไฟได้อัติโนมัติเมื่อน้ำเดือด แต่ยังคงรักษาอุณหภูมิให้คงที่ รวมถึงมีระบบการขจัดคราบตะกอน เป็นต้น
- รับประกันสินค้า การรับประกันสินค้าจะเป็นการการันตีอายุการใช้งานว่าหากในระหว่างการใช้งาน หากเกิดปัญหาสามารถแจ้งซ่อม หรือเคลมสินค้าได้ซึ่งต้องสอบถามพนักงานทุกครั้งว่ามีการรับประกันสินค้าหรือไม่และมีระยะเวลากี่ปี
- ประหยัดพลังงาน เพราะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่คุณ เช่น อาจจะสังเกตผลิตภัณฑ์นั้นอาจจะมีฉลากเบอร์ 5 ติดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการประหยัดพลังงาน
เลือกกระติกน้ำร้อน ยี่ห้อไหนดี
มาถึงตรงนี้ก็พอจะเข้าใจคร่าว ๆ กันแล้วว่ากระติกน้ำร้อนคืออะไร ต่างจากการต้มน้ำอย่างไร พร้อมข้อดี รวมถึงทริคการเลือกกระติกน้ำร้อน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือก กระติกน้ำร้อน ยี่ห้อไหนดี และซื้อที่ไหน เรามี 10 รุ่นกระติกน้ำร้อนที่น่าใช้งาน มาแนะนำ ดังนี้
1. TOSHIBA PLK-30FL(WT)A
เริ่มกันที่กระติกน้ำร้อนระบบดิจิทัลจาก TOSHIBA PLK-30FL(WT)A ที่มาพร้อมฟังก์ชันในการทำงานเพื่อเอื้ออำนวยให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดนมาพร้อมคุณสมบัติลดสารคลอรีนที่ช่วยป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีภายใน รวมถึงมีการติดตั้งระบบทำความสะอาดอัตโนมัติและระบบเซนเซอร์ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติในห้องมืดที่มีหน้าจอแสดงผลเพื่อใช้ในการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งช่วยทำอุณหภูมิให้สูงถึง 100 องศาได้รวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 2 นาที ทั้งนี้ ด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่อาจจะใช้พื้นที่ในการจัดวางพอสมควร
รายละเอียด TOSHIBA PLK-30FL(WT)A
- ความจุ 3.0 / 2.5 ลิตร
- ขนาด 222 x 297 x 259 มม.
- น้ำหนัก –
- สี แดงและเทาเข้ม /ส้ม ฟ้า เขียวและขาวเทา
- อุณหภูมิ ปรับได้ 3 ระดับที่ 60°C, 85°C และ 98°C
- ราคา 2,180 บาท
2. Sharp KP-B36S
Sharp KP-B36S กระติกน้ำร้อนรูปทรงคลาสติกด้วยงานการออกแบบที่สวยงามจากวัสดุคุณภาพสูงอย่างสเตนเลสที่ทำให้แข็งแรง ทนทานในระดับดีและยังมีประสิทธิภาพสูงจึงช่วยป้องกันสนิมได้อย่างมีคุณภาพ รองรับการใช้งานทั่วไปได้ทุกรูปแบบ รวมถึงขนาดความจุ 3.6 ลิตรที่มาพร้อมการทำงานด้วยกำลังไฟฟ้า 670 วัตต์จากการออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดพลังงานซึ่งเหมาะกับการใช้งานในบ้านและพื้นที่ออฟฟิศขนาดเล็กจำนวนคนไม่เยอะ
รายละเอียด TOSHIBA PLK-30FL(WT)A
- ความจุ 3.6 ลิตร
- ขนาด 20.20 x 25.80 x 43.90 ซม.
- น้ำหนัก 19 กก.
- สี คละสี
- อุณหภูมิ ต้มน้ำเดือดภายใน (นาที): 25
- ราคา 1,060 บาท
3. Zojirushi รุ่น CD-NAQ40T
มากันที่รุ่นยอดฮิตจากแบรนด์ญี่ปุ่น Zojirushi รุ่น CD-NAQ40T ที่มาพร้อมฟังก์ชันเร่งอุณหภูมิโดยสามารถตั้งได้ถึง 5 ระดับซึ่งแต่ละช่วงอุณหูมิเหมาะต่อการใช้งานแตกต่างกัน
- 60 องศาจะเหมาะกับการเก็บรักษาอุณหภูมิ
- 70 องศา เหมาะกับการชงนม
- 80 องศา เหมาะกับการชงชาเขียวญี่ปุ่น
- 90 องศาเหมาะกับการชงชาอู่หลง
- 98 องศาเหมาะกับการชงกาแฟ หรือต้มมาม่ากึ่งสำเร็จรูป
และยังมาพร้อมระบบล็อกอัติโนมัติที่ช่วยป้องกันการจ่ายน้ำ ส่วนวัสดุภายในก็เคลือบด้วยสารฟลูออรีนทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและยังมีฟังก์ชันเสียงเตือนเอาใจคุณแม่บ้านเมื่อน้ำร้อนเดือดจึงเป็นรุ่นที่มีความทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานอย่างครอบคลุม
รายละเอียด Zojirushi รุ่น CD-NAQ40T
- ความจุ 4 ลิตร
- ขนาด 23 x 31.5 x 30 ซม.
- น้ำหนัก 3.2 กก
- สี เทา
- อุณหภูมิ ปรับได้ 5 ระดับที่ 60, 70, 80, 90 และ 98
- ราคา 5,400 บาท
4. SMARTHOME รุ่น SJP-7501
ส่วนใครที่ชอบความเรียบง่าย ต้องการใช้งานแบบพื้นฐานทั่วไปแนะนำรุ่น SMARTHOME รุ่น SJP-7501 ด้วยงานดีไซน์ลวดลายดอกไม้สีม่วง ขนาดกระทัดรัดในขนาดความจุ 2.5 ลิตร แถมไม่กินพื้นที่ โดยมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานช่วยให้น้ำเดือดเร็ว กดใช้งานสะดวกได้ถึง 3 ทาง พร้อมบอกสเกลระดับน้ำในกระติกที่ช่วยให้คุณสังเกตปริมาณน้ำได้ง่ายขึ้นและยังสามารถตัดไฟได้อัตโนมัติ รวมถึงวัสดุที่ใช้เป็นสเตนเลสเกรดคุณภาพลดการเกิดสนิมให้ใช้ชงเครื่องดื่มร้อนได้ตลอดทั้งวัน ในราคาที่โดนใจ
รายละเอียด SMARTHOME รุ่น SJP-7501
- ความจุ 2.5 ลิตร
- ขนาด – ซม.
- น้ำหนัก – กก
- สี ขาว
- อุณหภูมิ เก็บความร้อนอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง
- ราคา 539 บาท
5. AJ รุ่น AP650-2500 ขนาด 2.5 ลิตร
ส่วนใครที่ชื่นชอบกระติกน้ำราคาเบา ๆ ขนาดกะทัดรัดเหมาะกับใช้ในบ้าน AJ รุ่น AP650-2500 ถือว่าตอบโจทย์ด้วยขนาดความจุ 2.5 ลิตรด้วยตัวเรือนเครื่องที่ภายนอกทำมาจากโลหะและพลาสติกที่ให้ลวดลายสวยงาม ส่วนภายในก็ทำมาจากหม้อสเตนเลสอย่างดีและยังมาพร้อมช่องแสดงระดับน้ำ พร้อมไฟแจ้งสถานะให้สังเกตได้ง่ายมากขึ้นและยังมีปุ่มกดที่ออกแบบมาไว้ด้านบนให้กดง่าย น้ำไหลดี รวมถึงช่องระบายไอน้ำเพื่อลดการไปสัมผัสโดนผิวหนังและตัวฐานเองก็ยังปรับได้ 360 องศาจึงใช้งานง่าย สะดวกและยังสามารถคงความร้อนได้นานแม้ถอดปลั๊ก
รายละเอียด AJ รุ่น AP650-2500 ขนาด 2.5 ลิตร
- ความจุ 2.5 ลิตร
- ขนาด 19.80 x 30.00 x 26.80 ซม.
- น้ำหนัก 1.5 กก
- สี ขาว
- อุณหภูมิ –
- ราคา 599 บาท
6. Elife Electric kettle
Elife Electric kettle เป็นกระติกน้ำร้อนที่ต้มน้ำได้เร็วเพียง 5 นาทีด้วยการออกแบบระบบความร้อนของฮีตเตอร์ชนิดแผ่นไม่เป็นสนิมที่ตัวหาทำมาจากสเตนเลสอย่างดีและสามารถแยกตัวกาออกจากฐานได้ พร้อมทั้งยังมีที่กรองเศษผงและใบชาด้วยขนาดความจุที่ 2 ลิตรที่กำลังไฟ 1500 วัตต์ทำให้กระจายความร้อนได้เร็วและยังมีไฟเตือนสถานะการทำงานของเครื่อง รวมถึงระบบความปลอดภัยในการตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำเดือดและยังป้องกันการเผาไหม้แบบแห้งจึงเหมาะกับใครที่ชอบการเดินทาง หรือซื้อติดไว้สำนักงาน หรือครัวที่บ้านก็ได้เช่นเดียวกัน
รายละเอียด Elife Electric kettle
- ความจุ 2 ลิตร
- ขนาด 23 x 15.5 x 9.7 ซม.
- น้ำหนัก 1 กก
- สี ขาว เขียว ชมพู
- อุณหภูมิ ทำความร้อนเร็วภายใน 5 นาที
- ราคา 198 บาท
7. Oxygen YL-6L
รุ่นสุดฮอตจาก Oxygen YL-6L ที่จุได้มากถึง 11 ลิตรจึงเหมาะกับท่านที่ต้องการใช้ปริมาณน้ำร้อนเยอะในแต่ละวันด้วยกำลังไฟฟ้าในการทำงานถึง 2,000 วัตต์ที่สามารถทำความร้อนได้สูงสุดถึง 110 องศาเซลเซียสด้วยวัสดุการออกแบบมีคุณภาพ แข็งแรงและยังทนทานต่อความร้อนและยังช่วยให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นจากไฟที่แสดงสถานะการทำงานและช่องแสดงระดับน้ำทำให้สังเกตได้สะดวก
รายละเอียด Oxygen YL-6L
- ความจุ 6, 11, 18 และ 25 ลิตร
- ขนาด – ซม.
- น้ำหนัก – กก
- สี ดำ
- อุณหภูมิ ปรับอุณหภูมิได้สูงถึง 110 องศา
- ราคา 1,874 บาท
8. SCISHARE 3L
สำหรับใครที่ชอบความจุขนาดกลางแนะนำ SCISHARE ด้วยการออกแบบมาพร้อมถังจุปริมาตร 3 ลิตรพร้อมโหมดปรับระดับความร้อนของน้ำที่ 4 ระดับโดยอุณหภูมิปกติจะอยู่ที่ 45 องศาเซลเซียส ส่วนน้ำเดือดจะอยู่ที่ระดับ 75 องศาเซลเซียสที่ใช้งานง่ายด้วยปุ่มเริ่มและหยุดเพียงปุ่มเดียว รวมถึงการล็อกปุ่มอัตโนมัติหากนานกว่า 30 วิ พร้อมไฟแสดงสถานะการทำงาน รวมถึงตัวช่วยเตือนเมื่อระดับน้ำเหลือน้อยและสามารถถอดตัวถังมาล้างทำความสะอาดได้อีกด้วย
รายละเอียด SCISHARE 3L
- ความจุ 3 ลิตร
- ขนาด 28.00 x 14.00 x 28.00 ซม.
- น้ำหนัก 1.8 กก
- สี ขาว
- อุณหภูมิ ทำความร้อน 3 วินาทีปรับอุณหภูมิได้ 4 ระดับ
- ราคา 3,490 บาท
9. Deerma รุ่น DR035
ส่วนใครที่ชอบออกทริปบ่อย หรือรับจัดงานเลี้ยงเป็นประจำก็ต้องเลือก Deerma รุ่น DR035 ด้วยจุดเด่นของตัวอุปกรณ์ที่มีขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวกด้วยความจุน้ำที่ 350 มิลลิลิตรซึ่งเพียงต่อการชงกาแฟ หรือชา 1 แก้ว โดยมาพร้อมฟังก์ชันในการแสดงอุณหภูมิน้ำแบบเรียลไทม์ (40 – 90 องศาเซลเซียส) ลดแรงดันอัตโนมัติและให้ความร้อนไวไม่แพ้กระติกน้ำร้อนขนาดใหญ่จึงทำให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากในการใช้งาน
รายละเอียด Deerma รุ่น DR035
- ความจุ 350 มิลลิลิตร
- ขนาด 76 x 76 x 222 มม.
- น้ำหนัก 300 กรัม
- สี ขาว
- อุณหภูมิ เก็บรักษาอุณหภูมิ 40 – 90 องศา
- ราคา 890 บาท
10. ZAGIO รุ่น ZG-4152
กระติกน้ำร้อนรุ่นสุดฮอตจาก ZAGIO รุ่น ZG-4152 ที่มาพร้อมระบบจ่ายน้ำ 3 ระบบ ได้แก่ ระบบปั๊มมือ ระบบสัมผัสและระบบคัพทัช (Cup touch) ที่จะช่วยให้คุณใช้งานได้ง่ายขึ้นและวัสดุภายในทำมาจากสเตนเลสคุณภาพดีที่ช่วยเก็บรักษาอุณหภูมิน้ำได้ที่ 80 – 95 องศาเซลเซียส พร้อมตัวฐานที่สามารถหมุนได้ 360 องศาและยังมีสเกลบอกระดับน้ำทำให้สังเกตปริมาณน้ำได้ง่าย ไม่ปล่อยให้น้ำแห้งจนอาจนำไปสู่การระเบิดได้จึงให้ทั้งความปลอดภัยและตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานทั่วไปได้ค่อนข้างดีและดูแลรักษาง่าย
รายละเอียด ZAGIO รุ่น ZG-4152
- ความจุ 3 ลิตร
- ขนาด 28.5 x 20.5 x 33 ซม.
- น้ำหนัก – กิโลกรัม
- สี น้ำเงิน
- อุณหภูมิ เก็บรักษาอุณหภูมิ 80 – 95 องศา
- ราคา 898 บาท
เกร็ดน่ารู้!
กระเป๋าน้ําร้อนไฟฟ้า อันตรายไหม?
อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระติกน้ำร้อนโดยตรง แต่ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่นิยมใช้ไม่แพ้กัน แต่มีหลายสิ่งที่หลายคนอาจกังวัลถถึงความอันตรายของกระเป๋าไฟฟ้าซึ่งจะมาได้จาก 2 ส่วน
- ตัวกระเป๋าน้ำร้อน ที่อาจจะระบิดได้จากความร้อนขณะที่ต้มน้ำเนื่องจากน้ำในกระเป๋าเมื่อมีไฟฟ้าไหลผ่านจะกลายเป็นไอน้ำและเกิดแรงดันขึ้นภายในซึ่งหากตัวตัดไฟไม่ทำงานอาจจะทำให้แรง
ดันภายในกระเป๋าน้ำร้อนสูงเกิดการพองตัวจนระเบิดได้
- สายชาร์จกระเป๋าน้ำร้อนไฟฟ้า จะค่อนข้างเจอได้บ่อยซึ่งส่วนใหญ่การระเบิดมาจากสายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานทำให้เกิดการซ๊อตส่งผลให้กระแสไฟฟ้าไหลในปริมาณมากจนเกิดการลุกไหม้ หรือระเบิดได้
แล้วเราจะป้องการกระเป๋าน้ำร้อนระเบิดได้อย่างไร? คำตอบง่าย ๆ ที่ทำได้แค่สังเกต คือ การหมั่นตรวจสอบสภาพกระเป๋าน้ำร้อน รวมถึงอุปกรณ์ เช่น สายชาร์จ ทุกครั้งก่อนใช้งานว่ามีการแตก หัก ชำรุดหรือไม่ ต่อมาก็เลือกกระเป๋าน้ำร้อนที่มีคุณภาพผ่านการรับรอง รวมถึงเลือกที่มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย เช่น ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หรือสายชาร์จป้องกันการระเบิดได้
และหากถามว่า กระติกน้ำร้อน ยี่ห้อไหนดี คงเป็นยี่ห้อที่ตอบโจทย์ในเรื่องการให้ความเร็ว สะดวกในการใช้งาน ขนาดความจุเหมาะสมและมีความยืดหยุ่นด้วยการรักษาอุณหภูมิให้คงที่อยู่เสมอและอยู่ได้นานหลายชั่วโมง ด้วยเกรดวัสดุที่มีคุณภาพไม่ก่อให้เกิดสนิม หรือตกตะกอนได้ง่าย ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์ อีกทั้งยังมีการรับประกันสินค้าและต้องประหยัดไฟซึ่งหากไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อไหน ก็สามารถเข้าไปชมสินค้า กระติกน้ำร้อนและกาต้มน้ำไฟฟ้า แต่ละรุ่น และ กาแฟ ได้เลยที่ Shopee Thailand และหากต้องการอ่านรีวิวสินค้าต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เช่น พัดลมตั้งพื้น ยี่ห้อไหนดี ก็สามารถติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog