แนะนำการตรวจครรภ์ว่าตรวจครรภ์ทำอย่างไร ควรตรวจครรภ์ตอนไหน แนะนำเครื่องมือตรวจครรภ์ที่ใช้ง่าย ควรใช้ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม ที่ตรวจครรภ์แบบหยด หรือ แบบปัสสาวะผ่าน วันนี้มาดูกัน
การเริ่มเป็นคุณแม่นั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของคุณผู้หญิงหลาย ๆ คน คุณแม่บางท่านอาจเริ่มด้วยการพบความผิดปกติของร่างกายและได้รับการยืนยันจากคุณหมอ คุณแม่บางท่านก็อาจเพียงแค่สงสัยว่า เอ๊ะ จะใช่หรือไม่ใช่กันแน่ ซึ่งการจะรีบเดินทางไปพบแพทย์ก็อาจยังเป็นทางเลือกที่ไม่สะดวกนัก แต่ยิ่งเราตรวจพบการตั้งครรภ์เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นผลดีกับสุขภาพของคุณแม่และเบบี๋ได้เร็วขึ้นเท่านั้น ที่ตรวจครรภ์จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยคลายความกังวลของคุณผู้หญิงได้ด้วยวิธีการตรวจที่ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นาน และสามารถทำเองได้ที่บ้าน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
การตรวจครรภ์
นอกจากคุณผู้หญิงที่มีอาการแพ้ท้องชี้นำมาก่อนแล้ว การที่ประจำเดือนขาดก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากการขาดของประจำเดือนมักเป็นปัจจัยตัวแรก ๆ ที่บ่งชี้ความ อาจจะตั้งครรภ์ ของคุณผู้หญิงได้เหมือนกัน
สาเหตุที่คุณผู้หญิงที่ตั้งครรภ์จะไม่มีประจำเดือน นั่นเพราะเมื่อไข่เริ่มปฏิสนธิและฝังตัวลงกับผนังมดลูกจนเกิดการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มหลั่งฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ที่สร้างขึ้นมาจากรกเพื่อปรับสภาพร่างกายของคุณผู้หญิงให้มีการเปลี่ยนแปลงไปเพื่อดูแลอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิดมา และยับยั้งการตกไข่ที่ทำให้เกิดประจำเดือนนั่นเอง
ฮอร์โมน HCG มักเริ่มสร้างขึ้นหลังการปฏิสนธิแล้วประมาณ 6 วัน แต่จะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงสัปดาห์ที่ 12 และฮอร์โมนตัวนี้เองที่เป็นปัจจัยสำหรับการตรวจครรภ์ที่พยายามบอกค่าออกมาเพื่อใช้ในการยืนยันการตั้งครรภ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ควรตรวจครรภ์ตอนไหน?
เนื่องจากการตรวจครรภ์คือการตรวจหาฮอร์โมน HCG ที่เป็นตัวบ่งชี้การตั้งครรภ์ที่เร็วที่สุด ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะถูกสร้างขึ้นในช่วงที่ตัวอ่อนเคลื่อนมาฝังตัวที่ผนังมดลูก ซึ่งนับเป็นราว ๆ วันหลังการปฏิสนธิ แต่ในระยะแรกนั้นฮอร์โมน HCG ที่สร้างขึ้นมามักมีปริมาณน้อย ทำให้การตรวจหาเป็นไปได้ยาก ทางที่คือคือควรรอทิ้งช่วงเวลาให้ร่างกายปรับสภาพและหลังฮอร์โมน HCG ออกมามากขึ้น
ระยะเวลาที่คุณผู้หญิงนิยมใช้สำหรับการตรวจครรภ์ด้วยที่ตรวจครรภ์ คือ ช่วงเวลาที่มีการบ่งชี้ที่เห็นได้ชัดอันดับแรก นั่นก็คือการขาดของประจำเดือน ซึ่งนั่นหมายถึงการตรวจครรภ์ที่มีอายุเกิน 4 สัปดาห์ขึ้นไปที่มีแนวโน้มที่จะตรวจพบได้ง่าย และมักจะมีโอกาสตรวจพบได้ง่ายขึ้นสำหรับการตรวจหลังวันที่ 10-14 นับจากวันที่ประจำเดือนขาดไป
แต่หากตรวจครั้งแรกแล้วยังไม่เจอก็ให้ลองตรวจใหม่ในสัปดาห์ถัดไปได้เหมือนกันค่ะ
วิธีตรวจครรภ์ที่ให้ผลแม่นยำ
เมื่อมีความสงสัย เราก็ต้องหาวิธียืนยันเพื่อให้สามารถดูแลตัวเองและเบบี๋ที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันเรามีวิธีตรวจครรภ์อยู่ 4 วิธีด้วยกัน คือ การใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์
วิธีนี้เป็นการตรวจฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ที่เร็ว ง่าย และได้รับความนิยมสูง เนื่องจากสะดวก ราคาไม่แพง ไม่ต้องไปโรงพยาบาล และไม่เจ็บตัว เพราะเป็นการตรวจหาฮอร์โมน HCG ที่ขับออกมากับปัสสาวะโดยการตรวจได้เองที่บ้าน แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องอาจอ่านค่าไม่เจอ จึงต้องมีการตรวจซ้ำหลายครั้ง แต่ถ้าจะให้แม่นยำก็มีวิธีดังนี้
1. การตรวจการตั้งครรภ์โดยห้องปฏิบัติการ
วิธีนี้คล้ายคลึงกับการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่เป็นการตรวจหาฮอร์โมน HCG ในปัสสาวะของคุณแม่ แต่เป็นเป็นการตรวจที่ละเอียดขึ้นอีกขั้นด้วยผู้เชี่ยวชาญในห้องทดลอง ซึ่งจะมีราคาแพงขึ้น แต่หากฮอร์โมน HCG ยังไม่สูงพอก็มีโอกาสตรวจไม่พบเช่นกัน
2. การเจาะเลือดตรวจ
เป็นการตรวจหาฮอร์โมน HCG ของคุณแม่ในกระแสเลือด ซึ่งเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาและมีความแม่นยำว่าจะพบฮอร์โมน HCG ได้ถึง 99% โดยใช้เวลารอผลเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
3. การอัลตร้าซาวน์
วิธีนี้จะเป็นการตรวจที่ดูการฝังตัวของเบบี๋เลยค่ะ ที่จะคอนเฟิร์มได้ว่าตั้งครรภ์แน่ ๆ แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ให้เบบี๋ได้เติบโตสักพักกว่าจะอัลตร้าซาวน์ได้ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป
การใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ประเภทต่าง ๆ
อย่างไรก็ดี การใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์สำหรับคุณผู้หญิงก็ยังได้รับความนิยมสูง ซึ่งปัจจุบันเราก็มีชุดทดสอบการตั้งครรภ์หลากหลายประเภทให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม, ที่ตรวจครรภ์แบบหยด, ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีรูปร่างหน้าตาและวิธีใช้ไม่เหมือนกัน
1. ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม
หรือที่เราเรียกกันว่า แบบแถบจุ่ม ที่มักจะมาพร้อมกับแผ่นตรวจครรภ์และถ้วยตวงปัสสาวะ เครื่องมือตัวนี้มีวิธีใช้ไม่ยุ่งยาก นั่นคือตวงปัสสาวะใส่ถ้วย และจุ่มที่ตรวจครรภ์ลงไป เมื่อครบสามวินาทีให้นำออกมาวางนอนราบกับพื้น หลังจากนั้นก็ตรวจแถบเครื่องมือได้ ซึ่งจุดเด่นของที่ตรวจครรภ์แบบจุ่มคือมีราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย
2. ที่ตรวจครรภ์แบบหยด
หรือ ที่ตรวจครรภ์แบบตลับ ซึ่งเครื่องมือจะประกอบด้วยตลับทดสอบการตั้งครรภ์ ถ้วยตวงปัสสาวะ และหลอดหยด วิธีใช้คือการตวงปัสสาวะแล้วนำมาหยดลงบนตลับ 3 – 4 หยด และอ่านผลได้หลังจากเวลาผ่านไปราว 5 นาที
3. ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน
อุปกรณ์จะมีเพียงแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ และใช้โดยการรองให้ปัสสาวะไหลผ่าน จากนั้นนำมาวางราบกับพื้น อ่านค่าได้หลังจากการทดสอบราว 3-5 นาที ข้อดีคือไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องตวงปัสสาวะ แต่เครื่องมือตัวนี้มักมีราคาแพงกว่าสองแบบแรก
สำหรับการอ่านผลที่ตรวจครรภ์ทั้งสามรูปแบบทำได้เหมือนกัน คือ หากขึ้นขีดเดียวที่ C แปลความได้ว่าไม่พบฮอร์โมน HCG ซึ่งอาจหมายถึงไม่ตั้งครรภ์หรือยังมีฮอร์โมนไม่สูงมากจนตรวจพบก็ได้, หากขึ้นสองขีดที่ C และ T หมายถึงมีผลเป็นบวก และมีโอกาสตั้งครรภ์ แต่หากไม่ขึ้นสักขีดก็มีโอกาสสูงที่ที่ตรวจครรภ์นั้นจะเสีย ให้ลองตรวจใหม่อีกครั้ง
การเริ่มเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่นั้นเริ่มตั้งแต่การตรวจพบการตั้งครรภ์ และยิ่งตรวจการตั้งครรภ์พบได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นโอกาสให้คุณแม่และเบบี๋ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเร็วเท่านั้น และคราวนี้เราก็มาทำความรู้จักกับที่ตรวจครรภ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม ที่ตรวจครรภ์แบบหยด หรือ ที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน รวมทั้งวิธีตรวจครรภ์ ซึ่งหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะลดความกังวลของคุณผู้หญิงและช่วยให้การตรวจครรภ์เป็นไปอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นได้
Feature Image credit : Freepik