การมีสิวผด สิวอุดตันที่หน้าที่เป็นปัญหาสำหรับใครหลาย ๆ คนแล้ว เป็นสิวที่หลังก็เป็นปัญหากวนใจไม่แพ้กัน โดยฉพาะกับสาว ๆ อยากจะใส่เสื้อโชว์หลังเซ็กซี่ ๆ หน่อยแต่ก็ดันมาไม่มั่นใจเพราะเป็นสิวที่หลัง มีรอยสิวที่หลังแบบเห็นได้ชัด จะทำยังไงให้ผิวที่หลังกลับมาเรียบเนียนสวยเหมือนเดิม ไปลองดูวิธีรักษาสิวที่หลังกันเลย
Shopee แนะนำ
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เป็นสิวที่หลัง เกิดจากอะไร
สาเหตุของการเป็นสิวที่หลังจะคล้าย ๆ กับการเกิดสิวอุดตันบนใบหน้า คือรุขุมขนอุดตันด้วยความมัน แบคทีเรีย เซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือเหงื่อที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้า และมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลังโดยที่คุณไม่รู้ตัว มาดูว่ามีอะไรกันบ้าง
- ฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ ต้องลองสังเกตคนในครอบครัวว่าเป็นสิวเหมือนกันไหม
- ทานอาหารทอด อาหารมัน จะทำให้ร่างกายขับความมันส่วนเกินออกมาจากร่างกาย
- ที่นอนไม่สะอาด เช่น ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ไม่ได้ทำความสะอาดบ่อย ๆ จะเกิดเป็นเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดสิวที่หลังได้
- แพ้สบู่ แชมพู น้ำยาซักผ้า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ ควรเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน
- ความเครียด เป๋นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว
- เหงื่อ อาจะเกิดขึ้นหากใส่เสื้อผ้าพอดีตัวหรือคับเกินไป ทำให้ผิวไม่ได้หายใจ จนเกิดเป็นสิวได้


รักษาสิวที่หลังให้หมดไป ด้วยวิธีต่าง ๆ ต่อไปนี้
ซึ่งวิธีรักษาสิวที่หลัง รอยสิวที่หลังไม่ให้กลับมาเปนซ้ำ สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ใช้สเปรย์รักษาสิวที่หลัง
เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยรักษาสิวที่หลังให้อยู่หมัด ใช้ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่หลังชนิดอื่นจะเห็นผลดียิ่งขึ้น ซึ่งสเปรย์รักษาสิวที่หลังนั้นมีอยู่หลายยี่ห้อทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น Oxe’Cure Body Acne, Acne-Ex Body Mist, Kobayashi Senacure เป็นต้น ลองไปซื้อมาใช้กันดูนะจ๊ะ
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Tea tree oil
Tea tree oil จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่อุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว วิธีการใช้คือให้นำสำลีหรือก้านสำลีชุบทีทรีออยล์แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้ อีกทั้งยังช่วยให้รอยสิวที่หลังดูจางลงอีกด้วย
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน
หากรู้ตัวว่าแพ้แชมพู สบู่ น้ำยาซักผ้า ควรเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนหรือสูตรสำหรับเด็ก และใช้โทนเนอร์ลดสิวเช็ดทำความสะอาดหลัง หน้าอกและแขน ใช้โทนเนอร์ตัวเดียวกับที่เช็ดหน้าได้เลย จะช่วยทำความสะอาดผิวให้สะอาดยิ่งขึ้น
4. อาบน้ำหลังออกกำลังกาย
ควรอาบน้ำตอนที่มีเหงื่อมาก ๆ เช่น หลังออกกำลังกายเพื่อชำระสิ่งสกปรกได้ทันที เพราะเหงื่อมีเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ หากปล่อยไว้นานจะทำให้เป็นสิวที่หลังได้นั่นเอง
5. สครับผิว จำกัดสิ่งสกปรก
การสครับผิวกายเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิ่งสกปรกและน้ำมันบนผิวหนังไปในตัว แต่ไม่ควรสครับผิวบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้งระคายเคือง และเรามีสูตรสครับผิวมาฝากกัน
- เกลือและเปลือกส้มบดละเอียด : นำมาขัดผิวทิ้งไว้ 15-20 นาที จะช่วยลดรอยสิวที่หลัง
- มะขามเปียก น้ำผึ้ง ผงขมิ้น : นำทั้ง 3 อย่างมาผสมกันและสครับเบา ๆ ที่ผิว แต่ไม่ควรทำก่อนออกแดดเพราะจะทำให้ผิวไหม้
- ดินสอพองและมะนาว พอกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ช่วยลดการอักเสบของสิวได้
6. สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
เพราะการสวมเส้อผ้าที่คับและแน่น ทำให้ผิวไม่มีททางระบายอากาศ เมื่อเจอกับความร้อนและเหงื่อ จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ ดังนั้นควรสวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี
7. ไม่ให้ผมสัมผัสโดนหลัง
สิ่งสกปรกหรือน้ำมันจากผมจะทำให้เกิดสิวที่หลังได้ ควรมัดผมเวลาที่มีเหงื่อและสระผมให้สะอาดอยู่เสมอ และเวลาสระผมพยายามไม่ให้แชมพูและครีมนวดโดนบริเวณหลัง อาจจะก้มหัวสระผมก็ได้
8. ทำความสะอาดที่นอนให้สะอาด
ควรเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนทุก ๆ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย หากเปลี่ยนเดือนละครั้งก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นสิวที่หลัง ดังนั้นการรักษาความสะอาดของเครื่องนอนจึงเป็นสิ่งจำเป็น
9. กินอาหารที่มีธาตุสังกะสี
ธาตุสังกะสีหรือซิงค์จะดีต่อระบบภูมิคุ้มกันและดีต่อผิว ดังนั้นหากทานอาหารที่เป็นแหล่งรวมของธาตุสังกะสี จะทำให้ผิวดูดียิ่งขึ้น ทั้งใบหน้าและแผ่นหลัง อาหารที่มีซิงค์มาก คือ เมล็ดฟักทอง ถั่วแดง ข้าวกล้อง หอยนางรม เป็นต้น
10. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
น้ำจะช่วยปรับสมดุลให้กับระบบในร่างกาย และขับถ่ายของเสียได้อย่างเป็นปกติ เรียกดีจากภายในสู่ภายนอกกันเลยทีเดียวล่ะ
นี่คือการรักษาสิวที่หลังโดยเบื้องต้นด้วยตัวเอง หากใครที่เป็นเยอะจนรักษาไม่ไหวแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างตรงจุด ที่สำคัญเลยคือการรักษาความสะอาดเสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องนอน ให้สะอาดอยู่เสมอ