ตามความเชื่อในทางพุทธศาสนาว่ากันว่า คนเราทุกคนจะมีเจ้ากรรมนายเวร ที่เกิดมาจากเรื่องราวและความเชื่อของบาปบุญคุณโทษที่มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ และเกิดจากการทำกรรมต่อกันไว้ ไม่ว่าจะกรรมดีหรือกรรมชั่ว แต่ส่งผลให้ในแต่ละภพภูมิ จะมีเจ้ากรรมนายเวรที่หมุนเวียนไปตามบ่วงกรรม ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือไม่ใช่มนุษย์ก็ตามที ล้วนแล้วแต่ต้องพานพบมาเจอในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพื่อให้เราและเขาได้ชดใช้กรรมต่อกัน จนอาจส่งผลให้เราไม่มีความเจริญในชีวิต ทำอะไรก็ติดขัด จึงได้มีคำแนะนำให้ขอขมาและกรวดน้ำให้เจ้ากรรม นายเวรของเรา เพื่อจะได้ส่งผลให้ชีวิตดีขึ้น แล้วการสวดอุทิศส่วนกุศลและสวดบทแผ่เมตตาให้เจ้ากรรม นายเวรต้องสวดอย่างไร ถึงจะได้ผล?
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เจ้ากรรมนายเวร หมายถึงอะไร
เจ้ากรรมนายเวร คือ คน สัตว์ หรือวิญญาณ ที่เคยมีความเกี่ยวข้องพัวพันกับเราเมื่อครั้งในอดีต อาจเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน ศัตรู หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หรือเป็นสรรพสัตว์ก็ย่อมได้ ซึ่งเคยมีกรรมต่อกันกับเรา ทั้งตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ทั้งรู้ตัวหรือไม่ได้รู้ตัวก็ตาม แต่เกิดเป็นความผูกใจเจ็บ อาฆาต และต้องการให้เราชดใช้ เมื่อได้โคจรมาพบเจอกันในภพภูมิหรือชาติใดชาติหนึ่ง ซึ่งอาจมาในรูปแบบมนุษย์หรืออมนุษย์ก็ได้ ต้องการที่จะให้เราได้รู้ตัวถึงสิ่งที่เคยกระทำไปในอดีตที่ต้องพัวพันกับเขาจนเกิดเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกัน
สิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีตไม่มีใครสามารถกลับไปแก้ไขได้ ดังนั้น หากมีความเชื่อในเรื่องของเวรกรรม เชื่อในเรื่องของบุญบาป และเชื่อในเรื่องของเจ้ากรรมนายเวร ปัจจุบันที่จะแก้ไขให้ดีขึ้นได้คือ การขอให้เขาอโหสิกรรม ด้วยการส่งบุญให้กับเขา ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ กรรมฐาน หรือทำบุญอุทิศส่วนกุศล รวมไปถึงสวดบทแผ่เมตตาให้เจ้ากรรม และกรวดน้ำให้เจ้ากรรมด้วยเช่นกัน แม้ว่ายังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าจะสามารถช่วยแก้ไขได้จริงหรือไม่ แต่ในทางจิตใจจะช่วยให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น เพราะการแผ่เมตตา คือการส่งความปรารถนาดีและส่งเมตตาให้ เป็นสิ่งที่ดีทั้งกับผู้รับและผู้ให้ รวมถึงเวลาที่เราทำบุญทุกครั้ง ควรสวดอุทิศกุศลให้เขาด้วย เพื่อเขาจะได้รับและให้อโหสิกรรมต่อกัน กรรมใดที่เคยทำไว้ในอดีตจะได้ถูกชดใช้และเบาบางลง ซึ่งจะส่งผลให้ชีวิตดีขึ้นและไม่มีอุปสรรคอีกต่อไป
บทแผ่เมตตาให้เจ้ากรรม
การสวดบทแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรของเรานั้น จะช่วยอุทิศส่วนกุศลผลบุญให้กับกรรมเก่าที่เราเคยทำไว้ในชาติภพก่อน และมีเวรกรรมมาผูกพันกันในชาติปัจจุบัน หากเราสามารถสวดได้เป็นประจำ เท่ากับเราส่งบุญให้เขาอยู่เรื่อย ๆ การแผ่เมตตาสามารถแผ่ได้ทุกที่ทุกเวลาที่เรารู้สึกจิตใจสงบ เมื่อไหร่ที่ไปทำบุญ หรือนึกถึงเจ้ากรรมนายเวรของตนเอง ก็สามารถสวดบทแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมได้เลย ซึ่งบทแผ่เมตตาสำหรับเจ้ากรรมนายเวรนั้น มีดังนี้
1. บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ และเจ้ากรรมนายเวร แบบเต็ม
สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
2. บทแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร แบบย่อ
สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ นิททุกขา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ
รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด


วิธีกรวดน้ำที่ถูกต้อง
หลังจากที่เราได้แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรเรียบร้อยแล้วนั้น ควรที่จะสวดแผ่อุทิศส่วนกุศล และท่องบทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรด้วย ถึงจะครบขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนการกรวดน้ำที่ถูกต้อง มีดังนี้
1. แผ่ส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
โดยท่องบทสวด ดังต่อไปนี้
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ
2. ท่องบทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร
ในขณะที่ใช้ที่กรวดน้ำ ควรท่องบทกรวดน้ำไปพร้อม ๆ กัน โดยกล่าวดังนี้
ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ
การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร รวมถึงสวดบทแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมของเรานั้น นอกจากจะทำให้เราได้ส่งบุญให้แล้ว ยังทำให้เรารู้สึกสบายใจ จิตใจสงบขึ้นอีกด้วย เพราะคนเราทุกคนล้วนมีกรรมและไม่สามารถหลีกหนีหนี้กรรมที่เคยทำไว้ได้ ถึงจะไม่สามารถล้างกรรมได้แต่เราสามารถทำความดี ทำบุญ ทำกุศล เพื่อให้ผลกรรมนั้นเบาบางลงจากหนักเป็นเบา และทำให้เจ้ากรรมนายเวรของเราในทุก ๆ ชาติภพ ได้รับส่วนกุศลผลบุญนี้ไปด้วย ดังนั้น ควรหมั่นทำบุญ ทำทาน ถือศีล และภาวนา เพื่อสร้างกุศลให้ทั้งกับตัวเอง ครอบครัว ทั้งยังช่วยส่งผลให้ชีวิตดีขึ้นได้อีกด้วย และยังสามารถแผ่เมตตาให้ตนเองได้อีกด้วย
ข้อมูลจาก mahamongkol.com