“คีย์บอร์ดคัสตอม… วงการนี้เข้าแล้วออกยาก” คำนี้ไม่ได้มีที่มาแบบลอย ๆ เพราะหากลองถามคอ custom keyboard ให้ลองแนะนํา ร้อยทั้งร้อยมักก็มักแนะนำให้ใช้คีย์บอร์ดคัสตอมไม่ต่างกัน ซึ่งเหตุผลนั้นก็ต้องบอกเลยว่าเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ตอบโจทย์มากไม่ว่าจะด้วยฟังก์ชันการใช้งาน ความทนทาน ประสบการณ์การใช้ที่เหมาะมือแบบสุด ๆ และความสวยงาม และคราวนี้ Shopee จะขอมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ custom keyboard แนะนํา รวมถึงการแต่งคีย์บอร์ด custom keyboard แบบเริ่มต้น ให้ชาวเราที่เป็นมือใหม่หัดคัสตอมได้ลองเลือกไปใช้งานกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
จำเป็นไหมต้องใช้ Custom Keyboard อย่างที่แนะนํา?
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการใช้คีย์บอร์ดกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่าคีย์บอร์ดที่มีให้เลือกใช้ในท้องตลาดนั้นมีหลากหลายชนิดมาก ซึ่งก่อนที่จะตอบคำถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องขยับไปใช้ Custom Keyboard อย่างที่แนะนํา เราก็คงต้องมาดูกันก่อนเลยว่ามีคีย์บอร์ดอะไรในท้องตลาดให้เราเลือกบ้าง และคีย์บอร์ดแต่ละประเภทนั้นมีจุดเด่นอะไร
คีย์บอร์ดทั่วไป (Membrane Keyboard/ Rubber Dome Keyboard)
คีย์บอร์ดทั่วไปที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนั้นมีอีกชื่อว่า Rubber Dome Keyboard หรือ Membrane Keybord ที่ได้ชื่อนี้ก็มาจากกลไกด้านในที่เป็นแผ่นซิลิโคนขนาดใหญ่ครอบแผงวงจรอยู่ ซึ่งแผงวงจรนี้จะคอยรับสัญญาณส่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกที
คีย์บอร์ดทั่วไปนี้สามารถรับการกดได้ราว 1-10 ล้านครั้ง และเมื่อแป้นใดแป้นหนึ่งทำงานไม่ได้ ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนยกแผงกันไปเลย แต่แม้ว่าจะมีอายุการใช้งานไม่มากและไม่ค่อยคุ้มที่จะซ่อม คีย์บอร์ดประเภทนี้ก็ยังเป็นที่นิยมใช้เนื่องจากราคาที่ไม่แพงและมีรูปแบบให้เลือกได้หลากหลาย
คีย์บอร์ดกลไก (Mechanical Keyboard)
สำหรับ Mechanical Keyboard ที่แค่มองก็พอเห็นรูปร่างหน้าตาทะมัดทะแมงแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ Mechanical Keyboard แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไปก็คือกลไกที่อยู่ภายในคีย์บอร์ดที่มีชิ้นส่วนอุปกรณ์ซับซ้อนกว่ามาก
นอกจากนี้วงจรการรับสัญญาณของ Mechanical Keyboard ยังมีการแยกส่วนรับจากสวิตช์แต่ละตัว ทำให้เมื่อแป้นตัวไหนเสียก็สามารถถอดซ่อมประกอบเป็นส่วน ๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยกแผง และยังทนทานต่อการใช้งานถึงราว 30 – 50 ล้านครั้ง ซึ่ง Custom Keyboard ที่เราแนะนำก็จัดอยู่ในกลุ่ม Mechanical Keyboard ที่เราสามารถนำส่วนประกอบต่าง ๆ มาปรับแต่งได้ตามใจให้เป็นคีย์บอร์ดเฉพาะตัวที่มีแต่เราคนเดียวที่ได้ใช้
ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดที่ทนทานต่อการใช้งาน ดีไซน์สวยเหมาะมือ ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างสมบุกสมบัน แถมยังสามารถดีไซนต์รูปลักษณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานได้ด้วยตัวเอง custom keyboard ที่เราแนะนําก็นับว่าตอบโจทย์ได้มากที่สุด
ต้องรู้อะไรก่อนจ่ายเงินซื้อ Custom Keyboard แนะนำสักตัว?
อย่างที่เราทราบกันดีว่าคีย์บอร์ดคัสตอมนั้นมีราคาที่ไม่เบาเลย ดังนั้นก่อนที่เราจะจ่ายเงินซื้อคีย์บอร์ดคัสตอมสักตัวก็คงต้องมาดูกันก่อนเลยว่าเราจะสามารถเลือกฟีเจอร์คีย์บอร์ดแบบไหนได้บ้าง โดยเริ่มจากประเภท ขนาด และชนิดของสวิตช์คีย์บอร์ด ตามนี้เลย
ประเภทของ Mechanical Custom Keyboard
ก่อนอื่นเรามาดูที่ประเภทของ Mechanical Custom Keyboard ที่มีให้เลือกซื้อหาในท้องตลาดกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ
- Fully assembled Custom Keyboard คีย์บอร์ดคัสตอมแบบนี้มีการประกอบมาพร้อมใช้งานอยู่แล้วแต่ก็ยังสามารถถอดส่วนประกอบออกมาตกแต่งต่อเติมในภายหลังได้ ทำให้ได้รับความนิยมและสะดวกกับผู้ใช้มาก ๆ ซึ่งคีย์บอร์ดแบบ Hot-Swap ที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งคีย์แคปและสวิตช์ได้โดยไม่ต้องบัดกรีก็จัดอยู่ในคีย์บอร์ดประเภทนี้เช่นกัน
- Barebone Custom Keyboard เป็นคีย์บอร์ดคัสตอมสำหรับสายแข็งโดยเฉพาะ อันเนื่องมาจากคุณสมบัติที่ผู้ใช้ต้องนำชิ้นส่วนต่าง ๆ ของคีย์บอร์ดมาประกอบเอง และส่วนใหญ่ก็จะไม่มีชิ้นส่วนของสวิตช์และคีย์แคปแถมมาให้ ทำให้ต้องเฟ้นหาชิ้นส่วนคีย์บอร์ดและมาลงมือลงแรงทำการประกอบชิ้นส่วนกันเอง แต่ก็จะได้คีย์บอร์ดที่เรียกได้ว่าเฉพาะตัวสุด ๆ และมั่นใจได้เลยว่าจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกแน่นอน
ขนาดของ Custom Keyboard
ด้วยความเป็นคีย์บอร์ดคัสตอมทำให้เราสามารถเลือกขนาดของคีย์บอร์ดได้ด้วยจาก 3 ไซส์ที่เราพบเห็นกันบ่อย ได้แก่
- Mini Keyboard หรือ Compact Keyboard เป็นคีย์บอร์ดขนาด 60% จากคีย์บอร์ดไซส์เต็ม ทำให้มีขนาดกะทัดรัดสามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้แบบสะดวกสุด ๆ
- Ten Keyless (TKL) เป็นคีย์บอร์ดที่มาพร้อมกับไซส์ 75% ในแบบที่ไม่ใหญ่ไม่เล็ก มีแป้นคีย์แคปไม่มาก จึงเหมาะกับการลองเล่นคีย์บอร์ดคัสตอมที่สามารถเปลี่ยนคีย์แคปได้ง่าย และเหมาะมือไม่แพ้คีย์บอร์ดไซส์ปกติเลย
- Full-Size Keyboard เป็นคีย์บอร์ดไซส์เต็ม 100% ของคีย์บอร์ดปกติที่เรา ๆ เคยใช้กัน แต่เนื่องจากขนาดใหญ่ทำให้ต้องใช้งบประมาณสำหรับการตกแต่งสูง จึงไม่พบบ่อยนักในกลุ่มคนเล่น Custom Keyboard ที่เราแนะนำ
สีสวิตช์ของ Custom Keyboard บอกอะไรได้บ้าง?
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เราสามารถเลือกได้สำหรับ Custom Keyboard แนะนำและได้รับความนิยมสูงก็คงหนีไม่พ้นสวิตช์ของคีย์บอร์ดคัสตอมที่มีหลากสีสันให้เลือก แต่ไม่ใช่เพียงแค่สีเท่านั้น เพราะฟีเจอร์ที่ติดมากกับสวิตช์แต่ละสีต่างหากที่ทำให้คีย์บอร์ดคัสตอมได้รับความนิยม ซึ่งสีของสวิตช์แต่ละแบบนั้นสามารถบอกฟีเจอร์ได้ดังนี้
- Red Switch เป็นสวิตช์ชนิด Linear ที่จะมีแรงต้านประมาณ 45gf ซึ่งเหมาะมาก ๆ กับการใช้งานตามออฟฟิศเนื่องจากการใช้งานที่ไหลลื่น และเสียงคีย์บอร์ดที่เบาจนไม่รบกวนคนข้าง ๆ มากนัก
- Brown Switch เป็นสวิตช์ชนิด Tactile ที่มีแรงต้านประมาณ 55gf ให้เสียงดังปานกลาง เป็นปุ่มกดแบบสองจังหวะ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในออฟฟิศหรือเกมแบบเบา ๆ เป็นชนิดของสวิตช์ที่ให้ประสบการณ์พิเศษขึ้นมากว่า Red Swtich
- Blue Switch เป็นสวิตช์ชนิด Clicky ที่มีแรงต้านประมาณ 60gf และเป็นปุ่มกดแบบสองจังหวะ ให้เสียงค่อนข้างดัง จึงเหมาะกับคนที่ชอบเสียงคลิกของคีย์บอร์ดเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งาน จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับการเล่นเกมหรือทำงานในพื้นที่ปิดแบบส่วนตัว
ถึงตรงนี้เราน่าจะพอเห็นภาพ Custom Keyboard ที่เราแนะนำกันบ้างแล้ว ต่อไปเราลองมาดูกันต่อกันเลยว่าจะ custom keyboard แบบเริ่มต้นกันได้ยังไงบ้าง
Cr: Unsplash
จากเบสิคถึงแอดวานซ์กับวิธีแต่ง Custom Keyboard แนะนำ
สำหรับใครที่เลือกสไตล์ของคีย์บอร์ดคัสตอมกันได้เรียบร้อยแล้ว เรามาดูกันต่อเลยว่าจะต้องเตรียมอุปกรณ์และเตรียมสกิลปรับแต่งคีย์บอร์ดต่อเติมอุปกรณ์กันอย่างไรบ้าง เริ่มด้วยการเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการแต่งคีย์บอร์ดกันก่อนเลย
เตรียมอุปกรณ์แต่งคีย์บอร์ดคัสตอมฉบับเริ่มต้น
หากเพื่อน ๆ ชื่นชอบคีย์บอร์ดคัสตอมและอยากลองแต่งคีย์บอร์ดดูสักครั้ง เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ที่ควรซื้อหามาไว้เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการประกอบคีย์บอร์ดแบบเบื้องต้นได้ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์เลย
- หัวแร้งบัดกรี
- ตะกั่วบัดกรี
- ที่ดูดตะกั่วบัดกรี
- ไขควง
- ที่คีบชิ้นงาน (Tweezer)
- คีมตัดขนาดเล็ก
- พู่กันเบอร์เล็กๆ 1-2
- จารบีขาว Super lube
- ที่ถอดคีย์แคป
- ที่ดูดควันตะกั่ว
- ที่เปิดสวิตช์
คีย์บอร์ดคัสตอม-ทำความรู้จักชิ้นส่วนการแต่งคีย์บอร์ดแบบแยกชิ้น
หลังจากเตรียมเครื่องมือแต่งคีย์บอร์ดกันแล้ว มาดูกันต่อเลยว่า Custom Keyboard ที่เราแนะนำนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง และจะมีชิ้นส่วนตัวไหนที่เราสามารถปรับแต่งให้สวยเท่เหมาะมือได้บ้าง
- เคส (Keyboard Case) เป็นส่วนประกอบที่เป็นฐานของคีย์บอร์ด ทำจากวัสดุหลากหลายชนิด เช่น โลหะ อะลูมิเนียม พลาสติก ฯลฯ ซึ่งวัสดุที่นำมาใช้เป็นเคสนี้เองที่จะเป็นตัวกำหนดเสียงของคีย์บอร์ด ขณะที่โลหะหรืออะลูมีนิเนียมจะทำให้คีย์บอร์ดมีเสียงใส พลาสติกจะทำให้เสียงคีย์บอร์ดออกมาทึบกว่า
- เพลท (Keyboard Plate) เป็นแผ่นยึดคีย์บอร์ดเข้ากับแผงวงจร ผลิตจากวัสดุหลากหลายไม่ต่างจากเคส เช่น อะลูมิเนียม ทองเหลือง สแตนเลส คาร์บอนไฟเบอร์ หรือโพลีคาร์บอเนต ซึ่งเพลตเป็นตัวช่วยเรื่องการสะท้อนของคีย์บอร์ดขณะที่เรากดลงไป
- แสตป (Stabilizers) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยึดคีย์แคปเข้ากับสวิตช์ และช่วยไม่ให้ปุ่มขนาดใหญ่โยกเอียง ซึ่งคีย์บอร์ดคัสตอมส่วนใหญ่จะใช้แสตปแบบ screw-in ที่ใช้สกรูเป็นตัวยึด ทำให้สามารถขันน็อตยึดได้แน่น มีตัวเลือกหลากหลายและปรับแต่งได้ง่าย
- แผงวงจร (Keyboard PCB) เป็นตัวรับสัญญาณจากการคีย์ ซึ่งจำเป็นต้องเลือกให้เข้ากับขนาดของเคสที่ใช้ เพื่อให้ทุกอย่างลงล็อกและสามารถประกอบออกมาใช้งานได้แบบไม่มีปัญหา
- สวิตช์ (Keyboard Switches) เป็นส่วนที่อยู่ภายใต้คีย์แคป ทำหน้าที่รับน้ำหนักและสัญญาณจากการกดคีย์บอร์ดส่งไปยังแผงวงจร ซึ่งคุณสมบัติของสวิตช์แต่ละสีก็ให้ประสบการณ์การใช้คีย์บอร์ดที่แตกต่างกันไป
- คีย์แคป (Keycaps) เป็นส่วนที่เรากดลงบนแป้นคีย์บอร์ดนั่นเอง และปัจจุบันก็ไม่จำเป็นว่าคีย์แคปส่วนนี้จะต้องมีสีดำอย่างเดียว เพราะการใช้ Custom Keyboard ที่เราแนะนำก็สามารถปรับแต่งสีสันได้ตามใจ แถมคีย์แคปบางรุ่นยังมีตัวตุ๊กตาติดมาด้วยเรียกได้ว่าแต่งกันได้แบบสุด ๆ ไปเลย
- อุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ (Custom Keyboard Accessory) ขึ้นชื่อว่าคีย์บอร์ดคัสตอมก็ไม่ได้มีแค่รูปร่างหน้าตา เสียง หรือสไตล์ของปุ่มกดที่มีให้แต่งเท่านั้น เรายังสามารถเติมออปชั่นเช่น ไฟ LED หรือพอร์ตสาย USB ให้เราได้แต่งเติมเสริมไปบนคีย์บอร์ดด้วย
และเมื่อเราตามหาอุปกรณ์ที่ต้องการได้ครบ มีเครื่องมืออุปกรณ์พร้อม ที่เหลือก็เพียงแค่ประกอบทุกชิ้นส่วนลงไปจนกลายร่างเป็น Custom Keyboard ที่เราแนะนำว่าเป็นความเฉพาะตัวแบบหาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว
รวมลิสต์ 8 custom keyboard แนะนํา 2023
หากใครที่กำลังมองหา Custom Keyboard แนะนำ เพราะชื่นชอบและอยากลองประสบการณ์การใช้คีย์บอร์ดคัสตอมกัน ก็คงไม่จำเป็นต้องลงมือประกอบเองทั้งหมด เพราะคราวนี้เรามี 8 custom keyboard แนะนํา 2023 ที่มาพร้อมสำหรับการใช้งาน หรือบางรุ่นก็ยังรอบรับการถอดประกอบสำหรับการแต่งคีย์บอร์ดในภายหลังได้ด้วย ซึ่งจะมีรุ่นไหนบ้างนั้นก็ตามไปดูกันได้เลย
1. Redragon คีย์บอร์ดคัสตอม DragonBorn K630 (Hotswap)
เริ่มต้นกันเลยกับ Redragon คัสตอมคีย์บอร์ดสัญชาติจีนผู้ผลิตอุปกรณ์เกมมิ่งคุณภาพมาตั้งแต่ปี 1996 และคีย์บอร์ดคัสตอมรุ่น DragonBorn K630 นี้ก็ไม่ทิ้งจุดเด่นของแบรนด์ด้วยคีย์บอร์ดแมคคานิคอลขนาดคอมแพค 61 คีย์ ให้เลือกได้ทั้ง Red Switch และ Blue Switch มาพร้อมไฟ RGP วิบวับให้ประสบการณ์การเล่นเกมแบบจัดเต็ม
สำหรับฟังก์ชันการใช้งาน Redragon คัสตอมคีย์บอร์ด DragonBorn K630 มีขนาดเล็กราว 60% ทำให้สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้สบาย สามารถเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลส่งสัญญาณได้รวดเร็ว ให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับการใช้งานได้อย่างเต็มอิ่ม ทั้งยังสามารถถอดเปลี่ยนสวิตช์และคีย์แคปได้แบบ hot-swap แถมยังมาในราคาเบา ๆ ในแบบที่ใครที่มองหาคีย์บอร์ดคัสตอมฉบับเริ่มต้นก็สามารถลองซื้อหามาใช้ได้แบบไม่ยาก
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ตัวเลือกปุ่มกด: Red Switch/ Blue Switch
- การเชื่อมต่อ: แบบมีสาย USB Type-C
- จำนวนปุ่ม: 61 คีย์
- ขนาด: 292 x 99 x 36 มม.
- น้ำหนัก: 840 กรัม
- Numpad: แยกต่างหาก (ต้องต่อเพิ่ม)
- ราคา: ฿1,490
2. Royal Kludge คีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น RK68 / RKG68 RGB Hotswap RK
มาต่อกันด้วย Custom Keyboard แนะนำจาก Royal Kludge แบรนด์แก็ตเจ็ตที่ออกแบบสินค้ามาเพื่อตอบสนองการใช้งานสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเลยว่าคีย์บอร์ดคัสตอมรุ่น RK68 จะไม่รองรับการใช้งานของคอเกมได้ดีพอ เพราะคีย์บอร์ดคัสตอมตัวนี้มาพร้อมขนาดคอมแพค 65% เล็กกะทัดรัด แต่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่จะสร้างประสบการณ์อย่างเต็มที่
ตัวคีย์บอร์ดสนับสนุนการเชื่อมต่อทั้งแบบสายเคเบิล ไวร์เลส รวมถึงบลูทูธ พร้อมไฟ RGB ที่ตั้งค่าได้ด้วยซอฟต์แวร์ ส่วนตัวสวิตช์ก็สามารถเลือกได้แบบครบ ๆ ระหว่าง Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch ทั้งยังถอดประกอบคีย์แคปได้แบบ Hotswap ให้เราได้ลองมาแต่งคีย์บอร์ดกันแบบสุดเท่อีกด้วย
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ตัวเลือกปุ่มกด: Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch
- การเชื่อมต่อ: Wireless 2.4G/ Bluetooth/ 2 Port USB Hub
- จำนวนปุ่ม: 68 คีย์
- ขนาด: 329 x 102 x 39 มม.
- น้ำหนัก: 642 กรัม
- Numpad: แยกต่างหาก (ต้องต่อเพิ่ม)
- ราคา: ฿1,899
3. Aula คีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น F2088W PUNK
มาต่อกันที่ Mechanical Keyboard ที่ป๊อบไม่แพ้แบรนด์อื่นกับ Aula แบรนด์คีย์บอร์ดคัสตอมที่มาพร้อมกับคีย์บอร์ดดีไซน์เก๋เตะตาแบบสุด ๆ เช่นเดียวกับ Custom Keyboard แนะนำรุ่น F2088W PUNK ที่ออกแบบมาให้รองรับกับสรีระ Ergonomic Keyboard พร้อมไฟแบ็คไลท์สีสันสดใส ให้เราได้เพลิดเพลินกับการใช้งานได้แบบไม่มีสะดุด
นอกจากนี้ Aula คีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น F2088W PUNK ยังโดดเด่นด้วยชิปแบบ Dual core ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างแม่นยำ และสามารถเลือกสวิตช์ได้ถึง 4 รูปแบบระหว่าง Red Switch/ Brown Switch/ Black Switch/ Blue Switch ซึ่งเราเชื่อได้เลยว่าจะมีคีย์บอร์ดที่คุณชื่นชอบอยู่ในนั้นแน่ ๆ
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- วัสดุ: อลูมิเนียม
- ตัวเลือกปุ่มกด: Red Switch/ Brown Switch/ Black Switch/ Blue Switch
- การเชื่อมต่อ: พอร์ต USB
- จำนวนปุ่ม: 104 คีย์
- ขนาด: ไม่ระบุ
- น้ำหนัก: ไม่ระบุ
- Numpad: ในตัว
- ราคา: ฿1,099
4. Machenike คีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น K500
อีกหนึ่งแบรนด์อุปกรณ์แก็ตเจ็ตสำหรับ E-Sport โดยเฉพาะก็คงหนีไม่พ้น Machenike ที่มาครบทั้งคอมตั้งโต๊ะ โน๊ตบุ๊ค รวมถึง Custom Keyboard ที่เราแนะนำอย่างคีย์บอร์ดคัสตอมรุ่น K500 ตัวนี้ด้วยขนาด 90% ที่มาพร้อมกับ Numpad ในตัวก็นับว่าค่อนข้างตอบสนองการใช้งานได้แบบครบถ้วน และเชื่อมต่อได้ด้วยสายเคเบิลให้การเชื่อมต่อที่เสถียรต่อการใช้งาน
สำหรับตัวคีย์บอร์ดคัสตอมมาพร้อมกับตัวเลือกสวิตช์ 3 แบบ Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch สามารถถอดประกอบได้แบบ Hotswap ทั้งยังสามารถปรับแต่งไฟ RGP ได้ด้วยซอฟต์แวร์ในแบบที่ตรงตามความต้องการได้เลย นับว่าเป็นคีย์บอร์ดคัสตอมอีกตัวที่ตอบสนองการเล่นการปรับแต่งคีย์บอร์ดได้แบบมือใหม่ก็สามารถเริ่มแต่งคีย์บอร์ดได้แบบไม่ยาก
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ตัวเลือกปุ่มกด: Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch
- การเชื่อมต่อ: USB Type-C แบบถอดได้
- จำนวนปุ่ม: 94 คีย์
- ขนาด: 353.3 x 127.9 x 34.6 มม.
- น้ำหนัก: 625 กรัม
- Numpad: ในตัว
- ราคา: ฿1,050
5. Redragon คีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น Fizz K617 RGB
อีกหนึ่ง Custom Keyboard แนะนำจาก Redragon กับคีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น Fizz K617 RGB ที่เป็นคีย์บอร์ดคัสตอมคอมแพ็คขนาด 60% พกพากะทัดรัด ใช้เล่นเกมได้แบบเหมามือ ดีไซน์สวยด้วยคีย์แคปหลากหลายสีสันและไฟ LED Backlight คุณภาพสูง
ตัวคีย์บอร์ดเชื่อมต่อได้ด้วยสายเคเบิล มีสวิตช์ให้เลือกใช้ได้ถึง 3 รูปแบบระหว่าง Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch สามารถถอดเปลี่ยนได้แบบ Hotswap ได้ง่าย ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งตัวคีย์แคปและการปรับแต่งแสงไฟ RGB ด้วยซอฟต์แวร์ ตอบสนองการใช้งานได้อย่าเต็มรูปแบบ
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ตัวเลือกปุ่มกด: Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch
- การเชื่อมต่อ: USB Type-C
- จำนวนปุ่ม: 61 คีย์
- ขนาด: 295.7 x 105.6 x 33.3 มม.
- น้ำหนัก: ไม่ระบุ
- Numpad: แยกต่างหาก (ต้องต่อเพิ่ม)
- ราคา: ฿1,190
6. Bundle Set Gconic คีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น A75 + Keycap
และพลาดไม่ได้เลยกับ Custom Keyboard แนะนำที่มาจากแบรนด์ไทยโดยเฉพาะกับ Gconic รุ่น A75 คีย์บอร์ดคัสตอมดีไซน์บางเฉียบ สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้นอกเหนือไปจากขนาดเบา ๆ ที่ไซส์ 75% ในแบบที่ยังพอพกพาไปไหนต่อไหนได้สบายอยู่
สำหรับการปรับแต่งต้องบอกเลยว่าเล่นได้หลากหลายสุด ๆ ตั้งแต่การเลือกสวิตช์ที่มีให้เลือกระหว่าง Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch และยังมีคีย์แคปมาให้ลองประกอบกันได้แบบเต็มรูปแบบ รองรับทั้ง Window และ MacOs ได้แบบไม่มีปัญหา พิมพ์สนุกฟังเสียงคลิกกันไปแบบเพลิน ๆ ได้เลย
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- วัสดุ: พลาสติก ABS
- ตัวเลือกปุ่มกด: Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch
- การเชื่อมต่อ: โหมดสาย , ไร้สายแบบ 2.4 GHz และ Bluetooth
- จำนวนปุ่ม: 84 คีย์
- ขนาด: 200 x 390 x 60 มม.
- น้ำหนัก: ไม่ระบุ
- Numpad: แยกต่างหาก (ต้องต่อเพิ่ม)
- ราคา: ฿2,990
7. Royal Kludge คีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น RK68 RGB Hotswap USB HUB
จาก Royal Kludge ก็ยังมีอีกหนึ่ง Custom Keyboard แนะนำที่มาพร้อมกับรุ่น RK68 คีย์บอร์ดคัสตอมที่มาในไซส์เล็ก 65% เหมาะกับการพกพาอีกแล้ว ตัวคีย์บอร์ดมีให้เลือกสองสีทูโทนคลาดสสิคกับสีขาวและดำแต่ก็เข้ากับไฟแบคไลท์ได้ดี
ตัวคีย์บอร์ดสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ใช้งานได้ง่ายและยังเปลี่ยนคีย์แคปได้แบบ Hotswap รองรับการปรับแต่งได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งไฟ RGB ได้อีกหลากหลายสีสันไม่แพ้กัน
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ตัวเลือกปุ่มกด: Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch
- การเชื่อมต่อ: USB Type C/ Wireless 2.4G/ Bluetooth
- จำนวนปุ่ม: 68 คีย์
- ขนาด: 329 x 102 x 39 มม.
- น้ำหนัก: 642 กรัม
- Numpad: แยกต่างหาก (ต้องต่อเพิ่ม)
- ราคา: ฿1,899 – ฿2,659
8. Keychron คีย์บอร์ดคัสตอม รุ่น Q3 Custom Keyboard QMK VIA Thai
สุดท้ายหากพูดถึง Custom Keyboard แนะนำแล้วไม่พูดถึง Keychron ก็คงเหมือนจะขาดอะไรไป และคีย์บอร์ดคัสตอมที่เรานำมาแนะนำในคราวนี้ก็คือรุ่น Q3 QMK รุ่นที่เป็นคัสตอมคีย์บอร์ดฟังก์ชั่นครบ ๆ อีกตัวหนึ่งจาก Keychron
ตัวคีย์บอร์ดผลิตจากอะลูมิเนียมทั้งตัว และใช้สวิตช์จาก Gateron G Pro ให้เลือกระหว่าง Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch ซึ่งด้วยความพิถีพิถันของการเลือกวัสดุและคุณภาพของอุปกรณ์แต่ละชิ้นก็มั่นใจได้เลยว่าคีย์บอร์ดคัสตอมตัวนี้จะใช้ได้ดีแบบเข้ามือแน่ ๆ ในแบบที่แม้ไม่ต้องปรับแต่งเลยก็ตาม แต่หากใครต้องการการปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์ตัวเองก็ยังสามารถลองทำได้เช่นกัน
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- วัสดุ: อะลูมิเนียมทั้งตัว
- ตัวเลือกปุ่มกด: Red Switch/ Blue Switch/ Brown Switch
- การเชื่อมต่อ: USB Type-C
- จำนวนปุ่ม: ไม่ระบุ
- ขนาด: 365.1 x 137 x 19.7 มม.
- น้ำหนัก: 2000 กรัม
- Numpad: แยกต่างหาก (ต้องต่อเพิ่ม)
- ราคา: ฿6,790
และเหล่านี้ก็คือ Custom Keyboard แนะนำที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ใครที่กำลังมองหาแก็ตเจ็ตใหม่ไม่ว่าจะสำหรับการใช้เองหรือเป็นของขวัญก็น่าจะได้ไกด์ไลน์ในการเลือกซื้อหาและแต่งคีย์บอร์ดคัสตอมกันไปพอสมควร ซึ่งหากใครที่มองหา Mechanical Keyboard หรือจอคอมพิวเตอร์เพิ่มเติมเพื่อสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมหรือใช้คอมพิวเตอร์แบบครบ ๆ ก็ยังสามารถตามไปอ่านบทความเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และแก็ตเจ็ตได้เลยที่ Shopee Blog และช้อปอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่อได้เลยที่ Shopee
อ้างอิง: