สำหรับคุณพ่อคุณแม่นั้น ความผิดปกติแม้เพียงเล็ก ๆ ที่สังเกตได้ก็มักจะนำความกังวลใจมาให้ได้บ้างไม่มากก็น้อย ด้วยความห่วงกังวลว่าลูกน้อยจะไม่สบายตรงไหนหรือไม่ มีสิ่งใดที่จะกระทบกับการเติบโตในระยะยาวของลูกน้อยหรือเปล่า ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่มักสังเกตได้ง่ายและพบเจอได้บ่อยก็คือลูกหายใจครืดคราด ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่ช่วงทารกหายใจครืดคราดไปจนถึงเด็กโตอายุหลายขวบเลยทีเดียว หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกน้อยมีอาการเช่นนี้ปกติหรือไม่ ทารกเป็นหวัดหายใจครืดคราด หรือ ลูกมีเสมหะหายใจครืดคราดจะเป็นอันตรายหรือเปล่า ตามมาดูกันได้เลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ลูกหายใจครืดคราดเกิดจากอะไร
สำหรับอาการลูกหายใจครืดคราดนั้นอาจเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับลูกน้อยตั้งแต่ช่วงที่ยังเป็นทารกไปจนถึงโตขึ้นในวัยหลาย ๆ ขวบเลยค่ะ และสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เพราะอาการลูกหายใจครืดคราดนั้นเป็นเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อช่องทางเดินอากาศเกิดการตีบแคบ ทำให้ลมหายใจที่ไหลผ่านส่วนนั้นติดขัดจนเกิดเสียง เหมือนที่เราเป่าหลอด หรือเป่าขลุ่ยออกมาเป็นเสียงนั่นเอง ซึ่งบริเวณที่เกิดการตีบแคบได้ง่ายก็มักจะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างรูจมูกกับคอหอย ซึ่งบางครั้งอาจได้ยินเสียงหวีดมาพร้อมกับเสียงครืดคราดก็ได้
สาเหตุที่ทารกหายใจครืดคราด
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ช่องทางหายใจของลูกน้อยตีบแคบนั้นสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ มีทั้งสาเหตุที่ไม่น่ากังวลและสามารถหายไปเองได้ สาเหตุที่ต้องติดตามเฝ้าระวัง ไปจนถึงสาเหตุที่ซีเรียสจนควรต้องไปปรึกษาคุณหมอทีเดียว ดังนั้นอาการทารกหาใจครืดคราดธรรมดา ๆ นี้บางทีก็ไม่ธรรมดานัก
อาการเด็กแรกเกิดหายใจครืดคราด (ตั้งแต่เกิด-อายุ 1 เดือน)
สาเหตุที่อาจเป็นได้ก็จะเป็นการกินนมมากเกินไป เพราะเด็กทารกที่เคยอยู่ในครรภ์มารดาจะเริ่มปรับตัวเข้าสู่สภาพใหม่ ๆ ที่ไม่ได้รับประทานอาหารจากสายสะดือของคุณแม่อีกต่อไป อาการนี้จึงเกิดขึ้นได้ค่ะ นอกจากนี้การที่ทารกหายใจครืดคราดอาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติของโครงสร้างทางเดินหายใจส่วนต้น ภาวะกระดกูอ่อนกล่องเสียงอ่อนยวบ ที่ควรให้คุณหมอวินิจฉัยอาการ รวมถึงการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น ทารกเป็นหวัดหายใจครืดคราด มีอาการคออักเสบ ภาวะกรดไหลย้อน ที่อาการมักจะมาพร้อมกับน้ำมูก เสมหะ อาการไอและหอบเหนื่อย ซึ่งหากอาการเป็นสักระยะหนึ่งแล้วหายไปก็ไม่น่ากังวลนัก แต่หากเป็นยาวนานและดูเหมือนว่าทารกหายใจได้ไม่เต็มที่ก็ควรต้องปรึกษาคุณหมอต่อไป
อาการเด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไปหายใจครืดคราด
สำหรับเด็กที่โตขึ้นมาอีกหน่อยก็ยังมีโอกาสนอนหายใจครืดคราดได้อยู่เหมือนกันค่ะ โดยสาเหตุนั้นอาจแบ่งออกได้เป็นสองลักษณะ คือ
- ลูกหายใจครืดคราดแบบไม่มีน้ำมูก อาการนี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากมีวัตถุแปลกปลอมเข้าไปติดในโพรงจมูก ทำให้ปิดกั้นทางเดินหายใจบางส่วนและก่อให้เกิดเสียง หรืออาจเกิดเนื่องจากภาวะกระดูกอ่อนกล่องเสียงอ่อนยวบ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรต้องหมั่นสังเกตอาการลูกน้อยว่าเป็นในช่วงสั้น ๆ แบบเพิ่งมาเป็น หรือมีอาการมาแล้วในระยะยาวค่ะ
- ลูกมีเสมหะหายใจครืดคราดมีน้ำมูก อาการแบบนี้มักจะมาพร้อมกับการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ อย่างเช่น การเป็นโรคหวัด หรือคออักเสบ ทำให้เสมหะหรือน้ำมูกเข้าไปขวางช่องทางการหายใจของลูกน้อยและเกิดเสียงดังครืดคราดได้ นอกจากนี้อากาศเย็น แห้ง รวมถึงควันบุหรี่ ก็เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เยื่อบุจมูกบวมและหลั่งน้ำมูกออกมามากจนลงไปติดในคอหอย เกิดเป็นเสมหะที่ขวางช่องทางหายใจ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเสียงหายใจครืดคราดได้ค่ะ
ซึ่งอาการลูกหายใจครืดคราดที่เกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ ดังที่กล่าวมานี้มักหายไปได้เองเมื่อหมดปัจจัยกระตุ้น เช่น หมดช่วงฤดูฝน ไม่มีกลิ่นควันบุหรี่ หรือลูกน้อยหายจากการเป็นหวัดแล้ว แต่ก็ยังมีอาการลูกหายใจครืดคราดบางประเภทที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ และเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
อาการลูกหายใจครืดคราดที่ควรกังวลและติดตาม
อาการลูกหายใจครืดคราดบางประเภท ลูกจะหายใจเร็วและแรงกว่าปกติ และมักได้ยินเสียงหวีดหรือเสียงครืดคราดขณะหายใจ หน้าอกบุ๋ม ลูกมีอาการนอนหลับไม่เต็มอิ่ม เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก และหายใจไม่สะดวก ซึ่งอาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ว่าอาการลูกหายใจครืดคราดนี้อาจเป็นอาการของโรคหอบหืด
ซึ่งโรคหอบหืดนี้มักจะเกิดขึ้นจากการสัมผัสสารกระตุ้น เช่น ไรฝุ่นตามหมอนและที่นอน ขนของสัตว์เลี้ยง ละอองเกสรดอกไม้ หรือแมลงสาบ เป็นต้น นอกจานี้ควันบุหรี่ก็ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดในเด็กได้
ลูกน้อยที่มีอาการหอบหืดโดยที่คุณพ่อคุณแม่ละเลยไม่รักษาอาจทำให้เด็กหายใจได้ไม่เต็มที่ นอนหลับไม่สนิทหรือไม่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกน้อยในระยะยาวได้ อย่างไรก็ดี ลูกน้อยที่เป็นโรคหอบหืดก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจอาการของลูกเพิ่มขึ้นสักเล็กน้อย หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืด เช่น หมั่นซักเครื่องนอนบ่อย ๆ เพื่อลดการสะสมของไรฝุ่น เปิดม่านให้แสงแดดส่องให้ทั่วถึงเพื่อขจัดไรฝุ่นที่แอบอยู่ตามซอกหลืบในห้อง ฯลฯ
อาการลูกหายใจครืดคราด ไม่น่ากังวลอย่างที่คิด
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับข้อมูลปัญหาลูกหายใจครืดคราดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งแท้จริงแล้วอาการทารกหายใจครืดคราดนั้นไม่น่ากังวลอย่างที่คิดนะคะ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหล่านั้นเจอ ก็จะสามารถปกป้องลูกน้อยจากปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่จะตามมาได้ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเป็นปัญหาที่ไม่เรื้อรังยาวนาน เช่น เป็นหวัด คออักเสบ ความผิดปกติของทางเดินหายใจส่วนต้น ที่เมื่อรักษาเรียบร้อยก็บรรเทาอาการลูกหายใจครืดคราไปได้ ทั้งนี้อาการลูกหายใจครืดคราดที่มาพร้อมกับโรคหอบหืดก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ และเกิดขึ้นได้สำหรับลูกน้อย โดยเฉพาะลูกน้อยที่มีอาการภูมิแพ้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จำเป็นต้องสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง ปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยประเมินระดับความรุนแรงของอาการ รวมถึงระวังเรื่องปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการอย่างรอบคอบ เพียงเท่านี้อาการหายใจครืดคราดก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของลูกน้อยได้เลยค่ะ
บทความแม่และเด็กที่น่าสนใจ