วันนี้ถึงเวลาเปิดตำราอาหารจานเด็ด “เมนูแกง” เมนูโบราณที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน โดยวันนี้มาบอกสูตรลับการทำเมนูแกงรสชาติเข้มข้นแบบละเอียดสุด ๆ เพิ่มความอร่อยด้วยผักและเครื่องปรุงง่ายๆ จนเมนูแกงกลายเป็นอาหารจานเด็ดอร่อยล้ำเลิศทุกคำ วันนี้เราก็จะมาบอกส่วนประกอบและกรรมวิธีการทำแบบละเอียด แต่ละสูตรจะเน้นรสชาติเข้มข้น ถูกปาก พร้อมบอกเคล็ดลับที่จะเพิ่มความอร่อยกลมกล่อมให้กับเมนูแกงยิ่งขึ้น นอกจากรสชาติอร่อยแล้ว รู้หรือไม่ว่าพริกแกงแดง ยังช่วยในการป้องกันโรคหรือช่วยชะลอความเสื่อมที่เกิดขึ้นภายในร่างกายได้อีกด้วย สรรพคุณขนาดนี้จะรออยู่ทำไม ถ้าพร้อมกันแล้วจับทัพพี ตะหลิวเข้าครัวไปพร้อมกันเลย!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เปิดสูตรเด็ด เมนูแกงเผ็ด บอกเลยว่าน่าทานทุกเมนู
1. เมนูแกงเผ็ด
มาประเดิมกันที่เมนูแกงเผ็ดหมูแสนอร่อย อร่อยถึงเครื่อง รสชาติถูกปากถูกใจ เป็นเมนูที่ฟังชื่อเรียกแล้วอาจดูเหมือนยาก แต่ทำไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยเครื่องแกงไทยที่มีรสเด็ด เผ็ดเจ็ดย่านน้ำ ที่ช่วยให้เหล่าพ่อบ้าน แม่บ้านรังสรรค์อาหารได้อย่างหลากหลายเมนู เสิร์ฟคู่กับความหอมหวานมันด้วยกะทิ ที่เคี่ยวจนแตกมัน ทำให้ใครที่ได้ลิ้มลองเมนูนี้ก็ต้องติดใจ ประทับใจกันไปยาว ๆ
ส่วนประกอบ
- เนื้อหมูสันนอก 200 กรัม
- ฟักทองหั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วยตวง
- หัวกะทิ 250 กรัม
- หางกะทิ 500 กรัม
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
- ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง
- พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด
- เครื่องแกงไทย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำแกงเผ็ดหมู
- ตั้งหม้อใส่หัวกะทิ ผัดกับพริกแกงเผ็ด ใช้ไฟอ่อน คอยคนไปเรื่อย ๆ จนกะทิแตกมัน ใช้กะทิกล่องได้
- จากนั้นใส่เนื้อหมู ผัดจนหมูเริ่มสุกใส่ฟักทอง ใบมะกรูดฉีกเพิ่มความหอม
- ต่อมาใส่หางกะทิ รอเดือดและฟักทองสุกดี
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ รอเดือด โรยหน้าด้วยใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ ปิดไฟ ตักเสิร์ฟพร้อมรับประทานคู่ข้าวสวยร้อน ๆ กันได้เลย
2. เมนูแกงส้ม
วันนี้ขอเชิญชวนทุกคนมาทำเมนูอาหารไทยง่าย ๆ แต่รสชาติเข้มข้นอย่าง “เมนูแกงส้มมะรุมกุ้ง” มะรุมสด ๆ เนื้อกุ้งแน่น ๆ ที่มาพร้อมกับรสชาติแกงที่เข้มข้น แถมยังอร่อยกลมกล่อม ราดลงบนข้าวสวยร้อน ๆ แค่นี้ก็ฟินชวนน้ำลายสอแล้ว เมนูแกงส้มสูตรนี้ ถือเป็นแกงไทย ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มีสมุนไพรอย่างมะรุมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบ ซึ่งต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี เป็นสูตรที่เรียกได้ว่าใครทำก็อร่อย ขั้นตอนการทำก็นั้นง่ายนิดเดียว เหมาะสำหรับพ่อบ้านแม่บ้านมือให้ที่หัดเข้าครัวสุด ๆ
ส่วนประกอบ
- กุ้งผ่าหลัง 100 กรัม
- มะรุมหั่นท่อน 350 กรัม
- พริกขี้หนูแห้ง 7 เม็ด
- หอมแดงซอย 60 กรัม
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชี 2-3 ราก
- กระเทียม 2 กลีบ
วิธีการทำแกงส้มมะรุมกุ้ง
- ตำพริกแกงส้มด้วยการนำพริกขี้หนูแห้งไปแช่น้ำให้พอนิ่ม
- จากนั้นโขลกพริกขี้หนูแห้งที่แช่น้ำไว้ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย
- ตามด้วยกะปิ รากผักชี กระเทียมและหอมแดง ลงไปโขลกให้ละเอียดและเข้ากัน โดยเรียงตามลำดับ เอาของที่แข็งที่สุด ตำให้ละเอียดยากที่สุด ลงไปก่อน สิ่งที่ตำแล้วแหลกง่าย ให้ใส่ลงไปหลังสุด ซึ่งในเมนูนี้ จะใส่หอมแดง ลงไปตำสุดท้าย เพราะน้ำหอมแดงจะเยอะ ตำแล้วจะกระเด็น
- ต้มน้ำเปล่า แล้วใส่พริกแกงส้มที่โขลกไว้ รอให้น้ำพอเดือด ค่อยใส่มะรุมลงไป
- พอมะรุมเริ่มสุก ให้ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนพอให้ทุกอย่างเข้ากัน ใส่กุ้งตามลงไป รอให้กุ้งพอสุก ปิดไฟ ตักแกงส้มมะรุมกุ้งใส่ชาม กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟได้เลย
3. เมนูแกงกะทิ
ถ้าถามถึงแกงไทย คนส่วนใหญ่ก็น่าจะคิดถึงเมนูแกงกะทิ แต่รู้หรือไม่แกงไทยนั้นแท้จริงแล้วรับอิทธิพลจากอินเดีย แต่ปรับเปลี่ยนเลือกใช้เครื่องแกงให้สอดรับกับรสนิยมของคนไทยมากขึ้น ในสมัยก่อนนั้นก็เป็นแกงธรรมดา ที่ใช้พริกแกงแดงทำ ต่อมาถูกผสมดัดแปลงให้แกงใส่กะทิ ซึ่งถือว่าได้รับนิยมอย่างมาก ในสมัยปัจจุบันนี้ แกงจึงมีการดัดแปลงให้มีลูกเล่นมากขึ้น แต่ในวันนี้จะขอนำเสนอ แกงกะทิปลาดุก ถืออีกหนึ่งเมนูที่มีความอร่อย รสของแกงจะกลมกล่อม หวานมันกะทิ และเป็นอีกเมนูที่ทุกคนน่าจะต้องรู้จักกันดีอยู่แล้ว
ส่วนประกอบ
- เครื่องแกง (ตามชอบ ถ้าชอบเผ็ดใส่เยอะได้)
- น้ำตาลปี๊บ ปลายช้อนแกง
- ปลาดุกหั่นชิ้นพอดีคำ 1/2 กิโลกรัม
- กะทิ หรือหัวกะทิ 500 มิลลิลิตร (1 กล่อง)
- ใบยี่หร่า 1 ขีด (ล้างแล้วหั่นพอหยาบ)
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ข่า 5 แว่น
- ตะไคร้ 3 ต้น
- กระเทียม 1-2 หัว
- พริกขี้หนูสด 1 ขีด
- พริกแห้ง 1/2 ขีด
- กระชาย 5 ราก
- ขมิ้นหัวเล็ก 4-5 หัว
- เกลือ 1 ช้อนชา
- พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำแกงกะทิปลาดุก
- โขลกส่วนผสมเครื่องพริกแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด เตรียมไว้สำหรับการปรุงอาหาร
- ใส่หัวกะทิลงไปในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง รอให้น้ำเดือด หลังจากนั้นเราก็ทำการใส่พริกแกงลงไป รอให้น้ำเดือดอีกครั้ง ชิมรสชาติดู ถ้ารสชาติที่เราต้องการหรือยัง ถ้าหากยังก็ทำการปรุงรสชาติไปตามชอบ ชอบรสชาติแบบไหนก็ทำการปรุงได้เลย หลังจากที่รสชาติตามที่ต้องการแล้ว จากนั้นใส่ปลาดุกลงไป ( ไม่ต้องคน เพราะการที่เราคนมันจะทำให้ปลาดุกเกิดกลิ่นคาว )
- ขั้นตอนสุดท้าย รอให้น้ำเดือดอีกครั้ง ประมาณ 5-7 นาที ดูว่าเนื้อปลาดุกที่เราใส่ลงไปมันสุกแล้วหรือยัง หลังจากที่เนื้อปลาดุกเสร็จแล้ว ให้เราทำการใส่ใบยี่หร่าตามลงไป คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นรอปิดไฟ
- ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ เตรียมข้าวสวยร้อนๆมาทานคู่กับ แกงกะทิปลาดุก บอกเลยว่า อร่อยสุดๆ รสชาติมีเอกลักษณ์ มาพร้อมกับความหอมของใบยี่หร่าที่ได้ใส่ตามท้ายลงไป
4. เมนูแกงไก่
เมนูแกงไก่ใส่หน่อไม้ดอง เป็นอีกหนึ่งแกงที่รับประทานแล้วอร่อยถูกใจแน่นอน ด้วยแกงเผ็ดรสเข้มข้น เนื้อไก่นุ่ม หอมทั้งเครื่องแกงเผ็ดและกลิ่นเฉพาะของหน่อไม้ดอง พูดไปแล้วได้ข้าวร้อน ๆ กินคู่กัน มันก็แบบว่าเลิศไม่ไหว หรือกินกับเส้นขนมจีนก็เข้ากันสุด ๆ อร่อยจนไม่อยากจะวางช้อนบอกเลย
ส่วนประกอบ
- เนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำ 200 กรัม
- หน่อไม้ดอง 1 ถ้วย
- น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพา 1/2 ถ้วย
- พริกชี้ฟ้าแดงเหลืองหั่นแฉลบ 4 เม็ด
- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำแกงไก่ใส่หน่อไม้ดอง
- แช่หน่อไม้ดองก่อนนำมาทำอาหารให้แช่น้ำท่วมๆ ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด
- จากนั้นเริ่มผัดน้ำพริกแกงเผ็ดกับน้ำมันให้หอม ๆ ใส่กะทิ 1/2 ถ้วย ผัดให้น้ำพริกแกงละลาย
- ใส่เนื้อไก่ ผัดจนเนื้อไก่สุก ตักใส่หม้อ เติมน้ำ ต้มให้เดือด ใส่หน่อไม้ดอง ต้มไฟกลางจนนุ่มๆ
- เติมกะทิที่เหลือ เดือดอีกครั้งปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ คนให้ละลาย (ชิมรส ถ้าอ่อนเค็มปรุงรสด้วยน้ำปลา)
- เดือดอีกครั้งใส่พริกชี้ฟ้า ใบโหระพา กดผักให้จมน้ำแกง เดือดอีกครั้งยกลง ตักใส่ชาม เสิร์ฟกับข้าวร้อน ๆ ได้เลย
5. เมนูแกงหมู
แกงไทยพื้นบ้านสีแดงส้ม อย่างแกงคั่ว ครั้งนี้ขอเพิ่มความอร่อยกลมกล่อม ครบทั้งสามรสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็ม ด้วยการนำสัปปะรดและเนื้อหมูที่สด สะอาดลงไปผัดกับน้ำพริกแกงคั่วหอม ๆ แล้วเติมรสกะทิ ที่หอมกรุ่นลงไปยั่วกระเพาะน้อย ๆ ของทุกคน ความผสมผสานเข้ากันและความลงตัวของวัตถุดิบทั้งหมด ทำให้แกงคั่วสับปะรดหมูจานนี้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
ส่วนประกอบ
- เนื้อหมู 250 กรัม
- สับปะรด 300 กรัม
- หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2-3 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าสีแดง 2 เม็ด
- ใบมะกรูด ฉีก 5 ใบ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกแกงคั่ว
วิธีการทำแกงคั่วสับปะรดหมู
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่น้ำพริกแกงคั่วลงผัดพอหอม ค่อย ๆ เติมหัวกะทิจนหมด
- ผัดจนกะทิแตกมันเติมกะทิพอเดือด ใส่เนื้อหมูลงไปผัดรอจนสุก ตามด้วยสับปะรด
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก คนพอเข้ากันแล้วเคี่ยวต่อสักครู่ โรยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้า
- คนพอเข้ากัน ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
แกงไทยเป็นศิลปะ และถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติไทยที่ถ่ายทอดมาสู่ลูกหลาน มีการดัดแปลงวัตถุดิบต่าง ๆ มาปรุงแต่งจนเกิดมาเป็นอาหารรสเลิศ เห็นได้จากเครื่องปรุงที่มีการผสมผสานของสมุนไพรทั้งสดและแห้ง ให้ทั้งรสชาติที่กลมกล่อม กลิ่นหอม มีรสและกลิ่นเฉพาะตัว คนไทยอย่างเรา ๆ จึงควรมองเห็นภูมิปัญญาที่งดงามเหล่านี้ และช่วยกันสืบสานศิลป์ชั้นเลิศของอาหารไทย จากครัวไทยสู่ครัวโลกกันไปเลย! เป็นเมนูอาหารง่าย ๆ ที่สามารถฝึกทำได้