ใกล้ถึงอีกเทศกาลที่คนไทยอย่างเรา ๆ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับประเพณีลอยกระทงซึ่งถือได้ว่าเป็นประเพณีที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนานแต่ก็มีการปรับเปลี่ยน ประยุกต์สิ่งต่าง ๆ แต่งเติมเข้าไปบ้างเพื่อให้ประเพณีมีสีสันและเข้ากับยุคสมัยมากขึ้นซึ่งในปีนี้แทบทุกจังหวัดก็จัดงานกันอย่างยิ่งใหญ่ แต่จะเจาะพร้อมแจกสถานที่ลอยกระทงยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดใน 2023 ในกรุงเทพฯ ว่ามีที่ไหนกันบ้างและเทศกาลลอยกระทงปี 2566 ตรงกับวันไหนไปดูกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เทศกาลลอยกระทงปี 2566
ตามความเชื่อที่บอกเล่าต่อกันมาว่าประเพณีลอยกระทงจัดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาห์เคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคาซึ่งเป็นเทวดาในคติฮินดูให้ขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากชีวิตที่ทุกกระทงมักจะมีเศษผม เศษเล็บใส่ลงไปในเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่งอกขึ้นใหม่ได้ซึ่งเปรียบเสมือนการตัดเอาสิ่งไม่ดีออกไปเพื่อเริ่มต้นใหม่นั่นเอง
โดยในปี 2566 หากดูตามปีปฎิทินจันทรคติไทยของวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 จะตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ซึ่งมีหลายจังหวัด หลายอำเภอและหลายพื้นที่ได้มีการจัดกิจกรรมขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้ไปเข้าร่วมสนุกในค่ำคืนวันพระจันทร์เต็มดวงที่สวยอีกวันหนึ่งที่ไม่อยากให้คุณพลาดประสบการณ์ดี ๆ
Cr: shutterstock
แจก 10 พิกัดสถานที่ลอยกระทงในกรุงเทพฯ
สำหรับใครที่ตั้งใจจะไปลอยกระทง แต่ไม่รู้ว่าจะลอยกระทงที่ไหนดี ในกรุงเทพก็ได้แจก 10 พิกัดสถานที่ลอยกระทงยอดนิยมไว้ให้ ดังนี้
1. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เริ่มกันที่โลเคชั่นฮอตฮิตที่จัดงานบ่อยมากนั่นก็คือ ม.เกษตรฯ บางเขนเพราะการเดินทางที่ง่าย โดยเฉพาะรถไฟฟ้าแค่ลงสถานีเกษตรฯ ก็เดินเข้าในงานได้เลยซึ่งพื้นที่ก็มีขนาดใหญ่ทำให้จัดกิจกรรมได้ค่อนข้างสนุก ไม่ค่อนแออัด อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อของกินได้หลากหลาย รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ ที่มาจากภายนอก หรือน้อง ๆ นักศึกษามาตั้งบูธซึ่งเหมาะเป็นตัวเลือกสำหรับที่ยังไม่รู้ว่าจะไปลอยกระทงที่ไหนดี
การเดินทาง: รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รถประจำทางสาย 1-22E 2-30 34 543ก (ปอ.) (AC) 59 (ปอ.) (AC) และต.15
2. สวนลุมพินี
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงฯ ที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนนิยมไปลอยกระทงในทุก ๆ ปีซึ่งภายในสวนก็ไม่ได้มีกิจกรรมอะไร แต่ก็เปิดให้คนที่อยู่ใกล้ ๆ หรืออยากได้ความสงบ ไม่ต้องการคนพลุกพล่าน นอกจากนี้ก็ยังสามารถเดินเล่นชิล ๆ รับลมกันต่อได้ไม่ว่าจะมาคนเดียว เป็นคู่ หรือแบบครอบครัวก็ช่วยให้ความรู้และประสบการณ์ดี ๆ ในรูปแบบที่ไม่ต้องการแสงสีมากมาย
การเดินทาง: รถไฟฟ้า MRT สถานีสีลม BTS สถานีศาลาแดง รถประจำทางสาย 4, 13, 22. 46, 47, 74, 109 และ 141
3. สวนหลวงพระราม 8
เป็นสวนสาธารณะติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เปิดอำนวยความสะดวกให้ผู้คนในย่านนี้ หรือที่อื่น ๆ ได้เข้าไปลอยกระทงเพื่อจะได้รับชมบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติในเมืองกรุง พร้อมวิวทิวทัศน์ของสะพานพระราม 8 ให้ได้ชื่นชมความสวยงามและดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่ค่อนข้างให้ความเงียบสงบที่เปรียบเสมือนการได้มาลอยเอาสิ่งไม่ดีออกจากชีวิตเพื่อเริ่มต้นใหม่
การเดินทาง: รถโดยสารประจำทางสาย 1-63 208 4-44 57
4. ไอคอนสยาม
ศูนย์กลางห้างสรรพสินค้าที่มีความทันสมัยติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มาพร้อมความตื่นตาจากแสงสีที่มีให้สัมผัสรับชมความสวยงามตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงเทศกาลอย่างลอยกระทงจะยิ่งเพิ่มความพิเศษจากการประดับไฟที่มีความอลังการมากยิ่งขึ้น พร้อมโชว์และการแสดงที่ตราตรึงให้คุณได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานประเภทเพณีอันดีงามที่นอกจากจะได้ลอยกระทงแล้ว ยังสามารถสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ และช้อปกันแบบเพลิน ๆ
การเดินทาง: รถไฟฟ้าสายสีทองสถานีเจริญนคร เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงส้ม) รถโดยสารประจำทางสาย 3, 6, ปอ.6, 84, ปอ.84, 88, 111, 149, 167 และ 177
5. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
สถานที่ยอดฮิตของคนกรุงด้วยจุดเด่นของเอเชียทีคสกาย หรือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ โดยหากมีโอกาสไปลอยกระทง แนะนำต้องลองขึ้นชิงช้าสักรอบซึ่งในปีนี้เอเชียทีคก็ยังกิจกรรมแบบอลังการทั้งหารเต้นรำแบบไทย ดนตรีสด รวมถึงการแสดงอื่น ๆ อีกมากมายและยังสามารถเดิน กิน เดินช้อปกันได้จุใจแบบฟิลจอย ๆ เดินเล่นริมแม่น้ำ
การเดินทาง: BTS ลงสถานีสะพานตากสินแล้วต่อเรือฟรีของเอเชียทีค หรือจะรถโดยสารประจำทางสาย 1 75 35 และ ปอ.504
Cr: shutterstock
6. งานภูเขาทอง (วัดสระเกศ)
ใครที่อยากได้ฟิลล์เดินงานวัดลอยกระทงควงคู่หวานใจแบบหวานฉ่ำ 300% ก็ต้องมาที่วัดภูเขาทอง หรือวัดสระเกศราชวรมหาวิหารซึ่งถือเป็นวัดโบราณใจกลางกรุงฯ ที่โดดเด่นเรื่องความสวยงามที่มองกี่ครั้งก็จับใจซึ่งในงานลอยกระทงปีนี้ก็จะจัดขึ้นคล้าย ๆ เดิม ๆ ทุกปี แต่คงยังให้กลิ่นอายการสืบสานประเพณีลอยกระทงแบบย้อนยุคที่ผสมผสานยุคสมัยนี้เข้าเอาไว้อย่างลงตัวจึงทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน ช่วยฮีลใจให้กลับมาใจฟูอีกครั้งหลังจากได้ลอยเอาสิ่งไม่ดีออกไป
การเดินทาง: รถไฟฟ้าสถานีสนามยอด หรือรถโดยสารประจำทางสาย 8, 37 และ 48
7. วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร (วัดอรุณ)
วัดฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีความโดดเด่นของพระปรางค์อรุณ ยิ่งในยามพลบค่ำยิ่งสวยสะดุดตาจึงเป็นสถานที่ที่หลายคนนิยมไปลอยกระทงซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติที่จะได้สัมผัสกับความบรรยากาศของกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในค่ำคืนวันลอยกระทงให้ได้มาร่วมสนุก เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์และรับชมความสวยงาน รวมถึงเดินเล่นเลือกซื้อของกินต่าง ๆ ภายในงาน
การเดินทาง: รถไฟฟ้า MRT สถานีอิสรภาพ รถโดยสารประจำทางสาย 2-1, 208, 4-41 และ 710
8. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่อยากแนะนำเพราะติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีจุดเด่นเดินทางง่ายเพราะอยู่ใกล้ท่าเทียบเรือที่มักจจะจัดงานโดยมีกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มเติมนอกจากการเปิดให้ผู้คนเข้าไปลอยกระทง เช่น การแสดงจากนักศึกษา การประกวดนางนพมาศ หรือบูธจำหน่ายอาหาร หรือสินค้าต่าง ๆ ทั้งจากภายนอกและนักศึกษาของมหาวิทยาลัย
การเดินทาง: รถไฟฟ้า MRT สถานีสนามไชย ทางเรือ (มาท่าพระจันท์) รถโดยสารประจำทางสาย 32, 53, 124, 203, 201, ปอ.32 และ ปอ.524
9. คลองผดุงกรุงเกษม (ย่านหัวลำโพง)
ที่จะมีการตกแต่งประดับไฟแสงสีริมคลอง อีกทั้งยังมีตลาดน้ำคลองผดุงเกษมที่เหมาะกับสายคอนเทนต์คอนใจให้ได้ไปเลือกกระทงที่มีหลากหลายร้านให้เลือกและยังแวะเลือกซื้อของกินของใช้ที่บางอันมาจากงานฝีมือ หรือภูมิปัญญาของชาวบ้านให้ได้ติดไม้ติดมือ นอกจากนี้บรรยากาศในงานก้ค่อนข้างชิลล์ได้ฟิลล์ธรรมชาติจึงเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คลอยกระทงที่อยากแนะนำ
การเดินทาง: รถไฟฟ้า MRT สถานีหัวลำโพง ทางเรือ (ลงหัวลำโพง) รถโดยสารประจำทางสาย 53
10. ราชมงคลกรุงเทพ (สาธร)
ใครที่ไม่ชอบลอยกระทงที่ห้าง หรือไม่ชอบสถานที่ที่จัดงานที่คนเยอะ ๆ แต่อยากได้ฟิลล์จอย ๆ ใจกลางกรุงฯ แนะนำราชมงคลกรุงเทพ (สาธร) ที่ถึงแม้จะเป็นสถานศึกษาแต่ก็เปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้เข้ามาร่วมสนุกและรับชมความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาเช่น การประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ ประกวดเทพบุตร รวมถึงยังมีร้านค้าต่าง ๆ มาเปิดให้ได้เดินเล่นเที่ยวกินกันอย่างสนุก
การเดินทาง: รถไฟฟ้า BTSสถานีช่องนนทรี รถโดยสารประจำทางสาย 62, 67, 89, ปอ.22, 62 และ 67
Cr: shutterstock
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 สถานที่ลอยกระทง ?กรุงเทพฯ ในปี 2566 ที่จัดขึ้นหลากหลายที่ใครใกล้ที่ไหน หรือสะดวกที่ไหนก็ไปที่นั้น แต่ถ้าหากอยากไปไกลหน่อยต่างจังหวัดก็มีกันจัดแทบทุกจังหวัดแต่ที่นิยมก้จะต้องไปสัมผัสประเพณียี่เป็ง เชียงใหม่ หรือจะเผาเทียนเล่นไฟ สุโขทัย หรือไหลประทีป 1000 ดวง จังหวัดตากก็ได้ แต่ต้องวางแพลนการเดินทางแพ็คกระเป๋าไปตั้งแต่เนิ่น ๆ
แต่สำหรับใครที่อยากฝึกทำกระทงเอง แต่ไม่รู้ว่าจะไปซื้ออุปกรณ์ทำกระทง ไม่ว่าจะชุตเซตธูปเทียน ฐานกระทง ใบตอง เข็มหมุด ดอกไม้ กรรไกร หรืออื่น ๆ ที่ไหนดี? ก็สามารถกดสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่ Shopee Thailand
และนอกจากกระทงจะต้องเริศแล้ว คนก็ต้องสวยฉ่ำโดดเด่นในงานซึ่งก็จะต้องมาหาสไตล์ว่าแต่งชุดไปแนวไหน? ซึ่งหากใครอยากได้ลุค Boho Style สไตล์มาตาลดา พร้อมแมตซ์กับนาฬิกาข้อมือผู้หญิงแบบไหนดีก็สามารถส่องข้อมูลหาความรู้เพิ่มเติมด้านแฟชั่นแฟใจกันที่ Shopee Blog