ประเทศไทย ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผลไม้อุดมสมบูรณ์อันดับต้น ๆ ของโลก สามารถรับประทานได้ตลอดทั้งปี และหน้าร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสีสันของเมืองไทย เพราะมีผลไม้หลากหลายจังหวัดมาให้ทานไม่ขาดปาก และถ้าอยากจะทานผลไม้ให้อร่อยนั้นก็ต้องทานตามฤดูกาล โดยฤดูร้อนจะเริ่มประมาณเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งผลไม้ฤดูร้อนจะเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างมีรสชาติจัดจ้านสักหน่อย และเป็นผลไม้ไทยที่หลายคนโปรดปรานอีกด้วย วันนี้ Shopee จะมาแนะนำ ผลไม้หน้าร้อน ที่น่ารับประทาน บอกเลยล้วนเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ทั้งนั้น มีผลไม้ฤดูร้อนอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ผลไม้หน้าร้อน แต่ละชนิดมาเมื่อไหร่?
เดือน | ผลไม้ |
---|---|
กุมภาพันธ์ | สับปะรด แตงโม |
มีนาคม | มะยงชิด มะม่วง |
เมษายน | ทุเรียน ลิ้นจี่ |
พฤษภาคม | เงาะ |
มิถุนายน (เข้าหน้าฝน) | มังคุด |
1. สับปะรด
Cr: shutterstock
อีกหนึ่งผลไม้ที่หากินง่ายและอร่อย คือ สับปะรด แล้วรู้ไหมว่าสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น ที่มีความฉ่ำน้ำ อีกทั้งยังมีรสชาติหวาน จึงสามารถช่วยดับกระหายในหน้าร้อนที่อากาศมีอุณหภูมิสูงได้ดี แถมยังมีราคาถูกอีกด้วย หากรับประทานหลังกินอาหารเสร็จ ก็จะช่วยลดอาการแน่นท้องหรือท้องอืดได้ด้วย ที่สำคัญมีพลังงานต่ำ เหมาะกับรับประทานเป็นอาหารว่าง
ประโยชน์ของสับปะรดต่อสุขภาพ
- ช่วยย่อยอาหารกลุ่มโปรตีนได้ดี เพราะมีเอมไซน์โบรมีเลน
- มีแคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับคนที่ดูแลรูปร่าง
- มีวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- มีความเป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะปัสสาวะและช่วยขับเหงื่อจากร่างกาย
- มีกากใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
ข้อควรระวังการรับประทานสับปะรด
- ไม่ควรรับประทานสับปะรดตอนท้องว่าง เพราะมีรสชาติเปรี้ยวและเป็นกรดอ่อน ๆ
- สับปะรดมีเอมไซน์โบรมีเลน ทำให้หากรับประทานในปริมาณมาก อาจจะทำให้แสบคันที่ลิ้นหรือเพดานได้
2. แตงโม
Cr :shutterstock
ผลไม้หน้าร้อนที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ดีที่สุด คงต้องยกให้กับ “แตงโม” เติมความสดชื่นให้ร่างกายสุดๆ ยิ่งถ้าได้ทานแตงโมเย็นๆ บอกเลยว่าดับร้อนในร่างกายได้ดี แถมแตงโมยังเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในส่วนต่างๆ ยังฤทธิ์ในการช่วยระบบขับถ่ายได้อีกด้วย ซึ่งแตงโมในไทยก็มีให้เลือกทานหลายสายพันธุ์ แต่ที่คนนิยมมาก คือ สายพันธุ์จินตรา ตอปิโด และกินรี
ประโยชน์ของแตงโมต่อสุขภาพ
- ช่วยบำรุงสายตา เพราะมีวิตามินเอในผลแตงโม
- ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
- แตงโมมีไฟเบอร์ จึงช่วยลดอาการท้องผูก ระบบย่อยอาหารได้ดี
- ลดโอกาสในการเป็นโรคหืด เพราะมีวิตามินซีอยู่ในแตงโมค่อนข้างสูง
- บำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรง เนื่องจากแตงโมมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด
- ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ เนื่องจากแตงโมมีกรดอะมิโนชื่อว่าซิทรูลีน (Citrulline)
- มีสาร “ไลโคปีน” (Lycopene) เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ
ข้อควรระวังการรับประทานแตงโม
- หากบริโภคมากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหารได้ ทำให้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย และมีแก๊สในกระเพาะได้ เนื่องจากแตงโมเป็นผลไม้หน้าร้อนที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต จึงไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้
- หากบริโภคมากเกินไป อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เพราะแตงโมจะมีค่าดัชนีน้ำตาลหรือไกลซีมิกสูง หลังจากที่บริโภคแล้วอาจทำให้น้ำตาลในเลือดมีการแปรปรวนหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ยาก โดยคนที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีความเสี่ยงเบาหวาน
3. มะยงชิด
Cr: shutterstock
มะยงชิด อีกหนึ่งผลไม้หน้าร้อนที่หลายคนโปรดปราน เป็นผลไม้ฤดูร้อนในตระกูลเดียวกับมะปราง ลักษณะผลเหมือนไข่ไก่ สีเหลืองนวลๆ ผลมีทั้งขนาดเล็ก ปานกลาง และใหญ่ ขึ้นอยู่สายพันธุ์ ส่วนรสชาติมะยงชิดถ้าแบบดิบรสชาติจะออกเปรี้ยว แต่ถ้าสุกมีรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ หรือบางสายพันธุ์รสหวานเจี๊ยบ หรือบางสายพันธุ์ก็เปรี้ยวสุดๆ ยังเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนสูง จึงทำให้มีประโยชน์ต่อร่างกาย และการเลือกรับประทานในช่วงปลายเดือนมีนาไปจนถึงเดือนพฤษภา หรือในช่วงหน้าร้อนของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
ประโยชน์ของมะยงชิด ต่อสุขภาพ
- ลดความเสี่ยงที่ก่อเกิดโรคมะเร็งต่างๆ
- บำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน เต่งตึง และสดใส
- สามารถป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
- บำรุงสายตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา และลดการเกิดโรคต้อกระจก
- บำรุงให้กระดูกและฟันแข็งแรง และลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนและกระดูกเสื่อม
ข้อควรระวังการรับประทานมะยงชิด
- ควรรับประทานมะยงชิดในปริมาณที่พอดี
- คนที่เป็นโรคเบาหวานไม่ควรทานมากเกินไป เพราะในมะยงชิดทั้งน้ำตาลฟรุกโทส กลูโคส และซูโครส
4. มะม่วง
Cr : shutterstock
มะม่วง เป็นผลไม้ที่สามารถทานได้ทั้งแบบสุกและดิบ และหารับประทานได้เกือบตลอดทั้งปี แต่ถ้าใครอยากจะทานมะม่วงสุกงอกหอมหวาน ยิ่งได้ทานกับข้าวเหนียวราดด้วยน้ำกะทิ พูดเลยฟินสุดๆ จะต้องเลือกทานในช่วงหน้าร้อนถึงจะได้มะม่วงที่หวานฉ่ำอร่อย ดังนั้นหน้าร้อนนี้ใครไม่อยากของมะม่วงรสชาติหวานอร่อยห้ามพลาดกันน้า และยังเป็นผลไม้ที่มีแร่ธาตุต่างๆ และวิตามินมากถึง 20 ชนิด ทั้งนี้ มะม่วงที่หลายคนนิยมทานมากที่สุด ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงอกร่อง มะม่วงแรด และมะม่วงแก้วขมิ้น
ประโยชน์ของมะม่วงต่อสุขภาพ
- มะม่วงสุกสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ของคุณจากอนุมูลอิสระ
- เสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และลดริ้วรอย
- ช่วยทำให้เส้นผมเงางามแข็งแรงและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
- เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ
- มีสารโพลีฟีนอลที่อยู่ในมะม่วงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรงมะเร็งบางชนิดได้
- ช่วยบำรุงสายตา และมีสารลูทีนและแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงแดด และแสงสีน้ำเงินจากหน้าจอโทรศัพท์
ข้อควรระวังการรับประทานมะม่วง
- ไม่ควรทานมะม่วงสุกมากเกินไป เพราะมีน้ำตาลค่อนข้างเยอะ
- คนที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงมะม่วงสุก เพราะเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง
- คนที่มีปัญหาท้องอืด หากทานมะม่วงดิบมากเกินไป อาจจะทำให้ท้องอืด รู้สึกอึดอัดได้
5. ทุเรียน
Cr : shutterstock
ผลไม้หน้าร้อนที่ยืนหนึ่งตลอดกาลต้องยกให้กับ “ทุเรียน” ผลไม้ไทยที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ราชาผลไม้” ซึ่งเป็นผลไม้ที่หลายคนตั้งตารอมาทั้งปี เพื่อให้ได้ลองลิ้มชิมรส ผลไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ รสชาติหวานมันแสนอร่อย แต่บอกก่อนนะถึงแม้ทุเรียนจะเป็นผลไม้หน้าร้อนก็ไม่ใช่หาทานได้ง่ายๆ น้า เพราะเป็นผลไม้ที่นิยมของคนไทยและต่างชาติ ทั้งนี้ ทุเรียนสายพันธุ์ที่ได้นิยมมาก ได้แก่ หมอนทอง ก้านยาว ชะนี และสายพันธุ์หลงลับแล
ประโยชน์ของทุเรียนต่อสุขภาพ
- ช่วยบำรุงระบบการทำงานและระบบเผาผลาญในร่างกายให้เป็นปกติ
- ช่วยในเรื่องการขับถ่ายให้ดีขึ้น เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยใยอาหารสูง
- ทุเรียนมีสารโพลีฟีนอล (Pholyphenols) ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลในร่างกาย
- ช่วยบำรุงสมองเพราะทุเรียนอุดมไปด้วยโฟเลต ที่สามารถป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
- ทุเรียนมสายพันธุ์หมอนทองและก้านยาว มีฤทธิ์กำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และชะลอวัย
- มีสารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคตาเสื่อม และต้อกระจกได้ โดยเฉพาะทุเรียนสายพันธุ์ชะนี และพวงมณี
ข้อควรระวังการรับประทานทุเรียน
- ไม่ควรทานทุเรียนมากเกินไป อาจทำให้ภายในร่างกายเกิดความร้อน และเจ็บคอได้
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิต หลอดเลือดหัวใจตีบ ควรทานวันละไม่เกิน 1 เม็ดเล็ก เพราะในทุเรียนจะมีน้ำตาลสูง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยแป้งและไขมัน
- ควรหลีกเลี่ยงการทานทุเรียนร่วมกับกาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นอาหารประเภทมีฤทธิ์ร้อนเหมือนกัน อาจทำให้รู้สึก วิงเวียนศีรษะ อาเจียน และเป็นลมได้
6. ลิ้นจี่
Cr: shutterstock
ลิ้นจี่ เป็นผลไม้หน้าร้อนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองสุด ๆ วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวสดชื่นและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ลิ้นจี่สามารถทานเป็นผลไม้ หรือนำมาแปรรูปเป็นส่วนประกอบของจามหรือเครื่องดื่มก็ได้ ลักษณะของลิ้นจี่มีเปลือกชมพูเข้มจนเกือบแดงทำให้โดดเด่นสวยงาม น่ารับประทาน นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์มากมาย และลิ้นจี่สายพันธุ์ที่นิยมมากอันดับต้นๆ คือ พันธุ์ฮงฮวย พันธุ์จักรพรรดิ และพันธุ์กิมเจ็ง
ประโยชน์ของลิ้นจี่ต่อสุขภาพ
- บรรเทาอาการคัดจมูก
- ช่วยรักษาอาการท้องเดิน
- ลดกรดในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม
- ป้องกันการเกิดและช้วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
- บรรเทาอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร และช่วยระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
ข้อควรระวังการรับประทานลิ้นจี่
- หากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้เกิดร้อนในได้
- ใครมีอาหารเวียนหัว ตาลาย ปวดเมื่อยเอว ร้อนอุ้งเท้า ปากคอแห้ง ลิ้นแดง มีฝ้าน้อย ไม่ควรทานลิ้นจี่
7. เงาะ
Cr: shutterstock
อีกหนึ่งผลไม้หน้าร้อนที่มาคู่กับทุเรียน และมังคุด นั่นก็คือ เงาะ โดยส่วนใหญ่แล้วชาวสวนมักจะปลูกไว้ในสวนเดียวกัน มักจะปลูกในบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ ผลเงาะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะเปลือกมีขนสีแดง รสชาติหวานฉ่ำอมเปรี้ยวนิดๆ ใครถ้าลองรับลองต้องติดใจแน่นอน ราคาไม่แพง ซึ่งหาทานได้ในเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น นอกจากนี้เงาะยังถูกนำไปแปรรูปเป็นผลไม้กระป๋องอีกด้วย ซึ่งสายพันธุ์เงาะที่ได้รับความนิยมทานกันมากที่สุด คือ เงาะพันธุ์โรงเรียน เงาะพันธุ์สีทอง และเงาะพันธุ์สีชมพู
ประโยชน์ของเงาะต่อสุขภาพ
- ลดการอักเสบของช่องปาก
- ช่วยลดอาการป่วย อาการเจ็บคอ เเละลดไข้
- ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน
- มีไฟเบอร์สูง จึงช่วยให้ลำไส้ย่อยอาหารต่าง ๆ ได้ดี
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ
- ช่วยดับคลายความร้อนในร่างกาย เติมความสดชื่น ทำให้รู้สึกดีมากยิ่งขึ้น
- มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ในร่างกายได้ จึงสามารถช่วยแก้อาการท้องร่วง และท้องเสียได้
- อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน แทนนิน แมกนีเซียม วิตามินบี 1,2,3 และ วิตามินซี
ข้อควรระวังการรับประทานเงาะ
- โรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง เพราะเงาะเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง
- หากรับประทานมากเกินไป อาจจะทำให้ท้องอืดหรือท้องผูกได้ เพราะในเงาะมีสารแทนนิน (Tannin)
8. มังคุด
Cr: shutterstock
เมื่อมีราชาผลไม้ ก็ต้องมีราชินีผลไม้หน้าร้อนก็คือ “มังคุด” อีกหนึ่งผลไม้ฤดูร้อนที่ผู้คนชอบทานมาก ไม่เฉพาะแต่คนไทยเท่านั้น ด้วยรสชาติที่หวานไปจนถึงหวานอมเปรี้ยวกำลังดี ที่มีเนื้อชุ่มฉ่ำ ยิ่งถ้าเป็นมังคุดที่มีเมล็ดเล็กและเนื้อนุ่มฟูด้วยแล้ว พูดเลยว่าน่ารับประทานสุด ๆ ใครที่ลิ้มรสมังคุดแนะนำให้ทานในช่วงฤดูร้อน เพราะเป็นผลไม้หน้าร้อนที่หาทานได้ยากในช่วงนอกฤดู โดยมังคุดในไทยจะมีเพียงแค่สายพันธุ์เดียว แต่มีการปลูกในพื้นที่หลายจังหวัด เช่น ภาคตะวันออก ภาคใต้ และจังหวัดนนทบุรี
ประโยชน์ของมังคุดต่อสุขภาพ
- ช่วยรักษาโรคเหงือกอักเสบได้
- สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย และลดรอยสิวได้
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ได้
- ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และระบบขับถ่ายดีขึ้น
- อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี1บี2 บี3 บี6 บี9 และบี12
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ และกระเพาะอาหาร
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยลดไขมันเลวในเส้นเลือดได้
- ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงพละกำลัง เติมความสดชื่น ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า
- บำรุงผิวพรรณ ฟื้นฟูสภาพผิวให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ
ข้อควรระวังการรับประทานมังคุด
- ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะมังคุดมีปริมาณน้ำตาลสูง
- คนที่มีโรคประจำตัวอย่าง โรคเบาหวาน ควรต้องระวังในการบริโภคมังคุด
- มังคุดจะมสารแทนนิน (Tannin) อยู่ที่เปลือก หากบริโภคมากเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของตับและไตได้
และทั้งหมดนี้ก็คือ ผลไม้หน้าร้อนที่เราได้คัดเลือกมาฝากกันสำหรับฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ จริง ๆ แล้วผลไม้ฤดูร้อนยังมีให้เลือกรับประทานอีกมากมาย ซึ่งผลไม้บางชนิดสามารถหาทานได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าจะเลือกทานให้อร่อยควรเลือกผลไม้ที่ออกตามฤดูกาลจะให้รสชาติที่ดี ใครชอบผลไม้ชนิดไหนก็ลองไปหาซื้อมาทานกันได้เลย แต่ไม่ควรทานในปริมาณที่มากเกินไป ถึงแม้ผลไม้จะมีประโยชน์ก็ตาม แต่ถ้าอะไรที่มากเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน สำหรับใครที่มองหาเครื่องปั่นผลไม้ หรือมองหาอุปกรณ์ทำขนมเพื่อแปรรูปผลไม้ต่าง ๆ ที่ Shopee ก็มีให้เลือกช้อป ส่วนใครสนใจอยากหาสูตรทำอาหารหรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิธีทําข้าวเหนียวมะม่วง วิธีทําไอศครีม วิธีทำบิงซู สูตรโฮมเมด สูตรม็อกเทล เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ และ วิธีทำซุปกิมจิ สามารถติดตามอ่านบทความที่ Shopee Blog ได้เลย!!