สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟแล้ว การได้สั่งกาแฟหอมๆ คุณภาพดีๆ ที่ร้านนับเป็นโมเมนต์อันเลอค่า แต่การต้องเดินไปร้านกาแฟทุกวันนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ดีทุกวันนี้เราสามารถยกร้านกาแฟมาไว้ที่บ้านได้ด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีราคาไม่แพง และมีขนาดเล็กทำให้การชงกาแฟเป็นเรื่องง่ายเพียงกดปุ่ม ทั้งยังได้คุณภาพดีเทียบเท่าบาริสต้ามาชงเองอีกด้วย ซึ่งหากใครกำลงมองหาเครื่องชงกาแฟสักเครื่องอยู่ คราวนี้ Shopee ก็มีรีวิว เครื่องชงกาแฟแคปซูลยี่ห้อไหนดี 2023 ทั้ง 10 รุ่นที่คัดมาแล้วมาให้ได้เลือกกัน ตามไปดูได้เลย!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
เครื่องชงกาแฟแคปซูลคืออะไร ต่างกับเครื่องชงกาแฟทั่วไปอย่างไร
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงกาแฟแบบต้องใช้เตาต้มหรือเครื่องชงกาแฟแบบไฟฟ้า ต่างก็มีกลไกการใช้แรงดันน้ำร้อนเพื่อสกัดส่วนประกอบและกลิ่นของกาแฟออกมาพร้อมน้ำ กลายเป็นช็อตกาแฟอย่างที่เรารู้จักกันดี กลไกเหล่านี้ในยังใช้ในเครื่องชงกาแฟแบบไฟฟ้าทั่วไปและเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นในแบบที่ไม่ต่างกัน เพียงแค่ว่าเครื่องชงกาแฟทั่วไปจะใช้เมล็ดกาแฟคั่วบดเป็นตัวตั้งต้นเพื่อสกัดกาแฟออกมา ขณะที่เครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นใช้ส่วนประกอบในแคปซูลเป็นสารตั้งต้นให้ได้เครื่องดื่มที่ต้องการ ทำให้เครื่องชงกาแฟทั้งสองชนิดมีความแตกต่างด้านการใช้งานอยู่บ้าง
1. ความหลากหลายของกาแฟที่ใช้
เครื่องชงกาแฟทั่วไปเราสามารถเลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่มีอยู่หลากหลายในท้องตลาดมาลองชิมได้ แต่สำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นจำกัดเฉพาะเมล็ดกาแฟที่ถูกเลือกมาบรรจุแคปซูลเท่านั้น
2. ความสะดวกในการใช้งาน
การชงกาแฟจากเครื่องชงกาแฟนั้นมีความซับซ้อน เริ่มตั้งแต่การบดกาแฟ การเตรียมกาแฟเข้าเครื่อง แล้วจึงค่อย ๆ รอช็อตกาแฟให้ออกมา แต่สำหรับการชงกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้น เพียงแค่ใส่แคปซูลลงไป ปรับระดับน้ำ/ความร้อนที่ต้องการ ก็จะได้เครื่องดื่มที่ต้องการอย่างรวดเร็ว
3. ความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ใช้
การใช้เครื่องชงกาแฟทั่วไปอาจต้องมีการเก็บเมล็ดกาแฟไว้เป็นเวลานาน ซึ่งยิ่งเก็บไว้นานกลิ่นหอมของกาแฟที่ก้นถุงก็จะน้อยลง แต่สำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นสามารถมั่นใจได้ว่ากาแฟทุกแก้วที่มาจากแคปซูลจะได้คุณภาพเหมือน ๆ กัน
4. ราคาต่อถ้วย
แน่นอนว่าแคปซูลกาแฟสำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นใช้วัสดุมากกว่า และมักมีราคาแพงกว่ากาแฟสำหรับใช้ชงกาแฟในเครื่องชงกาแฟทั่วไป
วิธีเตรียมกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูล
ปกติแล้วเครื่องชงกาแฟแคปซูลแต่ละรุ่นจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เครื่องชงกาแฟแคปซูลบางรุ่นสามารถปรับระดับน้ำได้หลายระดับ ขณะที่บางรุ่นเซ็ตไว้ให้เลือก 2 ระดับก็เพียงพอแล้ว ยิ่งกว่านั้นเครื่องชงกาแฟแคปซูลบางรุ่นยังสามารถเลือกอุณหภูมิของน้ำที่ใช้สกัดแคปซูลกาแฟได้อีกด้วย
เพื่อความสะดวกในการรีวิวเครื่องทำกาแฟแคปซูลในคราวนี้ เราจึงขอเล่าถึงวิธีเตรียมกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบเบสิคกันก่อน เริ่มจากการเติมน้ำใส่แท็งก์บรรจุน้ำ จากนั้นเปิดเครื่องซึ่งอาจใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อเตรียมน้ำร้อน เมื่อไฟที่เครื่องแสดงสัญญาณพร้อมทำงานแล้วก็เติมแคปซูลใส่ช่องบรรจุแคปซูล จากนั้นเตรียมแก้วกาแฟวางไว้ใต้หัวจ่าย และเมื่อกดปุ่มเริ่มทำงาน เราก็จะได้กาแฟหอม ๆ มาง่าย ๆ แบบนี้เลย
อย่างไรก็ดีชนิดของกาแฟที่สามารถชงได้ด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูลอาจมีได้หลายแบบ เช่น
- Espresso เป็นกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นปริมาณไม่เกิน 30ml เป็นส่วนต้ังต้นของการปรุงกาแฟอื่น ๆ เช่น อเมริกาโน่ ลาเต้ หรือคาปูชิโน่ต่อไป
- Americano หรือ Long Black เป็นการนำช็อต Espresso มาเติมน้ำร้อน ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาตินุ่มขึ้น
- Lungo เป็นกาแฟที่ใช้น้ำสกัดกาแฟทั้งหมด 90 ml โดยไม่ได้ใช้การเจือจางน้ำเหมือน Americano ทำให้มีรสขมฝาดกว่า
รวมลิสต์ 10 เครื่องชงกาแฟแคปซูลยี่ห้อไหนดี 2023
เมื่อทำความรู้จักกับเครื่องชงกาแฟแคปซูลกันไปแล้ว คราวนี้เราลองไปดูกันต่อเลยว่ารีวิวเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้มีรุ่นไหนให้ชมกันบ้าง
1. Krups Nescafe Dolce Gusto เครื่องชงกาแฟแคปซูล Piccolo XS รุ่น PK1A0866
เริ่มกันที่เครื่องชงกาแฟแคปซูลไซส์มินิจาก NESCAFÉ® Dolce Gusto® ด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูล Piccolo XS รุ่น PK1A0866 ที่ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลที่มีขนาด”เล็กกระทัดรัด” ที่สุดของ NDG กันเลยทีเดียว
ตัวเครื่องไม่ได้มีดีแค่ไซส์กะทัดรัดรูปร่างน่ารัก แต่ยังครบครันด้วยฟังก์ชั่นการทำกาแฟที่ให้แรงดันน้ำมาถึง 15 บาร์ ปรับระดับน้ำได้ 3 รูปแบบ ซึ่งไม่เพียงใช้ทำกาแฟเท่านั้น แต่ยังใช้ปรุงเครื่องดื่มได้หลากหลาย ไม่ว่าจะร้อนหรือเย็นก็เอาอยู่ ซึ่งด้วยราคาที่ไม่แพง เครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นทดลองใช้
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: Dolce Gusto
- ขนาด: กว้าง 14 x สูง 28 x ยาว 27 ซม.
- น้ำหนัก: 2.4 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 0.8 ลิตร
- แรงดัน: 15 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: ปรับระดับน้ำได้ 3 รูปแบบ
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : n/a
- ราคา: ฿1,509
2. Xiaomi Mijia เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น S1301
สำหรับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดีจากจีนอย่าง Xiaomi ก็ส่งเครื่องชงกาแฟแคปซูล Xiaomi Mijia รุ่น S1301 มาให้ได้เลือกใช้ ซึ่งเครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นนี้รองรับการใช้งานกับแคปซูลกาแฟ Nespresso ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะได้กาแฟที่กลิ่นหอมอะโรม่าดีสุด ๆ
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาในรูปแบบที่มินิมอลสวยและดูดี เหมาะกับการตกแต่งครัวหรือมุมกาแฟได้แบบเข้ากันสุด ๆ กับสไตล์มินิมอลที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ และไม่เพียงแค่หน้าตาดี แต่การใช้งานตัวเครื่องยังสามารถทำกาแฟได้ด้วยความดัน 20 บาร์ เก็บกลิ่นรสอโรม่าได้แบบครบ ๆ ทั้งยังสามารถใช้ทำกาแฟได้ทั้ง Espresso/ Lungo ก็นับเป็นเครื่องชงกาแฟรุ่นเล็กที่เต็มไปด้วยความสามารถทำกาแฟไว้ได้อย่างครบถ้วน
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: Nespresso
- ขนาด: กว้าง 8.5 x ยาว 32 x สูง 21.3 ซม.
- น้ำหนัก: 2.4 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 0.6 ลิตร
- แรงดัน: 20 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: Espresso/ Lungo
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : n/a
- ราคา: ฿2,290
3. Baliza เครื่องชงกาแฟแคปซูล 4 in 1
มาถึงเครื่องชงกาแฟที่ขึ้นชื่อว่าอเนกประสงค์สุด ๆ ก็คงหนีไม่พ้น Baliza เครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ 4-in-1 ที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะใช้เครื่องที่สนับสนุนแคปซูลกาแฟของ Dolce Gusto หรือ Nespresso เพราะด้วยเครื่องนี้ก็สามารถทำกาแฟได้จากแคปซูลกาแฟทั้งสองแบบ แถมด้วยการชงกาแฟบด และการชงกาแฟพอดทั่วไปอีกด้วย
ตัวเครื่องมาพร้อมกับแรงดันน้ำ 19 บาร์ ให้แรงดันที่เก็บกลิ่นรสกาแฟไว้ได้ดี สามารถปรับระดับน้ำได้ 2 ระดับ ซึ่งด้วยความอเนกประสงค์ของการทำกาแฟแบบนี้ ทำให้เครื่องชงกาแฟแคปซูลจาก Baliza เครื่องนี้เหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่อยากเลือกทาง ไปจนถึงมือเก๋าที่ชอบทดลองการปรุงกาแฟในหลาย ๆ รูปแบบด้วย
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: 4-in-1
- ขนาด: กว้าง 11 x ยาว 27 x สูง 25 ซม.
- น้ำหนัก: 2.68 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 0.8 ลิตร
- แรงดัน: 19 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: ปรับระดับน้ำได้ 2 ระดับ
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : ใช้ได้ทั้งการชงกาแฟด้วยแคปซูล Dolce Gusto, Nespresso, ชงกาแฟบด, ชงกาแฟพอด
- ราคา: ฿2,890
4. Nespresso เครื่องชงกาแฟ รุ่น Essenza Mini
สำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลของ Nespresso ที่ได้รับความนิยมสูงอีกรุ่นหนึ่งก็คงหนีไม่พ้น Nespresso รุ่น Essenza Mini ที่ออกแบบมาให้มีหน้าตาสวยหรูดูแพง แต่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งานในแบบที่เหมือนได้บาริสต้ามาชงให้เองเลยทีเดียว
ตัวเครื่องสนับสนุนการใช้กับแคปซูลกาแฟ Nespresso ด้วยถังน้ำที่มีความจุ 0.6 ลิตร เหมาะกับการใช้งานแบบเบา ๆ สามารถชงกาแฟได้ด้วยแรงดัน 19 บาร์แบบไม่มากไม่น้อย ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลสวย ๆ ให้คุณภาพในการปรุงกาแฟแบบจัดเต็ม ต้องรุ่นนี้เลย เหมาะสุด!
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: Nespresso
- ขนาด: กว้าง 11 x ยาว 20.5 x สูง 32.5 ซม.
- น้ำหนัก: 2.3 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 0.6 ลิตร
- แรงดัน: 19 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: Espresso/ Lungo
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : n/a
- ราคา: ฿4,100
5. Worldtech เครื่องชงกาแฟแคปซูล 3 in 1 รุ่น WT-CM250
อีกหนึ่งเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีฟังก์ชั่นการทำกาแฟแบบครบ ๆ คงหนีไม่พ้น Worldtech รุ่น WT-CM250 ตัวนี้เลย ที่สนับสนุนการทำกาแฟถึง 3 รูปแบบ ทั้ง Nespresso + Dolce-Gusto + ชงกาแฟบด โดยไม่ต้องเลือกเลยว่าจะใช้แคปซูลกาแฟแบบไหน เรียกได้ว่าสะดวกสุด ๆ
ตัวเครื่องมาพร้อมกับถังน้ำความจุ 0.6 ลิตร รองรับการชงกาแฟ 2 รูปแบบคือ แบบ Short-shot และ Long-shot ซึ่งด้วยราคาในหลักแบงค์พัน 2 ใบเอาอยู่แบบนี้ ต้องบอกเลยว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้ค่อนข้างคุ้มสำหรับมือใหม่ที่ไม่อยากเลือก รวมถึงคอกาแฟที่ชื่นชอบการทดลองปรุงกาแฟในหลาย ๆ รูปแบบด้วย
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: 3-in-1
- ขนาด: ยาว 26.5 x กว้าง 11 x สูง 24.5 ซม.
- น้ำหนัก: 4 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 0.6 ลิตร
- แรงดัน: 19 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: Short-shot (50ml)/ Long-shot (150ml)
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : ตัวเครื่องรองรับ กาแฟแคปซูล แบบ Nespresso + Dolce-Gusto + ชงกาแฟบด
- ราคา: ฿1,925
6. เครื่องชงกาแฟแคปซูล Duchess CM6300
หากพูดถึงเครื่องชงกาแฟแคปซูลสัญชาติไทยต้องรีวิวเครื่องชงกาแฟแคปซูลจาก Duchess ตัวนี้เลยกับรุ่น CM6300 ซึ่งไม่เพียงแค่คุณภาพของกาแฟที่ปรุงได้ แต่ยังมาพร้อมกับราคาที่ไม่แพงอีกด้วย
สำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูล Duchess CM6300 รุ่นนี้ใช้เข้าคู่ได้กับเฉพาะแคปซูลกาแฟ Nespresso โดยใช้แรงดัน 19 บาร์ตามมาตรฐานและยังสามารถปรับระดับน้ำในการชงได้ถึง 9 ระดับ เรียกได้ว่ารองรับการใช้งานในหลายรูปแบบมาก ๆ
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: Nespresso
- ขนาด: กว้าง 10 x ยาว 34 x สูง 24.5 ซม.
- น้ำหนัก: 3.1 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 0.6 ลิตร
- แรงดัน: 19 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: เลือกการชงได้ 9 ระดับ ( ปริมาณ 15 มล. – 180 มล.)
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : n/a
- ราคา: ฿3,190 – ฿5,290
7. ILLY เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น Y3.3
มาถึงหนึ่งในแบรนด์กาแฟที่ขึ้นชื่อที่สุดในโลกอย่าง ILLY ก็มีเครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่น Y3.3 มาให้ได้ใช้กัน โดยเครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นน่ารักตัวนี้มาพร้อมกับสไตล์มินิมอล มีให้เลือก 3 สีสุดคลาสสิคอย่างสีขาว สีดำ และสีแดง โดยสนับสนุนการใช้งานกับแคปซูลกาแฟของ ILLY อย่าง Iperespresso โดยเฉพาะ
ตัวเครื่องใช้แรงดัน 19 บาร์ตามมาตรฐาน ทำกาแฟได้ 2 แบบ คือ Espresso และ Lungo ทั้งยังมาพร้อมกับเครื่องทำฟองนมไฟฟ้า เรียกได้ว่าจับคู่กันมาแบบครบ ๆ ให้กลิ่นกาแฟและความนุ่มของฟองนมแบบเข้ากันได้สุด ๆ
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: Iperespresso
- ขนาด: 10 x 29.8 x 25.4 cm
- น้ำหนัก: 3.4 กิโลกรั
- ความจุถังน้ำ: 0.75 ลิตร
- แรงดัน: 19 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: Espresso/ Lungo
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : มาพร้อมเครื่องทำฟองนมไฟฟ้า
- ราคา: ฿7,699
8. Xiaomi SCISHARE Capsule Coffee Manchine
อีกหนึ่งเครื่องชงกาแฟแคปซูลจาก Xiaomi กับ Xiaomi SCISHARE เครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นใช้ง่าย แต่ครบด้วยคุณสมบัติการทำกาแฟระดับคุณภาพ
ตัวเครื่องใช้แรงดันน้ำ 19 บาร์ สามารถปรุงกาแฟได้หลายรูปแบบ (ปรับแมนนวล) ไม่ว่าจะเป็น Ristretto, Espresso, Lungo ก็เอาอยู่ และด้วยการสนับสนุนการใช้แคปซูลกาแฟจาก Nespresso ก็การันตีความหอมกรุ่นของกาแฟที่ได้ได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: Nespresso
- ขนาด: 340 x 260 x 100mm.
- น้ำหนัก: 5 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 5.8 ลิตร
- แรงดัน: 19 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: Ristretto, Espresso, Lungo
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ :
- ราคา: ฿1,990 – ฿2,390
9. เครื่องชงกาแฟ Nescafe Genio s basic
สำหรับเครื่องชงกาแฟ Nescafe Genio S ตัวนี้สนับสนุนการใช้งานกับแคปซูลกาแฟ Dolce Gusto ที่สามารถปรุงกาแฟได้หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น ชาเขียว หรือ โกโก้ ฯลฯ อีกด้วย
ด้วยเครื่องขนาดเล็กน่ารัก ไซส์มินิกะทัดรัด แต่สามารถชงกาแฟได้ถึง 7 ระดับน้ำ พร้อมฟังก์ชั่นแจ้งเตือนการล้างตะกรันอัตโนมัติ ทั้งยังสามารถเลือกอุณหภูมิได้ถึง 2 ระดับ เรียกได้ว่ามีฟังก์ชั่นการทำกาแฟให้คอกาแฟได้เลือกรังสรรค์อย่างสนุกสนานเลย
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: Dolce Gusto
- ขนาด: 11 x 27 x 29 ซม.
- น้ำหนัก: 2 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 0.8 ลิตร
- แรงดัน:
- รูปแบบการชงที่รองรับ: เลือกการชงได้ 7 ระดับ
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : ระบบแจ้งเตือนล้างตะกรันอัตโนมัติ, ปรับอุณหภูมิได้ 2 ระดับ
- ราคา: ฿1,399 – ฿3,380
10. NESCAFE DOLCE GUSTO
และตัวสุดท้ายก็คงไม่พูถึงตัวนี้ไม่ได้กับ Nescafe Dolce Gusto ที่เป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลอีกตัวหนึ่งจาก Nescafe ที่สนับสนุนแคปซูลกาแฟแบบ Dolce Gusto ที่สามารถปรุงเครื่องดื่มได้หลากหลาย ไม่เฉพาะการปรุงกาแฟเท่านั้น
ส่วนตัวเครื่องยังมีคุณสมบัติการปรุง Espresso อย่างเข้มข้นด้วยระบบ Espresso Boost ทั้งยังปรับระดับน้ำได้ 2 ระดับ คือ espresso และ XL ทั้งยังปรับอุณหภูมิได้ถึง 4 ระดับ ซึ่งเหมาะมาก ๆ กับการทดลองใช้ปรุงกาแฟในรูปแบบต่าง ๆ ให้ตรงใจ
คุณสมบัติ
- ชนิดของเครื่อง: Dolce Gusto
- ขนาด: 27 x 11 x 27 ซม.
- น้ำหนัก: 1.9 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำ: 0.8 ลิตร
- แรงดัน: 15 บาร์
- รูปแบบการชงที่รองรับ: espresso / XL
- ฟังก์ชั่นอื่นๆ : มีระบบเตือนล้างตะกรันอัตโนมัติ, ระบบ Espresso Boost, ปรับอุณหภูมิได้ 4 ระดับ
- ราคา: ฿3,490
เอาละทั้งหมดนี้ก็เป็นรีวิว เครื่องชงกาแฟแคปซูลยี่ห้อไหนดี 2023 ที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ซึ่งหากใครกำลังมองหาเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลอยู่ละก็ ลิสต์นี้ก็สามารถเป็นลิสต์สำหรับการเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ถูกใจได้อย่างแน่นอน และเมื่อเลือกได้แล้วก็อย่าลืมไปช็อปกันต่อได้เลย อ่านบทความเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ที่ Shopee Blog
อ้างอิง: