สับปะรดเป็นผลไม้ที่เรามักพบอยู่เสมอทั้งในเมนูอาหารคาว อย่างการเอาไปอบกับข้าวหรือเป็นส่วนประกอบในบาบิคิว รวมทั้งอาหารหวานอย่างผลไม้สดหรือสับปะรดลอยแก้ว ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่เข้ากันดีกับส่วนประกอบหลากหลายประเภท รวมถึงประโยชน์ของสับปะรดที่มีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นการช่วยย่อยอาหารหรือเป็นแหล่งของกากใยที่ช่วยการทำงานระบบขับถ่าย แต่ประโยชน์ของสับประรดไม่ได้มีอยู่แค่นั้น ดังนั้นคราวนี้เราลองมาทำความรู้จักผลไม้ชนิดนี้ให้มากกว่าที่เคยกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ทำความรู้จักกับสับปะรด
สับปะรดเป็นพืชล้มลุก มีเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น มะขะหนัด บ่อหนัด ขนุนทอง ย่านัด บักนัด ฯลฯ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ananas comosus (L.) ซึ่งแน่นอนว่าเรารู้จักกันดีในชื่อ Pineapple หรือ สับปะรดนั่นเอง
สายพันธุ์สับปะรด
สำหรับสายพันธุ์สับปะรดในประเทศไทยที่เรารู้จักและคุ้นชื่อนั้นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
- สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย หรือที่รู้จักกันในชื่อสับปะรดศรีราชา เป็นสับปะรดพันธุ์ที่มีผลใหญ่ที่สุด เนื้อมีรสหวานฉ่ำ และเป็นสับประรดพันธุ์ที่ส่งโรงงานเพื่อแปรรูปทำสับปะรดกระป๋อง สับปะรดพันธุ์นางแลก็มีลักษณะใกล้เคียงกับพันธุ์นี้ แต่มีรสหวานจัดกว่า และเป็นที่นิยมของตลาด
- สับปะรดพันธุ์อินทรชิต หรือพันธุ์ขาว เป็นสับปะรดพันธุ์พื้นเมืองเก่าแก่ที่สุดของไทย จุดเด่นภายนอกคือเมื่อแก่จัดจะมีตาลึก ผลค่อนข้างเล็ก เนื้อเป็นสีทองมีเส้นใยเยอะ รสไม่หวานมาก
- สับปะรดพันธุ์ภูเก็ต หรือ พันธุ์สวี สับปะรดพันธุ์นี้มีตาลึก เนื้อมีสีทอง กลิ่นหอม รสหวานกรอบ และเป็นอีกชนิดที่เป็นที่นิยมของตลาด
- สับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง มีจุดเด่นคือผลมักเป็นตา ๆ สีเหลืองทอง ภายในมีรสหวานกรอบฉ่ำทั้งผล น่ารับประทาน
- สับปะรดพันธุ์ภูแล มีรสชาติอร่อย มีกลิ่นหอม ส่วนแกนรับประทานได้ทั้งหมด ผลขนาดเล็ก ให้ผลทั้งปี
ประโยชน์ของสับปะรด
สับปะรดเป็นผลไม้ที่รับประทานได้ทั้งสดและแปรรูป สับปะรดสด 100 กรัมสามารถให้คุณค่าและสารอาหารที่หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ
- ให้พลังงานน้อย โดยสับปะรด 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 50 กิโลแคลลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 13.12 กรัม และยังมีไขมันต่ำเพียง 0.12 กรัมเท่านั้น
- เป็นผลไม้ที่ให้น้ำตาลต่ำเพียง 9.85 กรัมต่อเนื้อสับปะรดสด 100 กรัม ทำให้แม้แต่ผู้เป็นโรคเบาหวานก็ไม่จำเป็นต้องกังวลกับการรับประทานผลไม้ชนิดนี้
- เป็นแหล่งที่อุดมด้วยวิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6, 9 วิตามินซี
- มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ อย่างเบต้าแคโรทีน รวมถึงแร่ธาตุอย่างเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และโพรแทสเซียม
- มีเส้นใยสูงช่วยในการขับถ่าย
นอกจากสารอาหาร เรายังพบสารสำคัญที่เป็นส่วนประกอบในสับปะรดอย่าง กรดซิตริก กรดมาลิก รวมทั้งเอนไซม์ บรอมมีเลน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบไม่บ่อยในผลไม้ชนิดอื่น แต่สามารถช่วยย่อยอาหารประเภทโปรตีนให้มีขนาดเล็กลงได้ และด้วยประโยชน์ของสับปะรดตัวนี้จึงมักนิยมนำมารับประทานร่วมกับเนื้อสัตว์อย่างเสต็กหรือบาบีคิว รวมทั้งสามารถนำสับปะรดมาหมักเนื้อสัตว์เพื่อให้นุ่มลงได้ด้วย
สรรพคุณสับปะรด
นอกจากสับปะรดจะเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมายหลากหลายแล้ว ผลไม้ชนิดนี้ยังมีสรรพคุณทางยาอีกหลายประการ โดยสับปะรดเมื่อกินสดยังมีสรรพคุณในด้าน
เป็นยาตำหรับแพทย์แผนไทย
แก้ปัสสาวะขัด แก้นิ่ว เป็นยาระบาย ช่วยขับพยาธิ / ฆ่าพยาธิ ขับเหงื่อ กัดเสมหะในลำคอ ขับเสมหะ แก้ไอ ฯลฯ
ประโยชน์ของสับปะรดเฉพาะสำหรับผู้หญิง
ช่วยแก้ตกขาว ช่วยขับระดู บำรุงโลหิต และช่วยเร่งการคลอดบุตร
ประโยชน์ของสับปะรดเฉพาะสำหรับผู้ชาย
คือ ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศ ช่วยให้อสุจิแข็งแรง ส่วนความเชื่อที่ว่าสับปะรดช่วยให้น้ำอสุจิหวานนั้นยังไม่มีข้อพิสูจน์ แต่สภาพของน้ำอสุจิจะแตกต่างกันไปตามอาหารที่รับประทาน และการรับประทานสับประรดจะทำให้น้ำอสุจิมีรสอ่อนลง
ประโยชน์ของสับปะรดต่อผิวพรรณ
เนื่องจากสับปะรดอุดมด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินบี 3 และวิตามินซี ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งเนียนใสชุ่มชื้น และไม่ใช่แค่ประโยชน์ต่อผิวพรรณเท่านั้น
ประโยชน์ของสับปะรดต่อการลดน้ำหนัก
สับปะรดเป็นผลไม้ที่รู้จักกันดีในผู้ที่ลดน้ำหนัก เนื่องจากสับปะรดมีเส้นใยอาหารสูงจึงอยู่ท้องทำให้ไม่หิวง่าย แต่ขณะเดียวกันก็ให้พลังงานน้อย มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตต่ำ จึงไม่กลายมาเป็นพลังงานส่วนเกินจนไปพอกสะสมเป็นไขมัน เราจึงสามารถรับประทานขณะลดความอ้วนได้ และนับว่าผลไม้ลดน้ำหนักยอดนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักเลยทีเดียว
ประโยชน์ในด้านการต้านอนุมูลอิสระ
จากการศึกษาของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า น้ำคั้นของสับปะรดมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างอ่อน ๆ จึงสามารถช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ในร่างกายได้ นอกจากนั้นยังพบว่าสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ และยับยั้งมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย
โทษของสับปะรด
แม้ประโยชน์ของสับปะรดจะมีอยู่มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการรับประทานอยู่ด้วยเช่นกัน คือ
- ไม่ควรรับประทานสับปะรดขณะท้องว่าง เพราะสับปะรดมีฤทธิ์เป็นกรดและอาจระคายกระเพราะอาหารได้
- ไม่ควรรับประทานสับปะรดดิบเพราะอาจทำให้ท้องเสีย เนื่องจากสับปะรดดิบมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง
- ไม่ควรรับประทานสับปะรดมากเกินไป ด้วยความเป็นกรดของสับปะรดจะทำให้สมดุลกรด-เบสในร่างกายเปลี่ยนไป
- หากท่านใดที่รับประทานสับปะรดแล้วมีอาการปากเปื่อยแสบลิ้น ควรรับประทานสับปะรดคู่กับเกลือหรือแช่น้ำเกลือก่อนรับประทานจะช่วยบรรเทาผลนี้ได้
ผลิตภัณฑ์ง่าย ๆ ให้ร่างกายได้ประโยชน์ของสับปะรดไปเต็ม ๆ
เพื่อให้ได้รับประโยชน์ของสับปะรดได้อย่างเต็ม ๆ หากผู้อ่านไม่สะดวกในการหาซื้อสับปะรดสดมารับประทาน หรือไม่ชอบทานแบบสด เราก็มีทางเลือกอื่น ๆ ด้วยสับปะรดแปรรูปมาให้ได้เลือกลองชิมกัน
- สับปะรดอบแห้ง
- สับปะรดกวน
- พายสับปะรด
- แกงส้มสับปะรด
- บิสกิตสอดไส้สับปะรด
- คุกกี้สับปะรด
- น้ำสับปะรด
- ไวน์สับปะรด
- แยมสับปะรด
ด้วยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ของสับปะรดไปได้แบบง่าย ๆ และหลังจากที่เราได้สำรวจประโยชน์ของสับปะรดกันมาแล้วก็หวังว่าผลไม้ชนิดนี้จะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เพื่อน ๆ รับประทานเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงดูสุขภาพดีต่อไป
แหล่งข้อมูล : pharmacy.mahidol
Feature Image credit : Freepik