“กระต่าย” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดน่าฟัด น่ากอด มีขนปุกปุยและดวงตากลมโตจึงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่กินง่าย ขยายพันธุ์ได้เร็วและมีหลากสายพันธุ์ให้เลือกตามความชอบซึ่งถ้าหากใครอยากเลี้ยงเจ้ากระต่ายน้อยขนปุย วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับวิธีเลี้ยงกระต่ายฉบับมือใหม่มาฝากคุณผู้อ่านถึง 3 สายพันธุ์ด้วยกัน การเลี้ยงดูกระต่ายจะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไหร มีสายพันธุ์ใดบ้างมาติดตามกัน
กระต่ายพันธุ์ เนเธอร์แลนด์ ดวอร์ฟ (Netherland Dwarf rabbit)
เริ่มกันที่วิธีเลี้ยงกระต่ายพันธุ์ เนเธอร์แลนด์ ดวอร์ฟ หรือที่หลายคนเรียกว่า “เจ้ากระต่ายแคระ ND” เนื่องจากเป็นกระต่ายแคระอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดซึ่งจะมีน้ำหนักตัวโตเต็มที่ไม่เกิน 1.15 กิโลกรัม
- ลักษณะเด่น: จะค่อนข้างมีลักษณะใบหูสั้นประมาณ 1 นิ้วโดยตั้งขึ้นขนานกัน หรือมีขนาดใบหูยาวไม่เกิน 2 นิ้ว โครงสร้างค่อนข้างสมส่วน ส่วนหัวและลำตัวจะมีขนาด 1:2 ซึ่งเมื่อนั่งจะมีหัวคล้ายลูกบอล ขนต้องสั้นและหนาแน่น ไม่หยาบกระด้าง เมื่อลองลูบย้อนแนวเส้นขนจะคืนตัวได้เร็ว นอกจากนี้ ND ยังมีสีอย่างหลากหลายทั้งกลุ่มสีพื้นที่มีสีเดียวกันตลอดทั้งตัว หรือกลุ่มสีเฉดที่มีความเข้มในแต่ส่วนของลำตัวไม่เท่ากัน
- ลักษณะนิสัย: จะค่อนข้างซน ชอบวิ่งเล่น ไม่ชอบหยุดนิ่งอยู่กับที่ หลายตัวมักจะเเสดงอาการหงุดหงิดจึงไม่ชอบให้ใครมาจับตัว แต่สำหรับบางตัวนิสัยค่อนข้างเรียบร้อย หรือขี้อ้อนแต่โดยสัญชาตญาณกระต่ายมักจะกลัวความสูงจึงควรระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
- วิธีเลี้ยงกระต่าย: ต้องมีความระมัดระวังในการอุ้มอย่างถูกวิธี โดยไม่ควรรวบหูกระต่าย หรือหิ้วเป็นอันขาดเนื่องจากเป็นส่วนประสาทสำคัญของกระต่ายซึ่งวิธีการอุ้มที่ถูกวิธีคือ การจับส่วนบริเวณคอแล้วอุ้มก้นกระต่าย หรืออาจจะนอนจับหงายอุ้มกระต่ายไว้ในอ้อมกอดซึ่งจะช่วยให้กระต่ายนิ่งลงและแอบหลับไปเลยก็มี
- อาหาร: หากกระต่ายมีอายุมากกว่า 45 วัน หรือมีการหย่านมแล้วควรให้อาหารชนิดเดิมในช่วง 1-2 วันหากเข้าวันที่ 3 ครเปลี่ยนเป็นอาหารชนิดใหม่ซึ่งโดยปกติอาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นผักสด หรือหญ้าสด โดยควรละเว้นอาหารเหล่านี้ อาทิ แตงกวา กะหล่ำปลีและผักบุ้ง เนื่องจากผักเหล่านี้มีสารตกค้างค่อนข้างเยอะจุงอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของกระต่ายได้ อาหารที่แนะนำก็คือ คะน้า กว้างตุ้ง ขึ้นฉ่ายและผักกาดหอม สำหรับแครอทให้ทานได้แต่ในปริมาณน้อยเนื่องจากมีแป้งมากเกินไป
กระต่ายฮอลแลนด์ลอป (Holland Lop)
มาต่อกันที่วิธีเลี้ยงกระต่ายฮอลแลนด์ลอป (Holland Lop) ซึ่งติดหนึ่งในกระต่ายยอดฮิตในหลายประเทศที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1949 จนมีหน้าตาน่ารักเป็นที่นิยมและชื่นชอบของคนโดยทั่วไปโดยตามมาตรฐานของ ARBA: American Rabbit Breeder’s Association จะต้องมีน้ำหนักตัวโตเต็มที่ไม่เกิน 1.8 กิโลกรัมซึ่งโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1.3 – 1.4 กิโลกรัม
- ลักษณะเด่น: กระต่ายฮอลแลนด์ลอปจะหูตกสนิทแต่สั้นหนา ลำตัวสั้นแต่มีกล้ามเนื้อแน่นหนา ช่วงบริเวณเอว หรือสะโพกควรมีลักษณะที่กว้างและใหญ่เป็นอัตราส่วนกับลำตัวคือ 1:3 และกระดูกหนา สำหรับส่วนหัวจะกลมโต
- ลักษณะนิสัย: ค่อนข้างเชื่อง เลี้ยงง่ายจึงมักจะกลายเป็นที่หลงรัก บางตัวจะชอบวิ่งมาหาเจ้าของแต่ก็ยังมีความเป็นกระต่ายสูงคือ มักชอบใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการนอนจึงไม่ต้องกังวลว่าเจ้าฮอลแลนด์ลอปจะวิ่งเล่น หรือเที่ยวซนเพราะจะหลับตลอดทั้งวัน อีกลักษณะนิสัยหนึ่งที่โดดเด่นคือ การหากินตอนกลางคืน
- วิธีเลี้ยงกระต่าย: กระต่ายเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างสะอาดจึงไม่จำเป็รต้องอาบน้ำจะอาบก็เฉพาะเมื่อตัวมอมแมมซึ่งควรระวังเรื่องการใช้แชมพูเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง สำหรับที่เลี้ยงก็ไม่ควรอยู่ในทีที่มีลมแรง แสงแดดจัด ต้องมีอากาศถ่ายเทดี ไม่อบอ้าว พื้นไม่แฉะ หรือชื้นเพราะจะนำพาหะก่อโรคมาสู่กระต่ายได้และที่สำคัญควรรักษาความสะอาดอยู่สม่ำเสมอและครพาไปตรวจสุขภาพปีละครั้ง
- อาหาร: 80% ของอาหารคือหญ้าชนิดต่าง ๆ อาทิ หญ้าแพงโกล่า หญ้าอัลฟาฟ่าที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป นอกจากนี้ก็เป็นผักจำพวกผักกาดหอม ผักยี่หร่า ข้างโพดอ่อน แครอท แอปเปิ้ลและบลอกโคลีแต่ก็ไม่ควรให้กระต่ายทานผักสดทุกวัน
กระต่ายพันธุ์เร็กซ์
ทิ้งท้ายกันวิธีเลี้ยงกระต่ายพันธุ์เร็กซ์ (Rex Rabbit) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนามาจากประเทศฝรั่งเศสในปี 1919 และได้รับการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนถูกยอมรับโดยสมาคมมาตรฐานของ ARBA และ BSR โดยได้กำหนดน้ำหนักอยู่ระหว่าง 3.4 – 7.6 กิโลกรัมแต่สำหรับกระต่ายเพศเมียอาจจะมีน้ำหนักที่มากกว่าเพศผู้เล็กน้อย
- ลักษณะเด่น: ความนุ่มของขนที่คล้ายผ้ากำมะหยี่จึงให้ความรู้สึกหรูหรา (Luxury) เนื่องจากขนที่สั้นหนาและเป็นมัน โครงสร้างสมดุลได้สัดส่วน ลำตัวสั้นเล็กกะทัดรัด หัวโตแต่สมดุลกับลำตัว ส่วนหูสั้น ตากลมโต สีตาต้องได้มาตรฐานตามประเภทสีที่ทำประกวดและหางต้องตรง
- ลักษณะนิสัย: นิสัยโดยทั่วไปของกระต่ายพันธุ์เร็กซ์จะค่อนข้างขี้สงสัย แต่มีความเป็นกันเองซึ่งใจดี ไม่กัด ไม่ข่วนและจะแสดงกิริยาที่เล่นด้วยอย่างอ่อนโยน แต่สำหรับตัวผู้จะค่อนข้างมีอารมณ์ฉุนเฉียวและหงุดหงิดง่ายกว่าตัวเมียจึงควรพาไปทำหมัน
- วิธีการเลี้ยงดูกระต่าย: บ้าน หรือกรงกระต่ายที่ให้กระต่ายอยู่จะต้องมีขนาดใหญ่กว่าลำตัวประมาณ 4 – 6 เท่าเพื่อที่กระต่ายจะสามารถนอนเหยียดได้อย่างสบายและมีพื้นที่วิ่งเล่นไปมาและควรสังเกตตรงพื้นกรงต้องไม่กว้างจนเกินไปเพราะกระต่ายจะเหยียบไม่ถนัดจึงแนะนำให้ซื้อแผ่นพลาสติกที่มีรูคล้ายตะแกรงมาวาง สำหรับภาชนะใส่น้ำและอาหารก็ควรเลือกของที่มีคุณภาพไม่เปราะ หรือแตกง่าย
- อาหาร: สำหรับอาหารควรได้รับทั้งผักสดตจำพวกผักและหญ้าเพราะมีไฟเบอร์ที่ช่วยให้ขับถ่ายและสร้างขนซึ่งอาจจะสลับกับการให้อาหารกระต่ายแบบเม็ดเพื่อให้กระต่ายได้สารอาหารที่ครบถ้วน ข้อแนะนำสำหรับผักที่ซื้อมาจากตลาดสดควรล้างทำคามสะอาดให้ดีเสียก่อนเพราะอาจมีสารพิษตกค้างซึ่งอาจทำให้กระต่ายตายได้นั่นเอง หลายคนจึงเลือกให้กระต่ายทานเพียงแค่อาหารเม็ดเท่านั้น
จบลงไปแล้วกับการเลี้ยงกระต่ายทั้ง 3 สายพันธุ์ทั้งเนเธอร์แลนด์ ดวอร์ฟ ฮอลแลนด์ลอปและเร็กซ์ซึ่งมีลักษณะโครงสร้างทางกายภาพบางส่วนแตกต่างกันออกไปรวมไปถึงลักษณะนิสัย พฤติกรรม อาหารและการเลี้ยงกระต่ายซึ่งเราได้คัดสรรข้อมูลดี ๆ เหล่านี้มาฝากแก่คุณผู้อ่านทุกคนหวังว่าจะคงจะถูกใจให้ได้ลองไปฝึกเลี้ยงกระต่ายและเพื่อให้เจ้ากระต่ายน้อยมีสุขภาพและสุขอนามัยที่ดีจึงควรหมั่นดูแลเอาใจใส่อยู่เป็นประจำ