บอกเลยว่าดังคำกล่าวดังว่าไว้ นอกจากความตายที่เราหนีไม่พ้นแล้ว ภาษีเราก็หนีไม่พ้นเช่นกัน สำหรับคนไทยที่เกิดและพำนักในประเทศไทย ก็ต้องทำการยื่นจ่ายภาษีประจำปีกันอยู่ตลอด ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะแสดงรายได้รายรับ และจ่ายภาษีให้องค์กรส่วนกลางนำภาษีไปพัฒนาประเทศ และสิ่งทีทุกคนต้องเจออย่างเลี่ยงไม่ได้ในทุกช่วงต้นปีก็คือ การคำนวณภาษี ดังนั้น วันนี้ Shopee จะพามาดู วิธีคำนวณภาษี โดยเฉพาะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2567 แบบเข้าใจง่าย รวดเดียวจบ พร้อมยกตัวอย่างและรายละเอียดประกอบ วิธีคำนวณภาษี ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
บุคคลธรรมดา รายได้เท่าไหร่ต้องยื่นภาษี 2567
ผู้ที่มีรายได้ต่อปีภาษีถึงเกณฑ์ที่กำหนด จำเป็นต้องยื่นแบบภาษี ไม่ว่าผลสุดท้ายเมื่อคำนวณภาษีออกมาแล้วจะต้องเสียภาษีหรือไม่ก็ตาม
สำหรับบุคคลธรรมดาและผู้ถึงแก่ความตายที่มีเงินพึงประเมินเกินดังตาราง จะต้องเสียภาษี ดังนี้
ประเภทเงินได้ (บาท ต่อปี) | โสด | สมรส |
เงินเดือนเพียงอย่างเดียว | 120,000 | 220,000 |
เงินได้ประเภทอื่น | 60,000 | 120,000 |
แบบรายการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา
ยื่นภาษีออนไลน์ 2567 บุคคลธรรมดาโดยจะมีแบบรายการแสดงซึ่งมีหลายแบบโดยจะขออธิบายแต่ละแบบ ดังนี้
- แบบภงด.90 – แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสิ้นปีซึ่งใช้าำหรับผู้มีเงินได้ในกรณีทั่วไปตั้งแต่เงินได้ประเภทที่ 1-8ที่ได้รับในระหว่างปีภาษีที่ล่วงมาแล้วโดยให้ยื่นแบบฯ ภายในเดือนมีนาคมของปีภาษีถัดไป
- แบบภงด.91 – แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสิ้นปีสำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานประเภทที่ 1 เพียงอย่างเดียวโดยให้ยื่นแบบฯ ภายในเดือนมีนาคมของปีภาษีถัดไป
- แบบ ภ.ง.ด.93 – แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับใช้ยื่นก่อนถึงกำหนดเวลาการยืนแบบฯ ให้ยื่นแบบฯ ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมิน
- แบบ ภ.ง.ด.94 – แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปีสำหรับผู้มีเงินได้ประเภทที่ 5-8 ที่ได้รับมาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน และไม่ว่าจะมีเงินได้ประเภทอื่นรวมอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม ให้ยื่นแบบฯ ภายในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนของปีภาษีนั้น
- แบบ ภ.ง.ด.94 – แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับคนต่างด้าวผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานจากสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ให้ยื่นแบบฯภายในเดือนมีนาคมของปีภาษีถัดไป
วิธีคำนวณภาษีในส่วนต่าง ๆ
เงินได้
เงินได้ หรือ เงินได้พึงประเมิน หมายถึงเงินที่ผู้มีหน้าที่ยื่นภาษีได้รับมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคมของปีภาษีนั้น ๆ เงินได้ทางภาษีมีทั้งหมด 8 ประเภท
ค่าใช้จ่าย
เป็นส่วนหนึ่งในการนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และเป็นสิทธิประโยชน์ที่ผู้ยื่นภาษีจะได้รับ เพื่อนำไปหักลบจากเงินได้ ถือเป็นต้นทุนในการหาเงินได้ ค่าใช้จ่ายที่นำมาหักจะมีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ
- หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา
- หักค่าใช้จ่ายตามจริง
ทั้งนี้เงินได้ของเราจะหักค่าใช้จ่ายแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเงินได้ประเภทใด หรือคิดภาษีแล้วแบบไหนจ่ายมากกว่า ก็ให้เลือกแบบนั้น
*สำหรับพนักงานออฟฟิศที่มีเงินได้จากเงินเดือน (เงินได้ประเภทที่ 1) และโบนัส (เงินได้ประเภทที่ 2) ให้นำ 2 ก้อนรวมกัน แล้วหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 50% สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท*
เงินได้สุทธิ
เงินได้สุทธิคือ เงินได้พึงประเมินที่ได้ทำการหักค่าใช้จ่าย และหักค่าลดหย่อนภาษีแล้ว ถือเป็นฐานภาษีที่จะต้องนำไปคำนวณภาษีโดยการคูณอัตราภาษีต่อไป เพื่อหาเงินภาษีที่ต้องชำระ
รายการลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง
สำหรับบุคคลธรรมดาและผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษีจะสามารถขอลดหย่อนภาษีได้ตามรายการ ดังนี้
- ผู้มีเงินได้ 60,000 บาท
- คู่สมรส (ไม่มีเงินได้) 60,000 บาท
- ผู้มีเงินได้ หรือคู่สมรส ที่มีรายได้รวมกันไม่เกิน 120,000 บาท
- บุตรชอบด้วยกฎหมาย หรือบุตรบุญธรรม คนละ 30,000 บาท
- ค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หักลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท
- ค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ หักลดหย่อนคนละ 60,000 บาท
- ค่าเบี้ยกรมธรรม์ประกันชีวิต (กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป)
- ค่าเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาท
- เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จ่ายตามจริงในปีภาษีไม่เกิน 10,000 บาท
- เงินค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ในอัตราไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับ
- ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้ที่นำมาเสียภาษีเงินได้ในแต่ละปี แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
- เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 500,000 บาท
- ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในปีนั้นแต่ไม่เกิน 500,000 บาท
- ดอกเบี้ยกู้ยืมที่จ่ายให้แก่ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
- เงินสมทบกองทุนประกันสังคม หักค่าลดหย่อนเท่าที่จ่ายจริง
- ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาทแต่เมื่อรวมเบี้ยประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท
- เงินบริจาค เงินบริจาคสนับสนุนการศึกษา การกีฬาและอื่น ๆ หักได้ 2 เท่าของที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้ หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ เงินบริจาค หักได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
อย่าลืม! ปี 2566 หรือที่เรากำลังจะยื่นภาษีในชข่วงต้นปี 2567 กันอยู่นี้ รัฐบาลได้มีมาตรการ หรือ โปรโมชั่น เพิ่มค่าลดหย่อนบางส่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- โครงการช้อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตามที่จ่ายจริง โดยต้องเป็นสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้า OTOP หรือ สินค้าหมวดหนังสือ (รวมถึง E-Book)
- ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย เช่น บ้านเดี่ยว คอนโด อาคาร หรือ ห้องชุด ที่ทำสัญญากู้ยืมตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นมา สามารถนำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
วิธีคำนวณภาษี
วิธีคํานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2567
วิธีที่ 1
ให้ทำการคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิอันประกอบด้วยส่วนสำคัญ ได้แก่ เงินได้พึงประเมินที่หักเงินได้จากการได้รับการยกเว้น หักค่าใช้จ่าย หักค่าลดหย่อนภาษี หักเงินบริจาคแล้วนำเงินสุทธินั้นไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้
รายการ | ||
เงินได้พึงประเมิน | XXX | |
หัก เงินได้ที่ได้รับการยกเว้น | XXX | |
หัก ค่าใช้จ่าย | XXX | |
หัก ค่าลดหย่อน | XXX | |
หัก เงินบริจาค (ถ้ามี) | XXX | |
เงินได้สุทธิ | XXX | |
ภาษีที่ต้องชำระ (ถ้ามี) = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี (5-35%) |
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ขั้นเงินได้สุทธิตั้งแต่ | เงินได้สุทธิจำนวนสูงสุดของขั้น | อัตราภาษี | ภาษีสูงสุดในแต่ละขั้นเงินได้ | ภาษีสะสมสูงสุดของขั้น |
0 – 150,000 | 150,000 | 5 | ยกเว้น* | 0 |
เกิน 150,000 – 300,000 | 150,000 | 5 | 7,500 | 7,500 |
เกิน 300,000 – 500,000 | 200,000 | 10 | 20,000 | 27,500 |
เกิน 500,000 – 750,000 | 250,000 | 15 | 37,500 | 65,000 |
เกิน 750,000 – 1,000,000 | 250,000 | 20 | 50,000 | 115,000 |
เกิน 1,000,000 – 2,000,000 | 1,000,000 | 25 | 250,000 | 365,000 |
เกิน 2,000,000 – 5,000,000 | 3,000,000 | 30 | 900,000 | 1,265,000 |
เกิน 5,000,000 บาท ขึ้นไป | 35 |
อ้างอิง www.rd.go.th
วิธีที่ 2
จะเป็นการคำนวณเงินได้พึงประเมินตั้งแต่ 120,000 บาท ขึ้นไป โดยไม่หักค่าใชจ่าย หรือหักค่าลดหย่อนใด ๆ คูณด้วยอัตราภาษีร้อยละ 0.5 จะได้จำนวนภาษีที่ต้องชำระ โดยทั้งนี้ผู้มีเงินได้ที่มีเงินหลายประเภท (โดยไม่รวมเงินได้ประเภทที่ 1 เงินได้จากการจ้างแรงงาน)
ยื่นภาษีช่วงไหน
ยื่นภาษีได้ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม ของปีภาษีถัดไป
ตัวอย่าง ปีภาษี 2565 ยื่นภาษีได้ระหว่าง 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2567 (แต่ถ้ายื่นออนไลน์ จะสามารถยื่นได้ถึงวันที่ 8 เมษายน 2567)
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1.นาย A เป็นพนักงานบริษัท และยังโสด ได้รับเงินเดือน 26,000 บาทตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 และได้รับโบนัส 50,000 บาท ดังนั้น “เงินได้พึงประเมิน” ของนาย A เท่ากับ 312,000 + 50,000 = 362,000 บาท
- คำนวณภาษีขั้นที่ 1 (หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 50% ของเงินได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 100,000 บาท)
- คำนวณภาษีขั้นที่ 2 (หักค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว และค่าเบี้ยประกันสังคม)
- คำนวณภาษีขั้นที่ 3 (นำเงินได้สุทธิคูณกับอัตราภาษี) จากตาราง 150,000 บาทแรกได้รับการยกเว้น
- เงินที่เหลือตกในอัตราภาษีขั้นที่ 2 จึงนำเงินที่เหลือคูณอัตราภาษี 5%
ดังนั้น เงินภาษีที่นาย A จะต้องจ่ายให้กับกรมสรรพากรในปีภาษี 2562 เท่ากับ 2,150 บาทถ้วน
2.นาย B เป็นพนักงานบริษัท และต้องดูแลคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่มีรายได้ นาย B ได้รับเงินเดือน 26,000 บาทตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 และได้รับโบนัส 50,000 บาท ดังนั้น “เงินได้พึงประเมิน” ของนาย B เท่ากับ 312,000 + 50,000 = 362,000 บาท
- คำนวณภาษีขั้นที่ 1 (หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 50% ของเงินได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 100,000 บาท)
- คำนวณภาษีขั้นที่ 2 (หักค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว ค่าเบี้ยประกันสังคม และค่าลดหย่อนคู่สมรส)
- คำนวณภาษีขั้นที่ 3 (นำเงินได้สุทธิคูณกับอัตราภาษี)
จากตารางเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรกได้รับการยกเว้น
ดังนั้น เงินภาษีที่นาย B จะต้องจ่ายให้กับกรมสรรพากรในปีภาษี 2562 เท่ากับ 0 บาทถ้วน นาย B ไม่ต้องเสียภาษีแม้จะเป็นผู้ยื่นภาษี
จะเห็นได้ว่าการจะเสียภาษีมาก น้อย หรือไม่ต้องเสียภาษีเลยนั้น ขึ้นอยู่กับหลากหลายองค์ประกอบ ทั้งเงินได้ ค่าใช้จ่าย และที่สำคัญคือ ค่าลดหย่อนภาษี หากเรามีค่าลดหย่อนภาษีเยอะ ยิ่งทำให้เราเสียภาษีน้อยลงนั่นเอง จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราจำเป็นต้องติดตามและศึกษาเรื่อง วิธีคำนวณภาษี และ ค่าลดหย่อนภาษี ในแต่ละปีภาษี
โปรแกรมคำนวณภาษี
หากใครไม่มั่นใจเรื่อง วิธีคำนวณภาษี ของตนเอง สามารถนำข้อมูลไปลองคำนวณในโปรแกรมคำนวณภาษีตามเว็บต่าง ๆ ได้
- โปรแกรมคำนวณภาษีธนาคารกสิกรไทย คลิก
- โปรแกรมคำนวณภาษีเว็บไซต์ itax.in.th คลิก
- โปรแกรมคำนวณภาษีเว็บไซต์ thailandsurf.net คลิก
- โปรมแกรมคำนวณภาษีธนาคารไทยพาณิชย์ (ไฟล์ Excel) คลิก
ข้อมูลจาก กรมสรรพากร
เรื่องภาษีเป็นเรื่องไม่ใกลตัว และไม่ยากอย่างที่คิด อาจจะมีความจุกจิกในเรื่องของการเตรียมเอกสาร ศัพท์ทางภาษี ระยะเวลาและเงื่อนไขของการใช้สิทธิ์ต่าง ๆ รวมถึงเรื่อง วิธีคำนวณภาษี หรือวิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้าหากเราทุกคนสละเวลาอ่านและศึกษาเรื่องภาษี จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น และเป็นประโยชน์แก่ตนเองและประเทศชาติอีกด้วย ซึ่งหากใครไม่สะดวกติดงานก็สามารถยื่นภาษีออนไลน์ได้แล้ววันนี้ – 8 เมษายน 2567 นี้ ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบ เตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนเข้าไปกรอกรายละเอียดกันด้วยน้าและอย่ารอช้า ใกล้ถึงวันแล้วค่อยทำ หากยื่นภาษีไม่ทัน มีปรับนะ!