ฝนและความชื้นสามารถสร้างสภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อโรค และ โรคที่มากับหน้าฝน บางชนิด ต่อไปนี้คือ ตัวอย่างของโรคที่ผู้คนควรระวังและป้องกันในช่วงที่มีฝนตกและอากาศชื้น ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
7 โรคที่มากับหน้าฝน พบบ่อย ควรระวัง
ฤดูฝนไม่ได้มาเล่นๆและแค่โปรยปรายฝนให้เราหายร้อนจากฤดูร้อน แต่ฤดูฝนยังมาพร้อมโรคหน้าฝนต่างๆอีกด้วย โรคที่มากับฝนที่พบบ่อย ได้แก่ การติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคที่เกิดจากเชื้อรา โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย และโรคที่เกิดจากการติดเชื้อที่ผิวหนัง สภาวะเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและเปียกชื้นซึ่งมีฝนตก โดยเราจะแบ่งโรคออกเป็นตามสาเหตุหลักในการติด ดังต่อไปนี้
ก. โรคหน้าฝนที่เกิดจากน้ำหรืออากาศปนเปื้อน
1. การติดเชื้อทางเดินหายใจ
ความชื้นสูงและฝนตกบ่อยอาจเพิ่มอุบัติการณ์ของการติดเชื้อทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดโรคหวัด โรคคออักเสบ ภูมิแพ้ การติดเชื้อเหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้นและเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา แต่สามารถติดเชื้อจนมีปัญหาระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงได้ เช่น โรคปอดบวม โรคไข้หวัดใหญ่ หรือ โรคปอดอักเสบ
- วิธีป้องกัน: พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสร้างความแข็งแรง ทำร่างกายให้อบอุ่น สวมหน้ากากอนามัย และปิดปากเสมอเวลาไอหรือจาม ล้างมือบ่อยๆเมื่อสัมผัสสิ่งของนอกบ้านมา หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่อากาศเสี่ยงไม่สะอาดหรืออับชื้น
- วิธีรักษา: โรคไข้หวัดที่จะพบได้บ่อยมากมักจะหายได้ด้วยการ พักผ่อนมากๆ กินน้ำมากๆ ทานยาแก้ไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ปวด แต่ถ้าเป็นโรคที่หนักขึ้นควรปรึกษาแพทย์
2. การติดเชื้อที่ผิวหนัง กลาก เกลื้อน
เชื้อราชอบความชื้น ทำให้ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาสำคัญของการติดเชื้อราเพราะแดดน้อยความชื้นมาก ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อราและเชื้อราทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อผิวหนัง เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังได้หลายอย่าง รวมถึงสภาวะของแบคทีเรียและเชื้อรา โรคที่มากับสิ่งเหล่านี้ได้แก่ ฮ่องกงฟุต น้ำกัดเท้า
- วิธีป้องกัน: สวมถุงเท้าและรองเท้าที่เหมาะสม ไม่คับ ไม่อับ ระบายอากาศได้ดี ไม่ใช้รองเท้า ถุงเท้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนู หรือ พรมเช็ดเท้า ร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการลุยน้ำ โดยเฉพาะน้ำขังที่ไม่สะอาด
- วิธีรักษา: ฮ่องกงฟุตหายได้โดยการทานยาตามเภสัชกรแนะนำ และต้องรักษาความสะอาดของเท้าให้เท้าสะอาดและแห้งอยู่เสมอ อย่าสวมใส่ถุงเท้าซ้ำหรือรองเท้าเปียกและอับชื้น ส่วนโรคน้ำกัดเท้าหากเป็นเพียงเล็กน้อยอาจล้างบริเวณที่ติดเชื้อด้วยน้ำเกลือ แต่หากเป็นมากควรซื้อยาฆ่าเชื้อเฉพาะทาง เช่น โพรวิโดนไอโอดีน มาทาบริเวณแผลวันลั 2-3 ครั้ง
3. โรคฉี่หนู
โรคฉี่หนู (เลปโตสไปโรซีส) สามารถติดต่อได้จากน้ำที่มีการปนเปื้อนจากปัสสาวะของสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉี่หนูตามชื่อโรค ซึ่งพบได้ทั่วไปในพื้นที่น้ำท่วม การเดินลุยน้ำอาจมองว่าเมื่อน้ำท่วมก็แค่เดินข้าวไปแล้วไปล้างขา แต่ปัญหาที่ตามมาจากการลุยน้ำที่อาจปนเปื้อนฉี่หนูนั้นนำมาซึ่งโรคฉี่หนู เป็นความประมาทและเป็นกิจกรรมที่มักถูกมองข้าม อาการของคนเป็นโรคนี้คือจะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ หนาวสั่น กล้ามเนื้อไม่มีแรง ซึ่งถ้าปล่อยไว้และไม่รักษาอาจถึงชีวิตเลยทีเดียว
- วิธีป้องกัน: ทางป้องกันคือไม่เดินเท้าเปล่าลุยน้ำท่วมขัง หรือใส่รองเท้าบูทหุ้มข้อเมื่อต้องลุยน้ำ โดยเฉพาะตามท้องถนนที่ดูไม่สะอาด
- วิธีรักษา: การรักษาคือการให้ยาปฏิชีวนะเท่านั้น เช่น ยาเพนิซิลลิน (Penicillin) หรือดอกซีไซคลิน (Doxycycline)
ข. โรคหน้าฝนที่เกิดจากพาหะตัวร้ายอย่าง “ยุง”
4. ไข้เลือดออก
โรคที่มียุงเป็นพาหะนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูฝน เนื่องจากแหล่งเพาะพันธุ์ยุงมีน้ำนิ่งเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเจ้ายุงลายที่ติดเชื้อและนำเชื้อมาสู้คนได้เช่นกัน อาการอาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง หากสังเกตว่ามีรอยยุงกัด และผื่นแดงขึ้นเป็นจุดๆเป็นบริเวณกว้างกว่าจุดเดียว ควรสังเกตเฝ้าระวังและหาหมอเมื่อมีไข้สูงร่วมด้วยทันที มักมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อและข้ออย่างรุนแรง ผื่น และมีเลือดออก กรณีที่รุนแรงอาจลุกลามไปสู่โรคไข้เลือดออกหรือกลุ่มอาการช็อกจากไข้เลือดออก ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้
- วิธีป้องกัน: กำจัดแหล่งเพาพันธุ์ยุง และ รักษาตัวไม่ให้ยุงกัด เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์กันยุง อย่าง ยาจุดกันยุง สเปรย์กันยุง หรือ สติ๊กเกอร์กันยุง
- วิธีรักษา: ส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ ดื่มน้ำและน้ำเกลือแร่เพื่อทนแทดการเสียน้ำจากไข้ อาเจียน หรือท้องเสีย ทานยาแก้ปวดที่ไม่ใช่แอสไพริน (เพราะแอสไพรินจะไปทำให้ระบบเลือดแย่ลง และ อันตรายต่อคนไข้ไข้เลือดออก) หากอาการแย่ให้พบแพทย์ทันที
5. ไข้มาลาเรีย
แม้ว่าจะคล้ายกับไข้เลือดออกในธรรมชาติที่มียุงเป็นพาหะ แต่โรคมาลาเรียยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญในพื้นที่ชนบทและป่าไม้ของประเทศไทย ยุงก้นปล่องซึ่งเป็นพาหะของโรคมาลาเรียยังแพร่กระจายในน้ำนิ่ง ทำให้มาลาเรียเป็น “โรคที่มาพร้อมกับฝน” ที่สำคัญ
- วิธีป้องกัน: กำจัดแหล่งเพาพันธุ์ยุงและไม่ให้ยุงกัดได้เช่นเดียวกัน
- วิธีรักษา: พบแพทย์เพื่อให้แพทย์สั่งจ่ายยารักษาเฉพาะทาง ทางที่ดีควรไปหาหมอให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ยังมีโรคที่มาจากยุงเป็นพาหะอีก เช่น โรคมาลาเรีย และ โรคไข้สมองอักเสบ
ค. โรคหน้าฝนที่อาจมาจากอาหารปนเปื้อน
6. ไข้ไทฟอยด์
ไข้ไทฟอยด์มีสาเหตุจากแบคทีเรีย Salmonella typhi โดยติดต่อผ่านอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน โดยจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นในช่วงฤดูฝนเนื่องจากน้ำท่วมและสุขอนามัยที่ไม่ดี
- วิธีป้องกัน: ฉีดวัคซีนป้องกันไข้ไทฟอยด์ ดื่มน้ำสะอาดจากบรรจุภัณฑ์ปิด ทานอาหารปรุงสุกถูกสุขลักษณะ เลี่ยงการทานผักผลไม้ดิบ ล้างมือเป็นประจำโดยเฉพาะก่อนทานอาหาร
- วิธีรักษา: พบแพทย์เพื่อรับยารักษาเฉพาะทาง รับประทานอาหารสะอาดและย่อยง่าย พักผ่อนให้เพียงพอ
7. อหิวาตกโรค
โรคท้องร่วงที่รุนแรงนี้เกิดจากการกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย Vibrio cholerae น้ำท่วมสามารถปนเปื้อนแบคทีเรียอหิวาตกโรคในแหล่งน้ำได้ง่าย ทำให้เป็น “โรคที่มาพร้อมกับฝน” ที่อันตราย
- วิธีป้องกัน: ดื่มน้ำสะอาดที่ปลอดภัย ผ่านการกรองและฆ่าเชื้อมาแล้วเท่านั้น ไม่ดื่มน้ำหรือน้ำแข็งนอกบ้านที่สงสัยในความสะอาดได้ ทานอาหารปรุงสุก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ
วิธีรักษา: ดื่มน้ำ รับยาปฏิชีวนะ รับประทานอาหารที่เหมาะสม
โรคที่มากับหน้าฝน วิธีป้องกัน
การปกป้องตัวเองและสิ่งแวดล้อมจากโรคที่มากับหน้าฝน เกี่ยวข้องกับขั้นตอนสำคัญหลายประการ หลักๆสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันโรคหน้าฝนต่างๆ มีดังต่อไปนี้
1) รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด รวมถึงการล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารหรือเตรียมอาหาร
2) จัดการสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย
กำจัดขยะอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันน้ำขัง ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและแบคทีเรียได้
3) จัดหาแหล่งน้ำดื่มที่ปลอดภัย
ดื่มและใช้เฉพาะน้ำบริสุทธิ์ที่ปลอดภัยเท่านั้น ในพื้นที่น้ำท่วม สมมติว่าแหล่งน้ำทั้งหมดอาจมีการปนเปื้อน
4) ป้องกันให้ดี อย่าการ์ดตก
ใช้มุ้งและไล่ยุง และสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเพื่อลดความเสี่ยงที่ยุงกัด
5) ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ควรระมัดระวังและขอคำแนะนำจากแพทย์เมื่อสัญญาณแรกของการเจ็บป่วย เนื่องจากการตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถป้องกันผลลัพธ์ร้ายแรงจาก “โรคที่มากับฝน”
ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับโรคหน้าฝน
โรค | การแพร่ของโรค | อาการทั่วไป | การป้องกัน |
ไข้เลือดออก | ยุงกัด | ไข้ ผื่น ปวดข้อ | ใช้ยาไล่ยุง |
โรคฉี่หนู | เมื่อสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อน | มีไข้ ปวดศีรษะ | หลีกเลี่ยงการลุยน้ำท่วมหรือหากต้องลุยก็ใส่รองเท้าบู๊ท |
อหิวาตกโรค | อาหารและน้ำที่ปนเปื้อน | ท้องร่วงรุนแรง | ดื่มน้ำบริสุทธิ์เท่านั้น |
ไข้ไทฟอยด์ | อาหารและน้ำปนเปื้อน | ไข้เป็นเวลานาน | ทานอาหารที่มีสุขอนามัยดี กินร้อน ช้อนกลาง |
ไข้มาลาเรีย | ยุงกัด | เป็นไข้ หนาวสั่น | นอนในมุ้ง จุดหรือสเปรย์กันยุงนอนในมุ้งที่มียาฆ่าแมลงเคลือบ |
ฝนตก รักษาสุขภาพ และ ดูแลตัวเองอย่างไร?
- ปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี รวมทั้งการล้างมือเป็นประจำด้วยสบู่และน้ำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อทางเดินหายใจ
- ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการหายใจเอาเชื้อโรคในอากาศเข้าไป รวมถึงป้องกันการแพร่เชื้อหากคุณมีเชื้ออยู่ในตัว
- สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมเพื่อป้องกันยุงและใช้ยากันยุงหรือยาฆ่าแมลง
- รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี เมื่อซักผ้าควรตากหรืออบให้แห้งสนิทด้วยเครื่องอบผ้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ รวมถึงการรักษาผิวให้สะอาดและแห้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือล้างมือทันทีหลังสัมผัสสัตว์ หรือ สิ่งของที่อาจจะมีความเสี่ยง
การดูแลสิ่งรอบข้างจากโรคฤดูฝนต่างๆ
- รักษาพื้นที่ในร่มให้มีอากาศถ่ายเทดี โดยเฉพาะในที่พักอาศัยของคุณ เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้นและลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- รักษาความสะอาดของพื้นที่ที่คุณสัมผัสและหายใจ ฉีดแอลกอฮอล์ทุกครั้วที่จับสิ่งของซึ่งคนอื่นอาจจับมาก่อนและทิ้งเชื้อโรคไว้ เปิดเครื่องฟอกอากาศเพื่อลดฝุ่นภายในอาคาร ซักเครื่องนอนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
- กำจัดแหล่งน้ำนิ่งรอบบ้านของคุณเพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ของยุงเพื่อป้องกันโรคหน้าฝนอย่างไข้เลือดออก
- ดูแลสัตว์เลี้ยง โรคที่มากับหน้าฝนอาจจะผ่านมาทางสัตว์เลี้ยงของคุณได้เช่นกัน รักษาความสะอาดให้ดีและแห้ง ฉีดวัคซีน และหาหมอรวมถึงกักบริเวณสัตว์เลี้ยงเพื่อลดการแพร่เชื้อ ทั้งแพร่เชื้อระหวา่งสัตว์ สิ่งของ รวมถึงการแพร่เชื้อมาสู่คน
โรคหน้าฝน ฝนตก ดูแลสุขภาพให้ดี
ฤดูฝนในประเทศไทยนำมาซึ่งความจำเป็นในการเพิ่มความตระหนักรู้และการเตรียมพร้อมในการต่อสู้กับ โรคที่มากับหน้าฝน ด้วยการทำความเข้าใจทั้งโรคที่พบบ่อยที่เกี่ยวข้องกับฤดูกาลนี้ และการใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม รวมไปถึงวิธีการรักษาเบื้องต้น คุณสามารถเพลิดเพลินกับฝนที่โปรยปรายและอากาศที่เย็นลงได้โดยไม่กระทบต่อสุขภาพของคุณ ถ้าคุณป้องกันดี ไม่เพียงคุณจะปลอดภัยแต่คุณยังอาจได้ป้องกันเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนใกล้เคียงอีกด้วย ฝกตกอีกแล้ว เราขอให้คุณสุขภาพดี และฝ่ารถติดในวันฝนตกไปได้เร็วๆนะ!
Credit: https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/652