สิ่งหนึ่งที่ต้องทำเป็นประจำหลังจากการทำบุญหรือสวดมนต์หรือสวดมนต์ตามหนังสือสวดมนต์นั่นคือ การแผ่เมตตา เพื่อให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้มารับส่วนบุญส่วนกุศลนั้นไป นอกไปจากนั้นแล้วการแผ่เมตตายังเกิดประโยชน์อื่น ๆ ต่อตนเองอีกหลายประการ และเราสามารถสวดแผ่เมตตาให้ตัวเองได้ทุกคืนก่อนนอน บทแผ่เมตตาให้ตนเองและผู้อื่นนั้นจะมีอะไรบ้าง เรามาสวดแผ่เมตตาเพื่อให้ชีวิตดีและมีความสุขกัน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ความหมายของการแผ่เมตตา
เมตตา หมายถึง ความรัก ความปรารถนาดี ที่ต้องการให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญโดยปราศจากความอิจฉาริษยาต่อกัน รวมถึงการมีไมตรีจิตอย่างมิตร การแผ่เมตตาจึงเป็นการส่งจิตที่เต็มไปด้วยความรักและหวังดี ที่จะให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพบเจอความสุข ความสมหวัง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ รุกขเทวดา หรือสัตว์ เป็นการแสดงออกที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรมของผู้ที่แผ่เมตตาให้
การแผ่เมตตา เป็นสิ่งที่ปฏิบัติต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะเล็งเห็นว่าการแผ่เมตตาจะทำให้ผู้คนมีจิตใจอ่อนโยน และนำพาสันติมาให้ และเกิดความสุขทั้งกับผู้ให้และผู้รับ ให้เพื่อนร่วมโลกได้พบความสุขความเจริญ ด้วยเหตุเช่นนี้ จึงทำให้มนุษย์และสัตว์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีน้ำใจต่อกัน และรักใคร่สมัครสมานกัน จึงไม่เกิดการเบียดเบียนซึ่งกันและกันด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ นอกไปจากการแผ่เมตตาให้เพื่อนร่วมโลกทั้งหลายแล้ว เรายังสามารถแผ่เมตตาให้ตัวเองได้อีกด้วย
แผ่เมตตาให้ตัวเอง มีประโยชน์อย่างไร
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าการแผ่เมตตาให้กับตัวเองนั้น สามารถเกิดอานิสงค์ต่าง ๆ ได้มากมาย ซึ่งอานิสงค์ของการแผ่เมตตาให้ตัวเองมี 11 ประการ ดังนี้
- หลับเป็นสุข คือ นอนหลับได้อย่างสนิท หลับสบาย
- ตื่นเป็นสุข คือ เมื่อตื่นขึ้นมาก็สบายตัว สบายใจ หน้าตาเบิกบาน สดชื่น หายอ่อนเพลีย
- ไม่ฝันร้าย คือ ฝันเห็นแต่สิ่งที่ดี งดงาม ไม่ฝันเห็นสิ่งที่น่าเกลียดหรือน่ากลัว ไม่สะดุ้งตื่นกลางดึก
- เป็นที่รักของคนทั่วไป คือ จะเป็นคนมีเสน่ห์ ไปที่ใดก็ปราศจากศัตรู
- เป็นที่รักของอมนุษย์ทั่วไป คือ แม้แต่สัตว์ต่าง ๆ จะไม่ทำร้าย
- เทวดารักษาคุ้มครอง คือ จะเดินทางไปไหนมาไหน จะมีเทวดาคุ้มครองให้ความปลอดภัยตลอดเวลา ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
- ไฟ ศาสตรา ยาพิษ ไม่แผ้วพาน คือ จะปลอดภัยจากสิ่งอันตรายเหล่านี้
- จิตเป็นสมาธิเร็ว คือ หากแผ่เมตตาเป็นประจำและทำสมาธิ จิตจะสงบนิ่งได้เร็ว หรือหากทำการงานอื่นใดจะมีสมาธิ จิตไม่ฟุ้งซ่าน
- หน้าตาผิวพรรณจะผ่องใส คือ หน้าตาจะดูอิ่มเอิบตลอดเวลา
- ไม่หลงเวลาตาย คือ เมื่อถึงอายุขัยที่ต้องจากโลกนี้ไป จะนอนตายอย่างสงบ เหมือนคนนอนหลับไป ไม่ทุกข์ทรมาณ
- เมื่อไม่อาจบรรลุธรรมชั้นสูง ย่อมเข้าถึงพรหมโลก คือ ผู้มีเมตตาจิตเป็นประจำ แม้ไม่ได้บรรลุธรรมชั้นสูง ย่อมจะไปบังเกิดในพรหมโลกอันเป็นที่เกิดของผู้ได้ฌาน
วิธีการแผ่เมตตา
การแผ่เมตตาให้ถูกวิธีนั้น ควรเริ่มจากสวดบทแผ่เมตตาให้ตนเองก่อน เมื่อเราปรารถนาให้ตนเองมีความสุข ก็พร้อมจะส่งต่อความสุขไปยังผู้อื่น และสรรพสัตว์อื่น ๆ ต่อไป และการสวดบทแผ่ส่วนกุศลไม่ว่าจะเป็นการแผ่ให้คนอื่น หรือแผ่ให้ตนเองก็ตาม ควรจะแผ่เมตตาทุกวัน อย่างน้อยก่อนนอนทุกคืน หรือหากทำได้มากกว่านั้นจะถือเป็นกำไรชีวิต เราสามารถแผ่เมตตาให้กับทุกสรรพสัตว์ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะขณะอยู่บนถนนหนทาง ระหว่างการเดินทาง หรือการนั่งพักผ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่ง หากจิตมีความปลอดโปร่งจะเหมาะแก่การนึกแผ่เมตตาอย่างยิ่ง และการแผ่เมตตาจัดเป็นกรรมฐานประการหนึ่ง ที่จะทำให้จิตใจของเราสงบเย็นลงได้ แม้ว่าเราจะทำได้เพียงวันละครั้งสองครั้ง แต่หากทำเป็นประจำทุกวันจนติดเป็นนิสัย จะได้รับประโยชน์ของอานิสงค์นั้นอย่างมากมาย
บทแผ่เมตตาให้ตนเองและผู้อื่น
ก่อนที่เราจะทำการแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์อื่น ๆ นั้น เราควรแผ่เมตตาให้กับตัวเราเองก่อน แล้วจึงแผ่เมตตาให้ผู้อื่นตามลำดับ ดังต่อไปนี้
1. แผ่เมตตาให้ตัวเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ถึงสุข
อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไร้ทุกข์
อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไม่มีเวร
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อะหัง อะนีโฆ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ ขอให้ข้าพเจ้าจงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด
2. แผ่เมตตา ให้ เจ้ากรรมนายเวร และผู้อื่น
สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ นิททุกขา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
3. แผ่เมตตาแบบทั่วไป และให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยอันตรายทั้งสิ้นเถิด
4. บทแผ่ส่วนกุศล หรือคำกรวดน้ำแบบสั้น
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายจงเป็นสุข ๆ เถิด
หากใครที่ประสงค์อยากเป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น หรืออยากให้ชีวิตดีมีความสุขตลอดไป ลองสวดบทแผ่เมตตา สวดมนต์ก่อนนอนให้ตนเองเป็นประจำทุกคืนก่อนนอน เพื่อเกิดความสงบในจิตใจ และอย่าลืมสวดบทแผ่ส่วนกุศลให้กับสรรพสัตว์ เจ้ากรรมนายเวร และผู้อื่น เพื่อให้เกิดเมตตาต่อกัน และยังเป็นอานิสงค์ที่ดีต่อตนเองอีกด้วย
แหล่งที่มา dmc.tv watpamahachai.net