หากถามถึงหมาสายพันธุ์ ” หมาบลูด็อก ” หลายคนก็น่าจะมีภาพจำของหมาไซส์เล็กถึงกลางที่แสนจะขี้เล่นเป็นมิตรกับเด็ก มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เชื่อได้ว่าหมาพันธุ์บูลด็อกจะต้องขึ้นมาในใจของใครหลายๆคนเป็นแน่ เพราะหมาสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความน่ารักและเป็นมิตรเรียกได้ว่าหากใครได้เล่นด้วยก็ต้องตกหลุมรักและอยากหามาเป็นสมาชิกคนสำคัญของบ้านกันเลยทีเดียว ดังนั้นหากเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหาความรู้เกี่ยวกับหมาบลูด็อกอยู่ละก็ ต้องห้ามกับบทความนี้เพราะเราจะพาเพื่อนๆมารู้จักกับเจ้าสี่ขาอ้วนกลมตัวนี้แบบละเอียดกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ประวัติหมาบลูด็อก
หมาบลูด็อก มีชื่อสายพันธุ์แบบทางการหลากหลายชื่อ เช่น อิงลิชบูลด็อก สายพันธุ์บูลด็อกอื่นๆ รวมทั้งอเมริกันบูลด็อก โอลด์อิงลิชบูลด็อก และเฟรนช์บูลด็อก โดยหมาสายพันธุ์นี้เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษเป็นที่นิยมเลี้ยงเหล่าชนชั้นแรงงานในช่วงต้นปี 1800 ต่อมาเมื่อฝรั่งเศสเข้ามาที่ประเทศอังกฤษจึงมีการผสมพันธุ์ระหว่างอิงลิชบลูด็อกและสายพันธุ์เฟรนช์ เทอร์เรีย เกิดเป็นสายพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก ขึ้นมาและนิยมเลี้ยงแพร่หลายในชนชั้นสูงประเทศฝรั่งเศส นี่จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกที่หลากหลายของหมาสายพันธุ์นี้ นั่นเอง
ลักษณะของหมาบลูด็อก
หมาบลูด็อก มีลักษณะโดดเด่น จัดว่าเป็นหมาสายพันธุ์ขนาดกลาง มีความสูงเฉลี่ยที่ 11 เซนติเมตร น้ำหนักตัวโตเต็มวัยประมาณ 27 กิโลกรัม มีขาสั้นแต่มีมวลกล้ามเนื้อมาก มีขนที่เรียบเตียนไปกับผิวหนัง สั้นนุ่มและขึ้นเรียงตัวบนผิวอย่างหนาแน่น มีขนสีหลากหลายตามแต่ละประเทศเช่น สีขาว สีเทา สีเหลืองและลายจุดเป็นต้น มีลักษณะเด่นของสายพันธุ์ที่ใบหน้า กล่าวคือมีกะโหลกศรีษะขนาดใหญ่ รูปร่างทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแตกต่างจากหมาสายพันธุ์อื่นๆ ผิวหน้าจะมีลักษณะย่นเป็นเอกลักษณ์ มีหูใหญ่และยาว มีช่วงอายุยืนอยู่ได้นานราว 14-15 ปี
นิสัยและพฤติกรรม หมาเฟรนช์บลูด็อก
หมาเฟรนช์บลูด็อก หรือหมาสายพันธุ์บลูด็อกแม้ว่าจะมีขนาดลำตัวใหญ่ ดูอ้วนและมีขาที่สั้น แต่จัดว่าเป็นหมาสายพันธุ์แข็งแรงและกะฉับกะเฉง ร่าเริง อารมณ์ดี เฟรนลี่กับคนและสัตว์โดยเฉพาะเด็กๆ เป็นหมาพลังเหลือล้นมักตื่นตัวตลอดเวลา จึงชอบการออกกำลังกายและกิจกรรมร่วมกับผู้เลี้ยงต่างๆ แต่ข้อเสียของหมาเฟรนช์บลูด็อกที่เลี้ยงในประเทศไทย คือเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ทนความร้อน อยู่กลางแจ้งนานไม่ได้เพราะหัวใจจะเต้นเร็ว ควรจัดให้อยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก นอกจากนี้หมาพันธุ์บลูด็อก เป็นสายพันธุ์ที่ฉลาดและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง จึงไม่ค่อยทำตามคำสั่งของผู้เลี้ยงสักเท่าไหร่ แต่หากฝึกฝนบ่อยๆพร้อมทำกิจกรรมร่วมกัน หมาพันธุ์บลูด็อกก็พร้อมรับคำสั่งทุกเมื่อ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ หมาบลูด็อก
หมาบลูด็อก แม้ภายนอกจะดูแข็งแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่กลับเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องอาหาร อากาศและกิจวัตรประจำวันและนี่คือ 3 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงหมาพันธุ์บลูด็อก
- หมาพันธุ์บลูด็อกมีท่อลมหายใจขนาดเล็กแต่กำเนิด จึงทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนได้ต่ำ ทำให้การตากแดดนานๆหมาพันธุ์นี้จะหัวใจเต้นเร็วหายใจไม่ทันและมีปัญหาต่อระบบการหายใจได้ ผู้เลี้ยงจึงควรใส่ใจต่อสภาพแวดล้อมและอากาศในสถานที่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด
- รู้หรือไม่ว่า หมาบลูด็อกมีนิสัยกรนที่เก่งมาก อันเนื่องมาจากท่อลมหายใจที่เล็กกว่าสายพันธุ์อื่นๆร่วมกับน้ำหนักตัวที่มาก ผู้เลี้ยงจึงต้องเข้าใจพฤติกรรมการนอนกรนของมัน รวมทั้งสังเกตุอาการเป็นประจำ หากช่วงไหนมีภาวะหายใจแรงและนอนเสียงกรนมากอาจต้องนำตัวไปพบสัตว์แพทย์
- หมาบลูด็อก มีช่วงกะโหลกที่ใหญ่และเป็นสี่เหลี่ยมประกอบกับตัวสั้นและอ้วนทำให้หมาสายพันธุ์นี้มีปัญหาเรื่องการคลอดลูก ชนิดที่ไม่สามารถคลอดลูกได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นหากผู้เลี้ยงมีหมาบลูด็อกตัวเมียและต้องการให้ตั้งท้อง ต้องดูแลในช่วงตั้งท้องอย่างใกล้ชิด
อาหารสำหรับ หมาบลูด็อก
หมาบลูด็อก เป็นหมากินง่ายและชอบกินจุบจิบมาก ผู้เลี้ยงจึงต้องใส่ใจกับคุณภาพของอาหารเป็นพิเศษ โดยแนะนำให้เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดหรืออาหารกระป๋องสำหรับสุนัขแทนอาหารปรุงสุกของคนทั่วไป หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือให้ทานบาร์ฟ (Barf) หรือเนื้อสดที่มีเพื่อเป็นอาหารของน้องหมาแสนรักเท่านั้น เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและป้องกันแคลอรี่อันจะทำให้หมาบลูด็อกมีปัญหาอ้วนและปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อต่อตามมาได้ง่าย โดยปริมาณที่แนะนำนั้นคือ อาหารเม็ด 1-1.5 ถ้วยตวงต่อมื้อ และให้เพียงวันละ 2 มื้อเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้เลี้ยงสามารถปรับเพิ่มปริมาณอาหารได้ตามกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน หากวันนั้นมีกิจกรรมออกกำลังกายเยอะก็อาจเพิ่มเป็น 2 ถ้วยตวงต่อมื้อได้
การเลี้ยงดูสำหรับหมาเฟรนช์บลูด็อก
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า หมาเฟรนช์บลูด็อกมีจุดอ่อนเรื่องระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นสิ่งสำคัญในการเลี้ยงดูหมาเฟรนช์บลูด็อกคือสถานที่อยู่อาศัยจะต้องไม่ร้อนจนเกินไป มีอากาศถ่ายเทที่สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าร้อนต้องพึงระวังอาการชักเนื่องจากฮีทสโตรกอย่างใกล้ชิด และนอกจากการเอาใจใส่เรื่องสภาพอากาศและอาหารแล้ว ความสะอาดของหมาสายพันธุ์นี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสายพันธุ์นี้มีข้อดีที่ขนสั้น เนียนและนุ่ม ไม่มีการผลัดขน จึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยครั้งอาจอาบเพียง 2 อาทิตย์ครั้งก็ได้ แต่ควรทำความสะอาดที่ใบหู ตา และจมูกเป็นประจำ โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดที่ตา ใบหูและจมูกอย่างอ่อนโยน หากพบว่าบบริเวณขอบหูหรือจมูกแห้งให้ทาด้วยออยส์สำหรับเด็กเพื่อรักษาความชุ่มชื้น
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับข้อมูลของหมาเฟรนช์บลูด็อกที่เราได้บอกเล่าไปทั้งหมด จะเห็นได้ว่าความน่ารัก เป็นมิตรของหมาสายพันธุ์นี้ต้องแลกมาด้วยความรักและการเอาใจใส่ไม่น้อย ซึ่งจริงๆแล้วไม่เพียงแต่สายพันธุ์บลูด็อกเท่านั้นที่ต้องการความรักความใส่ใจ แต่เจ้าสี่ขาสายพันธุ์ไหนๆก็ต้องการความรักจากผู้เลี้ยงดูทั้งสิ้น ดังนั้น ก่อนคิดที่จะรับเลี้ยงหมาสักหนึ่งตัวลองสำรวจความพร้อมและข้อมูลของแต่ละสายพันธุ์อย่างละเอียด หากมั่นใจว่าสามารถเลี้ยงดูมันได้ ก็อย่ารอช้ารีบไปหาเจ้าเพื่อนรู้ใจสี่ขามาเป็นสมาชิกคนสำคัญของบ้าน โดยทันที สำหรับใครที่ชอบหมาตัวเล็กน่ารัก สุนัขพันธุ์เล็กราคาถูก เช่น พุดเดิ้ล คอร์กี้ ส่วนสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเดินริทรีฟเวอร์ หมาบางแก้ว ต้องมีพื้นที่ให้เขาได้วิ่งเล่นมากหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดของการเลี้ยงสุนัขนั่นก็คือการให้เวลาเขา ดูแลเขา และเล่นกับเขา เพราะสุนัขก็มีจิตใจ อ่านบทความเกี่ยวกับสุนัขเพิ่มเติมได้ที่ Shopee Blog