ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง นอกจากการแต่งตัวแล้วสาว ๆ จะมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นได้อีกก็ต้องมีเส้นผมที่นุ่มสลวย และเป็นเงางาม ดังนั้นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ผมในทุกสภาพสามารถจะดูดีได้ขึ้นมาภายในไม่กี่นาที อีกทั้งยังเป็นการช่วยถนอมเส้นผมสวยนั้นให้ยังอยู่กับเราไปนาน ๆ ก็คงจะต้องเป็นไดร์เป่าผม และจะเลือกไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดีให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของแต่ละคน ซึ่งก็มีทั้งผมหนาฟู หยิก หรือผมเส้นเล็กลีบแบนและบาง ดังนั้นจึงจะมีวิธีเลือกให้ตรงและเหมาะกับเส้นผมแต่ละแบบอย่างไรดี ก็จะมีข้อแนะนำอย่างง่าย ๆ และยังมีรีวิวไดร์เป่าผมน่าใช้มาแนะนำอีกด้วย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
วิธีเลือกซื้อไดร์เป่าผมให้คุ้มค่า
1. เลือก ที่กำลังไฟเหมาะสมกับสภาพเส้นผม
การเลือกซื้อไดร์เป่าผม กำลังไฟจะมีความสำคัญหรือมีผลต่อสภาพผมแต่ละแบบซึ่งจะแตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพเส้นผม เพื่อเป็นการใช้งานให้ได้ประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงจะช่วยถนอมเส้นผมได้อีกด้วย โดยจะมีข้อมูล ดังนี้
- ไดร์เป่าผมกำลังไฟ 1200 วัตต์ จะเหมาะสำหรับผมเส้นเล็ก บางลีบแบน
- ไดร์เป่าผมกำลังไฟ 1300 – 1800 วัตต์ เหมาะกับสภาพเส้นผมที่ไม่ลีบแบนหรือหยิกฟูจนเกินไป
- ไดร์เป่าผมกำลังไฟ 1800 วัตต์ขึ้นไป จะเหมาะสำหรับผมหนาหรือหยิก ชี้ฟูมากเป็นพิเศษ
2. ไดร์เป่าผมใช้เทคโนโลยีประเภทใด
สำหรับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาให้ไดร์เป่าผม มีประสิทธิภาพให้การใช้งานที่เหมาะสมกับเส้นผมที่มีลักษณะแตกต่างกันนั้น
- Ionic Hair Dryer เป็นฟังก์ชันพื้นฐานหาซื้อได้ง่าย ปล่อยประจุลบเหมาะกับผมที่หนามาก หยิกชี้ฟู ซึ่งจะไม่ทำให้ผมแห้งเสีย
- Ceramic Hair Dryer ปล่อยรังสีอินฟราเรดเหมาะกับผมเส้นเล็กบาง และลีบแบน การใช้งานจะช่วยให้ผมมีมิติมากขึ้น
- Titanium Hair Dryer จะเป็นไดร์เป่าผมแห้งเร็ว ให้อุณหภูมิสูงรวมกับเทคโนโลยีการดูแลเส้นผม ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา
- Tourmaline Hait Dryer จะปล่อยประจุลบและอินฟราเรด เป็นไดร์เป่าผมรอบหมุนเหมาะสำหรับผมหนาและฟู
3. ต้องสามารถปรับอุณหภูมิได้
ควรจะมีการสลับการใช้ลมร้อนและลมเย็นจะทำให้เส้นผมไม่แห้งเสียก่อนเวลาที่ควรจะเป็น ไดร์เป่าผมที่ดีควรจะสามารถปรับอุณหภูมิได้ทั้งลมร้อน, ลมปานกลางและลมเย็น ซึ่งสามารถจะปรับระดับให้เหมาะสมกับการใช้งาน และเป็นการดูแลเส้นผมไปในตัวด้วย
4. ควรมีระบบ Cool Shot สำหรับให้ลมเย็น
ระบบ Cool Shot จะช่วยปิดหนังกำพร้าด้านนอกของเส้นผมให้เก็บความชุ่มชื่นและมีน้ำหนัก ไม่แห้งเสียและเพิ่มความเงางาม ทำให้ผมยังคงความนุ่มสลวย และล็อกลอนผมให้อยู่ทรงได้นานโดยป้องกันการชี้ฟู เมื่อเป่าจนแห้งดีแล้ว และ Cool Shot จะเป็นประโยชน์กับเส้นผมที่แห้งและหยาบกร้านโดยจะช่วยขจัดความหยาบกระด้างของเส้นผม ให้กลับมามีชีวิตชีวาสุขภาพดีอีกครั้ง
5. มีอุปกรณ์เสริมอะไรให้บ้าง
สำหรับไดร์เป่าผมบางรุ่นจะมาพร้อมกับหัวเป่าที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายแบบสามารถจะเปลี่ยนหัวได้ เช่น เป็นหัวเป่าสำหรับจัดแต่งทรง, หัวเป่าแบบกระจายลม, หัวเป่าแบบลมอ่อนและหัวเป่าแบบเจาะจง เป็นต้น เสมือนเป็นฟังก์ชันเสริม ก็ถือว่าจะเป็นการใช้งานได้หลากหลาย ทำให้การจัดทรงผมได้ง่ายขึ้นอีก และหากเชื่อมต่อด้วยระบบแม่เหล็กก็จะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
6. ไดร์เป่าผมเสียงเบาหรือไม่
ควรจะเลือกไดร์เป่าผมเสียงเบา หรือที่มีระบบการเก็บเสียงที่ดี ซึ่งจะทำให้ไม่ไปรบกวนเพื่อนร่วมห้อง หรือคนรอบข้าง ซึ่งแต่เดิมบางรุ่นยิ่งปรับระดับให้แรงมากขึ้นก็จะยิ่งทำให้มีเสียงดังมากขึ้นตามไปด้วย แต่ในปัจจุบันนี้มีไดร์เป่าผมแห้งเร็วหลายยี่ห้อด้วยกันที่ออกแบบมาให้มีเสียงที่เบามาก ก็เป็นอีกข้อที่จะต้องคำนึงในการเลือกซื้อ
7. มีขนาดและน้ำหนัก เหมาะกับการใช้งาน
ไดร์เป่าผมที่สามารถจะพกพาได้สะดวกควรจะสามารถพับได้ และควรมีน้ำหนักเบา รวมไปถึงการใช้งานที่จะไม่ทำให้เกิดความเมื่อยล้า ซึ่งก็ไม่ควรจะเกิน 1 กิโลกรัม ก็น่าจะเป็นอีกข้อที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อ เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือกลับต่างจังหวัด คุณสาว ๆ คงจะขาดไดร์เป่าผมไม่ได้แน่นอน
8. ความยาวของสายไฟเพียงพอไหม
เป็นอีกหนึ่งข้อที่จะมองข้ามไม่ได้เลย กับความยาวของสายไฟไม่ควรจะสั้นกว่า 1.7 เมตร เพื่อที่จะเพิ่มความคล่องตัว การเคลื่อนย้ายได้อย่างมีอิสระในขณะใช้งาน ทำให้เพิ่มความสะดวกมากขึ้น หรือหากจะเลือกซื้อเป็นไดร์เป่าผมแบบไร้สายเลยได้ก็น่าจะดีไม่น้อย
แนะนำ 10 ไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี ช่วยถนอมเส้นผมให้สุขภาพดี
1. Dyson Supersonic™ (1600W) รุ่น HD08
ราคา 16,900 บาท
เริ่มต้นกันที่ไดร์เป่าผม Dyson รุ่นนี้เลยที่ถึงแม้จะราคาไม่ถูก แต่สุดเริ่ดคุณภาพสมราคา! ไดร์ไดสันตัวนี้มีกำลังไฟ 1600 วัตต์ การใช้งานด้วยมอเตอร์แบบดิจิตอล V9 บวกกับ Air Multiplie ที่จะทำให้มอเตอร์หมุนเร็วมากขึ้น ทำให้ผมแห้งเร็วกว่าไดร์เป่าผมบางรุ่น ยังมีระบบไอออนประจุลบที่จะช่วยลดไฟฟ้าสถิต และการตรวจจับอุณหภูมิ เพื่อไม่ให้ความร้อนส่งผลเสียต่อเส้นผม และยังเป็นการช่วยบำรุงเส้นผมให้มีความชุ่มชื่น ไม่ชี้ฟู เป็นประกายเงางาม นอกจากนี้มาพร้อมกับเซตหัวไดร์ที่หลากหลายมีการเชื่อมต่อแบบแม่เหล็กประกบกัน หัวเป่าทั่วไป, หัวจัดแต่งทรง, หัวกระจายลม, หัวเป่าลมอ่อนโยน หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี รุ่นนี้บอกได้เลยว่าช่วยตอบโจทย์สำหรับคนผมหยิกฟูหรือผมเส้นเล็ก รวมถึงคนที่มีหนังศีรษะบอบบาง
2. Deliya Hair Dryer 8033 (2200W)
ราคา 139 บาท
ไดร์เป่าผม Hair dryer รุ่นนี้จะเป็นรุ่นยอดนิยม ที่มาพร้อมกับกำลังไฟ 2200 วัตต์ และฟังก์ชันปรับแรงลมได้ 5 ระดับ เป็นไดร์เป่าผมแห้งเร็ว ซึ่งมีระบบร้อนเร็วที่จะทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น มีระบบลมเย็น และลมแรง มีระบบแสงสีฟ้าประจุลบที่จะเป็นฟังก์ชันการดูแลเส้นผม จากที่ชี้ฟู หยิก ให้ดูมีสุขภาพเป็นเงางามชุ่มชื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยอุณหภูมิคงที่ มาพร้อมกับหัวบังคับทิศทางลมได้ 2 แบบ สำหรับตัวเครื่องทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน
3. Xiaomi รุ่น Negative ion Hair Dryer (1600W)
ราคา 459 บาท
สำหรับไดร์เป่าผม Xiaomi รุ่น Negative ion Hair Dryer ไดร์เป่าผมรุ่นนี้ มีกำลังไฟ 1600 วัตต์ปรับความแรงของลมได้ 2 ระดับ ลมร้อนและลมเย็น ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับประจุไอออนที่จะช่วยให้ผมนุ่มลื่น ไม่แห้งเสียและชี้ฟูง่าย มอเตอร์ของไดร์เป่าผมมีรอบหมุน 18,000 รอบต่อนาที ทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ NTC ที่จะช่วยดูแลหนังศีรษะและเส้นผม หัวไดร์เป่าผมแบบแม่เหล็กที่ปรับหมุนได้ 360 องศา ตัวเครื่องยังมีขนาดพอดีมือเหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือพกพาได้สะดวกอีกด้วย
4. Cool A Styler Hair Dryer (1200W)
ราคา 499 บาท
ไดร์เป่าผมรุ่นนี้จะมาพร้อมกับระบบเป่าลมเย็นอัตโนมัติเพื่อป้องกันการเกิดอุณหภูมิในตัวเครื่องสูงที่เกินไป และมีกำลังไฟ 1200 วัตต์ สามารถจะปรับระดับลมร้อนและระดับความแรงได้ 2 ระดับ ซึ่งจะเหมาะกับทุกสภาพเส้นผมและเส้นผมที่ยาวและหนาถึง 2 ชั้น ด้วยเทคโนโลยีใบพัดถึง 7 ใบ เพื่อจะช่วยบีบอัดลมให้แรงอย่างสม่ำเสมอ และยังมาพร้อมกับตะแกรงช่วยกระจายลมให้ออกได้ดี อีกทั้งตัวเครื่องจะสามารถทนความร้อนได้สูง
5. Lesasha (2200W) รุ่น Airmax Smart Hair Dryer LS1354
ราคา 990 บาท
สำหรับไดร์เป่าผมรุ่นนี้ กำลังไฟแรง 2200 วัตต์ซึ่งจะได้ลมแรงและทำให้ผมแห้งไว โดยส่วนมากจะเป็นตัวเลือกสำหรับร้านเสริมสวยอีกทั้งราคาที่ไม่สูงมาก กับความสามารถในการเลือกปรับอุณหภูมิได้ถึง 6 ระดับด้วยกัน ซึ่งจะเหมาะกับสภาพเส้นผมได้เกือบทุกประเภท พร้อมกับระบบ Cool Shot สำหรับการช่วยถนอมหนังศีรษะ ถนอมเส้นผมไม่ให้แห้งเสียเร็วยังคงความเงางามนุ่มสลวยได้ และยังสามารถจะล็อกผมให้อยู่ทรงได้นานมากขึ้น
6. Pinshile Stand Hair Dryer (1700W)
ราคา 3,990 บาท
ไดร์เป่าผมแนวตั้งพร้อมการควบคุมด้วยรีโมทแบบไร้สาย ที่จะปรับอุณหภูมิได้ถึง 5 ระดับ และปรับความเร็วได้ 3 ระดับ เป็นนวัติกรรมที่จะไม่ต้องถือให้เมื่อย จะนั่ง นอน หรืออยู่ในอิริยาบถไหนก็เป่าผมให้แห้งได้ ด้วย Pinshile Stand Hair Dryer มีกำลังไฟ 1700 วัตต์ มากับฟังก์ชันไอออนลบเพื่อลดการชี้ฟูและแห้งแตกปลายและทำให้ผมแห้งเร็ว พร้อมกับดูแลเส้นผม ด้วยการปรับลมอัตโนมัติเพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถจะปรับความสูงได้ 90-150 เซนติเมตร และความกว้าง 0-180 องศา
7. Mi Dreame Hair Dryer (1400W)
ราคา 2,500 บาท
สำหรับไดร์เป่าผมรุ่นนี้จะมาพร้อมกำลังไฟ 1400 วัตต์ กับความแรงลมอยู่ที่ 2 ระดับ และการปรับอุณหภูมิที่ 3 ระดับ ลมเย็น ลมอุ่น และลมร้อน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน และยังมีระบบไอออนประจุลบเพื่อช่วยถนอมเส้นผมไม้ให้ผมแห้งเสียและยังคงความชุ่มชื่นได้ อีกทั้งความเร็วมอเตอร์ที่ 110,000 รอบต่อนาทีจะเป็นไดร์เป่าผมแห้งเร็ว เพื่อจะช่วยลดการเสียดสีของเส้นผม ซึ่งเป็นสาเหตุของการหลุดร่วงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีหัวไดร์มาให้ 2 แบบ แบบกว้างและแบบเจาะจงที่จะใช้วิธีเชื่อมต่อด้วยแม่เหล็ก
8. Xiaomi Soocas H5 Hair Dryer Negative Ion (1800W)
ราคา 1,059 บาท
ไดร์เป่าผมของ Xiaomi รุ่นนี้มีขนาดเล็กและเบา มาพร้อมกำลังไฟขนาด 1800 วัตต์ การใช้งานจะมีการปล่อยไอออนประจุลบเพื่อเป็นการดูแลเส้นผมให้คงความชุ่มชื่นไว้เสมอ และช่วยให้ผมดูเงางามนุ่มลื่นอยู่ตลอดเวลา โดยจะกำหนดอุณหภูมิคงที่ 57 องศา และยังมีการออกแบบใบพัดที่ช่วยทำให้เส้นผมแห้งเร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้ความร้อนสูง โดยรวมถือว่าเป็นไดร์ที่ราคาไม่สูงมาก มีหัวเป่าไดร์แถมมาให้อีก 2 หัว สำหรับรุ่นนี้จะไม่มีลมเย็นในการล็อกทรงผม ราคาก็แตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับลวดลายที่เลือก
9. Panasonic (1800W) รุ่น EH-ND30
ราคา 585 บาท
ไดร์เป่าผมรุ่นนี้สามารถจะพับเก็บได้ มีน้ำหนักเบาเพียง 315 กรัมจึงสะดวกกับการพกพาได้ง่าย มีกำลังไฟ 1800 วัตต์ จะช่วยประหยัดเวลาทำให้เป็นไดร์เป่าผมแห้งเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ Heat Protection ที่จะช่วยปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะจากความร้อนได้ และไม่ทำให้ผมแห้งเสียเร็ว สามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ 3 ระดับ ซึ่งมีระบบลมเย็นที่จะช่วยให้ผมอยู่ทรงได้นานมากขึ้น สำหรับรุ่นนี้จะไม่มีระบบไอออนประจุลบ
ข้อควรระวังเมื่อใช้ไดร์เป่าผม
เมื่อใช้เครื่องเป่าผม สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามข้อควรระวังบางประการและตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเพื่อความปลอดภัยและรักษาสุขภาพของเส้นผม ต่อไปนี้คือข้อควรระวังทั่วไปและสิ่งที่ควรระวังเมื่อใช้ไดร์เป่าผม:
ระวัง อย่าตั้งค่าความร้อนสูงเกินไป
หลีกเลี่ยงการใช้การตั้งค่าความร้อนสูงสุดเว้นแต่จำเป็น เนื่องจากความร้อนที่มากเกินไปอาจทำให้เส้นผมเสียหายได้ อย่าใช้ไดร์เป่าผมมากเกินไปหรือเปิดทิ้งไว้เป็นเวลานาน เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าความร้อนที่ต่ำลงและค่อยๆ เพิ่มถ้าจำเป็น
ระยะห่างของไดร์กับผม และการไหลเวียนของอากาศ
รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างเครื่องเป่าผมและเส้นผมของคุณ เพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไปและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ให้เครื่องเป่าเคลื่อนที่เพื่อกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการเน้นที่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งนานเกินไป
หลีกเลี่ยงการเป่าผมเปียกโชก
อย่าใช้เครื่องเป่าผมกับผมเปียกโชก น้ำที่มากเกินไปอาจทำให้เส้นผมเสี่ยงต่อความเสียหายจากความร้อนได้ ใช้ผ้าขนหนูค่อยๆ ลูบผม ซับผม และขจัดความชื้นส่วนเกินออกให้หมาดก่อนใช้ไดร์เป่า
ใช้สารป้องกันความร้อนบนผมก่อนใช้ไดร์เป่าผม
ก่อนเป่าผม ใช้สเปรย์ป้องกันความร้อนหรือเซรั่มเพื่อสร้างเกราะป้องกันระหว่างความร้อนกับเส้นผม สิ่งนี้สามารถช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากอุณหภูมิสูง
ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเรื่อยๆ
ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องเป่าผมเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสม ตัวกรองที่อุดตันอาจทำให้การไหลเวียนของอากาศลดลงและเครื่องอบผ้าร้อนเกินไป ดังนั้นอย่าลืมทำความสะอาดเป็นระยะๆเสมอ
ความปลอดภัยทางไฟฟ้า
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไฟและปลั๊กของเครื่องเป่าผมอยู่ในสภาพดีและไม่เสียหาย หลีกเลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผมใกล้น้ำหรือบริเวณที่เปียกชื้นเพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายจากไฟฟ้า
การเก็บรักษาไดร์เป่าผม
หลังการใช้งาน ปล่อยให้เครื่องเป่าผมเย็นสนิทก่อนเก็บไว้ในที่ปลอดภัยและแห้ง หลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในที่พื้นที่ปิดและไม่ถ่ายเทอากาศเพราะความร้อนสามารถสะสมหรือถ่ายเทได้
ใช้อุปกรณ์แนบอย่างเหมาะสม
เมื่อใช้อุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น หัวกระจายกลิ่นหรือหัวกระจายอากาศ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์แนบแน่นและอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผมแห้งไม่เท่ากันหรือผมเสียได้
ความปลอดภัยส่วนบุคคล
ระวังสิ่งรอบข้างขณะใช้เครื่องเป่าผม หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบผ้าใกล้กับวัตถุไวไฟ และวางให้ห่างจากใบหน้า ดวงตา และบริเวณที่บอบบางอื่นๆ ในร่างกายของคุณ หากไดร์เป่าผมทำงานหนักและร้อนจนไฟตัด ให้พักไดร์เป่าผมให้เย็นแล้วค่อยกลับมาเปิดใช้เป่าอีกครั้งหนึ่ง
จะซื้อไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี เส้นผมเป็นเงางามไม่เสียง่าย
เป็นอย่างไรบ้างกับการรีวิวไดร์เป่าผมในแต่ละรุ่น ที่จะช่วยให้คุณสาว ๆ ได้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าจะเลือกซื้อไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี ที่จะเหมาะกับสภาพเส้นผม เพื่อให้ผมดูมีสุขภาพเป็นเงางามมากขึ้น มากกว่าการเป่าลมร้อนให้ผมแห้งเพียงอย่างเดียว นอกจากฟังก์ชันการใช้งานที่ดีแล้วยังมีขนาดของตัวเครื่องที่สวยงามมีความแข็งแรงและพกพาได้ง่าย ซึ่งปัจจุบันนี้ไดร์เป่าผมกับเทคโนโลยีดี ๆ เพื่อเส้นผมให้มีสุขภาพดีก็มักมีราคาที่ไม่แพงเลย และอย่าลืมบำรุงผมด้วยวิตามินบำรุงผมเพื่อเส้นผมที่สวยงามกันด้วยล่ะ