ในที่สุดเราก็เดินทางมาจนถึงเดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปีเก่า แล้ว จะต้องพูดว่าเป็นปีได้ผ่านอะไรมามากมาย ในช่วงสิ้นปีนี้ที่สถานการณ์กำลังจะดีขึ้น หลาย ๆ คนเริ่มวางแผนแล้วว่าจะเริ่มเที่ยวที่ไหนกันบ้าง สำหรับบางคนที่ไม่ได้ออกต่างจังหวัด บอกเลยว่าที่เที่ยวกรุงเทพฯ นั้น ซ่อนสถานที่ท่องเที่ยวไว้อีกมากมาย วันนี้เราจะนำไอเดียที่เที่ยวกรุงเทพฯ ทั้งของเด็ก ๆ ตลาดน้ำ ธรรมชาติ ที่ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักจนถึงจุด Landmark วันปีใหม่ มาดูกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ตลาดน้ำในกรุงเทพฯ
มาเริ่มต้นด้วยตลาดน้ำในกรุงเทพฯ แหล่งของอร่อยของคนไทยและนักท่องเที่ยวกันดีกว่า การเดินเที่ยวตลาดน้ำนั้นเหมาะกับวันหยุดสบาย ๆ เที่ยวคนเดียวก็ได้ กับเพื่อนก็ได้ กับครอบครัวก็ยิ่งสนุก เป็นที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่ไม่ต้องขับรถไปไกล ๆ ใช้บริการขนส่งสาธารณะก็สะดวก แถมยังได้กินของอร่อยในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย ว่าแล้วก็มาดู 5 พิกัดตลาดน้ำในกรุงเทพฯ กันเถอะ
1. ตลาดน้ำตลิ่งชัน
ถ้าพูดถึงตลาดน้ำที่อยู่ใจกลางเมืองหลวงแล้ว ต้องนึกถึงตลาดน้ำก่อนเป็นที่แรกเลย เพราะเป็นที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่เดินทางสะดวกและยังคงความเป็นธรรมชาติ เราจะเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านริมสองฝั่งคลอง แวดล้อมไปด้วยสวนผักเขียวชอุ่ม ตลาดน้ำตลิ่งชันเป็นหนึ่งในตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ที่ของกินอร่อยมาก วันเสาร์-อาทิตย์ไหนว่าง มาได้ตลอด อาหารที่วางขายนั้นส่วนใหญ่จะมีรสจัดแบบไทยแท้ เช่น อาหารทะเล เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสุดแซ่บ ตามด้วยของหวานที่ไม่ค่อยจะหาซื้อกันได้แล้ว นั่งชิวรับลมบนเรือแพ มองทิวทัศน์การดำเนินชีวิตและสีเขียวของต้นไม้ แล้วจะติดใจจนแทบไม่อยากกลับเลยล่ะ
พิกัด ริมฝั่งแม่น้ำบางขุนศรี แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน
เปิดบริการ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.
การเดินทาง รถเมล์ สาย 79 และ 83
2. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
ออกไปสัมผัสบรรยากาศบ้านชนบท หายใจลึก ๆ สูดอากาศเข้าปอดแบบเต็มรัก ได้ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ที่มีบรรยากาศเรียบง่าย เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลอง ยังมีของขายตลอด 2 ฝั่ง มีผักปลอดสารพิษขาย และของอร่อยที่ดีต่อสุขภาพให้ได้ชิม ที่จัดว่าเด็ดเลยของตลาดน้ำคลองลัดมะยมปลาแม่น้ำสด ๆ ที่ปรุงด้วยวิถีพื้นบ้าน รสชาติดีเลิศ นอกจากของกินราคาเบา ๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังได้ศึกษาวิถีชีวิตชาวบ้านด้วยล่องเรือชมธรรมชาติประมาณ 40-50 นาที 1 ลำนั่งได้ 8 คน ราคาคนละ 20 บาท ค่ะ ถ้ามากันเป็นกลุ่มก็เหมาลำไปเที่ยวกันได้เลย
พิกัด ถนนบางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน
เปิดบริการ เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น.
การเดินทาง รถเมล์สาย 42, 40, 56, 68, 80, 509 มาลงที่แม็คโครจรัญสนิทวงศ์ ขึ้นรถสองแถวสายตลาดบางขุนศรีมาลงที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
3. ตลาดน้ำขวัญเรียม
ใครที่ดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์มาแล้ว ต้องลองมาเที่ยวตลาดน้ำขวัญเรียมสุดแสนคลาสสิค ริมคลองแสนแสบ ตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ริมคลองแสนแสบสุดร่มรื่น มีแนวคิดจากการจำลองวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลองแสนแสบ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ถึงคนรุ่นหลัง จุดแลนด์มาร์คที่ตั้งเด่นก็คือสะพานเชื่อมวัดบำเพ็ญเหนือ ซอยเสรีไทย 60 และวัดบางเพ็งใต้ ซอยรามคำแหง 18 เสมือนเป็นการเชื่อมวัฒนธรรมสองฝั่งคลอง ก่อนจะเข้าไปเที่ยวโซนตลาดน้ำก็แวะให้อาหารสัตว์ที่ฟาร์มกันสักหน่อย มีทั้งม้า แพะ นกฟลามิงโก้ เป็ด และหงส์ บอกเลยว่าคนรักสัตว์ต้องถูกใจแน่นอน จากนั้นก็ไปหาของอร่อยกิน มีทั้งทองม้วนสด ขนมเบื้อง ชาชักโบราณ รวมไปถึงหมูย่างเมืองตรัง
4. ตลาดน้ำวัดสะพาน
ตลาดน้ำวัดสะพานเป็นตลาดน้ำริมคลองภายในวัดซึ่งคลองหน้าวัดก็ยังคงรักษษความเป็นธรรมชาติอยู่มาก เพราะรายล้อมไปด้วยบ้านเรือนของชาวบ้านที่ยังเป็นรูปทรงสมัยก่อนอยู่ เหนือลำคลองมีต้นต้นมะพร้าวสูงเด่นพลิ้วไหว มีสายลมอ่อน ๆ พัดปะทะผิวหน้า ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ ถ้ามาในช่วงที่ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ออกดอกสีชมพูบอกเลยว่าถูกใจสายถ่ายรูปเลย วันที่มีตลาดน้ำจะมีแม่ค้าแล่นเรือมารอขายของอร่อย ๆ อีกทั้งยังมีเรือรับจ้างพาเที่ยวตามลำคลอง ใครที่มาถึงตอนเช้า ๆ ก็จะได้ตักบาตรด้วย จากนั้นก็กินอาหารเช้า รับอากาศสดชื่น บรรยากาศร่มรื่น เรียบง่ายแต่ประทับใจ
5. ตลาดน้ำบึงพระยา
ตลาดน้ำบึงพระยาสุเรนทร์หรือตลาดน้ำบึงพระยา ตั้งอยู่บริเวณริมคลองพระยาสุเรนทร์ ข้างวัดพระยาสุเรนทร์ที่มีอายุมากกว่า 120 ปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ เสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและกระตุ้นให้ชาวกรุงเทพฯ หันเข้ามาท่องเที่ยววัด
ร้านค้าภายในตลาดมีจำนวนกว่า 200 ร้านค้า มีร้านอาหารคาวหวานทั้งก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสเผ็ดจนต้องซู๊ดปาก น้ำพริกรสแซ่บจัดจ้าน หอยทอดกระทะร้อน ห่อหมก เมี่ยง กุ้งเผา ปลานิลย่างเกลือ ร้านขนมไทยโบราณ ทั้งขนมหม้อแกง ขนมชั้น ขนมถ้วยโบราณ ขนมลูกชุบ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของจุกจิกรวมไปถึงของที่ระลึกราคาย่อมเยาสำหรับซื้อไปฝากอีกด้วย
หลังจากไปเที่ยวตลาดน้ำในกรุงเทพฯ แล้ว บางท่านก็อยากออกไปเที่ยวเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางสีเขียวของธรรมชาติ เงียบ ๆ สบาย ๆ บอกเลยว่าในที่เที่ยวธรรมชาติในกรุงเทพฯ ก็มีป่ากลางกรุงพร้อมสำหรับเป็นที่พักใจของทุกคน จะไปถ่ายรูป หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ก็พร้อม วันหยุดที่จะถึงนี้ต้องเตรียมแผนไปแล้ว
ที่เที่ยวธรรมชาติในกรุงเทพฯ
1. ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท.
เริ่มต้นที่เที่ยวธรรมชาติในกรุงเทพฯ กันด้วยที่แรกที่จะพาทุกคนไปสูดอากาศดีบริสุทธิ์เข้าปอด นั่นก็คือศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท. ป่าในกรุงที่เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในที่ดินของ ปตท. สถานที่เที่ยวธรรมชาติในกรุงเทพฯ ภายในประกอบด้วยพันธุ์ไม้ดั้งเดิมและพันธุ์ไม้หายากกว่า 250 ชนิด มีแหล่งน้ำและอาคารเพื่อการเรียนรู้ เมื่อเข้าไปด้านในแล้ว จะพบเส้นทางเดินที่มีระยะทาง 200 เมตร ระดับความสูงแตกต่างกันตั้งแต่ระดับพื้นดินจากถึง 10.2 เมตรจากพื้นดิน เดินไปสักพักจะเจอหอชมป่า เมื่อขึ้นไปข้างบนแล้วมองลงมาก็จะเห็นป่า สายน้ำ มีลมเย็น ๆ ปะทะหน้า ผ่อนคลายสุด ๆ ซึ่งหอชมป่านี้สูงถึง 23 เมตร มีไว้เพื่อชมป่าในระดับชั้นเรือนยอด เห็นการเติบโตของป่าจากต้นกล้าเล็ก ๆ จนกลายเป็นป่าที่สมบูรณ์
พิกัด ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ
เปิดบริการ อังคาร-อาทิตย์ 09.00 – 17.00 น.การเดินทาง รถเมล์ ปอ. สาย 92 (เคหะร่มเกล้า – อนุสาวรีย์) หรือขึ้นรถตู้ (อนุุสาวรีย์ชัย – หัวตะเข้)
2.สวนวชิรเบญจทัศ
อีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติในกรุงเทพฯ ที่เดินทางสะดวกมากที่สุด เปิดตั้งแต่เช้ายันเย็นก็ขอแนะนำสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟนั่นเอง กิจกรรมเด็ด ๆ ของสวนรถไฟก็คือเป็นสวนสำหรับคนรักสุขภาพ ตอนเช้าหรือตอนเย็น ๆ เนี่ยจะเจอเหล่านักวิ่งจำนวนมากมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานเล่นรอบสวนแล้วอีกด้วย นอกจากเหล่านักออกกำลังกายแล้ว สวนรถไฟยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพราะเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ และดอกไม้สวย ๆ มากมาย มีอาคารจัดแสดงและเพาะเลี้ยงผีเสื้อและแมลงชนิดต่าง ๆ พรรณไม้ บ่อน้ำ น้ำตก ออกมาด้านนอกจะเจอสระน้ำที่มีบริการเรือปั่น ใครที่พาเพื่อน แฟน หรือลูก ๆ ไปก็สามารถเช่าเรือปั่นกันได้เลย
พิกัด ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 5.00–21.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต ทางออก 3 และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสวนจตุจักร ทางออก 2
3. สวนหลวง ร.9
บอกเลยว่าสวนหลวง ร.9 เป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่มากที่สุดในกรุงเทพฯ ใครที่ชื่นชอบต้นไม้และดอกไม้จะต้องชอบความหลากหลายที่นี่อย่างแน่นอน นอกจากจะได้ชมอย่างจุใจแล้ว ยังเหมาะกับสายถ่ายรูปอีกด้วย พื้นที่ด้านในแบ่งออกเป็นหลายโซน มีทั้งหอพฤกษศาสตร์ พันธุ์ไม้ทะเลทราย พันธุ์ไม้ในร่มและสวนน้ำ ตอนเช้า ๆ จะมีผู้คนมาวิ่งออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก เพราะอากาศดี เย็นสบาย บ่าย ๆ หน่อยก็จะเหมาะกับการเดินเล่น ชมดอกไม้ ปั่นเรือน้ำ ใครสนใจมีค่าผ่านประตู 10 บาท ค่าจอดรถคันละ 50 บาท
พิกัด ถนนสุขุมวิท 103 (ซอยอุดมสุข) แขวงหนองบอน เขตประเวศ
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 09.00-17.00 น.
การเดินทาง รถเมล์ สาย 145 หรือ 206 แล้วต่อมอเตอร์ไซค์ หรือรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุขแล้วต่อมอเตอร์ไซค์
4. อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ
อุทยาน 100 ปี จุฬา นับว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติในกรุงเทพฯ ให้ความรู้สึกเหมือนไปเดินสวนสาธารณะที่เกาหลีมาก เป็นสวนสาธารณะระดับ Community Park หรือสวนชุมชน เพรราะมีพืชพื้นถิ่นบนพื้นที่ถึง 28 ไร่ มีพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้ง แบ่งเป็น 3 ส่วน คือพื้นที่ทำกิจกรรมขนาดเล็ก (จุได้ 50 คน) พื้นที่ทำกิจกรรมขนาดกลาง (จุได้ 700 – 1,400 คน) และพื้นที่ทำกิจกรรมขนาดใหญ่ (จุได้ 9,780 คน) นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ชุ่มน้ำประดิษฐ์เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศและกิจกรรมนันทนาการ มีอาคารอเนกประสงค์ที่ออกแบบให้ลาดเอียงเพื่อซึม ดัก และกักเก็บน้ำฝนในฤดูฝน และนำน้ำกลับมาใช้ในฤดูร้อน เป็นสวนที่เหมาะกับการมาเดินเพื่อสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ ที่เด็ดก็คือมีจักรยานกังหันน้ำที่ออกแบบให้เหมือนจักรยานที่ใช้แรงคนปั่น ไปถึงแล้วก็ไปปั่นกันได้ เป็นการบำบัดน้ำและออกกำลังกายไปด้วยในตัว
พิกัด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซอยจุฬาลงกรณ์ 5 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 05.00-19.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน ทางออก 2 หรือรถไฟฟ้า BTS สถานีสยามและสนามกีฬาแห่งชาติ
5. สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
หลาย ๆ คนน่าจะเคยไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์เด็กสมัยเรียนหนังสือ ดังนั้นแล้วน่าจะรู้จักสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เพราะตั้งอยู่ใกล้กับสวนจตุจักร ขอบอกว่าภายในมีต้นไม้และการจัดดอกไม้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ภายในยังแบ่งป่าออกเป็น ป่าเบญพรรณ ป่าดิบชื้นและป่าพรุ มีสวนน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ที่ไปเดินเล่นหรือออกกำลังกายเย็นสบาย
พิกัด ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 05.00-20.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต ทางออก 1 หรือ 3 หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสวนจตุจักร ทางออก 1 หรือ 2
พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ
แนะนำสถานที่เด็ด ๆ ไป 2 แบบแล้ว ต่อไปก็ต้องเอาใจเด็ก ๆ ซะหน่อย สำหรับครอบครัวที่พาลูกไปเที่ยวด้วยนั้น กรุงเทพฯ เองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงแหล่งเรียนรู้ ให้เด็ก ๆ ได้ทั้งความรู้และความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กัน พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูเลย
1. สวนสยาม
สวนสยาม สถานที่ในความทรงจำในวัยเด็กของหลาย ๆ คนจากรุ่นสู่รุ่น ภายในมีทั้งสวนสนุกและสวนน้ำขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ จนมีคำพูดที่ติดหูว่า “สวนสยาม ทะเลกรุงเทพฯ” ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อแล้วเป็น สวนสนุก Siam Amazing Park ภายในจะแบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ๆ ได้แก่ สวนน้ำ Water World เป็นทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส Extreme World รวบรวมเครื่องเล่นท้าความเสียวระดับโลก Adventure World ดินแดนแห่งการผจญภัยกับเครื่องเล่นหลากหลาย Family World ดินแดนของเครื่องเล่นที่เหมาะกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว และ Small World ดินแดนเครื่องเล่นไซส์มินิสำหรับนักผจญภัยตัวน้อย เยอะมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น อย่ารอช้า ส่งต่อความประทับใจจากรุ่นสู่ด้วยด้วยการพาลูกไปเที่ยวกันเถอะ
พิกัด ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 10.00-18.00 น.
การเดินทาง รถเมล์ สาย 60,71,73ก,96,115,168
2. ซาฟารีเวิลด์
พาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ ที่ซาฟารีเวิลด์ สวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนซาฟารี ปาร์ค สำหรับขับรถเข้าไปหรือใช้บริการรถของซาฟารีเวิลด์เพื่อชมสัตว์ป่าในบรรยากาศทุ่งกว้างแอฟริกา รวมระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร โซนถัดมาคือมารีน ปาร์ค สำหรับชมการแสดงและสัตว์ต่าง ๆ ตามตารางโชว์ ถัดมาเป็นโซนเปิดใหม่ Jungle Walk ให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหารยีราฟ ชมนิทรรศการไข่นก และโซนแสดงนกแก้วซันคอนนัวส์ ใครที่เป็นสายรักสัตว์และสายถ่ายรูป บอกเลยว่าจะต้องถูกใจมากแน่ ๆ ยิ่งถ้าเด็ก ๆ ได้ไปละก็จะทำให้รู้จักสัตว์หลากหลายชนิด ใครที่สนใจจะพาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ ที่ซาฟารีเวิลด์ละก็ วันเสาร์อาทิตย์ตคนจะเยอะกว่าวันธรรมดา ดังนั้นควรเตรียมหมวก ร่มมาด้วย เพราะช่วงนี้อากาศก็กลับมาร้อนอีกแล้ว
3. KidZania Bangkok
คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่อยู่กรุงเทพฯ และกำลังหาสถานที่ที่เหมาะจะพาลูก เที่ยวกรุงเทพฯ ต้องไม่พลาด คิดส์ซาเนีย ศูนย์การเรียนรู้และความบันเทิงสำหรับเด็กอายุ 4-14 ปี ที่นี่จะมุ่งเน้นประสบการณ์การเรียนรู้ควบคู่ความสนุกสนาน ผ่านการสวมบทบาทเสมือนจริงตามอาชีพที่เด็ก ๆ ใฝ่ฝันอยากจะเป็นในอนาคต เช่น นักบิน หมอ นักแสดง นักดับเพลิง ตำรวจและนักข่าว
พิกัด ศูนย์การค้าสยามพารากอน ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00-18.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม
4. Imaginia Playland
อิเมจิเนียเพลย์แลนด์เป็นพื้นที่เสริมสร้างจินตนาการสำหรับเด็ก ๆ พร้อมที่จะสัมผัสสวนสนุกปลูกจินตนาการถึง 3 ภาษา (ไทย-อังกฤษ-ญี่ปุ่น) ส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ กระบวนคิด และความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเรียนรู้จากกิจกรรมศิลปะ ดนตรี วรรณกรรม และการเล่นที่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละวัย
พิกัด ศูนย์การค้าดิเอมโพเรียม ถนนสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 10.00-19.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์
5. ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาวิชาภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ เพราะเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เสมือนจริง ภายในมีอาคารท้องฟ้าจำลอง มีการจัดการแสดงท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ รอบละ 1 ชั่วโมง โดยบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์ในช่วงแรก และฉายภาพยนตร์ในช่วงท้าย นอกจากนี้ยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แสดงนิทรรศการวิทยาศาสตร์พื้นฐานและเทคโนโลยี เช่น ธีออส ดวงตาของชาติ ดินแดนแห่งแร่ พลังวิทย์พิชิตยาเสพติด คณิตศาสตร์แสนสนุก นอกจากนี้ยังมีอาคารโลกใต้น้ำที่แสดงนิทรรศการมหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ อาคารธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่จัดแสดงนิทรรศการด้านธรรมชาติวิทยา และสิ่งแวดล้อม เหมาะแก่การพาลูกเที่ยวกรุงเทพฯ มาก
พิกัด ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย
เปิดทำการ อังคาร-อาทิตย์ 09.00-16.30 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย
ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก
ออกไปเที่ยวมาทั้งตลาดน้ำ สวนสาธารณะ แหล่งเรียนรู้ของเด็ก ๆ แล้วก็มาหาที่เที่ยวในกรุงเทพฯที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักกันต่อ บางที่จัดว่าเด็ดมาก อยากแนะนำให้ทุกคนรู้จัก
1.มิวเซียมสยาม
มิวเซียมสยามเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่มีความแปลกใหม่เพราะกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีเทคนิกการเล่าเรื่องพร้อมทั้งทิ้งคำถามชวนสงสัยกลับมายังผู้เข้าชมให้ขบคิด เช่น ความเป็นไทยหมายถึงอะไร หรือ สุวรรณภูมิอยู่ที่ไหนกันแน่ เป็นที่เที่ยวในกรุงเทพฯ และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักที่ดีเพราะนอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับนิทรรศการแล้วยังได้ความรู้อีกด้วย
พิกัด ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 10.00-18.00 น.
การเดินทาง รถเมล์ สาย 3, 6, 9, 12, 32, 44, 47, 53, 82, 524
2. คิงพาวเวอร์มหานคร
ขึ้นไปส่องทิวทิศน์ยามเย็นของกรุงเทพฯ ได้ที่ตึกคิงพาวเวอร์มหานคร ตึกระฟ้าที่ออกแบบให้เสมือนโอบล้อมด้วยริบบิ้น 3 มิติ มีความสูง 314.2 เมตร จำนวน 78 ชั้น ซึ่งชั้นที่เราจะไปไปชมนั้นคือส่วนมหานคร สกายวอล์ค (Mahanakhon SkyWalk) จุดชมทัศนียภาพบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร เมื่อเสียค่าเข้าชม 765 บาทแล้ว ก็จะได้ขึ้นไปชมที่ส่วนสกายวอล์กและส่วนรูฟท็อป ที่จะได้เดินทางสู่จุดชมวิวภายในอาคารแบบ 360 องศาที่ชั้น 74 และ 75 ด้วยลิฟต์ด้วยหนึ่งในลิฟต์โดยสารที่เร็วที่สุดในโลกโดยใช้เวลาเพียง 50 วินาทีเท่านั้น ถูกใจสายถ่ายรูปแน่นอน เมื่อขึ้นไปที่ชั้น 78 ผ่านลิฟต์แก้วไฮโดรลิก ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์บนพื้นกระจกลอยฟ้า ณ ความสูง 314 เมตร เพื่อชมวิวจากจุดสูงสุดของคิงเพาเวอร์มหานคร จะตื่นเต้นแค่ไหน สวยขนาดไหน ต้องลองไปชมกันด้วยตัวเอง
พิกัด ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 10.00-24.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี
3. บ้านบางเขน
Credit: กูโรตีชาชัก บางเขน /facebook
บ้างบางเขนเป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ยุค 90’s ที่รวบรวมแหล่งเรียนรู้เรื่องราวในอดีต ของสะสมโบราณ ให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ด้วยตกแต่งสไตล์บ้านด้วยไม้ อิฐปูน ข้าวของเครื่องใช้ก็เหมือนของที่เราใช้ตอนเด็ก ๆ มีมุมถ่ายรูปสุดเก๋ตั้งอยู่มากมายท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่มให้ได้นั่งทานชิล ๆ กันด้วย ระวัง ใครที่มาในช่วงพักกลางวัน ช่วงเย็นและหัวค่ำ คนจะเยอะมาก ถ้าอยากได้มุมถ่ายรูปสวย ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาดังกล่าว ค่าเข้าชมก็ไม่แพง เพียงคนละ 20 บาทเท่านั้
พิกัด ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 11.00-23.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต แล้วต่อรถเมล์ สาย 26, 34, 39, 59, 107, 114, 129, 185, 503, 512, 522, 543
4. พระราชวังพญาไท
ในเขตพระราชวังพญาไทประกอบด้วยพระที่นั่งพิมานจักรี พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน ดุสิตธานี พระตำหนักเมขลารูจี พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ เหมือนดังในรูป เป็นที่ประทับของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างคลาสสิคและอาร์ทนูโว บอกเลยว่าได้ทั้งสาระความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยและความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าที่สวยงาม
พิกัด ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
เปิดบริการ เปิดทุกวัน ยกเว้นวันพุธและวันศุกร์ 09.30-15.30 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
5. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
หอศิลป์เป็นอาคารสูง 9 ชั้น (ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น) ตัวอาคารเป็นรูปทรงกระบอก มีทางเดินวนเชื่อมต่อระหว่างอาคาร ออกแบบให้รับแสงสว่างจากภายนอกได้ ภายในมีห้องนิทรรศการ ห้องสมุดประชาชน ห้องปฏิบัติการศิลปะ ห้องอเนกประสงค์ที่จุได้ 300 ที่นั่ง ร้านค้า รวมไปถึงโรงภาพยนตร์-โรงละครขนาด 222 ที่นั่ง สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายรูปสวย ๆ ในช่วงวันหยุดหรือหลังจากเลิกงาน คนที่ชื่นชอบงานศิลปะ ภาพยนตร์ ก็แวะไปดูงานกันได้เลยจ้า
พิกัด ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน
เปิดบริการ ทุกวันยกเว้นวันจันทร์ 10.00-19.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ
เที่ยวกรุงเทพฯ ปีใหม่
ปิดท้ายทริปเที่ยวกรุงเทพฯ ปีใหม่ ด้วยสถานที่ยอดฮิตสำหรับเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ แน่นอนว่าจะต้องมีสถานที่ทำบุญรับความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีที่จะถึงนี้ มาดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนบ้าง
1. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
Credit: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
วัดอรุณราชวราราม หรือเรียกสั้น ๆ ว่าวัดแจ้ง เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในจะมีพระปรางค์ใหญ่ที่เป็นศิลปกรรมที่สง่าและโดดเด่น สร้างโดยช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญ บนพระปรางค์ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน เที่ยวกรุงเทพฯ ปีใหม่นี้ต้องมาวัดอรุณราชวรารามเพื่อสักการะบูชาและชื่นชมความงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่คู่กับชาวไทยมาเนิ่นนาน
พิกัด ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 08.00-18.00 น.
การเดินทาง เรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเตียน แล้วนั่งเรือข้ามฟากมาลงท่าเรือหน้าวัดอรุณฯ
2. วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)
วัดเล่งเน่ยยี่เป็นอีกหนึ่งวัดจีนที่ชาวกรุงเทพฯ นิยมมาไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทวยเทพ ยิ่งการเดินทางสมัยนี้บอกเลยว่าไม่ยาก เพราะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น เทพเจ้าที่นิยมมาไหว้ขอพรมากเห็นจะเป็นคือ ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไต่เสี่ยหุกโจ้ว เทพเจ้าเฮ่งเจีย และ ปู๊กุ่ยหุกโจ้ว พระเมตไตรยโพธิสัตว์ เมื่อเข้าไปในบริเวณวัด จะมีบริการธูป เทียน และดอกไม้ เมื่อไหว้ขอพรเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาด้านใน ก็จะเจอกับเทพเจ้าหลายองค์ให้กราบไหว้ ใครที่ต้องการสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงก็เข้าไปทำพิธีด้านในได้เลย
พิกัด ถนนเจริญกรุง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 08.00-17.00 น.ฃ
การเดินทาง รถไฟฟ้า MRT สถานีวัดมังกร
3. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
ที่เที่ยวปีใหม่อีกที่เห็นทีจะเป็นเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ป็นศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดใหญ่ ภายในบอกเลยว่าต้องเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและอาหารที่มีทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน และซีฟู้ด อีกทั้งยังแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ได้แก่ ย่านเจริญกรุง ย่านกลางเมือง ย่านโรงงาน และย่านริมน้ำ ที่ตั้งเด่นแบบสะดุดตาเลยก็คือชิงช้าสวรรค์เอเชียทีค หรือเอเชียทีคสกาย ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่มีความสูงมากกว่า 60 เมตร เมื่อขึ้นไปแล้วจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพมุมสูงยามเย็นของแม่น้ำเจ้าพระยา บอกเลยว่าสุดจะประทับใจ แต่ใครที่กลัวความสูงอาจจะต้องงดก่อนนะ เพราะสูงมากจริง ๆ
พิกัด ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 11.00-0.00 น.
การเดินทาง รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สถานีพระราม 3 จากนั้นต่อรถแท็กซี่
4. Vertigo Moon & Bar
ชมวิวกรุงเทพฯ ยามเย็นแบบ 360 องศา บนชั้น 61 ของโรงแรม Banyan Tree Bangkok ที่ Vertigo Moon & Bar ขอบอกว่าวิวสวยมาก จุดที่หลาย ๆ คนชอบไปถ่ายรูปก็คือสกายวอล์กด้านข้างขนาดเล็ก ติดกับ Moon Bar จะถ่ายกลางคืนหรือกลางวันก็สวย โต๊ะนั่งมีหลายโซนแล้วแต่ว่าอยากได้บรรยากาศแบบไหน เช่น เน้นชมวิวเมือง เน้นที่นั่งคู่สำหรับความโรแมนติก หรือเน้นสังสรรค์กับเพื่อน อยากได้มุมแบบไหน ยังไงก็ต้องรีบโทรไปจองล่วงหน้า ช้าอด หมดนะจ๊ะ
พิกัด โรงแรม Banyan Tree Bangkok ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 17.00-01.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า สถานีลุมพินี แล้วต่อรถแท็กซี่
5. ล้ง 1919
เอาใจชาวฝั่งธนฯ ไม่ต้องไปไกลก็มีที่เที่ยวสุดชิคริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ภายใน ล้ง 1919 มีพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรม นิทรรศการ ที่แน่ ๆ ต้องมีร้านอาหาร และคาเฟ่ เป็นสถานที่พบปะของคนเมือง นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าศิลปะและหัตถกรรม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ และศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วให้สักการะอีกด้วย
พิกัด ถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน
เปิดบริการ จันทร์-อาทิตย์ 08.00-20.00 น.
การเดินทาง รถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสิน ลงมาท่าเรือสาธรต่อเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงฟ้า) มาลงที่ท่าเรือหวั่งหลี หรือรถไฟฟ้า BTS สถานีกรุงธนบุรีแล้วต่อรถแท็กซี่
ก่อนไปชาร์ตแบตเตอรี่สมาร์ตโฟน และกล้องถ่ายรูปไว้ให้ดี เพราะมีจิตรกรรมฝาผนัง งานอาร์ต มุมกำแพงเก่ามากมายที่เหมาะแก่การถ่ายรูป
และนี่ก็เป็นที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่เราอยากแนะนำให้คุณไป หากปีใหม่นี้ไม่อยากออกต่างจังหวัดก็ให้ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่เราแนะนำได้เลย
Credit:pixabay