พูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าติดบ้านก็หนีไม่พ้นตู้เย็นที่จะช่วยเก็บรักษาอาหารให้สดและใหม่อยู่เสมอ และในปัจจุบันก็มีการพัฒนารุ่นต่าง ๆ ออกมามากมายจากหลากหลายแบรนด์ดัง พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้นที่ในวันนี้ จะชวนชาวแอปส้มไปเลือกตู้เย็นยี่ห้อไหนดี 2025 ? พร้อมบอกความแตกต่างระหว่างตู้เย็น 1 ประตูและ 2 ประตูที่จะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นในการซื้อตู้เย็นดี ๆ สักเครื่องให้ใช้งานได้นานและประหยัดไฟ
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ตู้เย็น 2 ประตูกับ 1 ประตูต่างกันอย่างไร
ตู้เย็นส่วนใหญ่ที่มักจะพบเจอจะเป็นแบบ 1 หรือ 2 ประตูที่จะมีความแตกต่างกันตรงที่ขนาดซึ่งโดยทั่วไปแล้วตู้เย็น 1 ประตูจะมีความจุเริ่มต้นประมาณ 3 คิว แต่ถ้าหากเป็นตู้เย็น 2 ประตูความจุเริ่มต้นจะอยู่ที่ 6 – 20 คิว ส่วนฟังก์ชันการใช้งานก็จะต่างที่ 1 ประตู จะมีประตูเล็ก ๆ แยกช่องแช่แข็งอยู่ภายใน แต่สำหรับ 2 ประตูจะแยกช่องแช่เย็นธรรมดาและช่องแช่แข็งออกจากกันที่มีจุดเด่นในการช่วยประหยัดพลังงาน ทำความเย็นได้ดีกว่าและมักจะมีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ
ส่องทริคเลือกตู้เย็นอย่างไร ให้ประหยัดไฟ ใช้งานได้นาน
ใครกำลังมีแพลนจะซื้อตู้เย็นใหม่ แต่ไม่รู้ควรเลือกตู้เย็นยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟ ช้อปปี้มีทริคดี ๆ ในการเลือกซื้อตู้เย็นมาฝาก
1. เลือกตามขนาดพื้นที่
เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีการระบายอากาศตลอดเวลา โดยควรเว้นพื้นที่ห่างจากกำแพงอย่างน้อย 5 ซม. ที่ก่อนจะตัดสินใจซื้อสิ่งที่อยากให้คำนึงคือเรื่องพื้นที่ซึ่งควรวัดขนาดพื้นที่ เพื่อเลือกซื้อตู้เย็นที่จะสามารถวางได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะคอนโดและหอพักที่มีข้อจำกัดในส่วนของพื้นที่วาง
2. เลือกจากวัสดุ
ที่ควรมีความแข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้ดี ทำความสะอาดง่าย ไม่ขึ้นสนิมที่อาจจะปนเปื้อนไปกับอาหารส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เลือกใช้กลุ่มสารทำความเย็น เช่น R-32, R-125, R-134a, R404A, A407C, R410A, R507A, R508B ที่มีทำความเย็นได้ดีและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่ากลุ่ม HCFC (Hydrochlorofluorocarbon)
3. เลือกจากฟังก์ชันการใช้งาน
โดยฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ควรมี ได้แก่ ชั้นวางที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย มีการแยกช่องแช่ผักและผลไม้เพื่อควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเหมาะสม มีช่องแช่แข็งเนื้อสัตว์ หรืออื่น ๆ ที่จะช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ มีชั้นวางขวดน้ำ หรือไข่ไก่เพื่อจัดระเบียบได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงการละลายน้ำแข็งได้อัตโนมัติที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกมากยิ่งขึ้นไม่ต้องไปกดเอง
4. เลือกตามงบและการใช้งาน
นอกจากพื้นที่แล้ว ราคาก็เป็นเรื่องสำคัญจึงควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานจะได้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด เช่น
- งบน้อย มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ให้เลือกซื้อตู้เย็น 1 ประตูขนาดเล็กราคาประมาณ 4,000 – 5,000 บาท จะเหมาะกับห้องขนาดเล็ก แต่จุของได้น้อย
- ใช้งานทั่วไป ไม่เน้นจุของเยอะ พอมีพื้นที่ให้เลือกราคาประมาณ 5,000 – 7,000 บาท
- ใช้งานทั่วไป ประหยัดไฟ รักษาความเย็นได้ดีแนะนำตู้เย็นแบบ 2 ประตูราคาประมาณ 9,000 – 30,000 บาท
- เน้นจุของปริมาณมาก แนะนำตู้เย็นแบบ 2 ประตูที่แยกประตูซ้ายขวาจะช่วยเก็บรักษาความเย็นได้ดี จุของเยอะราคาประมาณ 40,000 – 100,000 บาท เหมาะกับบ้านที่อยู่ด้วยกันหลาย ๆ คน หรือร้านอาหารขนาดเล็ก
- เน้นจุของปริมาณมาก แช่ได้หลายช่องให้เลือกตู้เย็นแบบหลายประตูที่ราคาประมาณ 50,000 – 200,000 บาทซึ่งจะเหมาะกับร้านอาหารขนาดกลางขึ้นไป หรืออุตสาหกรรมที่ต้องแช่ของเยอะ ๆ
5. ความเงียบในการทำงาน
ที่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรจะอยู่ในลิสต์ก่อนซื้อตู้เย็นเพราะการที่ตู้เย็นมีเสียงการทำงานตลอดเวลาอาจก่อให้เกิดความรำคาญได้จึงควรเลือกตู้เย็นที่มีระบบเสียงเงียบ
เคล็ดลับการใช้งานตู้เย็นให้เย็นฉ่ำ แต่ประหยัดไฟได้มากกว่า
การเลือกตู้เย็นให้ประหยัดไฟไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ช่วยให้เราประหยัดไฟ แต่ต้องรวมถึงวิธีใช้ที่เหมาะสมด้วย และเหล่านี้คือวิธีใช้ที่การันตีมาแล้วว่าทำให้ประหยัดไฟได้จริง ส่วนจะมีวิธีไหนบ้างนั้นตามไปดูกันเลย
- จัดวางตำแหน่งของตู้เย็นให้เหมาะ การซื้อตู้เย็นควรคำนึงถึงการขนย้ายและที่ตั้งของตู้เย็น เพราะตู้เย็นนั้นต้องใช้ไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา การจัดวางควรตั้งในที่ที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และควรวางตู้เย็นให้ห่างจากผนัง 10 – 15 เซนติเมตรเพื่อให้ตัวเครื่องสามารถระบายความร้อนได้ดี
- เลือกตั้งอุณหภูมิของตู้เย็นให้เหมาะ ไม่ร้อนจนเกินไปเพราะจะทำให้อาหารเน่าเสียได้ง่าย แต่ก็ไม่ควรเย็นเกินไปจนทำให้เปลืองพลังงานอย่างไม่จำเป็น
- รีบปิดประตูตู้เย็นทันทีเมื่อไม่ใช้และปิดประตูตู้เย็นให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องกันการสูญเสียไอเย็นในตู้เย็นอย่างไม่จำเป็น และทำให้ตู้เย็นทำงานหนักกว่าที่ควร
- เลือกตู้เย็นที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ ซึ่งจะช่วยบริหารการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดไฟได้มากที่สุด
- หมั่นตรวจสอบความสมบูรณ์ของตัวเครื่อง เช่น ขอบยางประตูตู้เย็น เพราะแค่สิ่งเล็ก ๆ ที่เสื่อมสภาพไปอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องทำงานมากกว่าปกติ และกินไฟมากกว่าที่เคยได้
- ไม่นำของร้อนเข้าตู้เย็นทันที เพราะจะทำให้ตู้เย็นต้องปรับอุณหภูมิและทำงานหนักมากเป็นพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่ประหยัดไฟได้
เลือกซื้อ เย็นยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟ เย็นฉ่ำ แถมให้ราคาดีจากแบรนด์ดังที่จัดเต็มมาฝากถึง 10 รุ่นให้ได้ตามไปช้อปกันได้ตามความชอบ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลอย่างละเอียดให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ตู้เย็นราคาไม่เกิน 5,000
1. TCL -รุ่น F118TMS/TMG
ตู้เย็น 2 ประตูราคาไม่เกิน 5,000 สำหรับคนอยู่คนเดียว พื้นที่น้อย แนะนำตู้เย็น TCL รุ่น RT52GCCDE ตอบโจทย์การเก็บรักษาความสดใหม่ของอาหารได้ยาวนานยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ทันสมัย 2 ประตู ที่สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัวกับห้องหลากหลายสไตล์ มาพร้อมกับชั้นวางกระจกนิรภัยที่มีความแข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้มาก ช่วยให้การจัดเก็บอาหารเป็นระเบียบและสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบกระจายความเย็นรอบทิศทางเพื่อคงคุณค่าของสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ รวมถึงช่องแช่ผักผลไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถจุได้มาก เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยไฟ LED ส่องสว่างภายในตู้ให้มองเห็นได้ชัดเจนทุกมุม
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ความจุ (คิว) : 4 Q / 113 ลิตร
- ขนาด : 476x515x1166 mm
- ระบบทำความเย็น : ลดการเกาะของน้ำแข็ง สารทำความเย็น R600a,34g
- รับประกันสินค้า : คอมเพรสเซอร์ 10 ปี อะไหล่อื่นๆ 3 ปี
- ราคา : 4,690 บาท
2. Hisense รุ่น ER152S/ER152B
ตู้เย็น Hisense รุ่น ER152S ตู้เย็น 1 ประตูที่มาพร้อมกับคอมเพรสเซอร์ประสิทธิภาพสูง ทำงานเงียบและกระจายความเย็นอย่างทั่วถึงภายในตู้ ช่วยรักษาความสดและคุณค่าของอาหารได้ยาวนานยิ่งขึ้นและยังมีซีลขอบประตูช่วยลดการแพร่กระจายของแบคทีเรียและเชื้อรา ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และทันสมัย ทำให้สามารถเข้ากับทุกการตกแต่งห้องได้อย่างลงตัว มีชั้นวางกระจกนิรภัยที่รองรับน้ำหนักได้มากและสามารถปรับระดับได้ตามต้องการ รวมถึงชั้นวางติดประตูจำนวน 4 ชั้น เหมาะสำหรับจัดเก็บเครื่องปรุงและเครื่องดื่มไซส์ 2 ลิตร มีการป้องกันแรงดันไฟฟ้าช่วยให้ทำงานได้อย่างมั่นคงแม้ไฟฟ้ามีการผันผวน
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ความจุ (คิว) : 5.5Q/ 155 ลิตร
- ขนาด : 476x515x1166 mm
- ระบบทำความเย็น : Dynamic Inverter, R600a,34g
- รับประกันสินค้า : ตัวเครื่อง 3 ปี/ คอมเพรสเซอร์ 10 ปี
- สลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
- ราคา : 4,690 บาท
ตู้เย็น 2 ประตู ราคาไม่เกิน 10,000
3. Haier – รุ่น EHRT207ONL
ตู้เย็นประหยัดไฟเบอร์ 5 ยี่ห้อไหนดี และตู้เย็น 2 ประตู ราคาไม่เกิน 10,000 แนะนำ ตู้เย็น Haier – รุ่น EHRT207ONL มีความจุที่กว้างขวางและการออกแบบภายในที่สามารถจัดวางอาหาร เครื่องดื่ม ผัก และผลไม้ได้อย่างลงตัว ชั้นวางมีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี ระบบละลายน้ำแข็ง No Frost ช่วยให้การดูแลรักษาตู้เย็นสะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี DEO Fresh ที่ช่วยกระจายลมเย็นได้อย่างทั่วถึงและรักษาความสดของอาหารได้ยาวนาน ตู้เย็นรุ่นนี้ประหยัดพลังงาน ใช้ไฟ 220V มีเสียงการทำงานเพียง 38 เดซิเบล ซึ่งถือว่าเงียบ และมีระบบคอมเพรสเซอร์ Fix Speed ที่ช่วยให้การทำงานมีความเสถียร วัสดุภายในประกอบด้วยกระจกนิรภัยและพลาสติกหุ้มสีขาว ที่ทั้งทนทานและปลอดภัยในการใช้งาน.
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ความจุ (คิว) : 7.6Q/ 216 L
- ขนาด : 545 x 567 x 1459 มม.
- ระบบทำความเย็น : fix speed
- รับประกันสินค้า : ตัวเครื่อง 3 ปี/ คอมเพรสเซอร์ 10 ปี
- สลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
- ราคา : 6,140 บาท
4. TOSHIBA รุ่น GR-RT303WE-PMTH
ประหยัดไฟเบอร์ 5 ยี่ห้อไหนดี และตู้เย็น 2 ประตู ราคาไม่เกิน 10,000 แนะนำ อีกตู้เย็นคือ TOSHIBA รุ่น GR-RT303WE-PMTH มีระบบ Origin Inverter รักษาระดับความเย็นให้คงที่ ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ MULTI AIR flow ช่องปล่อยความเย็นหลากหลายช่อง ทำให้ความเย็นไหลเวียนได้อย่างทั่วถึง ระบบกำจัดกลิ่น PURE BIO สามารถดูดซับกลิ่นและลดการสะสมของแบคทีเรียได้ ชุดทำน้ำแข็งแบบบิด ทำน้ำแข็งเองได้ง่ายๆ ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ที่บ้านได้ตลอดเวลาชั้นวางกระจกนิรภัย แข็งแรง รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 100 กิโลกรัมน้ำยาทำความเย็น R600a มีความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมช่องแช่แข็งขนาด 61 ลิตร ใหญ่อย่างจุใจ แช่ของได้ปริมาณมากช่องแช่อาหาร วัตถุดิบ และเครื่องดื่มมากมาย แช่ได้เยอะอย่างเป็นสัดส่วนหลอดไฟ LED แสงสีขาว ช่วยประหยัดไฟ และสว่างมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ความจุ (คิว) : 62.3Q/ 233 L
- ขนาด : 64.6 x 62.3 x 62.3 ซม.
- ระบบทำความเย็น : Origin Inverter/ MULTI AIR flow
- รับประกันสินค้า : ตัวเครื่อง 2 ปี/ คอมเพรสเซอร์ 10 ปี
- สลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
- ราคา : 8,390 บาท
ตู้เย็นราคาไม่เกิน 20,000
5. LG รุ่น GN-D382PQMB
แนะนำตู้เย็น LG รุ่น GN-D382PQMB ในขนาด 14 คิวแบบ 2 ประตูที่มาพร้อมจุดเด่นของ Linear Cooling คงความสดใหม่ของอาหารเหมือนออกจากฟาร์มเนื่องจากสามารถช่วยลดความผันผวนของอุณหภูมิทำให้รักษาความสดใหม่ของรสชาติได้นานถึง 7 วัน และระบบ Multi-Air Flow ได้รับการออกแบบมาเพื่อรักษาระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้อาหารของคุณสดอยู่เสมอ เซนเซอร์ดิจิทัลจะคอยตรวจสอบสภาพภายในตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ กระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงที่มาพร้อมระบบ Smart Inverter Compressor ประหยัดพลังงานและมีความทนทานใช้ให้งานได้อย่างยาวนานถึง 10 ปี ลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ความจุ (คิว) : 14 คิว
- ขนาด : 74x73x184 ซม.
- ระบบทำความเย็น : Multi-Air Flow/ Smart Inverter Compressor/ Linear Cooling
- รับประกันสินค้า : ตัวเครื่อง 1 ปี/ คอมเพรสเซอร์ 10 ปี
- ราคา : 14,990 บาท
6. Samsung Bespoke รุ่น RT42CB664412ST
ตู้เย็น Sumsung – รุ่น Bespoke 2 ประตู ขนาด 14.6 คิว ที่มาพร้อมจุดเด่นของสีสันที่ออกแบบมาไม่ซ้ำใคร ให้ตกแต่งเข้ากับบ้านได้อย่างมีสไตล์ ควบคุมค่าไฟง่ายด้วยโหมด SmartThings AI Energy ที่ช่วยประมาณค่าไฟด้วย AI เทคโนโลยี สามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานได้ ตัวพื้นที่ที่กว้างขึ้นด้วยความจุ 20 ลิตรมี Active Fresh Filter ที่ลดการลดการปนเปื้อนของแบคทีเรียบนอาหารได้ถึง 99.99% ผ่านไส้กรอง และกรองกลิ่นอีกด้วย สามารถปรับความเย็นได้ถึง 4 รูปแบบ สำหรับคนชอบ Smart home พลาดไม่ได้ เพราะอีกหนึ่งฟังก์ชัน คือ Smart thing home care ที่ควบคุมการทำงานได้ง่ายผ่านมือถือเครื่องเดียว มีการแจ้งเตือนการใช้ค่าไฟเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ความจุ (คิว) : 14.6 คิว/ 415L
- ขนาด : 70×178.5×67.2 ซม.
- ระบบทำความเย็น : Power cool/ All-Around cooling/ Digital Inverter Compressor/ No Frost
- รับประกันสินค้า : รับประกันคอมเพรสเซอร์ 20 ปี
- ราคา : 16,990 บาท
7. Electrolux รุ่น ETM4302C-S
ตู้เย็น Electrolux รุ่น ETM4302C-S มาพร้อมเทคโนโลยี AutoSense ที่ใช้ AI ช่วยปรับการทำงานของตู้เย็นโดยอัตโนมัติ ตู้เย็นจะศึกษาพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ เช่น การควบคุมการละลายน้ำแข็งและความเร็วของพัดลมในช่วงกลางคืน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 10% มีลิ้นชัก GreenZone ช่วยรักษาความสดใหม่ของผักและผลไม้ได้ยาวนานขึ้น โดยช่วยคงคุณค่าของวิตามินซีได้สูงถึง 90% หลังจากการแช่เย็นไป 7 วัน สำหรับช่องแช่เย็นจัด ExtraChill ออกแบบมาสำหรับเก็บเนื้อสัตว์และชีสโดยเฉพาะ ด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่าพื้นที่อื่นๆ ในตู้เย็น ช่องนี้ช่วยรักษาความสดใหม่และคุณภาพของเนื้อสัตว์และชีสได้ดีที่สุด Cooling 360 คือเทคโนโลยีที่ช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วถึงทุกชั้นของตู้เย็น ทำให้ความเย็นมีความสม่ำเสมอทั่วทั้งตู้ ส่วนตัวกรองคาร์บอน FresherAir ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ความจุ (คิว) : 15.2 คิว/ 431L
- ขนาด : 699 x 723 x 1725 มม.
- ระบบทำความเย็น : Inverter/ ExtraChill
- รับประกันสินค้า : รับประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี
- สลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
- ราคา : 13,850 บาท
ตู้เย็นราคาไม่เกิน 30,000
8. Hitachi ตู้เย็น 2 ประตู New Stylish Line รุ่น R-H300PD
ตู้เย็น Panasonic รุ่น NR-BX471CPST แบบ 2 ประตูในรูปทรงการดีไซน์ที่เพรียวบาง ไร้รอยต่อ สวยงามทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพด้วยจุดเด่นของช่องแช่แข็งแบบ Prime Fresh + ที่เหมาะกับแช่เนื้อสัตว์และเนื้อปลาที่อุณหภูมิประมาณ -3°C เป็นการแช่แบบ Soft freezing ก็คงความสดใหม่ไว้ได้นานถึง 7 วัน โดยไม่ต้องละลายน้ำแข็ง หรือช่องผักก็สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ถึง 90% พร้อมยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ถึง 99.9% จากซิลเวอร์ไอออนและมี Ag ที่ลดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ ตู้เย็นระบบ ECONAVI ประหยัดพลังงานอัจฉริยะ มีตัวเซนเซอร์ 4 จุด ตรวจสอบการใช้งานตู้เย็นในแต่ละวัน คอมเพรสเซอร์อินเวอร์เตอร์จะปรับระบบทำความเย็นให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมที่สุดเพื่อลดการใช้พลังงาน
คุณสมบัติผลิตภัณฑ์
- ความจุ (คิว) : 14.8 คิว/ 420L
- ขนาด : 68.6 x 69.5 x 179.0 ซม
- ระบบทำความเย็น : Prime Fresh+/ Inverter
- รับประกันสินค้า : ตัวเครื่อง 1 ปี คอมเพรสเซอร์ 12 ปี
- สลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
- ราคา : 22,590 บาท
ตำแหน่งที่ตั้งของตู้เย็น ก็เป็นสิ่งจำเป็น
การพิจารณาคุณสมบัติ ราคา ตู้เย็นยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟ นั้นอาจยังไม่ใช่ทั้งหมด แต่จะดีกว่าหากคุณพิจารณารวมและคำนึงถึง การขนย้ายและพื้นที่ที่ตั้งของตู้เย็น เพราะตู้เย็นนั้นต้องใช้ไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา การจัดวางควรตั้งในที่ที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่สำคัญคืออย่างที่กล่าวไปว่าควรตั้งตู้เย็นในที่ๆแดดส่องไม่ถึง เพื่อให้ตู้เย็นไม่ทำงานหนักเกินไป
คงจะพอได้คำตอบกันแล้วใช่ไหมว่า ตู้เย็นยี่ห้อไหนดี จาก 10 แบรนด์ในงบต่าง ๆ ตั้งแต่ตู้เย็นราคาไม่เกิน 5,000 ตู้เย็น 2 ประตูราคาไม่เกิน 10,000 จนถึง 30,000 ที่คัดสรรมาฝากบอกได้เลยว่าแต่รุ่นที่นำมาฟังก์ชั่นพื้นฐานจัดเต็ม พร้อมฟังก์ชั่นเสริมที่อาจจะจ่ายในราคาแพงกว่า แต่รับรองว่าคุ้มค่า ใช้งานง่าย สะดวกสบายมากขึ้นและย้ำอีกครั้งว่าให้เลือกซื้อตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น รวมถึงควรมีประกันสินค้าที่หากเกิดชำรุด หรือเสียหายหลังจากซื้อก็สามารถเคลมได้ โดยหากใครสนใจ หรือกำลังมองหาตู้เย็นราคาดี ๆ สักเครื่องไปใช้ที่บ้าน คอนโด หรือที่ทำงานก็สามารถมาเลือกช้อปผ่านออนไลน์ที่ Shopee พร้อมแชร์วิธีเก็บของสดในตู้เย็น ให้สดนาน หรือแก้ปัญหาตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด: สาเหตุและการแก้ไข ที่หากสนใจอัปเดตเทรนด์ใหม่และสาระดี ๆ ก่อนใครได้ที่ Shopee blog
