อาหารที่ดีที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิดคือ “นมแม่” ซึ่งในน้ำนมแม่จะอุดมไปด้วยสารอาหารครบถ้วน ตามปริมาณที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด แต่คุณแม่บางรายอาจมีปริมาณน้ำนมไม่เพียงพอ ทำให้มีความจำเป็นจะต้องเสริมนมวัวให้กับลูกน้อย เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อย โดยในนมวัวจะอุดมสารอาหาร เช่น โปรตีน แคลเซียม และวิตามิน เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย การดื่มนมวัวก็ไม่ได้ดื่มเพียงแค่เด็กแรกเกิดเท่านั้น ยังรวมไปถึงเด็กโตหรือผู้ใหญ่ที่ชอบดื่มนม แต่สำหรับเด็กบางคนเมื่อดื่มนมเข้าไปแล้วกลับมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น อาเจียน ถ่ายเหลว ผื่นขึ้นตามตัว เป็นต้น อาการเหล่านี้เรียกว่า อาการแพ้นมวัว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเด็กแพ้นมวัวทุกคน อาจเกิดขึ้นเฉพาะบางคนเท่านั้น ลองมาเช็กกันหน่อยว่าลูกแพ้นมวัวหรือไม่ สาเหตุเกิดจากอะไร อาการเป็นยังไง แล้วจะมีวิธีดูแลรักษาอย่างไร ทุกคำถามวันนี้เราได้รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้วที่นี่ มาดูกัน
credit : www.freepik.com
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
โรคแพ้นมวัว คืออะไร
โรคแพ้นมวัว คือ เป็นโรคที่มีร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาผิดปกติต่อสารโปรตีนที่มีอยู่ในนมวัว โดยเด็กแพ้นมวัวจะมีอาการเกิดขึ้นหลาย ๆ อย่างของระบบร่างกาย เช่น ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น
สาเหตุอะไรที่ทำให้ลูกแพ้นมวัว?
เมื่อลูกน้อยได้รับนมผสมหรือสารอาหารอื่น ๆ ซึ่งจะแตกต่างจากนมแม่ที่เป็นโปรตีนแปลกปลอม ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อโปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีอยู่ในนมวัว และอาจจะเสี่ยงทำให้เด็กแพ้นมวัว เนื่องจากโปรตีนแปลกปลอมเหล่านี้จะไม่ถูกย่อย โดยเฉพาะกับเด็กที่อยู่ในช่วงวัย 4 – 6 เดือนแรกที่เยื่อบุทางเดินอาหาร ระบบน้ำย่อยต่าง ๆ รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรง นอกจากนี้อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยมี อาการแพ้นมวัว อาจเกิดมาจากพันธุกรรม ถ้าหากพบว่าคุณพ่อหรือคุณแม่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกจะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงที่จะทำให้ลูกแพ้นมวัวได้ง่าย
7 สัญญาณเตือนของอาการแพ้นมวัว
สำหรับคุณแม่ที่ให้ลูกดื่มนมวัวเสริมจากนมแม่ด้วย ควรคอยสังเกตอาการลูกอย่างใกล้ชิด ดื่มนมวัวเข้าไปแล้วมีอาการอย่างไรบ้าง ซึ่งหากพบว่ามีอาการเด็กแพ้นมวัวก่อนอื่นให้หยุดนมวัวทันที จากนั้นพาไปหาคุณหมอทันที คราวนี้ลองมาดูสัญญาณเตือนของอาการแพ้นมวัวว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้คอยสังเกตอาการลูก มีดังนี้
1. มีผื่นขึ้นตามร่างกายบริเวณต่าง ๆ
อาการแพ้นมวัว หรือ อาการแพ้ทั่วไป สิ่งแรกที่จะเห็นได้ชัดเจนมากที่สุดคือการที่มีผื่นขึ้นตามตัว ส่วนใหญ่ก็จะขึ้นเป็นเม็ดเล็ก ๆ ตามบริเวณใบหน้า ศรีษะ หน้าผาก ข้อศอก ข้อมือ บริเวณแขน หรือขึ้นตามลำตัวทั่วร่างกาย โดยเด็กแต่ละคนจะมีผื่นขึ้นไม่เหมือนกัน และผื่นที่ขึ้นมานั้นจะเป็นเพียงไม่นาน และเมื่อหายแล้วก็มีโอกาสเป็นอีกได้
2. มีน้ำมูกไหลเรื้อรังไม่หายสักที
การมีน้ำมูกไหลเรื้อรังตลอดเวลาไม่ยอมหายสักที เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนของอาการเด็กแพ้นมวัว ซึ่งอาการนี้คุณพ่อคุณแม่หลายคนมักจะคิดว่าลูกอาจจะแพ้อากาศหรือไม่ก็เป็นหวัดธรรมดา ให้กินยาเด็กแล้วก็ยังไม่หาย ซึ่งจากการสังเกตแล้วว่าลูกมักจะมีน้ำมูกไหลเรื้อรังทุกครั้งหลังจากดื่มนมวัว ให้สันนิฐานไปก่อนเลยว่าอาจจะเป็นอาการแพ้นมวัวก็ได้ แนะนำให้ลองหยุดดื่มนมวัวแล้วสังเกตอาการอีกครั้งว่ายังเป็นอยู่ไหม ถ้าไม่เป็นแสดงว่าลูกแพ้นมวัว
3. อาการสำรอกนม หรือ อาเจียนบ่อย ๆ
ถ้าหากเด็กแพ้นมวัว ทุกครั้งที่ดื่มนมวัวหรืออาหารที่มีส่วนผสมของนมวัวด้วย เด็กจะมีปฏิกิริยาตอบสนองทันทีด้วยอาการสำรอกนมออกมาหรืออาเจียนออกมาทุกครั้งหลังจากดื่มนม ดังนั้น ให้คุณพ่อคุณแม่คอยใสใจสังเกตอาการลูกทุกครั้งหลังจากดื่มนมวัว หรืออาหารที่มีส่วนผสมจากนมวัว รวมถึงอาหารแปลกปลอมอย่างอื่นด้วย
4. ท้องเสียเรื้อรัง หรือ มีอาการท้องผูก
อาการแพ้นมวัวนั้นอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร รวมถึงระบบการขับถ่าย โดยเด็กบางคนที่มีแพ้นมวัวเมื่อดื่มนมเข้าไปแล้ว จะเกิดอาการท้องเสียทันทีและท้องเสียแบบเรื้อรัง ถ้าหากถ่ายบ่อยหรือรุนแรงมาก ๆ ควรรีบพาไปหาคุณหมอทันที หรือเด็กบางคนอาจท้องผูกก็ได้ ทั้งนี้ อาการเด็กแพ้นมวัวจะขึ้นอยู่ร่างกายของเด็กแต่ละคน
5. ขับถ่ายออกมาเป็นมูกเลือด
หากเด็กมีแพ้นมวัวอย่างรุนแรง นอกจากจะมีอาการท้องเสียเรื้อรังแล้ว ยังถ่ายเป็นมูกเลือดอีกด้วย แล้วอาจจะส่งผลต่อไปยังลำไส้อักเสบเรื้อรัง และทำให้มีปัญหาในเรื่องของการย่อยและดูดซึมอาหารได้ เมื่อลูกเกิดอาการเหล่านี้ให้รีบไปพบคุณหมอเพื่อรักษาทันที และควรหยุดดื่มนมวัว
6. ลูกมีอาการหอบเหนื่อยผิดปกติ
ถ้าลูกมีการหายใจเสียงดังวี้ด ๆ พร้อมกับมีอาการหายใจเหนื่อยผิดปกติ และหน้าอกกระเพื่อม ถือเป็นสัญญาณเตือนของการแพ้นมวัว ควรรีบพาลูกไปหาคุณหมอทันทีเพื่อให้วินิจฉัยอาการแล้วรักษาได้อย่างถูกวิธี
7. ร้องไห้งอแงผิดปกติหลังจากดื่มนมวัว
เด็กร้องไห้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ หากคุณแม่สังเกตอาการแล้วพบว่าหลังจากลูกดื่มนม มักจะร้องไห้งอแงงผิดปกติหรือต่างเวลาจากทุกวัน ให้สันนิษฐานก่อนได้เลยว่าลูกอาจจะแพ้นมวัวก็ได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะการดื่มนมวัวแล้วไม่ย่อยทำให้เด็กปวดท้องจึงได้ร้องไห้ แนะนำให้ลองหยุดกินนมวัวแล้วให้ดื่มนมแม่ จากนั้นสังเกตอาการอีกครั้งว่ายังเป็นเหมือนเดิมไหม เพื่อจะได้วิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง
credit : www.freepik.com
อาการแพ้นมวัวสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม
เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนคงอยากรู้ว่าอาการแพ้นม สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ หากพูดตามสถิติคงต้องบอกว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้ ขึ้นกับช่วงอายุของเด็ก ดังนี้
- ถ้าหากเด็กอยู่ในช่วงวัย 12 เดือน หรือ 1 ปี โอกาสหายจะอยู่ประมาณ 70%
- สำหรับเด็กอายุ 18 เดือน โอกาสหายจะอยู่ประมาณ 75%
- แต่ถ้าเป็นเด็กที่มีอายุ 2 ปี โอกาสหายจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ประมาณ 80%
- เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป โอกาสในการหายขาดจะอยู่ประมาณ 90%
ทั้งนี้จะมีเพียงแค่ 1% เท่านั้น ที่อาจจะมีอาการแพ้โปรตีนนมวัวจนเกินอายุ 10 ปี
เมื่อลูกมีอาการแพ้นมวัวควรดูแลรักษาอย่างไร
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงลูกเองให้คอยสังเกตและเฝ้าระวังพฤติกรรมของลูกน้อย เนื่องจากเด็กไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร ดังนั้น ของกินอะไรก็ตามที่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกรับประทานที่ไม่ใช่มาจากนมแม่ ก็ต้องคอยสังเกตว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม เช่น ถ้าให้ลูกดื่มนมวัวแล้วเกิดอาการแพ้นั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ มีดังนี้
1. งดรับประทานนมวัวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวทุกชนิด
วิธีการรักษาการแพ้นมที่ดีที่สุด คือ การหยุดดื่มนมวัวและและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวทุกชนิด เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี และถ้าลูกยังดื่มนมแม่ นอกจากจะต้องดูแลอาหารของลูกแล้ว ตัวคุณแม่เองก็ต้องดูแลอาหารของตัวเองเช่นกัน ซึ่งถ้าลูกมีอาการแพ้นมวัว สิ่งที่คุณแม่ต้องทำคือการงดรับประทานนมวัวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวทุกชนิดในระหว่างที่ให้นมลูก
2. เปลี่ยนเป็นนมประเภทอื่น ๆ
คุณแม่ลองเปลี่ยนเป็นนมพิเศษแทนนมวัว ซึ่งในประเทศจะมีนมพิเศษอยู่ทั้งหมอ 4 ประเภท คือ นมที่มีโปรตีนเป็นกรดอะมิโน, นมที่มีโปรตีนนมวัวที่ย่อยละเอียด, นมจากเนื้อไก่และนมข้าวอะมิโน ซึ่งเป็นนมที่มีโปรตีนเป็นกรดอะมิโนและน้ำตาลที่ได้มาจากแป้งข้าวเจ้า ลองเปลี่ยนให้ลูกดื่มแทนแล้วสังเกตว่าลูกเหมาะกับนมชนิดไหนมากที่สุด ควรให้ลูกดื่มนมชนิดนั้นต่อเนื่องกันอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อจะได้รู้ผลที่แน่นอน กรณีที่เป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่ที่แพ้นมวัว ให้ลองเลือกเป็นผลิตภัณฑ์นมที่ได้มาจากพืชหลากหลาย เช่น นมถั่วเหลือง, นมข้าวโพด, นมจากข้าว และนมอัลมอนด์ เป็นต้น
3. ควรอ่านฉลากทุกครั้ง
ข้อนี้สำคัญมาก ๆ เลย ทุกครั้งที่ซื้ออาหารหรือผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือการอ่านฉลากอาหารให้ชัดเจน เพื่อเช็กให้ชัวร์ว่าอาหารชนิดนั้น มีโปรตีนนมวัวเป็นส่วนผสมหรือไม่ หรือถ้าอะไรที่ยังไม่แน่ใจสามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำได้
การเลี้ยงลูกให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ นอกจากต้องใส่ในดูแลเรื่องอาหารการกินแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจคอยสังเกตพฤติกรรมหรืออาการต่าง ๆ ของลูก โดยเฉพาะเด็กที่ดื่มนมวัวก็ต้องคอยสังเกตว่ามี อาการแพ้นมวัว หรือไม่ เนื่องจากว่าโรคแพ้นมวัวจะพบได้บ่อยในเด็กเล็ก นอกจากเด็กต้องมีสุขภาพแข็งแรงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังต้องช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย หาเวลาว่างมาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ชวนเล่นเกมฝึกสมองเสริมพัฒนาการในด้านต่าง ๆ เล่านิทานให้ฟังก่อนนอน หรือพาลูกไปเที่ยวเล่นน้ำทะเล ภูเขา ธรรมชาติ เพื่อจะได้เวลาอยู่ร่วมกับของครอบครัว เพียงแค่นี้เด็ก ๆ ก็จะมีทั้งสุขภาพกายและจิตใจที่แข็งแรง
ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลสมิติเวช / โรงพยาบาลนครธน / โรงพยาบาลพญาไท