เคยสงสัยกันไหมว่า หน้าที่เราถนอมดูแลเป็นอย่างดี ทำไมโดนอะไรนิดอะไรหน่อยสิวก็ขึ้น กลายเป็นสารพัดปัญหาสิวที่วัยรุ่นต้องเผชิญ และกี่ครั้งแล้วที่ต้องเสียเงินให้กับสกินแคร์ตัวดังที่ใช้ไปก็ไม่เห็นผลซักที งั้นลองมองหาทางเลือกใหม่อย่าง ‘เซรั่มลดสิว’ ดีกว่าไหม เพราะหลังจากทำการศึกษาทำให้ได้ทราบว่า เซรั่มเนี่ยเหมาะกับคนทุกสภาพผิว นอกจากสามารถเติมน้ำเข้าสู่ผิวให้กับคนผิวแห้งแล้ว ยังสามารถควบคุมความมันบนผิวหน้าสำหรับคนที่มีผิวมันได้อีกด้วย ยังไม่พอ! อีกหนึ่งความเลิศของเซรั่มที่ดีกว่าสกินแคร์ texture อื่น ๆ ก็คือ เนื้อสัมผัสที่มีความบางเบาเหมือนน้ำ ทำให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวหน้าได้อย่างลึกล้ำ ไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมยังสามารถจัดการกับปัญหาผิวที่อยู่ลึกกว่าชั้นหนังกำพร้าของเราได้ดีกว่าสกินแคร์ตัวอื่น ๆ อีกด้วย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
How to ใช้ ‘เซรั่มลดสิว’ ให้มีประสิทธิภาพที่สุด!
และในส่วนของการใช้เซรั่มที่ดี ควรใช้ควบคู่ไปกับการบำรุงผิวขั้นต่อไป เหตุผลเพราะอะไร ? พูดง่าย ๆ เลย คือ เนื่องจากเซรั่มซึมเข้าไปในผิวชั้นในหมด ผิวชั้นนอกจึงไม่ได้รับการบำรุงและการปกป้องเท่าที่ควร ดังนั้นครีมบำรุงตัวอื่น ๆ จึงมีบทบาทที่สำคัญในการบำรุงผิวในขั้นต่อไป ฉะนั้น เพื่อมั่นใจได้ว่าผิวหน้าของคุณได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพ จึงควรลงเซรั่มเปิดผิวชั้นในก่อนหนึ่งกรุบ แล้วตามด้วยสกินแคร์บำรุงผิวชั้นนอกปิดงาน อาจจะเลือกเป็นสกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่าย เช่น เวชสำอาง ในกรณีที่ผิวแพ้ง่าย
นอกจากนี้อีกข้อที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิดเลย คือ การหยดเซรั่มแล้วใช้ดรอปเปอร์สัมผัสกับผิวโดยตรง ใช้เสร็จก็เก็บหลอดนั้นกลับเข้าไปในขวด นี่แหละ! ที่ทำให้สิ่งแปลกปลอมได้เข้าไปผสมในเซรั่มตัวโปรดของคุณ เพราะฉะนั้น แนะนำว่าควรหยดบนฝ่ามือ นอกจากจะลดโอกาสการเกิดแบคทีเรียสะสมได้แล้ว ยังสามารถทำให้กะปริมาณที่ควรใช้ได้อีกด้วย อย่าลืมว่ายิ่งเราใช้ได้ถูกวิธี ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพกับผิวเรามากขึ้นเท่านั้น ได้ยินแบบนี้แล้ว จะพลาดไปได้ยังไง วันนี้เราเลยรวมเซรั่มลดสิวตัวเก่ง ที่จะมาสยบทุกปัญหาเรื่องสิวให้หมดไป จะมีใครเล็งตัวไหนไว้บ้าง ไปดู!
1. La Roche-Posay Effaclar Serum
คิดว่าทุกคนต้องรู้จักเคยได้ยินแบรนด์เวชสำอางชื่อดังจากฝรั่งเศสอย่าง ‘ลาโรช’ กันมาบ้างแล้ว โดยเขาได้เปิดตัวฮีโร่กู้ผิว La Roche-Posay Effaclar Serum เซรั่มลดสิวทรงพลัง ที่จะมาช่วยขจัดปัญหาสิวเรื้อรัง สลายสิวอุดตันตั้งแต่ต้นตอการเกิดเลยทีเดียว แถมยังผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพบนชั้นผิว ช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอและเรียบเนียนอีกด้วย มาพร้อมส่วนผสมจุดปังอย่าง Niacinamide ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวด้วย ลดการระคายเคือง ทำให้ผิวแข็งแรง เอาเป็นว่าใช้แล้วผิวนุ่มชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวได้ดีมาก ๆ ส่วนเนื้อสัมผัสจะเป็นเจลใสไร้สี ทาแล้วซึมไว ไม่เหนียวเนอะหนะ ก่อนใช้แนะนำให้เขย่าขวดก่อน
เหมาะสำหรับ : คนที่เป็นสิวเรื้อรัง ผิวมัน อุดตันง่าย ผิวที่ไม่เรียบเนียน มีรอยด่างดำจากสิว
ราคา : 1,170 บาท
2. SKIN1004 Madagascar Centella Ampoule
ช่วงเวลาที่ต้องเสียความมั่นใจเพราะสิวนี่ปวดใจจริง ๆ แต่ปัญหานี้จะหมดไป หากเลือกใช้เซรั่มรักษาสิวได้ถูกตัว วันนี้เลยขอแนะนำ Madagascar Centella Ampoule สกินแคร์ตัวดังของแบรนด์เกาหลี SKIN1004 ที่มีสารสกัดจากใบบัวบกสายพันธุ์ที่ดีที่สุดจากมาดากัสการ์ พอได้ยินว่าใบบัวบก แน่นอนว่ามีสรรพคุณเรื่องการสมานรอย จะรอยแผลจากการแกะสิวหรือกดสิวก็ปังสุด นอกจากนี้ยังลดโอกาสการเกิดสิวต่าง ๆ และฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้นอีกหลายเท่าตัว! แต่ความโดดเด่นไม่ได้มีแค่นี้ เพราะความพิเศษของแอมพูล (Ampoule) คือ texture ที่คล้ายกับเซรั่มหรือเอสเซ้นต์ แต่จะมีความเข้มข้นที่สูงกว่าและให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า เป็นเสมือนเซรั่มสูตรเข้มข้น ที่เน้นเรื่องการแก้ปัญหาได้ตรงจุด ใครเน้นอยากเห็นผลลัพธ์แบบรวดเร็ว ต้องตัวนี้เลย!
เหมาะสำหรับ : คนที่ผิวแพ้ง่าย ปัญหาสิว มีรอยแผลที่เกิดจากสิว
ราคา : 210 – 455 บาท (มีหลายขนาด)
3. The Skin Collection Serum AHA10% + BHA2%
ใครประสบปัญหาสิวผด สิวอุดตัน สิวเรื้อรังต่าง ๆ ต้องเซรั่มรักษาสิวตัวนี้เลย The Skin Collection Serum ที่มี AHA สูงถึง 10% มาช่วยกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยสิวดูจางลง ฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ผสานกับ BHA2% ที่มาช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง และลดการอักเสบแดงต่าง ๆ พร้อมทั้งทำให้ผิวดูกระจ่างใส ปราศจากการอุดตันที่เป็นบ่อเกิดของสิวเรื้อรังแน่นอน! เนื้อสัมผัสเป็นสีแดงใส หนืดเล็กน้อย เหมาะสำหรับทาในช่วงกลางคืน แถมยังเป็นราคาที่นักเรียน นักศึกษาซื้อได้สบายกระเป๋า ราคาร้อยต้น ๆ เท่านั้น!
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
ราคา : 139 บาท
4. FYNE BHA Clarifying Serum
FYNE BHA Clarifying Serum ที่โด่งดังเรื่องความอ่อนโยน เนื้อสัมผัสสีใส ไม่มีกลิ่น ไม่ระคายเคือง สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น เป็นเซรั่มลดรอยสิวผิวแพ้ง่ายที่สรรพคุณมาครบมาก ๆ เพราะนอกจากจะมี BHA หรือ Salicylic acid 2% ที่มาช่วยเรื่องการอุดตันของสิว สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดสิวแล้ว ยังช่วยลดทั้งรอยดำ รอยแดงจากสิวเก่า รู้สึกได้เลยว่าหน้าเนียนขึ้น ยังไม่พอ! ยังมีสารสกัดโซเดียมไฮยาลูรอเนท ที่มาเติมน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว จะผิวมันหรือผิวแห้งก็ใช้ได้สบายหายห่วง แต่ถ้าผิวแห้งมากจริง ๆ แนะนำให้ใช้ควบคู่กับสกินแคร์ที่เป็นเนื้อครีม จะช่วยเรื่องผิวลอกผิวแห้งได้มากยิ่งขึ้น ใครกำลังเล็งแบรนด์นี้อยู่ ต้องจัดแล้ว!
เหมาะสำหรับ : คนเป็นสิวผิวมันและผิวแพ้ง่าย ส่วนคนเป็นสิวผิวแห้งก็ใช้ได้เช่นกัน
ราคา : 990 บาท
5. Plantnery Tea Tree Intense Serum
อีกหนึ่งเซรั่มลดสิว ที่ยอดขายปังมาก ๆ อย่าง Plantnery Tea Tree Intense Serum อัดแน่ไปด้วยสารสกัดเข้มข้นพิเศษจาก TEA TREE เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ได้รับการรับรอง Organic ว่าอ่อนโยนต่อผิว สามารถลดสิวอักเสบ ละลายสิวอุดตัน ลดแบคทีเรีย P Acne ต้นเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย เพราะฉะนั้น ใครมีปัญหาผิวแพ้ง่าย สิวอักเสบ สิวอุดตัน ต้องประทับใจตัวนี้แน่นอน! ยิ่งใครเป็นคนผิวมัน ลาขาดกับสกินแคร์พวกเนื้อครีมหรือออยไปได้เลย เพราะมันจะยิ่งเกิดการอุดตัน ควรเลือกใช้เซรั่มลดสิวดีกว่า โดยเฉพาะตัวนี้ที่จะช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ป้องกันการเกิดสารพัดสิว และปรับสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้นได้
เหมาะสำหรับ : ผู้มีปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน ผิวแพ้ง่าย ผิวหน้ามัน ผิวผสม ปัญหารูขุมขนกว้าง
ราคา : 169 บาท
6. Eucerin Pro Acne Solution Super Serum
ไอเทมที่ยืนหนึ่งเรื่องกระชับรูขุมขนอย่าง Eucerin Pro Acne Solution Super Serum โดยเฉพาะใครที่พื้นฐานเป็นคนรูขุมขนกว้าง แถมเป็นบ่อเกิดของความมัน และสารพัดปัญหาสิวละก็ ต้องเซรั่มรักษาสิวของยูเซอรีนตัวนี้เลย เพราะเขามาช่วยจัดการปัญหาสิวอุดตันฝังลึกด้วยสารประกอบ 100% เนเชรัล แอซิด ลดการสะสมของเชื้อ P.Acne ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังทำให้รูขุมขนดูกระชับ ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ที่สำคัญคือปราศจากพาราเบนหรือสารกันเสีย ไม่เกิดการระคายเคืองแน่นอน รับประกันโดยงานวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์ ในส่วนของเนื้อเซรั่มจะซึมซาบเร็วและช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นหลังใช้อย่างต่อเนื่อง ราคาแอบแรง แต่เรื่องความเป๊ะปังด้านการแพทย์ต้องยกให้เขาจริง ๆ
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีปัญหาสิวและร่องรูขุมขนกว้าง โดยเฉพาะคนผิวมันเป็นสิวง่าย
ราคา : 990 บาท
7. Some By Mi AHA-BHA-PHA 30 Days Miracle Serum
เซรั่มจากเกาหลีที่ได้รับรางวัลมามากมาย เห็นชื่อยาวแบบนี้ มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละตัวจะช่วยเรื่องอะไรบ้าง มากันที่ AHA ตัวแรกกันก่อนเลย นางจะช่วยเรื่องความกระจ่างใส มีการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน ตัวต่อมา BHA อันนี้จะช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า พร้อมกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง เรื่องรูขุมขนเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะถ้ารูขุมขนเล็ก นอกจากจะทำให้หน้าเรียบเนียนแล้ว ก็สามารถลดปัจจัยการเกิดสิวไปได้มากเช่นกัน ตัวสุดท้าย PHA ช่วยให้ผิวหน้าดูอิ่มน้ำชุ่มชื่นยาวนาน ป้องกันการสูญเสียน้ำ และสารสกัดที่โดดเด่นที่สุดของเขาจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก สารสกัดทีทรี 10,000PPM, CENTELLA ASIATICA EXTRACT (สารสกัดจากใบบัวบก) 14.5% ที่มาช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เหมาะสำหรับ : ผู้เป็นสิว ผิวมัน รูขุมขนกว้าง
ราคา : 359 บาท
8. Skinsista V Acne Clear Booster
ที่สุดของวิตามินบูสเตอร์สูตรเข้มข้น และสารสกัดใบมิ้นจากป่าชิลี ปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์รักษาสิว ที่ราคาไม่แพง เห็นผลจริง รีวิวเยอะ ใครเป็นคนที่สิวขึ้นแล้วรักษายาก หรือมีปัญหาเรื่องสิวเรื้อรัง สิวแพ้สารสเตียรอยด์ สิวผด สิวไม่มีหัวต้องตัวนี้เลย เพราะเขาเป็นเซรั่มลดสิว ที่ช่วยฆ่าเชื้อสิวโดยเฉพาะ สำหรับวิธีการใช้สำหรับคนเป็นสิวเรื้อรัง จะแต้มเป็นจุด ๆ เช้าเย็นก็ได้ แต่ถ้าใครมีปัญหาเรื่องผิวมัน หรือเป็นสิวเยอะมาก ๆ สามารถใช้ทาบาง ๆ ทั่วใบหน้าได้เลย จะช่วยให้หายอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เนื้อสัมผัสจะเป็นคล้าย ๆ เจลสีส้มใส ที่ทาแล้วไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ แถมมีเม็ดบีทวิตามินผสมอยู่ด้วย แต่แอบมีกลิ่นคล้าย ๆ ยา ใครไม่ชอบสกินแคร์ที่มีกลิ่นฉุนอาจจะไม่ถูกใจสิ่งนี้ แต่โดยรวมก็คือเลิศ สรรพคุณเต็มสิบให้ร้อย เพราะดีเกินราคามาก ๆ แถมเป็นรีวิวครีมลดรอยสิวเซเว่นตัวดังที่เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ออกมารีวิวกันเยอะ หาอ่านได้ง่าย
เหมาะสำหรับ : ผู้เป็นสิวเรื้อรัง สิวแพ้สารสเตียรอยด์ สิวผด สิวไม่มีหัว รูขุมขนกว้าง
ราคา : 395 บาท
9. Oxe cure Acne Defense Prebio Serum
เซียนตัวจริงเรื่องปราบสิวต้องยกให้แบรนด์ OXE’CURE เลย ตัวนี้จะมาแนะนำเขามีสรรพคุณเรื่องลดรอยสิว จะรอยแผลเป็นหรือรอยแกะที่เกิดจาดสิวคือได้หมด ซึ่งทางแบรนด์เขาก็เคลมจริงอะไรจริง ว่าช่วยให้รอยจางลงภายใน 1 สัปดาห์! เซรั่มเป็นเนื้อเจลใส สามารถทาบาง ๆ ได้ทั้งหน้า ใช้เป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น เป็นการสร้างเกาะป้องกันให้กับผิว เพื่อไม่ให้กลับไปเป็นสิวอีกครั้ง และที่สำคัญผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ เพราะว่าเขาปราศจากพาราเบน ซิลิโคน น้ำหอมและการแต่งสี ถือว่าเป็นเซรั่มลดรอยสิวผิวแพ้ง่ายที่ต้องมีติดบ้านอีกหนึ่งตัวเลย! ถ้าใครยังลังเลอยู่ก็สามารถซื้อแบบซองมาลองก่อนได้ ซื้อได้ที่เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา ราคาเพียง 59 บาทเท่านั้น!
เหมาะสำหรับ : คนที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิว มีรอยดำรอยแผลเป็นจากสิวเยอะ มีปัญหาเรื่องความชุ่มชื้นของผิวน้อย
ราคา : 339 บาท
10. Mizumi B3 Acne Concentrate Serum
อีกผลิตภัณฑ์เซรั่มลดรอยสิวผิวแพ้ง่ายที่โด่งดังมาก ๆ เพราะเนื้อเบาบางมาพร้อม Vitamin B3 (Niacinamide) เข้มข้นสูงสุด 12% ที่เป็นตัวช่วยในการลดเลือนรอยดำ รอยแดง เพิ่มความขาวกระจ่างใส จะคุมมันคุมสิวก็เอาอยู่ด้วย Zinc PCA เข้มข้น 1% ปิดท้ายตัวส่วนผสมตัวสำคัญอย่าง Salicylic Acid และ D-Panthenol ที่มาช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน รักษาความชุ่มชื้นของงานผิวตามธรรมชาติ ส่วนเรื่องการระคายเคืองผิว อาการอักเสบต่าง ๆ ก็เอาอยู่ใบบัวบกและคาโมมายล์ ครบจบปังในซองเดียว ที่สุดของเซรั่มสิวที่เขาเคลมมาว่าเห็นผลภายใน 7 วัน!
เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผู้ที่มีรอยสิว
ราคา : 29 บาท
ที่สุดแห่งวงการเซรั่มลดสิว พร้อมสยบทุกปัญหาเรื่องสิว ๆ ให้หมดไป
เห็นแบบนี้แล้วก็พึ่งรู้นะเนี่ย ว่าขั้นตอนของการลงเซรั่มจะสำคัญขนาดนี้! จะว่าไปที่สิวไม่หายซักที ก็เพราะเราบำรุงรักษาไม่ถูกจุดนี่เอง งั้นเริ่มจากการเช็คสภาพผิวของแต่ละคนก่อนเลยว่าเหมาะกับเซรั่มลดสิวตัวไหน สารประกอบอะไรที่ตอบโจทย์ ผิวแพ้ง่ายใช้ได้หรือไม่ ซึ่งแต่ละตัวที่คัดมาส่วนมาก เรียกได้ว่าไม่มีสารกันเสียที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองใดใดเลย เน้นงานผิว ลดสิว ลดรอย ปัญหาหลัก ๆ ที่หลายคนกังวลใจ ซึ่งมันจะหมดไปเพียงแค่เราเลือกใช้เซรั่มคุณภาพ ยิ่งตอนนี้เขามีทั้งเซรั่มสิวและครีมรักษาสิวผดเซเว่น ที่หาซื้อได้ง่าย ราคาสบายกระเป๋าสุด ๆ แล้วเคล็ด(ไม่)ลับของการใช้เซรั่มควรทำอย่างไร
