ปัจจุบันกระแสการทำอาหารคลีน อาหารเพื่อสุขภาพที่บ้านยังคงมาแรงไม่มีแผ่ว และหนึ่งในไอเทมของมันต้องมีที่กลายเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งในครัวยุคใหม่ ก็คือ “หม้ออบลมร้อน” นั่นเอง
ด้วยความสามารถที่หลากหลายเกินตัว ทั้ง อบ ย่าง ปิ้ง หรือแม้แต่อุ่นอาหาร ก็ทำได้จบในเครื่องเดียว แถมยังช่วยรีดน้ำมันส่วนเกินออกจากอาหารได้ดี ทำเอาหลายคนตัดสินใจเทใจให้ แต่พอเริ่มหาข้อมูลเท่านั้นแหละ… คำถามโลกแตกก็ผุดขึ้นมาทันทีว่า แล้วจะซื้อหม้ออบลมร้อนยี่ห้อไหนดีล่ะ?
ในตลาดตอนนี้มีหม้ออบลมร้อนให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลายพัน หน้าตาคล้ายกันไปหมด จนเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเลือกไม่ถูก แต่รับรองว่าอ่านจบบทความนี้ เพื่อน ๆ จะได้คำตอบที่ชัดเจน และพร้อมกดหม้ออบลมร้อนที่ใช่ใส่ตะกร้า Shopee แน่นอน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
หม้ออบลมร้อนคืออะไร? ต่างจาก ‘หม้อทอดไร้น้ำมัน’ ที่ฮิตกันยังไง?
เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะยังสับสนระหว่างหม้ออบลมร้อน (Halogen Oven หรือ Convection Oven) กับหม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer) เพราะดูเหมือนจะทำอาหารให้สุกและกรอบได้โดยไม่ใช้น้ำมันเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้ว สองเครื่องนี้มีหลักการทำงานและจุดเด่นที่แตกต่างกันพอสมควรเลย
หลักการทำงานที่แตกต่าง
- หม้ออบลมร้อน (Halogen Oven) หัวใจหลักของเครื่องนี้คือ “หลอดฮาโลเจน” ที่ให้ความร้อนสูงปรี๊ดเหมือนดวงอาทิตย์ย่อม ๆ จากนั้นพัดลม (Convection Fan) ที่อยู่บนฝาจะทำหน้าที่เป่าลมร้อนให้หมุนเวียนไปทั่วทั้งโถแก้ว ทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึงจากทุกทิศทาง จุดเด่นคือเราสามารถมองเห็นอาหารขณะปรุงได้ตลอดเวลาผ่านโถแก้วใส
- หม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer) เครื่องนี้จะใช้ “ขดลวดความร้อน” (Heating Element) ในการสร้างความร้อน และใช้พัดลมกำลังสูงมาก ๆ เป่าลมร้อนหมุนเวียนด้วยความเร็วสูงในพื้นที่แคบ ๆ ของตะกร้าทอด ทำให้สามารถรีดความชื้นและน้ำมันออกจากอาหารได้รวดเร็วมาก ให้ผลลัพธ์ที่กรอบ และแห้งคล้ายการทอด
หม้ออบลมร้อน vs หม้อทอดไร้น้ำมัน
เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพชัดขึ้น เราขอสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบง่าย ๆ ดังนี้
| คุณสมบัติ | หม้ออบลมร้อน (Halogen Oven) | หม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer) |
|---|---|---|
| จุดเด่น | อบ, ย่าง, นึ่ง, ปิ้ง (อเนกประสงค์) | ทอด อาหารให้กรอบ, รวดเร็ว |
| ลักษณะอาหาร | สุกนุ่ม ชุ่มฉ่ำ (เช่น อบไก่ทั้งตัว, ย่างสเต็ก) | กรอบ, แห้ง (เช่น เฟรนช์ฟราย, ไก่ทอด) |
| ความจุ | มักจะมีความจุเยอะกว่า (มาตรฐาน 12L) | มีหลายขนาด แต่ส่วนใหญ่กะทัดรัดกว่า |
| การมองเห็น | โถแก้วใส มองเห็นอาหารได้ตลอด | ส่วนใหญ่เป็นลิ้นชักทึบ |
| การทำความสะอาด | โถแก้วหนัก แต่ทำความสะอาดง่าย | ตะกร้าถอดล้างง่าย แต่อาจมีซอกมุม |
| ราคา | มักจะมีราคาเริ่มต้นที่ย่อมเยากว่า | มีตั้งแต่ราคาย่อมเยาไปจนถึงราคาสูง |
สรุปง่าย ๆ ถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายอบไก่ทั้งตัว ทำเบเกอรีง่าย ๆ หรือชอบความอเนกประสงค์ มองเห็นอาหารขณะทำ หม้ออบลมร้อน คือคำตอบ แต่ถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายทอด ชอบกินของกรอบ ๆ แต่กลัวน้ำมัน หม้อทอดไร้น้ำมัน อาจจะตอบโจทย์มากกว่า
อ่านเพิ่มเติม : หม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อไหนดี ที่ชาว Pantip อยากบอกต่อ
Checklist 7 ข้อ วิธีเลือกหม้ออบลมร้อน แบบไหนดี ที่ใช่สำหรับบ้านเรา
เมื่อเพื่อน ๆ เคลียร์ใจแล้วว่าหม้ออบลมร้อนคือสิ่งที่ตามหา ทีนี้ก็มาถึงภารกิจสำคัญ นั่นคือการเลือกสเปกที่ใช่กับไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด เพราะการเลือกหม้ออบลมร้อน แบบไหนดี ไม่ได้มีแค่เรื่องยี่ห้อเท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาอีกเพียบ

1. ขนาดและความจุ (Liters)
นี่คือปัจจัยแรกที่ต้องตัดสินใจ ขนาดมาตรฐานที่เห็นบ่อยที่สุดคือ 12 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง (2-4 คน) สามารถอบไก่ตัวเล็ก ๆ ได้สบาย ๆ แต่ถ้าเพื่อน ๆ อยู่คนเดียว หรือทำอาหารแค่มื้อเล็ก ๆ อาจจะมองหารุ่นที่เล็กลงมา แต่ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ หรือชอบทำอาหารเลี้ยงเพื่อนฝูงบ่อย ๆ บางรุ่นจะมีวงแหวนขยายความจุ (Extender Ring) แถมมาให้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความจุจาก 12 ลิตร เป็น 17 ลิตรได้เลยทีเดียว
2. กำลังไฟ (Watts)
กำลังไฟของหม้ออบลมร้อน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1,200 – 1,400 วัตต์ ยิ่งวัตต์สูง ก็ยิ่งทำความร้อนได้เร็วและแรง ทำอาหารสุกไวขึ้น แต่แน่นอนว่าก็อาจจะกินไฟมากกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ให้เพื่อน ๆ เลือกที่กำลังไฟมาตรฐาน 1,200 วัตต์ขึ้นไปก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว
3. วัสดุโถอบ (Glass vs. Stainless)
หม้ออบลมร้อนส่วนใหญ่ในตลาดที่เราแนะนำ จะใช้เป็นโถแก้วทนความร้อนสูง (Tempered Glass) ซึ่งมีข้อดีคือ
- มองเห็นอาหาร เพื่อน ๆ สามารถคุมความเกรียม ความสุกของอาหารได้ด้วยตาตัวเอง ไม่ต้องเปิดฝาบ่อย ๆ ให้เสียความร้อน
- ปลอดภัย แก้วเป็นวัสดุ Food Grade ที่มั่นใจได้ว่าไม่มีสารปนเปื้อน
- ทำความสะอาดง่าย แม้โถแก้วจะหนัก แต่ก็สามารถขัดล้างได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวเคลือบหลุดร่อน
ในขณะที่บางรุ่นอาจเป็นโถสเตนเลส ซึ่งจะทนทานต่อการตกกระแทกมากกว่า แต่ก็จะมองไม่เห็นอาหารด้านใน
4. ฟังก์ชันการควบคุม (Analog vs. Digital)
- แบบลูกบิด (Analog) คลาสสิกสุด ๆ ใช้งานง่ายมาก แค่หมุนตั้งอุณหภูมิและเวลา เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความซับซ้อน ทนทาน และราคาย่อมเยา
- แบบดิจิทัล (Digital) จะมาพร้อมหน้าจอและปุ่มกด ตั้งค่าได้แม่นยำกว่า บางรุ่นอาจมีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติมาให้ แต่ก็อาจจะมีราคาสูงกว่า
5. ระบบความปลอดภัย (Safety First)
สิ่งที่ต้องมองหาคือ ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อยกด้ามจับ (Safety Cut-off) ฟังก์ชันนี้สำคัญมาก เพราะเมื่อเพื่อน ๆ ต้องการเปิดฝาเพื่อพลิกอาหารหรือปรุงรสเพิ่ม ระบบจะตัดการทำงานของหลอดฮาโลเจนและพัดลมทันที ช่วยป้องกันอันตรายจากความร้อนและลมร้อนที่อาจพุ่งใส่หน้าได้
6. อุปกรณ์เสริม (Accessories)
นี่คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับหม้ออบลมร้อนในแต่ละรุ่น แม้ตัวโถจะมีขนาดเท่ากัน แต่อุปกรณ์ที่แถมมานี่แหละที่จะทำให้ชีวิตเพื่อน ๆ ง่ายขึ้น ควรมองหารุ่นที่แถม
- ตะแกรงสูงและตะแกรงเตี้ย สำหรับวางอาหารใกล้-ไกลขดลวดความร้อน
- ที่คีบ (Tongs) สำหรับคีบตะแกรงร้อน ๆ ออกจากโถ
- วงแหวนขยายความจุ (Extender Ring) (ถ้าต้องการ) สำหรับเพิ่มความจุ
7. การรับประกันและบริการหลังการขาย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เลือกแบรนด์ที่มีการรับประกันสินค้าอย่างน้อย 1 ปี และมีศูนย์บริการที่ชัดเจน เผื่อเกิดปัญหาขึ้นมา จะได้มีคนคอยดูแล ซึ่งแบรนด์ที่น่าเชื่อถือบน Shopee Mall ก็เป็นทางเลือกที่อุ่นใจได้
แน่นอนครับ นี่คือตารางเปรียบเทียบหม้ออบลมร้อนทั้ง 11 SKU จากข้อมูลที่คุณให้มาครับ
ตารางเปรียบเทียบหม้ออบลมร้อน 11 รุ่น
| รุ่น (ยี่ห้อ) | ความจุ | กำลังไฟ | ราคาประมาณ (บาท) | จุดเด่น |
|---|---|---|---|---|
| SMART HOME MV-009 | 12 ลิตร | 1,200 วัตต์ | 600 – 900 | ราคาประหยัดที่สุด, ใช้งานพื้นฐานครบ, มี Safety Cut-off |
| SONAR CV-307H | 7 ลิตร | 1,000 วัตต์ | 600 – 950 | ขนาดกะทัดรัด (7 ลิตร), ประหยัดพื้นที่, ร้อนเร็ว, ใช้งานง่าย |
| HOMMII HB-8015 | 12 ลิตร | 1,500 วัตต์ | 600 – 1,000 | กำลังไฟสูง (1,500 วัตต์), ร้อนเร็ว, อุณหภูมิคงที่, คุ้มค่า |
| CASIKO CK 8900 | 12 ลิตร | 1,300 วัตต์ | 650 – 900 | แบรนด์น่าเชื่อถือ, วัสดุทนทาน, ความร้อนเสถียร, ราคากลางๆ |
| SKG KG-246 | 12 ลิตร | 1,300 วัตต์ | 750 – 1,000 | อเนกประสงค์, แข็งแรง, มี Safety Lock ที่หูจับ |
| HANABISHI MV-007 | 12 ลิตร | 1,300 วัตต์ | 800 – 1,100 | แบรนด์ยอดนิยม, ความร้อนเสถียร, อาหารสุกทั่วถึง, บริการหลังการขายดี |
| OTTO CO-708 | 12 ลิตร | 1,100 วัตต์ | 800 – 1,200 | ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน (อึด ถึก ทน), ใช้งานง่าย, อุปกรณ์เสริมครบ |
| IMARFLEX IB-704 | 12 ลิตร | 1,200 วัตต์ | 900 – 1,300 | วัสดุแข็งแกร่ง, โถแก้วหนาพิเศษ, ทนทาน ใช้งานยาวๆ |
| FINEXT AH-D12 | 12 ลิตร | 1,200 วัตต์ | 1,000 – 2,000 | ดีไซน์มินิมอล, ใช้งานหลากหลาย (รวมถึงรมควัน), ร้อนเร็วกว่าเตาอบทั่วไป |
| RRS X MITSUMARU AP-EC12 | 12 ลิตร | 1,300 วัตต์ | 1,190 | ร่วมมือ 2 แบรนด์, เน้นวัสดุคุณภาพ (สเตนเลส Food Grade) |
| Close HB-8004 | 12 ลิตร | 1,500 วัตต์ | 1,200 – 1,500 | กำลังไฟสูง (1,500 วัตต์), ตั้งอุณหภูมิสูงสุด 250°C, ขาตั้ง ABS ทนทาน |
เปิดโผ 11 หม้ออบลมร้อนยี่ห้อไหนดี รุ่นเด็ด คัดมาแล้วว่าคุ้ม!
มาถึงช่วงเวลาที่เพื่อน ๆ รอคอย! เราได้คัดสรร 11 หม้ออบลมร้อนรุ่นยอดนิยมบน Shopee ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่าและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ มาดูกันว่ามีเตาอบลมร้อน ยี่ห้อไหนดี ที่จะเข้าตากรรมการบ้าง
1. SMART HOME รุ่น MV-009

หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาหม้ออบลมร้อน แบบไหนดี ที่เน้นความประหยัดขั้นสุด SMART HOME MV-009 คือคำตอบที่ใช่ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกมาตรฐานที่จำเป็นครบถ้วน โถแก้ว 12 ลิตร กำลังไฟ 1,200 วัตต์ และระบบควบคุมแบบลูกบิดที่คุ้นเคย แม้กำลังไฟจะน้อยกว่ารุ่นแรกเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแน่นอน
จุดแข็งของแบรนด์นี้คือการทำราคาออกมาได้ดีต่อใจมาก ๆ เหมาะสำหรับนักศึกษาที่อยู่หอพัก หรือคนที่อยากลองใช้หม้ออบลมร้อนดูก่อน แต่ยังไม่อยากลงทุนเยอะ รุ่นนี้ถือเป็นตัวเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม ให้เพื่อน ๆ ได้รังสรรค์เมนูสุขภาพได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณที่บานปลาย และที่สำคัญ ระบบ Safety Cut-off ที่ด้ามจับก็มีมาให้ครบ มั่นใจได้ในความปลอดภัย
- ราคาประมาณ: 600 – 900 บาท
2. SONAR รุ่น CV-307H

SONAR เป็นอีกแบรนด์ที่มุ่งเน้นสินค้าราคาประหยัดและคุณภาพได้มาตรฐาน รุ่น CV-307H ก็เช่นกัน นี่คือหม้ออบลมร้อนที่ร้อนเร็ว และเน้นการใช้งานที่ง่ายดาย ไม่มีฟังก์ชันซับซ้อนให้ปวดหัว สามารถตั้งเวลาได้ อบได้สูงสุด 60 นาที และตั้งอุณหภมูิได้สูงสุด 250 องศา
จุดเด่นคือขนาดที่กะทัดรัด ด้วยความจุ 7 ลิตร ซึ่งแตกต่างจากหม้ออบลมร้อนขนาดมาตรฐานทั่วไปที่มักจุ 12 ลิตร ทำให้รุ่นนี้ประหยัดพื้นที่ และเพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือการทำเมนูพื้นฐาน ด้วยกำลังไฟ 1,000 วัตต์ ตัวโถผลิตจากแก้วใสหนาพิเศษ ช่วยให้มองเห็นอาหารได้ชัดเจน พร้อมระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
- ราคาประมาณ: 600 – 950 บาท
3. HOMMII รุ่น HB-8015

มาถึงแบรนด์ HOMMII ที่อาจจะฟังดูใหม่สำหรับบางคน แต่ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าจับตามองไม่น้อย โดยเฉพาะรุ่น HB-8015 ที่โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่าแบบราคาดี แต่ฟีเจอร์ครบไม่แพ้แบรนด์เจ้าตลาดเลย
จุดเด่นหลักอยู่ที่การใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับครอบครัวหรือคนที่ชอบทำอาหารด้วยหม้ออบลมร้อนแบบเอนกประสงค์ตัวเครื่องมาพร้อม โถแก้วขนาดใหญ่ 12 ลิตร ที่จุอาหารได้เยอะในครั้งเดียว จะอบทั้งไก่ทั้งตัวก็ยังไหว แถมโถแก้วยัง หนาและทนความร้อนได้ดี ไม่ต้องกังวลเรื่องแตกหักง่าย ส่วนกำลังไฟ 1,500 วัตต์ ทำให้เครื่องร้อนเร็ว อุณหภูมิคงที่ ช่วยให้การอบ ย่าง หรือทอดแบบไร้น้ำมันออกมาสุกทั่วถึงทั้งด้านนอกและด้านใน
ถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า ใช้งานได้จริง มากกว่าการจ่ายแพงเพื่อชื่อแบรนด์ล้วน ๆ รุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก ๆ ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน ราคาเข้าถึงง่าย และผลลัพธ์อาหารที่ได้ก็ทำออกมาได้ดีในระดับที่หลายคนประทับใจเลยทีเดียว
- ราคาประมาณ: 600 – 1,000 บาท
4. CASIKO รุ่น CK 8900

CASIKO CK 8900 เป็นอีกหนึ่งรุ่นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมในตลาด ด้วยสเปกที่คุ้นเคย (12 ลิตร, 1,300 วัตต์) และการควบคุมแบบลูกบิด
จุดที่ทำให้ CASIKO ยังคงขายได้เรื่อย ๆ คือความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่ทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กมาอย่างต่อเนื่อง วัสดุที่ใช้มีความทนทาน โถแก้วหนา และระบบความร้อนที่ค่อนข้างเสถียร ทำให้เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับคนที่ไม่ชอบเสี่ยง อยากได้ของที่มั่นใจได้ในคุณภาพระดับหนึ่งในราคากลาง ๆ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป อุปกรณ์เสริมที่จำเป็นก็มีมาให้ครบถ้วน พร้อมสำหรับทำเมนูอร่อยได้ทันทีหลังแกะกล่อง
- ราคาประมาณ: 650 – 900 บาท
5. SKG รุ่น KG-246

SKG ชูจุดเด่นของรุ่น KG-246 ด้วยคำว่า “อเนกประสงค์” ซึ่งก็จริงตามนั้น เพราะเป็นหม้ออบลมร้อนพื้นฐานที่สามารถทำได้หลากหลายเมนูจริง ๆ
รุ่นนี้มาพร้อมโถแก้ว 12 ลิตร และกำลังไฟ 1,300 วัตต์ ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่แข็งแรงทนทาน ที่สำคัญมีระบบนิรภัยกับปุ่ม Safety Lock ตรงหูจับ ทำให้เมื่อยกหูจับ เครื่องจะหยุดทำงานทันที ใครที่กำลังมองหาผู้ช่วยในครัวที่ทำได้หลายอย่างในเครื่องเดียวและมีความแข็งแรง ปลอดภัย รุ่นนี้เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
- ราคาประมาณ: 750 – 1,000 บาท
6. HANABISHI รุ่น MV-007

อีกหนึ่งแบรนด์ขวัญใจมหาชน HANABISHI รุ่น MV-007 โดดเด่นด้วยดีไซน์สีแดง สไตล์โดดเด่น มาพร้อมโถบรรจุสเตนเลสและฝาแก้วที่ทนความร้อนได้สูง ส่วนสเปกหลักยังคงมาตรฐานที่ 12 ลิตร 1,300 วัตต์
สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจคือความเสถียรของระบบความร้อน พัดลมที่กระจายลมร้อนได้ดี ทำให้อาหารสุกทั่วถึงกัน ไม่ไหม้เฉพาะจุด ระบบ Safety ที่ด้ามจับทำงานได้แม่นยำและรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่มองหาความคุ้มค่าในระยะยาว ไม่ได้เน้นแค่ราคาถูกที่สุด แต่เน้นที่การใช้งานที่ไว้ใจได้ในทุก ๆ วัน แบรนด์ HANABISHI ยังขึ้นชื่อเรื่องบริการหลังการขายที่ดี ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสบายใจสำหรับหลาย ๆ ครอบครัว
- ราคาประมาณ: 800 – 1,100 บาท
7. OTTO รุ่น CO-708

ขอเปิดตัวด้วยรุ่นสามัญประจำบ้าน ที่หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกแรก ๆ เมื่อนึกถึงหม้ออบลมร้อนยี่ห้อไหนดี สำหรับ OTTO รุ่น CO-708 ด้วยโถแก้วใสความจุ 12 ลิตร กำลังไฟ 1,100 วัตต์ ที่ให้ความร้อนได้รวดเร็วทันใจ
จุดเด่นของรุ่นนี้คือความอึด ถึก ทน ตามสไตล์แบรนด์ OTTO ที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาคุ้มค่าและทนทาน ใช้งานง่ายมากด้วยระบบลูกบิด (Analog) 2 ตัว สำหรับตั้งเวลาและอุณหภูมิ (สูงสุด 250 องศาเซลเซียส) เหมาะสุด ๆ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ หรือคนที่ต้องการฟังก์ชันพื้นฐานครบ ๆ ในราคาที่จับต้องได้ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะอบไก่ ย่างหมูกรอบ หรือทำเบเกอรีง่าย ๆ รุ่นนี้เอาอยู่หมด แถมอุปกรณ์เสริมพื้นฐานอย่างตะแกรงสูง ตะแกรงเตี้ย และที่คีบมาให้ครบ จบในกล่องเดียว
- ราคาประมาณ: 800 – 1,200 บาท
8. IMARFLEX รุ่น IB-704

ขยับมาที่แบรนด์ที่อยู่คู่ครัวไทยมานานอย่าง IMARFLEX รุ่น IB-704 นี้ ยังคงจุดยืนที่ความแข็งแกร่งและทนทานของวัสดุ มาพร้อมโถแก้วหนาพิเศษ ความจุ 12 ลิตร และกำลังไฟแรงถึง 1,200 วัตต์ ช่วยให้การทำอาหารสุกเร็วขึ้นและประหยัดเวลาไปได้อีก
รุ่นนี้ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่จุกจิก เน้นฟังก์ชันหลักที่ต้องใช้จริง ๆ คือการตั้งอุณหภูมิได้กว้างตั้งแต่ 125-250 องศาเซลเซียส และตั้งเวลาได้นานถึง 60 นาที ตอบโจทย์ทุกเมนูคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นไก่อบสมุนไพรตัวอ้วน ๆ หรือหมูกรอบหนังฟู ๆ ที่ต้องการความร้อนคงที่และสม่ำเสมอ หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาเตาอบลมร้อน ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นความทนทาน ใช้งานยาว ๆ และเชื่อถือได้ในคุณภาพ IMARFLEX ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
- ราคาประมาณ: 900 – 1,300 บาท
9. FINEXT รุ่น AH-D12

รุ่น FINEXT AH-D12 ถือเป็นหม้ออบลมร้อนที่โดดเด่นด้วยดีไซน์มินิมอล เรียบง่าย ไม่เน้นความหวือหวา แต่ให้ความรู้สึกแข็งแรงและมั่นคง ด้วยโครงสร้างฐานพลาสติกและด้ามจับที่ทนความร้อนสูง เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานจริงมากกว่าลูกเล่นเสริม
ตัวเครื่องมีความจุ 12 ลิตร กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ให้พลังความร้อนได้รวดเร็วและแรงกว่าเตาอบทั่วไปถึง 40% สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะ อบ ปิ้ง ย่าง อุ่นอาหาร หรือรมควัน ก็ทำได้ครบในเครื่องเดียว ช่วยประหยัดเวลาและพื้นที่ในครัว
- ราคาประมาณ: 1,000 – 2,000 บาท
10. RRS X MITSUMARU รุ่น AP-EC12

รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นพิเศษที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง RRS (แบรนด์เครื่องครัวสเตนเลส) และ MITSUMARU (แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า) รุ่น AP-EC12 นี้จึงมีความโดดเด่นที่คุณภาพวัสดุ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นสเตนเลส เช่น ตะแกรง ที่มักจะใช้วัสดุ Food Grade คุณภาพดีจาก RRS ส่วนระบบไฟฟ้าและความร้อนก็มั่นใจได้ในมาตรฐานของ MITSUMARU
สเปกตัวเครื่องอยู่ที่ 12 ลิตร 1,300 วัตต์ มาพร้อมโถแก้วทนความร้อน และอุปกรณ์เสริมครบชุด ถ้าเพื่อน ๆ เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับวัสดุที่สัมผัสอาหาร และเชื่อมั่นในการจับมือกันของสองแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญ นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ
- ราคาประมาณ: 1,190 บาท
11. Close รุ่น HB-8004

แบรนด์ Close อาจไม่คุ้นหูมากนัก แต่รุ่น HB-8004 ถือเป็นหม้ออบลมร้อนที่มีฟังก์ชันครบ ใช้งานง่าย และให้ประสิทธิภาพสูง
รุ่นนี้มาพร้อมความจุ 12 ลิตร และกำลังไฟสูงถึง 1,500 วัตต์ สามารถตั้งเวลาได้สูงสุด 60 นาที พร้อมเสียงเตือนเมื่อครบเวลา และปรับอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 250 องศาเซลเซียส เหมาะทั้งการอบ ปิ้ง ย่าง หรืออุ่นอาหารตัวโถผลิตจากแก้วใสหนาทนความร้อนสูง ช่วยให้มองเห็นอาหารได้ขณะปรุง สะดวกและปลอดภัย ขาตั้งทำจาก พลาสติก ABS ทนความร้อนสูง แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
ราคาประมาณ: 1,200 – 1,500 บาท
หม้ออบลมร้อนยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์เพื่อน ๆ ที่สุด
จะเห็นได้ว่าหม้ออบลมร้อนทั้ง 11 รุ่นที่เราคัดมาในวันนี้ โดยเฉพาะรุ่นมาตรฐานโถแก้ว 12 ลิตร แม้จะมีสเปกหลัก (ความจุ, กำลังไฟ) ที่ใกล้เคียงกันมาก แต่จุดที่สร้างความแตกต่างคือ ราคา, ความน่าเชื่อถือของแบรนด์, บริการหลังการขาย และของแถม
คำแนะนำเพิ่มเติมก็คือ ไม่มีหม้ออบลมร้อนยี่ห้อไหนดีที่สุด มีแต่ยี่ห้อที่ “เหมาะกับเรา” ที่สุด
- สายประหยัด งบน้อย: มองหา SMART HOME (MV-009), SONAR (CV-307H), HOMMII (HB-8015), CASIKO (CK 8900), SKG รุ่น KG-246
- สายคลาสสิก มั่นใจแบรนด์: OTTO (CO-708), IMARFLEX (IB-704), หรือ HANABISHI (MV-007) คือตัวเลือกที่ปลอดภัยและทนทาน
- สายเน้นวัสดุ: RRS X MITSUMARU (AP-EC12) คือคำตอบที่น่าสนใจ
ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกยี่ห้อไหน หม้ออบลมร้อนก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับคนรักสุขภาพ ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถสร้างสรรค์เมนู อาหารคลีน และลดการใช้น้ำมันในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้นมาก เมื่อได้รุ่นที่ใช่แล้ว ก็อย่าลืมกดใส่ตะกร้าที่ Shopee กันได้เลย!
บทความแนะนำ