หลายปีมานี้หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงสุด ๆ คงหนีไม่พ้น รถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่แค่ช่วยลดมลพิษ แต่ยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ด้วย และการจะเลือกรถไฟฟ้าสักคัน สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ถือเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้การเลือกรุ่นรถ การเลือกสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่สะดวก คิดค่าบริการคุ้มค่าช่วยให้เพื่อน ๆ ขับรถไฟฟ้าได้สะดวกและสบายใจ
บทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปปักหมุดวิธีเช็ก EV Charger Station ทั่วไทย พร้อมอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้า 2568 ฉบับอัปเดต! ที่เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่หัดใช้ EV และคนที่อยากอัปเดตข้อมูลล่าสุดก่อนตัดสินใจเดินทาง!

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
สถานีชาร์จรถไฟฟ้ามีกี่แบบ? รู้ไว้ก่อนเลือกใช้งาน
สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger Station) คือจุดให้บริการรีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแต่ละสถานีก็มักมีตู้ชาร์จหลายแบบ รองรับรถไฟฟ้าหลายยี่ห้อและหลายรุ่น
หลัก ๆ แล้วตู้ชาร์จไฟในสถานีชาร์จรถไฟฟ้าแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ตู้ชาร์จไฟแบบ AC Charger (ชาร์จปกติ)
เป็นตู้ชาร์จไฟที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current) เหมือนกับกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในบ้าน มีข้อดีที่ต้นทุนการชาร์จถูก แต่ใช้เวลาชาร์จค่อนข้างนาน
2. ตู้ชาร์จไฟแบบ DC Charger (ชาร์จเร็ว)
เป็นตู้ชาร์จไฟที่ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current) ส่งตรงเข้าแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว ทำให้ชาร์จได้เร็ว วิ่งได้ไกล แต่มักมีต้นทุนการชาร์จแพงกว่า
ประเภทตู้ | ลักษณะไฟฟ้า | ความเร็วในการชาร์จ | เหมาะกับการใช้งาน | ต้นทุนการชาร์จ |
---|---|---|---|---|
AC Charger | ไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current) | ประมาณ 6–16 ชั่วโมง | ชาร์จที่บ้าน คอนโด หรือที่ทำงาน เพราะต้องจอดทิ้งไว้นาน | ประมาณ 4–7 บาท/kWh |
DC Charger | ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current) | ประมาณ 30–60 นาทีในการชาร์จ 80% | ชาร์จระหว่างเดินทางไกล หรือชาร์จกับสถานีชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะ | ประมาณ 6–9 บาท/kWh |
3. ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนค่าไฟ AC Charger/ DC Charger
1. ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนการชาร์จแบบ AC (ชาร์จปกติ)
สมมติว่าคุณใช้รถ EV ขนาดแบตเตอรี่ 60 kWh และเลือกชาร์จด้วย AC Charger ที่สถานีชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะที่ราคา 7 บาท/kWh
- ค่าใช้จ่ายเต็มแบต = 60 x 7 = 420 บาท
- ถ้ารถวิ่งได้ 400 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เท่ากับว่าค่าไฟตกเพียง 1.05 บาทต่อกิโลเมตร เท่านั้น (420 / 400 = 1.05 บาท/กม.)
ซึ่งหากชาร์จที่บ้านจะได้ค่าไฟที่ถูกกว่านี้ ทำให้ต้นทุนค่าไฟต่อกิโลเมตรลดลง (ไม่รวมค่าติดตั้ง) และนี่คือเหตุผลที่หลายคนเลือกติดตั้ง AC Charger ไว้ที่บ้าน เพราะเป็นวิธีชาร์จที่คุ้มค่าที่สุด
2. ตัวอย่างการคำนวณต้นทุนการชาร์จแบบ DC (ชาร์จเร็ว)
สมมติคุณใช้ EV Charger Station สาธารณะแบบ DC Charger ที่ราคา 9 บาท/kWh
- ค่าใช้จ่ายเต็มแบต = 60 x 9 = 540 บาท
- อย่างไรก็ตาม การชาร์จเร็ว (Fast Charge) มักนิยมชาร์จจาก 20% ไป 80% ของแบตเตอรี่ เพื่อยืดอายุแบต
- หากคิด 60% ของแบตเตอรี่ (36 kWh) ค่าใช้จ่ายจะเท่ากับ 324 บาท (540 * 60% = 324) และใช้เวลาเพียง 30–40 นาที
- ถ้ารถวิ่งได้ 240 กม. ต่อการชาร์จจาก 20% ไป 80% หนึ่งครั้ง เท่ากับว่ามีต้นทุนการชาร์จประมาณ 1.35 บาทต่อกิโลเมตร (324 / 240 = 1.35 บาท/กม.)
ข้อดีของการชาร์จแบบ DC คือเร็วและสะดวก ชาร์จได้ทั่วไปตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะ แต่ต้นทุนต่อหน่วยสูงกว่าการชาร์จแบบ AC

สำรวจอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้า 2568 ที่ไหนถูกสุด
อัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้า 2568 ไม่มีการกำหนดเรทตายตัวเหมือนราคาน้ำมัน แต่จะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละเจ้า ซึ่งมักคิดตามหน่วยพลังงาน (กิโลวัตต์-ชั่วโมง หรือ kWh) นอกจากนี้ บางผู้ให้บริการบางรายอาจคิดราคาตามช่วงเวลา On-Peak ช่วงเวลาที่คนใช้เยอะ และ Off-Peak ช่วงเวลาที่คนใช้น้อยด้วย มาอัปเดตกันเลยว่าปี 2568 นี้ EV Charger Station ไหนให้เรทดีสุด!
อัปเดตอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้า 2568 ที่ไหนถูกสุด
สถานีชาร์จรถไฟฟ้า | อัตราค่าไฟต่อหน่วย (On-Peak) | อัตราค่าไฟต่อหน่วย (Off-Peak) | ค่าบริการเพิ่มเติม | ช่องทางชำระเงิน |
---|---|---|---|---|
PluZ (by PTT) | 7.9 – 8.4 บาท/kWh (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟเครื่องชาร์จ) | 6.6 – 7.1 บาท/kWh (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟเครื่องชาร์จ) | ค่าจองล่วงหน้า 20 บาท (คืนเป็นส่วนลดหากใช้บริการทันเวลา) | แอปพลิเคชัน EV Station PluZ |
EA Anywhere (By EA) | 7.30 บาท/kWh (DC) (ค่าบริการ AC คิดตามชั่วโมง) | 7.30 บาท/kWh (DC) (ค่าบริการ AC คิดตามชั่วโมง) | ค่าจอดเกินเวลา 100 บาท/ชม. (สำหรับเครื่องชาร์จ AC และ DC) | แอปพลิเคชัน EA Anywhere |
MEA EV (By MEA) | 7.5 บาท/kWh | 7.5 บาท/kWh | ไม่มีข้อมูลค่าบริการเพิ่มเติม | แอปพลิเคชัน MEA EV |
PEA VOLTA (By PEA) | 6.9 – 9.7 บาท/kWh (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟเครื่องชาร์จ) | 5.3 – 7.2 บาท/kWh (ขึ้นอยู่กับกำลังไฟเครื่องชาร์จ) | ไม่มีข้อมูลค่าบริการเพิ่มเติม | แอปพลิเคชัน PEA VOLTA |
Sharge | 7.2 – 9 บาท/kWh (ขึ้นอยู่กับประเภทสถานี) | 7.2 – 9 บาท/kWh (ขึ้นอยู่กับประเภทสถานี) | ค่าจองล่วงหน้า 20 บาท (ไม่มีข้อมูลการคืนเงิน) ค่าจอดเกินเวลา 100 บาท/ชม. | แอปพลิเคชัน SHARGE (รองรับบัตรเครดิตและคะแนน The 1) |
EV Charger Station เจ้าไหนดี? เลือกยังไงให้คุ้มสุด
ถึงตรงนี้จะเห็นว่าสถานีชาร์จรถไฟฟ้ามีหลายเจ้า แต่ละเจ้าคิดค่าบริการไม่เหมือนกัน และมีเครือข่ายสถานีต่างกัน ดังนั้นมาดูกันเลยว่าจะเลือกสถานีชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะเจ้าไหนให้ตอบโจทย์การใช้งานได้บ้าง
คนที่เน้นเดินทางไกล
การเลือกสถานีชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะที่มีจุดชาร์จทั่วประเทศอย่าง PTT (EV Station PluZ) และ PEA (PEA VOLTA) จะเป็นตัวเลือกที่ดีและสะดวกที่สุด
คนที่เน้นขับในเมือง
การเลือกสถานีชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะอย่าง MEA (MEA EV) ซึ่งมีอัตราค่าบริการคงที่และสถานีครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเป็นตัวเลือกที่สะดวกและกำหนดราคาต้นทุนการชาร์จได้แน่นอน
คนที่จอดชาร์จช่วงกลางคืนได้
การเลือกสถานีชาร์จรถไฟฟ้าของ PTT และ PEA ซึ่งมีอัตราค่าบริการ Off-Peak ถูก จะช่วยให้ชาร์จได้คุ้มค่าที่สุด
อย่างไรก็ดี เรทราคาการชาร์จไฟฟ้าของ EV Charger Station แต่ละเจ้า ที่เผยแพร่บนเว็บอาจเป็นราคาที่ไม่อัปเดต เพราะเรทราคาชาร์จไฟมักมีการปรับได้บ่อย ดังนั้นการตรวจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าค่าบริการล่าสุดผ่านแอปผู้ให้บริการโดยตรง จึงเป็นวิธีเช็กที่แม่นยำที่สุด เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

ปักหมุดสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วไทย หาง่ายแค่เปิดแอป!
การหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าใกล้ตัวทั่วไทยไม่ใช่เรื่องยาก เพราะปัจจุบันมีแอปและเว็บไซต์ที่ช่วยค้นหาแบบเรียลไทม์ได้ง่าย ๆ ทำได้ดังนี้
ขั้นตอนลงแอป
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผู้ให้บริการ เช่น EV Station PluZ (PTT), PEA VOLTA หรือ EA Anywhere
- เปิดฟังก์ชัน “Near Me” เพื่อค้นหา EV Charger Station ที่ใกล้ที่สุด อย่าลืมเช็กว่ามือถือเปิด Location Service เพื่อระบุตำแหน่งปัจจุบันของคุณแล้ว
- หากต้องการเดินทาง สามารถกรอกปลายทางเพื่อค้นหาสถานีระหว่างทางได้
- เลือกสถานีชาร์จรถไฟฟ้า เวลา ประเภทหัวชาร์จ และกำลังไฟที่รถคุณใช้อยู่
- ตรวจสอบสถานะ (ว่าง/ไม่ว่าง) และดูค่าบริการ ก่อนตัดสินใจ
- กดนำทางผ่าน Google Maps หรือ GPS ในรถไปถึงสถานีชาร์จรถไฟฟ้าได้เลย
โหลดไว้ไม่พลาด! แอปสถานีชาร์จรถไฟฟ้าและค่าบริการแนะนำ
ปัจจุบันในไทยมีผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าหลายราย พร้อมแอปที่ใช้งานง่าย เช่น
- PTT EV Station PluZ: ครอบคลุมทั่วประเทศ สะสมแต้ม Blue Card ได้
- PEA VOLTA: เรทค่าชาร์จถูก เหมาะสำหรับเดินทางต่างจังหวัด เพราะเป็นเครือข่ายของ กฟภ. มีเครือข่ายสถานีกระจายทั่วประเทศ
- MEA EV: เรทค่าชาร์จไฟคงที่ มีสถานีครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- EA Anywhere: มีสถานีมากกว่า 400 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่
- ReverSharger: เน้นพันธมิตรกับ Shell และ BYD
สถานีชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนจุดชาร์จและความเร็วในการให้บริการ ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้ง EV Charger Station ที่ให้การชาร์จแบบ AC หรือ DC สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือ ตำแหน่งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า-ค่าบริการ และ อัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้า 2568 ที่แตกต่างกันตามผู้ให้บริการ การใช้งานแอปที่ช่วยค้นหาสถานีใกล้ตัวจะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้สะดวก คุ้มค่า และประหยัดเวลาที่สุด และในอนาคตเมื่อ Ultra-Fast Charger ถูกใช้อย่างแพร่หลาย การชาร์จ EV ในไทยก็จะรวดเร็วและสะดวกไม่แพ้การเติมน้ำมันเลย หากเพื่อน ๆ อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถและยานยนต์ สามารถเข้าไปอ่านบทความที่น่าสนใจได้ที่ Shopee Blog
อ้างอิง
- EV Station Pluz, EA Anywhere, อัตราค่าชาร์จไฟฟ้าสถานีชาร์จของ PEA คิดอย่างไร, PEA Volta, MEA EV, ReverSharger,
บทความแนะนำ