นาทีนี้ ไม่มีสัตว์ตัวไหนในโลกที่จะมาแรงเท่ากับ “น้องหมูเด้ง” ที่กลายเป็นมีมและโด่งดังไปทั่วโลกในปี 2024 นี้แล้ว แต่แน่นอนว่า หมูเด้งนั้นคือ “ฮิปโปโปเตมัส” สัตว์ประเภทหนึ่งที่คนไทยหลายคนอาจจะคุ้นเคยชื่อ และคุ้นเคยหน้าตากัน แต่อาจจะยังไม่รู้จักกับฮิปโปดีมากพอ เพราะฮิปโปนั้น ไม่ใช่สัตว์ป่าที่สามารถพบได้ในแถบไทย แต่เป็นสัตว์ป่าที่พบได้ที่อื่น และในเมื่อน้องหมูเด้งดังขนาดนี้ Shopee Blog ก็ไม่พลาดที่จะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักฮิปโปกันให้มากขึ้นในบทความนี้ มาดูกันเลยว่า ฮิปโปนั้นมีข้อมูลอย่างไรบ้าง
Credit: Facebook ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ข้อมูลเบื้องต้นของฮิปโปโปเตมัสทั้ง 2 สายพันธุ์
“ฮิปโปโปเตมัส” หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “ฮิปโป” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ โดยมีที่มาของชื่อจากภาษากรีก แปลว่า “ม้าแม่น้ำ” เพราะมีรูปร่างส่วนหัวคล้ายม้าเมื่ออยู่ในน้ำ ปัจจุบันฮิปโปนั้นมี 2 สายพันธุ์บนโลก คือ
- ฮิปโปโปเตมัส หรือ ฮิปโป
- ฮิปโปโปเตมัสแคระ หรือ ฮิปโปแคระ (เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์)
ฮิปโปนั้นขึ้นชื่อเรื่องความดุร้ายและพละกำลังมหาศาล (ซึ่งขัดกับหน้าตาอันน่ารักของน้องหมูเด้ง) เรียกได้ว่าในปี ๆ นึง จากสถิติแล้ว พบว่าฮิปโปนั้นทำร้ายมนุษย์สูงกว่าจระเข้เสียอีก ส่วนข้อมูลทั่วไปคร่าว ๆ ของฮิปโปนั้น สามารถดูได้ด้านล่างเลย โดยเราจะแบ่งออกเป็น ข้อมูลของฮิปโป และ ฮิปโปแคระ
ข้อมูลทั่วไปของฮิปโปโปเตมัส
Credit: Freepik
1. รูปร่างและลักษณะทั่วไป
ฮิปโปมีรูปร่างอ้วนกลมใหญ่และน้ำหนักมากถึง 2–4 ตัน เป็นสัตว์บกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากช้างและแรด มีปากกว้างที่สามารถอ้าได้ถึงเกือบ 180 องศา และมีเขี้ยวยาวมากถึง 50 เซนติเมตร ซึ่งใช้สำหรับการต่อสู้และป้องกันตัว
2. พฤติกรรมและการดำรงชีวิต
ฮิปโปโปเตมัสชอบอาศัยอยู่ในน้ำในช่วงกลางวันเพื่อรักษาผิวหนังให้ชุ่มชื้น เนื่องจากมีต่อมเมือกที่ช่วยป้องกันแสงแดดและแมลง ส่วนการใช้ชีวิตในน้ำนั้น น้องไม่สามารถว่ายน้ำได้นะ แต่มีความสามารถในการดำน้ำได้เป็นระยะเวลานาน และใช้การเคลื่อนที่ในน้ำด้วยการเดินแทน
3. อาหารการกิน
ฮิปโปเป็นสัตว์กินพืช โดยเฉพาะหญ้าและพืชน้ำ กินอาหารวันละประมาณ 40 กิโลกรัม ซึ่งนับว่าน้อยเมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย
4. การผสมพันธุ์และการเลี้ยงลูก
ฮิปโปผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี และมักจะผสมพันธุ์ในน้ำ โดยตัวเมียจะตั้งท้องนานประมาณ 8 เดือน และคลอดลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกฮิปโปจะดูดนมจากแม่ในน้ำ และหย่านมเมื่ออายุประมาณ 4-8 เดือน
5. ความดุร้ายและอันตราย
ฮิปโปถือว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่อันตรายที่สุดในแอฟริกาเลยก็ว่าได้ เพราะฮิปโปนั้นมีแรงกัดและกระชากที่สูงมาก ๆ สามารถทำให้มนุษย์ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้มากกว่าสัตว์นักล่าชนิดอื่น ๆ เช่น จระเข้หรือฉลาม เสียอีก
6. สถานะการอนุรักษ์
ปัจจุบัน ฮิปโปนั้นมีจำนวนตามธรรมชาติที่ลดลงจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทำลายป่า ทำให้จำนวนฮิปโปทั่วโลกนั้นลดน้อยลง และหลายสวนสัตว์เริ่มมีการอนุรักษ์กันมากขึ้น
ข้อมูลทั่วไปของฮิปโปโปเตมัสแคระ
Credit: Facebook ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง
1. รูปร่างและลักษณะทางกายภาพ
ฮิปโปแคระมีขนาดเล็กกว่าฮิปโปทั่วไปถึง 10 เท่า โดยมีความสูงเพียง 1 เมตร และน้ำหนักราว 180–275 กิโลกรัม ลำตัวมีขนบาง ๆ เพียงเล็กน้อย มีผิวหนังเรียบลื่นและมีสีเขียวเข้มหรือน้ำตาลเข้ม ซึ่งต่างจากฮิปโปทั่วไปที่มีเหงื่อสีแดงที่ทำหน้าที่ป้องกันผิวจากแสงแดด
2. อุปนิสัยและพฤติกรรม
ฮิปโปแคระเป็นสัตว์รักสันโดษ ขี้อาย และไม่ชอบการพบปะมนุษย์ โดยมักจะออกหากินในเวลากลางคืน โดยกินพืชผัก หญ้า ผลไม้ และดินโป่งเพื่อเพิ่มธาตุอาหาร นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมในการใช้หางสะบัดปัสสาวะและมูลเพื่อประกาศอาณาเขตของตัวเอง
3. ถิ่นที่อยู่อาศัย
ฮิปโปโปเตมัสแคระอาศัยในพื้นที่ชุ่มน้ำของป่าดิบชื้นในแอฟริกาตะวันตก แถบประเทศไลบีเรีย กินี เซียร์ราลีโอน และโกตดิวัวร์ และมักจะใช้เขี้ยวขุดโพรงใต้ดินริมน้ำเพื่ออยู่อาศัยและเลี้ยงดูลูก
4. การประกาศอาณาเขต
ฮิปโปแคระมีการประกาศอาณาเขตด้วยการใช้ปัสสาวะและมูลสะบัดใส่บริเวณต้นไม้หรือทางเดิน เพื่อให้สัตว์ตัวอื่นรู้ว่าตรงนี้มีฉันอยู่นะ บางทฤษฎียังกล่าวว่าฮิปโปแคระอาจมีการปล่อยฟีโรโมนคล้ายกับแมวด้วย
5. สถานะการอนุรักษ์
ปัจจุบัน ฮิปโปแคระจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่าและการล่าเพื่อเอาเนื้อและหนัง แม้จะมีการคุ้มครองในบางพื้นที่ แต่จำนวนประชากรในธรรมชาติยังคงลดลงเหลือเพียงไม่เกิน 3,000 ตัวทั่วโลก
6. การเลี้ยงในสวนสัตว์
ในปัจจุบัน ฮิปโปแคระมีการเลี้ยงในสวนสัตว์ทั่วโลกประมาณ 350 ตัว รวมถึงในประเทศไทย เช่น ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว (น้องหมูเด้ง) และสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยการเลี้ยงในสวนสัตว์นั้นก็ถือเป็นการปกป้องไม่ให้สัตว์สูญพันธุ์ในอีกทางหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนไทยที่อาจไม่ได้พบเจอสัตว์ชนิดนี้ได้ทั่วไปอีกด้วย
ในไทยสามารถไปดูฮิปโปได้ที่ไหนบ้าง
Credit: Facebook สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo
ปัจจุบันในไทยนั้นมีหลากหลายสวนสัตว์ให้ไปเยี่ยมชมฮิปโป โดยก็จะกระจายอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วไทย (ยกเว้นในกรุงเทพที่ตอนนี้ยังไม่มีสวนสัตว์ภายใต้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์) มาลองดูกันว่า ถ้าอยากจะไปดูฮิปโปทั้งฮิปโปแคระและฮิปโปไซส์ปกติ จะไปตามดูได้ที่ไหนบ้าง
- สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ที่มีน้องหมูเด้ง คุณแม่โจน่า และ คุณพ่อโทนี่ พร้อมฮิปโปแคระอื่น ๆ อีกหลากหลายตัวให้ได้ไปเยี่ยมชมกัน โดยเฉพาะแม่มะลิ ที่เป็นฮิปโปปกติ อายุมากกว่า 59 ปี รอให้เราได้ไปหา แถมยังมีสัตว์อื่น ๆ อีกมากมายเลยนะ
- สวนสัตว์ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ที่นี่มีฮิปโปแคระน้องณเดชน์ พี่ชายของน้องหมูเด้ง และน้องญาญ่าแฟนของเขา และแน่นอนว่าก็น่ารักไม่แพ้ญาติ ๆ ฝั่งเขาเขียวเลย
- สวนสัตว์นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ที่นี่ก็มีฮิปโปให้เราไปเยี่ยมด้วยเหมือนกันนะ สำหรับสวนสัตว์โคราช โดยน้อง ๆ มีชื่อว่า หมูมะนาว ที่เป็นรุ่นป้าของหมูเด้งแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีน้องอื่น ๆ ให้ไปเยี่ยมอีกเพียบเลย
- สวนสัตว์อุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ที่นี่ก็แน่นอนว่ามีฮิปโปให้เราได้ไปเยี่ยมชมกันอีกเช่นกัน ได้แก่น้องคากิกับแม่พะโล้ โดยเฉพาะน้องคากิ ที่บอกได้เลยว่าน่ารักไม่แพ้หมูเด้งแน่นอน
- สวนสัตว์เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ สวนสัตว์เชียงใหม่นั้นเป็นอีกที่หนึ่งที่มีฮิปโปให้เราได้ไปเยี่ยมชมกัน ได้แก่ “ซูโม่” และ “ขนุน” สองฮิปโปที่มาจากสวนสัตว์นครราชสีมา และยังมีโซนอีกมากมายให้เราได้ไปเที่ยวเลยนะ
บอกได้เลยว่าฮิปโปนั้นเป็นสัตว์อีกประเภทหนึ่งที่มนุษย์ควรให้ความใส่ใจ เพราะนอกจากจะใกล้สูญพันธุ์แล้ว การมีสัตว์อยู่อย่างหลากหลายตามธรรมชาติจะช่วยทำให้ระบบนิเวศในโลกนั้นมีความอุดมสมบูรณ์ มีความสมดุลในระบบนิเวศเกิดขึ้น และที่สำคัญ ถ้าไปเที่ยวหาน้องหมูเด้งล่ะก็ อย่าไปรบกวน ขว้างปาสิ่งของ หรือส่งเสียงดังรบกวน เพราะอาจจะทำให้น้องตกใจได้นะ และถ้าจะเดินทางไปเที่ยวสวนสัตว์ตามรอยคอนเทนต์นี้ อย่าลืมเช็คยางรถยนต์ก่อนออกเดินทางด้วยล่ะ ด้วยความเป็นห่วงจากเรา
ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ และ วิกิพีเดีย