หนึ่งในมาตรการจากภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น “Easy E-Receipt” หรือชื่อเดิมว่า “ช้อปดีมีคืน” ก็จะเป็นหนึ่งในชื่อยอดฮิตและเป็นมาตรการที่ผู้เสียภาษีเงินได้หลายคนนั้นชื่นชอบ เพราะสามารถนำค่าใช้จ่ายต่างๆ จากการช้อปมาลดหย่อนภาษีในช่วงการยื่นภาษีได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายทางภาษีได้อีกทางหนึ่ง และสำหรับในปี พ.ศ. 2567 นั้น มาตรการช้อปดีมีคืนก็ได้เพิ่มช่องทางการลดหย่อนที่ผู้ซื้อสามารถขอ E-receipt จากร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee ด้วยเช่นกัน ซึ่งในบทความนี้ Shopee Blog จะพาทุกคนไปทำความรู้จักว่า E-Receipt คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับการลดหย่อนภาษี หากซื้อสินค้าบน Shopee สามารถขอได้ตรงไหน รวมไปรายละเอียดของมาตรการลดหย่อนภาษีอย่าง “Easy E-Receipt” หรือ “ช้อปดีมีคืน” ของปีนี้ ว่ามีรายละเอียดคร่าวๆ อย่างไรบ้าง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
E-Receipt คืออะไร
E-Receipt นั้น หากพูดคร่าวๆ ก็คือ เป็นใบกำกับภาษีในรูปแบบออนไลน์ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ (ร้านค้าที่จดทะเบียนอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถออกให้กับผู้ซื้อได้ และผู้ซื้อนั้น สามารถใช้ E-Receipt นี้ เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt หรือชื่อเดิมคือ มาตรการช้อปดีมีคืน เพื่อประกอบการลดหย่อนภาษีในช่วงการยื่นภาษีได้ ซึ่งสำหรับปี 2567 นี้ เราสามารถสะสมยอดซื้อ E-Receipt ในหมวดหมู่สินค้าที่ร่วมรายการช่วงวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 ได้สูงสุด 50,000 บาท/คน และนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 17,500 บาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระทางภาษีได้มากเลยทีเดียว
Credit : Freepik
สินค้าใดบ้างที่เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt
สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt และสามารถใช้ประกอบการลดภาษีนั้น เบื้องต้นจะยกเว้นสินค้าตามรายละเอียดด้านล่างที่เราจะพูดถึงเท่านั้น หากสินค้าที่คุณกำลังจะซื้อไม่มีอยู่ในรายชื่อด้านล่างนี้ ก็สามารถขอ E-Receipt เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ทันที
- ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่ายาสูบ
- ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ
- ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซเติมพาหนะ
- ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการ นอกเหนือระยะเวลาที่กำหนดซึ่งเริ่มก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 (ถึงแม้จะชำระค่าบริการในช่วงเวลาที่กำหนด ก็ไม่สามารถเข้าร่วมรายการได้
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
และโครงการนี้ มีขอยกเว้นพิเศษสำหรับสินค้า 3 ประเภท ที่แม้ร้านค้าผู้จำหน่ายจะไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็สามารถใช้ใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานสำหรับลดหย่อนภาษีได้ โดยสินค้า 3 ประเภทดังกล่าว ได้แก่
- ค่าหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
- ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือ E-book
- สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
ช้อปที่ Shopee สามารถขอ E-Receipt ได้นะ
Shopee Thailand อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ด้วยการที่ลูกค้าสามารถขอ E-Receipt กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ (เป็นร้านค้าที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มรูปผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรได้) และเมื่อลูกค้าช้อปสินค้าที่เข้าร่วมโครงการบน Shopee ก็จะสามารถเลือกตัวเลือกในการขอ E-Receipt ในการนำมาลดหย่อนภาษีได้
ขอ E-Receipt เมื่อซื้อสินค้าที่ Shopee อย่างไร?
หากอยากช้อปสินค้าที่ Shopee แต่สงสัยว่าจะขอ E-Receipt จากการซื้อสินค้าที่ Shopee อย่างไร Shopee Blog จะมาบอกวิธีให้ทุกคนทราบกัน ไม่ยากเลย เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้
- ค้นหาสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อ เลือกตัวกรองเป็น “Easy E-Receipt” แล้วเลือกตกลง
- ผลลัพธ์ของสินค้าและร้านค้าที่เข้าร่วม “Easy E-Receipt” จะปรากฏขึ้น
- เลือกสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อ และดำเนินการสั่งซื้อ
- ในหน้าจอทำการสั่งซื้อ ให้คลิกเมนู “ขอใบกำกับภาษี” ที่จะอยู่ต่อจากแถบ “คำสั่งซื้อทั้งหมด” และกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน เช่น
- ชื่อ-นามสกุล
- อีเมล
- หมายเลขโทรศัพท์
- หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (เลขบัตรประชาชน 13 หลัก)
- ที่อยู่สำหรับออกใบกำกับภาษี
- เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อย คลิก “ส่งคำขอ”
- เลือก “สั่งสินค้า” และชำระเงินให้เรียบร้อย
- เสร็จสมบูรณ์
เรื่องที่ควรทราบ : Shopee Thailand เป็นเพียงผู้รวบรวมคำขอใบกำกับภาษีจากผู้ซื้อเพื่อส่งต่อไปยังผู้ขายเท่านั้น โดยจะไม่สามารถออกใบกำกับภาษีในนามของ Shopee ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการขอใบกำกับภาษีได้ ที่นี่
Credit : Freepik
เพดานการลดหย่อนภาษี สำหรับโครงการ Easy E-Receipt
สำหรับโครงการ Easy E-Receipt นั้นมีกำหนดเพดานสูงสุดสำหรับจำนวนภาษีที่จะได้รับการลดหย่อนภาษีผ่านการขอ E-Receipt คือ ช้อป 50,000 บาท จะได้รับการลดหย่อนสูงสุด 17,500 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับเงินได้สุทธิต่อปีของแต่ละคน โดย Shopee Blog สรุปมาให้ทุกคนแล้วในตารางด้านล่าง ว่าเงินได้เท่านี้ ช้อปแต่ละบาท จะได้คืนอย่างไรบ้าง
รายได้สุทธิ(ต่อปี) | อัตราภาษี | ภาษีที่จะได้คืน (บาท) | ||||
ช้อป 10,000 | ช้อป 20,000 | ช้อป 30,000 | ช้อป 40,000 | ช้อป 50,000 | ||
ไม่เกิน 150,000 | – | – | – | – | – | – |
150,001 – 300,000 | 5% | 500 | 1,000 | 1,500 | 2,000 | 2,500 |
300,001 – 500,000 | 10% | 1,000 | 2,000 | 3,000 | 4,000 | 5,000 |
500,001 – 750,000 | 15% | 1,500 | 3,000 | 4,500 | 6,000 | 7,500 |
750,001 – 1,000,000 | 20% | 2,000 | 4,000 | 6,000 | 8,000 | 10,000 |
1,000,000 – 2,000,000 | 25% | 2,500 | 5,000 | 7,500 | 10,000 | 12,500 |
2,000,000 – 5,000,000 | 30% | 3,000 | 6,000 | 9,000 | 12,000 | 15,000 |
5,000,000 ขึ้นไป | 35% | 3,500 | 7,000 | 10,500 | 14,000 | 17,500 |
บทความนี้ Shopee Blog หวังว่าจะได้ให้รายละเอียดครบถ้วนว่า E-Receipt คืออะไร พร้อมรายละเอียดโครงการ Easy E-Receipt ที่สรุปมาให้แบบกระชับสำหรับทุกคน และถ้ากำลังสนใจจะช้อปที่ Shopee เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี ก็มาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ Shopee Easy E-Receipt และเลือกช้อปได้เลยทั้ง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าบ้านและของสะสม สินค้าบิวตี้และแฟชั่น และสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตอีกมากมาย พร้อมส่วนลดคุ้มๆ อย่าลืมช้อปภายใน 15 กุมภาพันธ์ 2567 นี้นะ
*สำหรับการสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าที่จัดจำหน่ายโดยบริษัทในเครือช้อปปี้ (รายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่) กรุณาทำรายการสั่งซื้อและชำระเงินภายในวันที่ 13 ก.พ. 67 เวลา 12.00 น. เพื่อสามารถออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มรูปและจัดส่งสินค้าได้ทันในช่วงระยะเวลาโครงการ และสำหรับการสั่งซื้อสินค้า Pre-Order หรือสินค้าที่มีระยะเวลาการจัดส่งนานกว่าปกติจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 2567 ได้ เนื่องจากไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ทันภายในระยะเวลาโครงการ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Post Today และ TTBBank