ยามบ่ายแก่ในเดือนที่ร้อนระอุที่สุดของประเทศไทย เรามีนัดพูดคุยกับสามสาวศิษย์เก่าวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ‘MUIC’ ที่มีโอกาสได้มาทำงานและ ฝึกงาน shopee หรือก็คือฝึกงานที่ช้อปปี้ประเทศไทยว่าอะไรคือสิ่งที่เหมือนกันของทั้งสองสถานที่
พร้อมแล้วอย่ารอช้า เลื่อนเมาส์ลงมาพบกับเรื่องราวจากคำบอกเล่าของ หลิน ศิวพร ลิขิตาภรณ์ จาก Marketing MUIC, แนน วันทกานต์ จงอัศวกุล และ โฟน วีริณน์ วงษ์รุ่งอรุณเลิศกัน ศิษย์เก่าจากบ้าน International Business MUIC กัน
หลิน
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ทำไมถึงเลือกเรียนในสาขานั้น ๆ เหมือนที่ได้ยินมามีตั้ง 4 สาขา ทำไมถึงเป็นสาขานี้
หลิน : เราเป็นคนนึงที่ไม่อยากทำงานที่มันเป็นรูทีนมาก ๆ ก็เลยเลือกลงมาร์เก็ตติ้ง
แนน : ก็คือตอนนั้น เอาจริง ๆ ก็คือคิดไม่ออกว่าจะเรียนอะไร แต่เราเรียนอังกฤษมาตั้งแต่เด็กเลย ก็เลยอยากจะเรียนอังกฤษต่อ เรารู้สึกว่าที่มหิดล มันเป็นอะไรที่แบบอินเตอร์จริง ๆ คนที่มาสอน คือเค้าใช้หลักสูตรเดียวกับต่างประเทศ
โฟน : ที่เลือกเรียนก็เพราะว่า ฝันว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
อยากรู้ว่าถ้าเด็กภาคไทยที่อยากเรียนภาคอินเตอร์เข้าไปมีปัญหาเรียนไม่ทันเพื่อนบ้างไหม
หลิน : มันมี pre college จริง ๆ เข้าได้ คือมหิดลจะมี pre college ก็คือเหมือนเรียนพื้นฐานการเรียน grammar, listening, writing แบบพื้นฐานการเขียน essay ก่อนเข้ามหาลัยจะได้ไม่ยากมาก จะมีวิธีการเขียน essay ที่เป็น academic มากกว่าคนที่ได้เข้าไปเลย คือมีพื้นฐานดีกว่า
แนน : เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่เรียนมามันจะภาษาอังกฤษแน่นมากเพราะ มันเรียนคล้าย ๆ กับช่วงเวลาที่เรียนมันคือ IC เหมือนเทอมนึงของ IC ก็คือ 3 เดือน ปิดตรงกัน แต่ว่าหลักสูตรที่เรียนมันจะเป็นหลักสูตรที่แบบมี writing, vocab, reading
ชอบอะไรในการเรียน Pre
หลิน : เรารู้สึกว่าการเรียน Pre ปูพื้นฐานมากจริง ๆ คือเราชอบเวลาที่ได้เขียน essay เป็นแบบ academic เวลาไปเจอเพื่อนที่อยู่ IC แล้วคนที่ไม่ได้เรียน Pre มา คือเค้าจะเขียน essay ไม่เหมือนเรา มันจะแบบไม่มีหลักการเหมือนเรา การใช้ transition การเขียน paragraph แต่ละอัน เวลามันเรียงมันจะเป็น bullet point ที่แบบดีกว่าคนอื่น
แนน : เวลาเรียน Pre มันแข็งภาษาอังกฤษแบบแข็งจริงๆ นี่เรียนอินเตอร์มาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าภาษาอังกฤษเก่ง อาจจะอ่าน รู้ศัพท์เยอะ แต่พอจะให้ไปพูดพรีเซนต์ อะไรที่เป็น academic จริงๆ ก็ไม่ได้เก่ง ก็คือได้จากตอนเรียน Pre เนี่ยแหละ คือฝึกรวบรวมความคิด critical thinking สุดๆ
แนน
แล้วทั้งคู่ชอบอะไรอีกเกี่ยวกับ MUIC อีก
หลิน : วิชาที่ให้เลือกก็ดี มันแบบไปใช้ได้จริง อาจารย์ก็แบบทั่วถึง เช็คชื่อทุกคลาส
แนน : เราก็ชอบที่แบบคลาสนึงมันจะเรียนแค่แบบสูงสุด 40 คน
ทางด้านโฟนบ้างจากตอนม.6 ที่รู้สึกอยากทำธุรกิจของตัวเอง แล้วการได้เข้ามาแล้วเรียนที่นี่ตอบโจทย์ไหม
โฟน : ตอบโจทย์เหมือนกัน ตอบโจทย์ดีอยู่ ตอนนี้โฟนทำแบรนด์กระเป๋าทำเกือบจะ 2 ปีแล้ว (ยิ้ม)
ทำไมตอนนั้นถึงเลือกมาฝึกงาน shopee
โฟน : เพราะว่าเราเริ่มทำกระเป๋า แล้วช่วงนั้น online marketing มาแรงมาก ก็เลยอยากฝึกงาน Shopee เพราะเป็นบริษัทที่รู้จักและมีชื่อเสียง
แนนฝึกงานที่แผนกไหน ยังไง ทำไมถึงมาฝึกงานที่นี่
แนน : ตอนนี้ฝึกงาน Shopee Online Marketing เป็นทีมการตลาดออนไลน์ ที่เลือกฝึกงานที่นี่เพราะว่าเห็นว่าเป็นบริษัทที่โตเร็วมาก เลยอยากจะลอง challenge ตัวเองดู
แล้วอย่างนี้ได้ใช้อะไรตอนเรียนบ้าง?
หลิน : เรารู้สึกว่าเราทำให้รู้สึกว่าฉลาดขึ้น แบบมีความรู้ใส่ตัวเพิ่มมากขึ้น แบบอัพสกิลตัวเอง
แนน : เราได้ใช้สกิล Business Communication นอกนั้นที่ต้องทำก็คือได้ความรู้ใหม่จากที่นี่หมดเลย แบบเรียนใหม่หมดเลย ซึ่งก็คิดว่าดีนะ มันเหมือนได้ความรู้ใหม่ มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำไม่เคยรู้เลย ที่นี่พี่ ๆ ก็สอนทุกอย่าง ทุกอย่างจริง ๆ เหมือนมาเรียน
โฟน : มากสุดคือ excel ยิ่ง business development ใช้เยอะมาก แล้วดีที่เราเรียนมา เรื่องอื่นก็อังกฤษ ก็ยังดีที่ไม่ต้องมางู ๆ ปลา ๆ เรามาปุ๊ป เรา full potential จริง ๆ คือแบบอยากพรีเซนต์ MUIC มากเลย เราเรียนกันมาแบบ academic มาก
ความเหมือนระหว่าง MUIC กับ Shopee
แนน : Play hard แต่ Work harder มหิดลเป็นแบบนั้นจริง ๆ ต่อให้คุณจะเที่ยวดึกแค่ไหน คุณก็ต้องไปเรียนเพราะเค้าเช็คชื่อ คือมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ คนที่เรียนที่นั่นมันจะอารมณ์แบบ ค่อนข้างแบบขยัน ก็คือที่นี่เหมือนกัน รู้สึกว่ายังต้องเรียนรู้ตลอดเวลาเลย
หลิน : เราคิดเหมือนแนน เราก็ชอบสังคม เราว่าสังคมที่นี่กับที่ MUIC เหมือนกัน หัวหน้าไม่ได้วางตัวว่าตัวเค้าเป็นหัวหน้านะ แต่เค้าวางตัวแบบเป็นเพื่อนร่วมงานคนนึงที่ให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา
โฟน
ถ้ามีน้องๆจาก MUIC มาถามว่า พี่มาฝึกงาน Shopee หรือมาทำงาน Shopee ดีไหมจะบอกน้อง ๆ เหล่านั้นว่าอะไร
หลิน : เราว่าถ้าอย่างเราคือตอนช่วงที่จะเปลี่ยนสังคมอย่างที่แนนบอกก็คือมันจะกลัวมาก แต่ว่าเราว่าถ้ามาที่นี่น่าจะแบบไม่น่ากลัว ทุกคนพร้อมให้คำปรึกษา
โฟน : ที่ช้อปปี้จะเครียดกับการทำงาน แต่ว่าพอเวลาเราพัก เพื่อน พี่ ๆ คุยกันแบบพี่น้องมาก คือถ้าแบบเราไม่ได้ทำธุรกิจเอง ถ้าเราจะทำแบบเป็นพนักงานออฟฟิศ เราว่าแบบเราอยากทำต่อ
แนน : ดีค่ะ มาให้เร็ว แต่ข้อเสียข้อเดียวก็คือเราจะอ้วนขึ้นเพราะของกินเยอะ เราก็จะกินตลอดเวลา เดินไปของกินอีกแล้ว 🙂