ตากระตุกข้างขวา-ซ้าย ลางบอกเหตุ หรือลางบอกโรค?

“ขวาร้าย ซ้ายดี” คำพูดติดปากเมื่อเกิดอาการตากระตุก ไม่ว่าจะกระตุกข้างขวาหรือข้างซ้ายก็ตาม หรือที่หลายคนเรียกว่าตาเขม่น เป็นอาการของกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาที่เกิดการกระตุกซ้ำ ๆ แบบไม่สามารถควบคุมได้ จนบางครั้งก่อให้เกิดความรำคาญใจ (ฮ่า ๆ) โดยเฉพาะถ้าเป็นตากระตุกข้างขวาทั้งวัน แต่ถ้าเป็นตากระตุกข้างซ้ายก็พอจะปล่อยผ่านไปได้เพราะถือเป็นลางดี แต่ความเชื่อเกี่ยวกับตากระตุกหรือตาเขม่นยังมีรายละเอียดอื่น ๆ อีก ไปดูกันว่าตากระตุกแบบไหน ตอนไหน มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง

ลางบอกเหตุตากระตุกตามช่วงเวลา

ตากระตุกตอนเช้า (ตื่นนอน – 9.00 น.)

• ตากระตุกข้างขวา ทำนายว่า จะมีญาติมิตรเดินทางไกลมาหา
• ตากระตุกข้างซ้าย ทำนายว่า อาจเกิดปากเสียง หรือเรื่องร้อนใจเกิดขึ้น

ตากระตุกตอนสาย (9.01 -12.00 น.)

• ตากระตุกข้างขวา ทำนายว่า อาจะมีญาติจากต่างที่เดินทางมาหา
• ตากระตุกข้างซ้าย ทำนายว่า จะมีเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดในบ้าน

ตากระตุกตอนบ่าย (12.01 – 16.00 น.)

• ใต้ตาขวากระตุก ทํานายว่า สิ่งที่คิดไว้ หวังไว้มีเกณฑ์จะสำเร็จ
• ตากระตุกข้างซ้าย ทำนายว่า จะมีเพศตรงข้ามมาหา หรือพูดถึงเรา

ตากระตุกตอนเย็น (16.01 – 19.00 น.)

• ตาขวากระตุก ทำนายว่า อาจได้เจอญาติมิตรที่ไม่เจอกันนานโดยบังเอิญ
• ตาซ้ายกระตุก ทำนายว่า เพื่อนสนิทคิดถึง จะมาหา

ตากระตุกตอนกลางคืน (19.01 น. – ก่อนนอน)

• ตากระตุกข้างขวา ทำนายว่า อาจมีปากเสียงกับคนในครอบครัว
• ตาซ้ายกระตุก ทำนายว่า จะมีข่าวดีเกิดขึ้นในเช้าวันถัดไป

ลางบอกเหตุตากระตุกตามส่วนต่าง ๆ ของตา

• ตากระตุกที่หลังตาซ้าย ทำนายว่า จะมีคนกล่าวถึง
• ตากระตุกที่หลังตาขวา ทำนายว่า จะมีคนนำลาภมาให้
• ตากระตุกที่กึ่งกลางตา ทำนายว่า จะมีคนมาหา
• ตากระตุกที่ใต้ตาซ้าย ทำนายว่า จะถูกใส่ร้าย
• ใต้ตาขวากระตุก ทำนายว่า จะได้ลาภ

ทางวิทยาศาสตร์ “ตากระตุกข้างขวา-ซ้าย” เกิดจากอะไร

ในทางวิทยาศาตร์ตากระตุกจะเรียกว่า หนังตากระตุก เกิดจากการหดเกร็งค้างของกล้ามเนื้อตา หรือบริเวณใบหน้า โดยสาเหตุมาจากการทำงานผิดปกติของเส้นประสาทในบริเวณนั้น หากตากระตุกถี่ ๆ ซ้ำ ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มโรคด้วยกัน

• Essential Blepharospasm มีอาการกระตุกเฉพาะหนังตาอย่างเดียว จะเกิดที่หนังตาข้างเดียวก่อน และจะกระตุกซ้ำ ๆ บ่อยขึ้น จนสุดท้ายตากระตุกทั้งสองข้าง ไม่มีสาเหตุการเกิด
• Hemi Facial Spasm มีอาการหนังตากระตุกร่วมกับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าข้างนั้นด้วย สาเหตุมาจากเส้นประสาทคู่ที่ 7 ในสมองถูกกดทับ

สาเหตุของอาการตากระตุก หรือตาเขม่น

สาเหตุของอาการตากระตุกไม่แน่ชัด อาจสัมพันธ์กับระบบประสาทหรือเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมและการพักผ่อน สาเหตุหลัก ๆ คือ

• มีการระคายเคืองบริเวณตาและเปลือกตา
• ตาล้า ตาแห้ง
• ตาโดยแสงสว่างและลมมากเกินไป
• เกิดความเครียด ความเหนื่อยล้า
• พักผ่อนไม่เพียงพอ
• การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง
• ผลข้างเคียงที่มาจากการใช้ยาบางประเภท

วิธีแก้อาการตากระตุก หรือตาเขม่น

การเกิดอาการตากระตุกโดยปกติไม่มีสาเหตุ สามารถแก้ตามอาการ คือ

1. การใช้น้ำยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมเพื่อลดการระคายเคืองในตา
2. นวดใต้ตา โดยใช้นิ้วมือนวดคลึงบริเวณใต้ตาประมาณ 30 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก
3. ประคบร้อนที่ดวงตา โดยใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำอุ่นประคบดวงตา ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้
4. พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน
5. พยายามลดการใช้ Smart phone หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลง
6. หากเกิดอาการตาแห้ง หรือเกิดอาการระคายเคืองตา สามารถหยอดน้ำตาเทียมได้

จริง ๆ อาการตากระตุก ไม่ว่าจะตาขวากระตุกทั้งวัน หรือตากระตุกข้างซ้าย สามารถตีความได้ทั้งสองส่วน ทั้งในฝั่งของความเชื่อเรื่อง “ขวาร้าย ซ้ายดี” ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล อย่างน้อยก็เอาไว้เตือนตัวเองให้มีสติและระมัดระวังมากขึ้น และในฝั่งของทางการแพทย์ อาการตากระตุกหรือตาเขม่น เป็นอาการเกร็งของกล้ามเนื้อที่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้เรารู้ตัว และหันกลับมาดูแลตัวเองได้ทัน ก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นโรคได้ ใครที่ตากระตุกข้างขวาและซ้าย หลายวันแล้วไม่หายซักทีควรไปปรึกษาแพทย์ด้วยล่ะ

ที่มา: myhora.com, pobpad.com