น้ำตาเทียม คุณภาพดี ปลอดภัย ลดราคาพิเศษ | Shopee Thailand
webp_image

น้ำตาเทียม ชุ่มชื้น ปลอดภัยต่อดวงตา

ดวงตาถือเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกายของทุกคน โดยช่วยทำให้เกิดการมองเห็น สามารถเรียนรู้หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้จากการมองเห็น และหากดวงตาไม่สามารถมองเห็นได้ ก็จะส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากขึ้น จึงถือได้ว่าดวงตามีบทบาทที่สำคัญมาก ๆ ดังนั้น การดูแลรักษาและตรวจสุขภาพตาประจำปีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะคนยุคนี้ต้องใช้ดวงตามากเป็นพิเศษ ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดเวลา ทำให้สายตาเกิดอาการเมื่อยล้า พร่ามัว จนเป็นเหตุให้เกิดอาการตาแห้ง

สำหรับปัญหาการเกิดอาการ “ตาแห้ง” นั้น ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยสาเหตุของอาการตาแห้งสามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ทั้งสภาพแวดล้อมรอบตัว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ โดยไม่ได้สวมใส่แว่นกรองแสงหรือแว่นตากันแดดในการช่วยถนอมดวงตา หรือใครที่มีปัญหาเรื่องสายตาจนต้องใส่คอนแทคเลนส์อยู่ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ล่ะที่เป็นเหตุทำให้เกิดโรคตาแห้ง (DES) ดังนั้น น้ำตาเทียม จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อช่วยรักษาและบรรเทาอาการตาแห้งเนื่องจากมีน้ำตาน้อยเกินไป อีกทั้งน้ำตาเทียมยังช่วยลดอาการระคายเคืองในดวงตาได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันน้ำตาเทียมมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ สามารถเลือกช้อปน้ำตาเทียมที่ใช่และดีที่สุดสำหรับคุณได้ที่ Shopee Thailand พร้อมส่วนลดโปรโมชั่นสุดพิเศษ อีกเพียบ!

webp_image

น้ำตาเทียม คือ?

น้ำตาเทียม คือ สารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา โดยมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ สามารถใช้ทดแทนน้ำตาจริงได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองดวงตา แสบตา คันตา รู้สึกไม่สบายตา อาจจะเกิดจากการที่ใช้สายตามากเกินไป จนทำให้ตาแห้งหรือคนที่ใช้คอนแทคเลนส์เป็นประจำ สำหรับส่วนประกอบหลักของน้ำตาเทียมจะเป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น Dextran, Carboxymethylcellulose, Hydroxyethyl Cellulose และ Hydroxypropyl Methylcellulose เป็นต้น

webp_image

น้ำตาเทียมมีกี่ประเภท?

ปัจจุบันน้ำตาเทียมที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดจะมีให้เลือกหลากหลายประเภท โดยถูกแบ่งตามลักษณะการใช้งาน ลักษณะของน้ำตาเทียม และอาการตาแห้งมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ผู้ใช้น้ำตาเทียมสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม

1.น้ำตาเทียมชนิดสารละลาย (solutions)

น้ำตาเทียมชนิดละลาย จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ยาหยอดตาชนิดน้ำ และยาหยอดตาชนิดน้ำและไขมัน โดยน้ำตาเทียมชนิดนี้ได้รับความนิยมใช้กันมาก ด้วยความมีลักษณ์เป็นน้ำ ทำให้ใช้งานง่าย หลังหยอดน้ำตาเทียมแล้วไม่ทำให้ตาพร่ามัว แถมยังไม่เหนอะหนะ เพราะเนื้อสัมผัสที่บางบางกว่าชนิดอื่น ๆ จึงทำให้มีความชุ่มชื้นแก่ดวงตาได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้ต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยหน่อย อีกทั้งยังมีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ มีทั้งแบบใช้ได้หลายครั้ง และแบบใช้ได้ครั้งเดียว ดังนี้

  • น้ำตาเทียมแบบใช้ได้หลายครั้ง ซึ่งเป็นน้ำตาเทียมที่หลายคนคุ้นเคยและรู้จักกันมากที่สุด ลักษณะเป็นขวดเล็ก ๆ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย ใช้ได้หลายครั้ง โดยส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 30 วันหลังจากวันที่เปิดใช้งานครั้งแรก เนื่องจากน้ำตาเทียมชนิดนี้ใส่สารกันเสีย อาจจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ จึงแนะนำให้หยอดไม่เกิน 4 ครั้งต่อวัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งเล็กน้อย
  • น้ำตาเทียมแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นน้ำตาเทียมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดขนาดเล็ก จึงพกพาได้สะดวก มีอายุการใช้งานแบบวันต่อวันหรือ 24 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเปิดใช้งานแล้วก็จะไม่สามารถเก็บไว้ใช้งานในวันต่อไปได้ เนื่องจากน้ำตาเทียมชนิดนี้จะไม่มีสารกันเสีย ราคาสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งปานกลางจนถึงมาก

2.น้ำตาเทียมชนิดขี้ผึ้งหรือเจล (semi-solid)

สำหรับน้ำเทียมชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งมาก ๆ เนื่องจากมีความชุ่มชื้นมากกว่าน้ำเทียมชนิดอื่น ๆ ด้วยส่วนผสมหลักจะอยู่ในรูปแบบสารละลายและเจล จึงทำให้เมื่อหยอดแล้วจะมีความชุ่มชื้นดวงตาได้ยาวนานขึ้น ซึ่งนิยมให้หยอดตอนเช้าหรือก่อนนอน เนื่องจากหลังการหยอดน้ำตาเทียมชนิดนี้จะทำให้สายตาพร่ามัวลงเล็กน้อย หลังหยอดจึงต้องพักรอสักครู่ถึงจะกลับมามองเห็นได้ชัดเป็นปกติ

webp_image

วิธีการใช้น้ำตาเทียมให้ถูกต้องและปลอดภัย

วิธีใช้น้ำตาเทียมควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของจักษุแพทย์ เพื่อประโยชน์ของน้ำตาเทียมให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และก่อนจะหยอดน้ำตาเทียมทุกครั้ง ควรอ่านฉลากที่ติดอยู่บนกล่องแล้วปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างรอบคอบ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากหรือน้อยเกินไป โดยทั่วไปมีวิธีใช้น้ำตาเทียมอย่างปลอดภัย ดังนี้

  • ควรหยอดน้ำตาเทียมในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ของน้ำตาเทียมดังนี้
    • กรณีอาการตาแห้ง มีอาการระคายเคืองตาเล็กน้อย แนะนำให้หยอดตาครั้งละ 1-2 หยด วันละ 3-4 ครั้ง และควรเลือกน้ำตาเทียมชนิดสารละลาย (solutions) แบบใช้ได้หลายครั้ง
    • กรณีอาการตาแห้งมาก ๆ แนะนำวิธีใช้น้ำตาเทียมให้หยอดน้ำตาเทียมครั้งละ 1-2 หยด วันละ 10-12 ครั้ง
  • ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ก่อนหยอดน้ำตาเทียมทุกครั้ง
  • ให้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้อยู่ในมุมที่ถนัดที่สุด จากนั้นให้ใช้มือข้างหนึ่งค่อย ๆ ดึงเปลือกตาล่างลงมาเล็กน้อย
  • จากนั้นให้เหลือบตามองขึ้นข้างบน แล้วกะตำแหน่งให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมห่างจากดวงตาเล็กน้อย แล้วบีบหลอดน้ำตาเทียมข้างละ 1-2 หยด โดยห้ามให้ปลายหลอดน้ำตาเทียมสัมผัสบริเวณดวงตาหรือปลายนิ้วมือ เนื่องจากอาจทำให้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียได้
  • หลังจากหยดน้ำตาเทียมเสร็จแล้ว ให้หลับตาพักไว้ประมาณ 2-3 นาที ก้มหน้าลงเล็กน้อยโดยไม่หรี่ตาหรือกระพริบตาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาเทียมไหลออกจากตาเร็วขึ้น
  • จากนั้นใช้ปลายนิ้วมือค่อย ๆ กดนวดเบา ๆ ตรงบริเวณหัวตาประมาณ 1 นาที เพื่อให้น้ำตาเทียมในดวงตาสามารถระบายไปยังท่อน้ำตาได้ดี
  • ให้ใช้สำลีหรือผ้าสะอาดเช็ดน้ำตาเทียมส่วนที่ไหลออกมา
  • หลังจากหยอดน้ำตาเทียมเสร็จควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียจากสู่ดวงตาอีกข้างหนึ่ง
webp_image

ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม

ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย ดังนั้น ก่อนจะใช้น้ำตาเทียมมาหยอดดวงตา จึงต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ เพราะถ้าหากมีความผิดอะไรอาจจะส่งผลกระทบต่อดวงตาได้ ซึ่งการใช้น้ำตาเทียมมีข้อควรระวัง ดังนี้

  • ควรเช็คตรวจเช็ควันหมดอายุบนฉลากน้ำตาเทียมก่อนทุกครั้ง
  • น้ำตาเทียมทุกประเภทเมื่อหมดอายุให้ทิ้งส่วนที่เหลือทันทีห้ามนำมาใช้อีกเด็ดขาด
  • ห้ามใช้น้ำตาเทียมร่วมกับผู้อื่นโดดเด็ดขาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียจากผู้อื่น
  • ห้ามนำน้ำตาเทียมชนิดใช้ครั้งเดียวนำมากลับใช้ใหม่หลังจากที่เปิดใช้งานแล้วภายใน 24 ชั่วโมง
  • กรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมร่วมกับยาหยอดตาประเภทอื่น ๆ แนะนำให้เว้นห่างกันประมาณ 10 นาที
  • ควรระวังไม่ให้ปลายหลอดหรือปากขวดน้ำตาเทียมสัมผัสกับอวัยวะส่วนใดของร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบการติดเชื้อในการหยอดตาครั้งต่อไปได้
  • การเก็บรักษาน้ำตาเทียมควรจะเก็บให้อยู่ในอุณหภูมิห้อง (15-30 องศาเซลเซียส) และห้ามนำไปเก็บไว้ในช่องแช่แข็งเด็ดขาด
  • สำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ แนะนำให้นำคอนแทคเลนส์ออกก่อนที่จะหยอดน้ำตาเทียม เมื่อหยอดเสร็จแล้วให้พักดวงตาประมาณ 10-15 นาที จึงค่อยใส่คอนแทคเลนส์
  • หลังหยอดน้ำตาเทียมหากพบอาการผิดปกติ เช่น อาการระคายเคืองตา ควรหยุดใช้ยาทันทีและรีบปรึกษาจักษุแพทย์
webp_image

น้ำตาเทียม ตัวช่วยของคนตาแห้ง ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา

น้ำตาเทียม อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาและช่วยบำรุงรอบดวงตา เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาตาแห้งหรือระคายเคืองได้ง่ายจากเศษฝุ่นละออง รวมถึงคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ปัจจุบันมีน้ำตาเทียมวางขายตามท้องตลาดหลากหลายยี่ห้อ หากถามว่าน้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสำหรับคุณมากที่สุด ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติและความโดดเด่นแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกจึงขึ้นอยู่กับความชอบและคิดว่ายี่ห้อไหนที่ใช่สำหรับคุณมากที่สุด

น้ำตาเทียมที่ได้รับความนิยม มั่นใจปลอดภัยต่อดวงตา!

  • น้ำตาเทียม Vislube

น้ำตาเทียม Vislube ซึ่งเป็นยี่ห้อที่หลายคนรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และยังได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้ดี อีกทั้งยังมีส่วนผสมของ Sodium hyaluronate ที่คุณสมบัติในการช่วยรักษาแผลที่กระจกตาบริเวณชั้นเยื่อบุผิวกระจกตา ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของตา และลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาได้ น้ำตาเทียม Vislube เหมาะสำหรับคนที่มีอาการตาแห้งมาก และคนที่ดวงตาแพ้ง่ายก็สามารถใช้น้ำตาเทียมยี่ห้อ Vislube นี้ได้

  • น้ำตาเทียม Cellufresh

Cellufresh น้ำตาเทียมที่เหมาะสำหรับใช้รายวัน บรรจุภัณฑ์แบบหลอดเล็ก ๆ พกพาใช้งานได้สะดวก ยังเป็นน้ำตาเทียมที่ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย จึงมีความปลอดภัยและอ่อนโยนเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ง่าย และได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนที่ใส่คอนแทคเลนส์และมีอาการตาแห้ง ด้วยส่วนผสมของสาร Electrolyte จึงทำให้น้ำตาเทียมของCellufreshมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติมากที่สุด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ระคายเคืองทำให้รู้สึกสบายตา เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้สายตาเยอะ ๆ เป็นเวลานาน มีอาการระคายเคืองและแพ้ง่าย

  • น้ำตาเทียม Endura

ใครกำลังมองหาน้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดีที่มีความเข้มข้นสูง ๆ แนะนำยี่ห้อ Endura น้ำตาเทียมชนิดสารละลาย (Solutions) ใช้ครั้งเดียว มาในรูปแบบหลอดขนาดเล็ก ทำให้สะดวกในการพกพา และไม่มีสารกันเสีย ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่มีความโดดเด่นในเรื่องของน้ำตาเทียมโดยเฉพาะ น้ำตาเทียม Endura มีส่วนผสมของ Castor Oil หรือ น้ำมันละหุ่ง ช่วยลดการระเหยของน้ำตาได้ดีและบรรเทาอาการตาแห้ง ยังมีสารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ไม่เกิดการระคายเคืองของดวงตา

  • น้ำตาเทียม systane ultra ud

น้ำตาเทียม Systane Ultra UD ชนิดสารละลาย (Solutions) ใช้ครั้งเดียวและมีอายุในการใช้งาน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดใช้งาน มาในรูปแบบหลอดขนาดเล็ก เหมาะสำหรับคนที่มีอาการตาแห้งมากและคนที่แพ้ได้ง่าย ด้วยส่วนผสมที่มีสารปราศจากสารกันเสีย และช่วยเพิ่มความความชุ่มชื้นให้กับดวงตากัน ด้วยสาร Polyethylene Glycol 400 และ Propylene Glycol ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ดวงตาไม่แห้งและยังมีน้ำคอยหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา โดยน้ำตาเทียม Systane Ultra UD เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมเลือกใช้กันมาก โดยเฉพาะคนที่มีอาการตาแห้งหรือคนที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน

  • น้ำตาเทียม Opti free

น้ำตาเทียม Opti Free ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ หรือใครที่มีอาการตาแห้ง ด้วยคุณสมบัติพิเศษช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาได้เป็นอย่างดี ซึ่งน้ำตาเทียม Opti Free ชนิดสารละลาย (solutions) แบบขวดที่ใช้ได้หลายครั้ง มีอายุการใช้งาน 30 วันหลังจากเปิดใช้งานวันแรก สามารถใช้หยอดได้ตลอดทั้งวัน เมื่อรู้สึกว่าดวงตาแห้ง และยังมีคุณสมบัติที่ช่วยลดอาการระคายเคืองตา และลดอาการพร่ามัวของสายตาในขณะส่คอนแทคเลนส์ได้อีกด้วย

webp_image

เลือกซื้อน้ำตาเทียม ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ผ่าน Shopee Thailand ในราคาสุดพิเศษ!

ให้คุณช้อปได้สนุกกว่าที่เคย เพราะที่ Shopee Thailand มีสินค้าให้คุณเลือกมากมายให้คุณได้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคหรือสินค้าบริโภคที่รอให้คุณเข้ามาช้อป พร้อมโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย ที่จัดเต็มมาเสิร์ฟให้คุณ มาช้อปน้ำตาเทียมจากแบรนด์ชั้นนำให้คุณได้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น Opti Free, Vislube, Systane Ultra UD, Endura, Cellufresh และอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างวิตามินและแร่ธาตุช่วยบำรุงสายตาก็มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ สามารถเข้ามาช้อปได้ที่ Shopee Thailand พร้อมดีลสุดพิเศษ งานนี้มีแต่คุ้มกับคุ้มแน่นอน