ดูแลผิวหลังว่ายน้ำ เรียนรู้ว่าว่ายน้ำยังไงไม่ให้ดำ และไอเทมฟื้นฟูสุขภาพผิว

การว่ายน้ำเป็นกิจกรรมที่รู้กันดีว่าทั้งสนุกและดีต่อสุขภาพ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย และช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ว่ายน้ำเล่นและออกกำลังกายไม่กี่ครั้ง รู้ตัวอีกทีผิวก็ดำคล้ำเสียซะแล้ว โดยเฉพาะเมื่อว่ายแบบสัมผัสกับคลอรีนและแสงแดดมากเกินไป พูดง่ายๆคือว่ายน้ำแล้วผิวคล้ำ ผิวดำ และผิวเสียได้ ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้วิธีการดูแลผิวหลังว่ายน้ำอย่างเหมาะสม รวมถึงไอเทมดูแลผิวต่างๆ เช่น ครีมอาบน้ำ ล้างคลอรีน ต่างๆ เพื่อป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพผิวให้ดูกระจ่างใสดังเดิมหรือดีกว่าเก่า

ทำไมว่ายน้ำแล้วผิวดำคล้ำ ว่ายน้ำแล้วผิวเสีย

การว่ายน้ำโดยเฉพาะในสระน้ำที่มีการเติมคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค อาจจะถือว่าสะอาดเพราะปราศจากเชื้อโรค แต่ก็มีความเสี่ยงต่อการทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง เนื่องจากคลอรีนมีคุณสมบัติที่สามารถทำลายชั้นน้ำมันบนผิวหนัง ซึ่งทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเปราะบาง อีกทั้งยังอาจเกิดปัญหาผิวคล้ำและผิวดำจากการสัมผัสกับแสงแดดที่รุนแรง ดังนั้นการดูแลผิวทั้งก่อนและหลังว่ายน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

การว่ายน้ำแล้วผิวคล้ำดำเสียเกิดขึ้นเนื่องจากเหตุผลหลัก ๆ คือ

1. รังสี UV จากแสงแดด: การว่ายน้ำ โดนเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อว่ายน้ำกลางแจ้ง และ ว่ายน้ำตอนกลางวันที่แดดแรง ทำให้ผิวหนังสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์โดยตรง รังสี UV สามารถทำลายเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำขึ้นเพื่อปกป้องเซลล์ผิวจากการทำลายของรังสี UV
2. น้ำสะท้อนแสง: น้ำในสระว่ายน้ำหรือทะเลทำหน้าที่สะท้อนแสงแดด ทำให้รังสี UV ที่กระทบผิวมีความเข้มข้นมากขึ้น การสัมผัสกับแสงที่สะท้อนจากผิวน้ำนี้ทำให้ผิวได้รับรังสี UV มากกว่าเดิม จึงเกิดการคล้ำเสียได้ง่ายขึ้น
3. ผลกระทบจากน้ำในสระต่อผิวหนัง: คลอรีนในสระว่ายน้ำหรือเกลือในน้ำทะเลสามารถทำให้ผิวแห้งและอ่อนแอลง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและมีแนวโน้มที่จะถูกทำลายจากรังสี UV ได้ง่ายขึ้น ผิวที่แห้งจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสีมากขึ้น
4. ยิ่งอยู่ในน้ำนาน ยิ่งผิวคล้ำเสียมากขึ้น: การว่ายน้ำเป็นกิจกรรมที่ใช้เวลานาน ทำให้ผิวหนังสัมผัสกับรังสี UV เป็นเวลานานกว่ากิจกรรมกลางแจ้งทั่วไป ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผิวคล้ำเสียมากขึ้น

6 วิธีว่ายน้ำยังไงไม่ให้ดำ

การป้องกันผิวคล้ำหรือผิวเสียจากการว่ายน้ำ มีวิธีที่ทำได้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังว่ายน้ำ สามารถทำได้ตามวิธีเหล่านี้ได้เลย

1. ทาครีมกันแดดก่อนสู้แดด

ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง กันน้ำ และสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ทาทั้งครีมกันแดดทาหน้า และครีมกันแดดทาตัวยี่ห้อไหนดีก็ไปอ่านต่อกันได้ อย่าลืมทาครีมก่อนลงสระประมาณ 15-20 นาที และทาซ้ำทุกๆ 1-2 ชั่วโมง โดยเฉพาะหากอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน

2. สวมหมวกว่ายน้ำและแว่นกันแดด

หมวกว่ายน้ำช่วยป้องกันศีรษะและเส้นผมจากแสงแดด ลดโอกาสที่รังสี UV จะสัมผัสและทำร้ายผิวบริเวณหัว ส่วนแว่นกันแดดช่วยปกป้องดวงตาจากการทำลายของแสงแดด

3. ใส่เสื้อผ้ากันแดด ชุดว่ายน้ำที่มีการป้องกันรังสี UV พกร่มกันยูวี

ปัจจุบันมีชุดว่ายน้ำที่มีคุณสมบัติกันแดดและสามารถป้องกันรังสี UV ได้ การใส่ชุดว่ายน้ำที่ปกคลุมผิวจะช่วยลดการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดดำน้ำที่มักจะมีแขนยาวขายาว ลดการที่ UV จะเข้ามาสัมผัสและทำร้ายผิวคุณโดยตรง ถ้าเลือกชุดว่ายน้ำแบบนี้ก็จะช่วยเลี่ยงการว่ายน้ำแล้วผิวคล้ําได้มาก หากคุณอยู่ในชุดว่ายน้ำหรือชุดธรรมดาริมหาดก็อย่าลืมพกร่มกัน UV หรือสวมเสื้อคลุมกันแดดล่ะ

4. หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในช่วงเวลาที่แดดแรง

ช่วงเวลาระหว่าง 10.00-16.00 น. เป็นเวลาที่แสงแดดแรงที่สุด หากเป็นไปได้ควรว่ายน้ำในช่วงเช้าตรู่หรือเย็นเพื่อลดการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง

5. อาบน้ำและล้างคลอรีนออกจากผิวทันทีหลังว่ายน้ำ

คลอรีนในสระว่ายน้ำอาจทำให้ผิวแห้งและอ่อนแอ ซึ่งจะทำให้ผิวไวต่อการทำลายจากแสงแดดมากขึ้น ควรอาบน้ำล้างตัวด้วยเจลอาบน้ำสำหรับนักว่ายน้ำหรือสบู่อาบน้ำล้างคลอรีนโดยเฉพาะได้ยิ่งดี และบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ทันทีหลังว่ายน้ำเพื่อให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น

6. ใช้ไอเทมบำรุงผิวหลังว่ายน้ำ

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมผิว เช่น ว่านหางจระเข้ วิตามินอี หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยลดการระคายเคืองและป้องกันการคล้ำเสียของผิว

รวม 4 ไอเท็มแก้ว่ายน้ำแล้วผิวคล้ำ

1. ครีมกันแดด

พูดถึงก่อนว่ายน้ำก่อนเลย สิ่งแรกที่ควรทำคือทาครีมกันแดดก่อนออกไปบริเวณสระว่ายน้ำหรือทะเล ทาก่อนออกแดดประมาณ 15 นาที และสิ่งสำคัญคืออย่าลืมพกขวดหรือหลอดครีมกันแดดไปทาซ้ำ เพราะครีมที่เราทารอบแรกอาจปกป้องผิวคุณได้เพียง 1-2 ชม.เท่านั้นเอง พักขึ้นมาทาครีมกันแดดเพิ่มบ้างเพื่อการปกป้องผิวที่ดี ยาวนาน และครอบคลุม และถ้าอยากรู้ว่าครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนเหมาะและอินเทรนด์ ก็ไปอ่านกันได้ที่ ShopeeBlog นะช้อปปี้รวมไว้ให้แล้ว

Cr. Unsplash

2. สบู่ล้างคลอรีน / เจลอาบน้ำสำหรับนักว่ายน้ำ  

สระว่ายน้ำคลอรีนจะมีคลอรีนในน้ำอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังและเส้นผมได้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกแบบมาเพื่อขจัดคลอรีนจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ

การอาบน้ำหลังว่ายน้ำเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการกำจัดคลอรีนและสารเคมีตกค้างบนผิว ครีมอาบน้ำ ล้างคลอรีนเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี เนื่องจากมีส่วนประกอบที่ช่วยในการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกและลดการระคายเคือง ตัวเลือกที่ดีสำหรับครีมอาบน้ำ ล้างคลอรีนควรมีลักษณะดังนี้

1. ครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากว่านหางจระเข้หรือชาเขียว ซึ่งช่วยปลอบประโลมและลดการระคายเคืองจากคลอรีน
2. ครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีนหรือวิตามินอี เพื่อช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นหลังล้างคลอรีนออกไป
3. สูตรอ่อนโยน ที่ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว เช่น พาราเบนและสารกันเสียชนิดอื่นๆ

Cr. Unsplash

การใช้ครีมอาบน้ำที่เหมาะสมช่วยขจัดคลอรีนและสิ่งสกปรกออกจากผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้งได้ด้วย สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าซื้อครีมอาบน้ำล้างคลอรีนหรือสบู่ล้างคลอรีนยี่ห้อไหนดี ก็ตามไปอ่านกันได้ข้างล่างเลยนะ!

3. แชมพูล้างคลอรีน   

เส้นผมเองก็ต้องการการปกป้องและฟื้นฟู ถ้าว่ายน้ำเสร็จแล้ว อย่าลืมรีบเอาน้ำล้างคลอรีนออกให้มาก และสระผมด้วยแชมพูล้างคลอรีน ส่วนจะมีแชมพูล้างคลอรีนยี่ห้อไหนดี ก็ตามไปอ่านกันได้ข้างล่างเหมือนกัน!

Cr. Unsplash

4. โลชั่นสำหรับนักว่ายน้ำ

ล้างผิวสะอาดปราศจากคลอรีนแล้วก็ต้องมาฟื้นฟูบำรุงฟิวกันหน่อยด้วยโลชั่น สิ่งสำคัญคือโลชั่นควรมีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์ดีๆ เก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้นาน บำรุงผิวที่โดนคลอรีนหรือความเค็มของเกลือที่มากเกินไปทำร้ายให้กลับมาดีดังเดิม

Cr. Unsplash

แนะนำ 6 ครีมอาบน้ำ ล้างคลอรีน – แชมพู ล้างคลอรีน

การล้างคลอรีนออกจากผิวหลังการว่ายน้ำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการระคายเคืองและผิวแห้ง ต่อไปนี้คือผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำหรือสบู่อาบน้ำที่ออกแบบมาเพื่อล้างคลอรีนโดยเฉพาะ วันนี้เราจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายหลังว่ายน้ำ เช่นสบูล้างคลอรีน หรือ ครีมอาบน้ำหรือเจลอาบน้ำสำหรับนักว่ายน้ำพร้อมทั้งบอกรายละเอียดของแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อค่ะ

1. One&All One Stop Cleanser for Swimmer

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับนักว่ายน้ำโดยเฉพาะ ช่วยล้างคลอรีน ครีมกันแดด และสารเคมีในสระน้ำเกลือได้หมดจด ใช้ได้ทั้งอาบน้ำ สระผม และล้างหน้าในหลอดเดียว ทำความสะอาดได้ทุกส่วนของร่างกายและเส้นผม สำหรับนักว่ายน้ำ และผู้ที่ชอบเล่นกีฬาทางน้ำทุกชนิด ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และนักกีฬา ช่วยล้างสารตกค้างจากเกลือ คลอรีน และโลชั่นกันแดด ปรับสภาพสมดุลผิวให้ชุ่มชื่นด้วยเชียบัตเตอร์ 

2. One&All Sporty เจลทำความสะอาดผิวและผม สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง (Face+Hair+Body)

เจลทำความสะอาดผิวและผมออร์แดนิคมากกว่า 98%  เหมาะสำหรับ ผู้ที่ชอบเล่นกีฬา ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ลดกลิ่นตัว เหงื่อ การสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ลดการเกิดผดผื่นคันโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหงื่อ อีกทั้งยังบำรุงผิวหลังออกกำลังกายให้เรียบเนียน สะอาด ลดการอักเสบ จากส่วนผสมธรรมชาติอย่างแตงกวา ละเปลือกมังคุด เมื่อเทียบกับตัวเลือกก่อนหน้าแล้ว ถือว่าตัวเลือกนี้ก็ดีสำหรับหลังว่ายน้ำ แต่อาจเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้เลือกว่ายน้ำและเจอคลอรีนเป็นประจำ แต่ชะล้างและบำรุงผิวหลังออกกำลังกาย เหมาะกับคนที่อาจเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายบ่อยหรือหลายประเภท

3. Nabaiji แชมพูล้างคลอรีน 2in1 โดย Decathlon

• คุณสมบัติ: เป็นทั้งแชมพูและเจลอาบน้ำในตัว ช่วยขจัดคลอรีนและสิ่งสกปรกออกจากผิวหนังและเส้นผมอย่างหมดจด ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: เนื้อเจลใส มีกลิ่นหอมสดชื่น มีกลิ่นส้ม และ กลิ่น Fresh Aquatic
• ที่มาของแบรนด์: Nabaiji เป็นแบรนด์กีฬาทางน้ำของ Decathlon เน้นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่รักการว่ายน้ำและกีฬาทางน้ำ
• ราคา: ประมาณ 145 บาท/ขวด (ขนาด 250 มล.)

4. SoCozy Swim 3in1 แชมพูขจัดคลอรีนหลังว่ายน้ำ

• คุณสมบัติ: ช่วยขจัดคลอรีนและเหงื่อออกจากผิวหนังและเส้นผม ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: มีทั้งแชมพูและเจลอาบน้ำ มีทั้งรุ่นปกติสำหรับผู้ใหญ่และ SoCozy Kids Swim 3-in-1 สำหรับเด็ก
• ที่มาของแบรนด์: เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและวางจำหน่ายในร้านขายยาและร้านค้าทั่วไป
• ราคา: ประมาณ 600 บาท

5. แชมพู-ครีมอาบน้ำ ล้างคลอรีน A&N

• คุณสมบัติ: ช่วยขจัดคลอรีนและเหงื่อออกจากผิวหนังและเส้นผม ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: มีทั้งแชมพูและเจลอาบน้ำในขวดเดียว 2-in-1 มีให้เลือก 2 กลิ่นคือ Original Fresh และ Extreme Attraction
• ที่มาของแบรนด์: –
• ราคา: 290 บาท สำหรับขวด 200 ml

6. ครีมอาบน้ำ ล้างคลอรีน แชมพูล้างคลอรีน 2-in-1

• คุณสมบัติ: ช่วยขจัดคลอรีนและเกลือออกจากผิวหนังและเส้นผม ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ใช้ได้
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: แชมพูและเจลอาบน้ำใช้รวมกันได้ในขวดเดียว ลักษณะเป็นขวดปั๊มตีเป็นโฟมนุ่มกดใช้ง่าย มีกลิ่นดอกไม้ และ กลิ่นผลไม้ ให้เลือก
• ที่มาของแบรนด์: ประเทศจีน
• ราคา: 99 บาท ต่อ ขวดปั๊ม 200 ml

นอกจากสองยี่ห้อดังกล่าวข้างต้น ยังมีผลิตภัณฑ์จากแบรนด์อื่นๆ อีกมากมายที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ว่ายน้ำ แต่อาจหาซื้อยากหน่อยในประเทศไทย เช่น

• Speedo: แบรนด์กีฬาทางน้ำชื่อดัง มีผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวและเส้นผมหลังการว่ายน้ำ
• Arena: แบรนด์กีฬาทางน้ำอีกแบรนด์หนึ่ง ที่มีผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายหลังว่ายน้ำ
• AquaGuard Pre-Swim Body Lotion: โลชั่นที่ใช้ก่อนการว่ายน้ำ เพื่อป้องกันคลอรีนและสารเคมีไม่ให้ซึมเข้าสู่ผิวหนัง ช่วยลดการระคายเคืองและผิวแห้งจากการว่ายน้ำ
• ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ไทย: มีหลายแบรนด์ในประเทศไทยที่ผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายหลังว่ายน้ำ เช่น อาบน้ำหอมสมุนไพร หรือเจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยน

5 ครีมกันแดดที่คนชอบว่ายน้ำต้องมี

สำหรับใครที่ชื่นชอบการว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำ ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย แม้จะอยู่ในน้ำ เพราะคลื่นและการขยับตัวอาจทำให้ครีมกันแดดหลุดลอกได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำและเหมาะสำหรับการใช้งานในน้ำโดยเฉพาะ

เคล็ดลับในการเลือกครีมกันแดดสำหรับว่ายน้ำ

• SPF 50+ และ PA++++: เพื่อการปกป้องที่สูงสุดจากทั้งรังสี UVA และ UVB
• Water Resistant: ทนน้ำได้นาน
• เนื้อครีม: เลือกเนื้อครีมที่บางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
• ส่วนผสม: หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง

แนะนำครีมกันแดดสำหรับว่ายน้ำยอดนิยม

1. Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++

• คุณสมบัติ: เนื้อเอสเซนส์บางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: เนื้อเอสเซนส์สีขาวขุ่น
• ที่มาของแบรนด์: Biore เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของผลิตภัณฑ์กันแดด
• ราคา: ประมาณ 350 บาท

2. Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++

• คุณสมบัติ: เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างยาวนาน กันน้ำ กันเหงื่อ เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: เนื้อครีมสีขาว
• ที่มาของแบรนด์: Anessa เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดจากญี่ปุ่น ที่เน้นการปกป้องผิวจากแสงแดด
• ราคา: ประมาณ 550 บาท

3. La Roche Posay Anthelios UV Mune 400

• คุณสมบัติ: เนื้อครีมบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากสารกันเสีย
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: เนื้อครีมสีขาว
• ที่มาของแบรนด์: La Roche-Posay เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากฝรั่งเศส ที่เน้นการดูแลผิวแพ้ง่าย
• ราคา: ประมาณ 1,120 บาท

4. Nivea Sun Protect & Refresh Water Gel SPF50+

• คุณสมบัติ: เนื้อเจลบางเบา ซึมซาบเร็ว ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: เนื้อเจลสีขาวใส
• ที่มาของแบรนด์: Nivea เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีชื่อเสียงมายาวนาน
• ราคา: ประมาณ 300 บาท

5. Mizumi UV Water Serum SPF 50+ PA++++

• คุณสมบัติ: เนื้อครีมเหมือนหนักแต่ทาแล้วบางเบา ซึมเร็ว เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน
• ลักษณะผลิตภัณฑ์: เนื้อเจลสีขาวข้น
• ที่มาของแบรนด์: Mizumi เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากเมืองไทย ทำโดยคนไทย พร้อมปกป้องดูแลผิวจากแดดเมืองไทย
• ราคา: ประมาณ 845 บาทสำหรับแพ็คคู่

การฟื้นฟูผิวเสียหลังว่ายน้ำ

หากสังเกตว่าผิวของคุณมีอาการแห้ง คล้ำ หรือเสียหลังจากว่ายน้ำไปแล้ว ควรฟื้นฟูผิวด้วยวิธีการดังนี้

1. ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติเติมความชุ่มชื้นสูง: หลังการอาบน้ำ ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิคหรือเชียบัตเตอร์ ทาให้ทั่วผิวกายเพื่อช่วยดูแลผิวหลังว่ายน้ำคืนความชุ่มชื้นและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
2. มาส์กผิวเป็นประจำ: การใช้มาส์กที่มีคุณสมบัติฟื้นฟูผิว ช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงลึกและลดความแห้งกร้าน โดยเฉพาะมาส์กที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีหรือคอลลาเจน
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้ผิวกลับมาดูสดใสและยืดหยุ่น
4. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว: อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และอี เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ แครอท และอะโวคาโด ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

การดูแลและฟื้นฟูผิวที่เสียจากการว่ายน้ำเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวเกิดปัญหาสะสมและเสื่อมสภาพในระยะยาว

ไม่ใช่แค่ว่ายน้ำแล้วผิวคล้ำเสีย แต่ยังทำร้ายเส้นผมอีกด้วย

ทำไมว่ายน้ำแล้วผมเสีย?

การว่ายน้ำสามารถทำให้ผมเสียได้เนื่องจากปัจจัยดังนี้:

1. คลอรีนในสระว่ายน้ำ: คลอรีนที่ใช้ในสระว่ายน้ำช่วยฆ่าเชื้อโรค แต่ก็มีคุณสมบัติในการดึงความชุ่มชื้นออกจากเส้นผม ทำให้ผมแห้งและเปราะได้ เมื่อคลอรีนสัมผัสกับเส้นผมเป็นระยะเวลานาน มันจะทำลายโปรตีนในเส้นผมและทำให้สีผมซีดลง โดยเฉพาะในกรณีที่มีการย้อมผม
2. เกลือในน้ำทะเล: น้ำทะเลมีเกลือในปริมาณสูง ซึ่งสามารถดูดซับความชุ่มชื้นออกจากเส้นผม ทำให้ผมแห้ง แตกปลาย และสูญเสียความเงางาม นอกจากนี้ เกลืออาจทำให้เส้นผมพันกันและยากต่อการจัดการ
3. การสัมผัสรังสี UV: เมื่อว่ายน้ำกลางแจ้ง เส้นผมอาจสัมผัสกับรังสี UV ที่ทำให้เส้นผมแห้งเสียและสีผมซีดจางได้

วิธีป้องกันผมเสียจากการว่ายน้ำ

• สวมหมวกว่ายน้ำ: หมวกว่ายน้ำช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมสัมผัสกับคลอรีนหรือเกลือโดยตรง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสียหายจากรังสี UV ได้ด้วย
• ล้างผมด้วยน้ำสะอาดก่อนว่ายน้ำ: การล้างผมด้วยน้ำสะอาดก่อนลงสระหรือลงทะเลจะช่วยให้เส้นผมดูดซับน้ำธรรมดาแทนที่จะดูดซับคลอรีนหรือน้ำเกลือมากเกินไป
• ใช้ครีมนวดผมหรือออยล์เคลือบเส้นผม: การใช้ครีมนวดผมหรือออยล์เคลือบผมก่อนว่ายน้ำจะช่วยสร้างเกราะป้องกันไม่ให้คลอรีนหรือเกลือทะเลซึมเข้าไปทำลายเส้นผม
• ใช้แชมพูล้างคลอรีน: หลังจากว่ายน้ำ ควรใช้แชมพูสูตรพิเศษที่ช่วยล้างคลอรีนและสารเคมีออกจากเส้นผม เพื่อคืนความชุ่มชื้นและลดการสะสมของสารเคมีที่อาจทำให้ผมเสีย
• ใช้ครีมนวดหรือทรีตเมนต์บำรุงผม: หลังจากล้างผม ควรใช้ครีมนวดผมหรือทรีตเมนต์ที่ให้ความชุ่มชื้น เพื่อช่วยฟื้นฟูและคืนสภาพเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง
• หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนหลังว่ายน้ำ: การใช้ไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบผมทันทีหลังจากว่ายน้ำจะทำให้ผมเสียมากขึ้น ควรปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติหรือลดการใช้ความร้อน

การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยลดการเสียหายของเส้นผมจากการว่ายน้ำและรักษาผมให้แข็งแรงและมีสุขภาพดี

ข้อควรหลีกเลี่ยงหลังจากว่ายน้ำ

หลังจากว่ายน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือพฤติกรรมที่อาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองมากขึ้น ได้แก่

1. หลีกเลี่ยงการขัดผิวแรงๆ: การขัดผิวหลังจากว่ายน้ำอาจทำให้ผิวที่อ่อนแออยู่แล้วระคายเคืองและแห้งได้ง่ายขึ้น ควรใช้ครีมอาบน้ำที่อ่อนโยนแทนการขัดผิว
2. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์: ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติและไม่มีสารระคายเคือง
3. ไม่ควรอยู่กลางแจ้งนานเกินไป: หลังว่ายน้ำ ผิวมีความเสี่ยงต่อการถูกทำลายจากแสงแดด ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีแดดแรง

การหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาผิวหลังการว่ายน้ำได้ดีมากขึ้น

ว่ายน้ำบ่อยผิวก็ยังดีได้

การดูแลผิวหลังว่ายน้ำเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยป้องกันผิวจากการแห้ง คล้ำ ดำ และผิวเสีย ควรเริ่มต้นการดูแลผิวหลังว่ายน้ำด้วยการอาบน้ำล้างคลอรีนออกจากผิวและเลือกใช้ครีมอาบน้ำที่มีคุณสมบัติช่วยคืนความชุ่มชื้น จากนั้นฟื้นฟูผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์และการบำรุงอย่างเหมาะสม รวมถึงการป้องกันผิวจากแสงแดดเพื่อให้ผิวมีสุขภาพที่ดีและดูสดใส การดูแลผิวที่ดีหลังว่ายน้ำไม่เพียงแค่ช่วยให้ผิวไม่เสียหาย แต่ยังเป็นการสร้างสุขภาพผิวที่แข็งแรงและสวยงามในระยะยาว

Cr. unsplash