“โอกาสดี ๆ ไม่ได้ผ่านมาบ่อย ๆ” คำที่หลายคนมักนึกถึงอยู่เสมอ เพื่อใช้ผลักดันให้ตัวเองคว้าโอกาสตรงหน้าไว้ เหมือนกับสมาชิก Thailand Global Leaders Program 2019 (GLP) ทั้ง 6 คน ที่จะมาเปิดใจ และเล่าถึงเหตุผลที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจตั้งแต่วันสมัคร จนกลายมาเป็นสมาชิกโครงการ GLP Shopee Thailand มาทำความรู้จัก และอ่านบทสัมภาษณ์ของทั้ง 6 คนไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
แนะนำตัวสั้น ๆ กันหน่อย
พิม (ศิเรมอร) : สวัสดีค่ะ ชื่อพิม ศิเรมอร ทองปาน มาจาก BBA จุฬาค่ะ
ต้า : ต้า อภิวัฒน์ นาคหาญ เรียนจบจาก BBA จุฬา Major in Finance
พีค : ชื่อพีคครับ นพรุจ กรุงไกรเพชร จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะ BBA เอกการตลาด โทการเงิน
อัน : ชื่อ อัน ค่ะ อัญชุกร ฐิติรุ่งเรือง เรียนจบจาก BBA Thammasat ค่ะ
พิม (พิมพ์ชนก) : สวัสดีค่ะ ชื่อพิมนะคะ จบจากเศรษฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือว่า EBA ค่ะ ตอนนี้เป็น Junior Category Manager ของ Category Women’s Shoes ค่ะ
ไอซ์: สวัสดีค่ะ ชื่อไอซ์ค่ะ ลักษณาพร ยอดศึกษา จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะ BBA Major Finance และ Minor Marketing ค่ะ จะเริ่มทำงานในวันที่ 4 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ในแผนก Business Development ค่ะ
ทำไมถึงเลือกโครงการ Thailand Global Leader Program 2019 (GLP) ทั้ง ๆ ที่น้องก็มีตัวเลือกมากมาย แต่ทำไมต้องเป็นโครงการ GLP
พิม (ศิเรมอร) : สำหรับพิม GLP โดดเด่นกว่าโครงการอื่น ๆ เพราะว่ามีเป็นความเป็นอินเตอร์สูง ซึ่งให้โอกาสได้ Rotate ไปทำงานที่สิงคโปร์ ในขณะเดียวกัน บุคลากรในองค์กรก็มีความหลากหลายเชื้อชาติ ภาษา และวัฒนธรรม ทำให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและไอเดียที่แตกต่างกันไป และการที่ Shopee อยู่ในตลาด e-Commerce ที่กำลังเติบโตและมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานั้น ก็ทำให้พวกเราเองต้องคอยเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน
ต้า : การที่ได้เข้าโครงการ GLP ครั้งนี้ จะมีจัด Regional Training ที่เราสามารถเดินทางไปเจอ GLP จากหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งต้าเชื่อว่าเราจะได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะ อีกอย่างผมมีรุ่นพี่ทำที่ SEA และ Shopee ทุกคนบอกเสียงตรงกันว่า Culture ที่นี่เป็นกันเอง และ ให้ Responsibility เราในการคิดเอง ทำเอง ลองผิด ลองถูก ซึ่งต้าชอบตรงนี้มาก
พีค : บริษัท Shopee เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด e-Commerce ที่สามารถสร้างจุดยืนได้อย่างชัดเจนโดยใช้เวลาไม่นาน การได้เข้าโครงการ GLP ทำให้เราเปิดประสบการณ์และได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา และตัวงานที่ได้รับมอบหมายมีความท้าทายอย่างมาก เราต้องสลับไปในตำแหน่งใหม่ ๆ ทุก Rotation จะทำให้เราได้เรียนรู้ทักษะใหม่อยู่ตลอดเวลา
ไอซ์ : โครงการ GLP แตกต่างจากโครงการอื่นคือ ความเป็น Leadership ค่ะ นอกจากการพัฒนาให้เรามีความพร้อมด้านการทำงานในหลากหลาย Department แล้ว เรายังได้รับการฝึกให้มีความเป็นผู้นำที่มีคุณภาพ เป็นการเตรียมความพร้อมให้เราทั้ง Soft skills และ Hard skills ที่จะต่อยอดให้เราเป็นคนที่พร้อมรับมือกับการทำงานในทุกรุปแบบเลยค่ะ
สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับโครงการ Thailand Global Leader Program 2019 (GLP) ในความคิดเห็นของคุณ คืออะไร
พิม (ศิเรมอร) : พิมชอบโอกาสที่จะทำให้พิมได้เข้าใจองค์กรในทุก ๆ แง่มุม และที่สำคัญ พิมก็จะค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะสมสำหรับตัวเอง อีกทั้งยังสนุกกับตัวงานได้ เพื่อที่จะสามารถสร้างผลงานที่ดีที่สุดออกมา
พีค : Mentorship System ที่จะเลือกพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์มาเป็น Pair ให้เราเรียนรู้วิธีการทำงานที่ถูกต้อง และให้คำปรึกษา
อัน : อันมองว่าที่ GLP นั้น ได้ให้ความสำคัญกับพนักงานมาก ๆ ทำให้เราอยากที่จะก้าวเข้ามาและพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกันกับ Shopee ค่ะ
ไอซ์ : สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับไอซ์คิดว่าเป็นการ Training ที่เรากำลังจะได้รับตลอด 2 ปีข้างหน้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Regional Training หรือ Training ในประเทศค่ะ การเป็นส่วนหนึ่งของ GLP เราจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคนที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์มากมาย เราจะได้เรียนรู้ว่าพวกเขามีวิธีคิดอย่างไรที่ทำให้เขาเป็นคนที่เก่ง และประสบความสำเร็จได้ในหน้าที่การงาน
การทำงานในโครงการ Thailand Global Leader Program 2019 (GLP) เป็นอย่างไร
พิม (พิมพ์ชนก) : พิมมองว่ามันเป็นอะไรที่สนุกท้าทายมาก อย่างแรกคือเราเปลี่ยนมุมมองจากผู้ใช้บริการช้อปปี้ มาเป็นคนที่ทำงานช้อปปี้ การที่เราเป็นผู้ใช้บริการอยู่แล้วทำให้เรามีความเข้าใจในตัว Product และ Customer Experience ระดับหนึ่ง ว่าปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นแบบไหน หรือว่า Customer Journey เวลาเข้ามาหาสินค้าจนถึงตอนที่ชำระเงินเป็นอย่างไร อีกอย่างก็คือ เรื่องของบรรยากาศการทำงานที่ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาอันสั้น ช่วงแรกที่เข้ามาก็ยังไม่ค่อยชิน แต่พอเริ่มปรับตัวได้ ก็เริ่มสนุกกับมันมากขึ้นค่ะ
ความท้าทายที่มากที่สุด ที่คุณเผชิญ กับการทำงานในโครงการ Thailand Global Leader Program 2019 (GLP) คืออะไร
พิม (พิมพ์ชนก) : สำหรับพิมก็จะเป็นเรื่องการ Manage ตัวเอง ด้วยความที่ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงและ มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาท้าทายเราทุกวัน มันทำให้เราต้อง Manage ให้ดีว่าเราต้องทำอะไรก่อน รู้จักการประเมินตัวเองว่าเราทำได้ไหม ถ้าทำคนเดียวไม่ได้ก็ต้องไปถามใคร หรือขอความช่วยเหลือจากทีมไหน
ความท้าทายอีกอย่างคือ ตำแหน่งที่คุณจะได้ทำ เป็นตำแหน่งที่จะได้ Manage คนอื่น ซึ่งมันก็จะมีความยากของการเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด และมีประสบการณ์ทำงานน้อยที่สุดในทีม ก็เป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่งค่ะ
ประทับใจอะไรในโครงการ Thailand Global Leader Program 2019 (GLP)
ต้า : ตอนสมัครผมประทับใจความยิ่งใหญ่ที่ Shopee ลงทุนจัดให้กับผู้สมัคร และการผ่าน Process เราได้เจอคนจากหลาย ๆ ตำแหน่ง หลาย ๆ หน่วยงาน ซึ่งทำให้เราได้เห็นความเป็น Shopee จากหลาย ๆ มุมมอง
พีค : โอกาสในการเรียนรู้ที่เปิดให้ เราได้ลองงานในหลาย Department เราจะได้รู้ว่าอะไรเหมาะกับเรามากที่สุด ซึ่งจะต้องเป็นงานที่เราทำแล้วรู้สึกชอบ สามารถทำมันได้ดี และสามารถเอาไปต่อยอดในอนาคตได้
อัน : ประทับใจในส่วนของการจัดงานค่ะ พี่ ๆ ที่มาดูแล ตลอดไปจนถึงพี่ ๆ ที่ได้พูดคุยด้วย ทำให้รู้สึกถึงความเอาใจใส่และความภูมิใจในองค์กร
พิม (พิมพ์ชนก) : การมี Mentor และ Supervisor ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พิมชอบเกี่ยวกับโครงการ GLP พิมมองว่า Manager เป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานสำหรับเด็กจบใหม่ ซึ่งพิมโชคดีมาก ๆ ที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับ Manager ที่เก่ง และใส่ใจ ทำให้เราได้รับ Feedback มาเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด
คำแนะนำที่จะให้กับคนอื่น ๆ ที่อยากจะมาสมัครในโครงการ Thailand Global Leader Program 2019 (GLP)
พิม (ศิเรมอร) : อยากแนะนำให้น้อง ๆ เริ่มต้นด้วยการศึกษาเกี่ยวกับทางบริษัทและตัวงานก่อนค่ะ ว่าเหมาะกับเราไหม อาจจะสอบถามจากพี่ ๆ GLP หรือพี่ ๆ คนอื่น ๆ ที่น้องรู้จักในองค์กรเพิ่มเติม ฝึกทำข้อสอบเยอะ ๆ ส่วน Group interview อยากแนะนำให้น้องเป็นตัวของตัวเอง และพยายามตั้งเป้าว่าเราอยากให้งานของทีมเราออกมาดี ไม่ใช่แค่ส่วนของตัวเอง ก้าวแรกที่สำคัญที่สุดคือการรวบรวมความกล้าและสมัครเข้ามา และก้าวต่อ ๆ ไปก็จะไม่ยากอย่างที่คิดแล้วค่ะ
ต้า : ก่อนที่จะสมัครเราควรนั่ง Reflect กับตัวเองให้ดีก่อนว่า เราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เก่งอะไร ไม่เก่งอะไร เป็นคนยังไง พอถึงเวลาสัมภาษณ์เราจะได้เป็นตัวของเราได้ดีที่สุด
อัน : จริง ๆ ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเริ่มต้นตั้งแต่การสอบข้อเขียน ให้ลองหาตัวอย่างใกล้เคียงมาลองทำ ส่วนใน Interview แนะนำให้ลองฝึกตั้งคำถามกับตัวเองและลองตอบดูจะได้ไม่ติดขัดในการพูด แต่ไม่ต้องจำมาเป็น Script นะคะ
พิม (พิมพ์ชนก) : ก็อยากให้ลองทำการบ้านเกี่ยวกับบริษัทมาสักนิด จะได้รู้ว่าเราเหมาะกับ Culture การทำงานขององค์กรนั้น ๆ ได้ อีกอย่างที่อยากจะแนะนำคือ แม้ว่าทุกคนจะมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนมีศักยภาพที่จะพัฒนาให้เก่งขึ้นได้ เพราะฉะนั้นอยากให้ลองเปิดโอกาสตัวเองในการสมัคร
ไอซ์ : โครงการ GLP เขาไม่ได้มองหาแค่ Brain แต่เขาจะมองหา Personality ในตัวคุณด้วย เพราะฉะนั้นถ้าหากทุกคนอยากเข้ามาสมัครโครงการนี้ เราอยากแนะนำให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด “Just be Yourself and Shine” แล้วโอกาสที่คุณจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ GLP ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
เห็นถึงความเข้มข้นในการคัดเลือก มุมมองของทั้ง 6 คนต่อโครงการ Shopee Thailand Global Leaders Program รวมไปถึงคำแนะนำดี ๆ กันไปแล้ว ใครสนใจและอยากทราบเงื่อนไขในการสมัคร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ careers.shopee.co.th แล้วมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ไปกับเรานะคะ
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม: จาก MUIC ถึง Shopee อะไรคือเรื่องราวดี ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในทั้งสองสถานที่