“น้ำมันเครื่องยนต์” ถือเป็นหัวใจสำคัญที่รถยนต์สันดาปทุกคันจะต้องมี ด้วยคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องจะช่วยเป็นสารหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของชิ้นส่วนโลหะในเครื่องยนต์เสียดสีและสึกหรอ ยังสามารถช่วยระบายความร้อนภายในเครื่องยนต์ ป้องกันการเกิดสนิม และให้การปกป้องเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ใครที่มีรถยนต์ควรจะหมั่นตรวจเช็กและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะ และปัจจุบันน้ำมันเครื่องมีให้เลือกหลายสูตร หลายประเภท มีทั้งสำหรับประเภทเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ทำให้ตัดสินใจไม่ว่าจะเลือกน้ำมันเครื่องยี่ห้อไหนดี วันนี้ Shopee ได้รวมรวบ 10 น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี พร้อมเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากให้กับทุกคน
Credit: Freepik
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
น้ำมันเครื่อง คืออะไร?
น้ำมันเครื่อง คือ สารหล่อลื่อเครื่องยนต์ที่คั่นกลางระหว่างผิวของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ โดยทำหน้าที่คล้ายฟิล์มเคลือบชิ้นส่วนโลหะ สามารถช่วยลดการเสียดสีและการสึกหรอของวัตถุโลหะ ขณะที่มีการเคลื่อนไหวของเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องมีความสำคัญต่อเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก ในการช่วยหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน ระบายความร้อน ชะล้างสิ่งสกปรกและช่วยในการป้องกันการสึกหรอให้กับชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ในขณะที่เผาไหม้เสียดสีกัน ดังนั้น รถยนต์จึงจำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องในการหล่อลื่นเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท
การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับประเภทของเครื่องยนต์จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เติมประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งาน ปัจจุบันน้ำมันเครื่องที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดหรือตามศูนย์บริการ มีทั้งหมด 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
1. น้ำมันเครื่องธรรมดา (Mineral Oil)
น้ำมันเครื่องธรรมดา หรือ น้ำมันเครื่องปิโตรเลียม (Synthetic) คือ น้ำมันที่มาจากธรรมชาติ 100% ซึ่งได้ผ่านการผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม ใช้งานได้ประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน และมีราคาถูกกว่าน้ำมันเครื่องประเภทอื่น ๆ
2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic)
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) คือ เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ได้มาจากธรรมชาติเป็นฐานและเติมสารสังเคราะห์เพิ่ม เพื่อให้น้ำมันเครื่องมีคุณสมบัติสูงขึ้น จึงออกมาเป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ โดยอัตราส่วนในการผสมนั้นจะขึ้นอยู่กับน้ำมันเครื่องแต่ละยี่ห้อ ใช้งานได้ประมาณ 5,000-10,000 กิโลเมตร มีอายุการใช้งานประมาณ 6 – 9 เดือน ราคาอยู่ระดับกลาง ๆ ไม่แพงมากจนเกินไป
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Full Synthetic)
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ คือ น้ำมันเครื่องที่ผ่านกระบวนการผลิตและกลั่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งทุกขั้นตอนในผ่านการวิจัยมาเป็นอย่างดี จึงทำให้น้ำมันเครื่องที่ได้จะมีความบริสุทธิ์ มีคุณภาพสูงในการปกป้อง และหล่อลื่นเครื่องยนต์ส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้เต็มสมรรถนะ ใช้งานได้ประมาณ 10,000-15,000 กิโลเมตร มีอายุประมาณ 1 ปี และราคาสูงที่สุด
ทำไมต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ทำไมต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง? เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดนิยมที่มักจะได้ยินกันบ่อย ก็ต้องบอกว่าน้ำมันเครื่องเปรียบเสมือนหัวใจหลักของเครื่องยนต์ ถ้าเครื่องยนตร์มีการทำงานตลอดเวลาทำให้เกิดการเสียดสี ส่งผลทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอและเสื่อมคุณภาพ ใครเคยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้วสังเกตเห็นว่าน้ำมันเครื่องจะมีลักษณะสีเข้มและเหนียวมาก ซึ่งแตกต่างกับตอนที่ใช้งานที่น้ำมันเครื่องที่ใสและเหลว ดังนั้นจึงความจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด หรือถ้ามีการใช้งานรถยนต์อย่างหนัก เพื่อทำความสะอาดเครื่องยนต์ และที่สำคัญช่วยยืดอายุการทำงานของเครื่องยนต์
วิธีเลือกซื้อน้ำมันเครื่องรถยนต์ให้เหมาะกับรถยนต์
อย่างที่ทราบกันดีว่าน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดมีด้วยกันหลายสูตร หลากหลายแบรนด์ชั้นนำ จึงเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคนในการเลือก น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับรถยนต์ของตัวเอง เรามีวิธีการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องต้องพิจารณาอะไรบ้าง มาแนะนำให้กับทุกคน
1. เลือกน้ำมันเครื่องยนต์ให้ตรงกับประเภทเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่องรถยนต์สามารถแบ่งออกตามประเภทเครื่องยนต์ได้ 2 ประเภท คือ น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ดังนั้น ก่อนเลือกว่าจะซื้อน้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ควรต้องเช็กก่อนว่ารถยนต์เป็นประเภทเครื่องยนต์อะไร เพื่อจะได้เลือกซื้อน้ำมันเครื่องให้เหมาะกับการใช้งาน หากเติมไม่ถูกต้องก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ และที่สำคัญยังทำให้เกิดคราบเขม่าด้วย
2. ประเภทของน้ำมันเครื่องยนต์
ประเภทของน้ำมันเครื่องยนต์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ ด้วยคุณภาพเกรดของน้ำมันเครื่อง และมีผลต่ออายุการใช้งาน ซึ่งประเภทน้ำมันเครื่องยนต์แบ่ง 3 ชนิด ได้แก่
- น้ำมันเครื่องแบบธรรมดา เหมาะสำหรับรถยนต์เก่า ความหนืดเหมาะสม และราคาถูก
- น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ เหมาะสำหรับรถทั่วไป ให้ตรวจสอบก่อนว่าเป็นเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ทนทานต่อการกัดกร่อน หล่อลื่นสูง เหมาะกับรถราคาสูง
3. ตรวจสอบค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง
ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องสามารถบอกได้ถึงประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่อง ให้สังเกตว่าจะมีตัว W หมายถึง Winter จะอยู่ด้านหน้าและด้านหลังเป็นตัวเลขที่แสดงถึงค่าความหนืด เช่น ถ้าน้ำมันเครื่องเป็น 30 เหมาะกับรถยนต์ใหม่ หรือรถยนต์ที่วิ่งไม่ถึง 200,000 กิโลเมตร เพราะมีค่าความหนืดน้อย น้ำมันใส แต่ถ้าเป็นเลข 40 ก็จะเหมาะกับรถยนต์ที่วิ่งประมาณ 200,000 กิโลเมตรขึ้นไป ด้วยค่าความหนืดระดับปานกลาง ความใสก็ลดลงเล็กน้อย และถ้าเป็นเลข 50 น้ำมันเครื่องที่ไม่ค่อยใส มีความหนืดค่อนข้างสูง เหมาะกับรถยนต์เก่า เป็นต้น
4. เลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์จากค่ามาตรฐาน
โดยเครื่องยนต์แต่ละประเภทจะมีค่ามาตรฐานของน้ำมันเครื่องที่สามารถบอกได้ถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่อง ที่แบ่งออกเป็นประเภทเครื่องยนต์ ดังนี้
- น้ำมันสำหรับเครื่องยนต์เบนซินจะมีตัวอักษรดังนี้ SL, SM, SN โดยค่า SN เรียงจากสูงไปต่ำ
- น้ำมันสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลจะมีตัวอักษรดังนี้ CH-4, CI-4, CJ-4 โดยค่า CJ-4 เรียงจากสูงไปต่ำ
รีวิว 10 แนะนำน้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์
เมื่อทำความรู้จักกับน้ำมันเครื่องยนต์กันมากพอสมควรแล้ว ใครกำลังมองหาน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ซึ่งเราได้คัดเลือกมารีวิวด้วยกันทั้งหมด 10 น้ำมันเครื่องยนต์ จากแบรนด์ต่าง ๆ มีทั้งรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ประเภทเบนซินและดีเซล มียี่ห้อไหนบ้างนั้น ตามไปช้อปกันเลย
1. SHELL Helix Ultra 0W-40
เปิดการรีวิว น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี กับน้ำมันเครื่อง SHELL Helix Ultra 0W-40 จากแบรนด์ SHELL น้ำมันเครื่องคุณภาพดีเกรดพรีเมี่ยม น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ Fully Synthetic สังเคราะห์แท้100% ที่ได้มาจากก๊าซธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Shell สามารถใช้ได้กับรถยนต์เครื่องเบนซินทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เก่าหรือใหม่ ช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์ให้เหมือนใหม่ มีค่าความหนืดอยู่ที่ 0W-40 ป้องกันคราบยางเหนียวมีแรงเสียดทานต่ำ ที่สำคัญยังช่วยประหยุดน้ำมันได้สูงสุดถึง 3% ป้องกันการสึกหรอ เครื่องไม่ต้องทำงานหนักอีกด้วย
รายละเอียด SHELL Helix Ultra 0W-40
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: สังเคราะห์แท้ 100%
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: เบนซิน
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 0W-40
- ระยะการใช้งาน: 20,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน
- ปริมาณ: 4 ลิตร
- ราคาประมาณ: 2,316 บาท
2. Eni i-SINT 5W-40 EXTRA TEC
น้ำมันเครื่องรถยนต์ Eni i-SINT 5W-40 EXTRA TEC จากแบรนด์ Eni สัญชาติอิตาลี เป็นน้ำมันเครื่องหล่อลื่นมาตรฐานระดับโลก ซึ่งมีเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะ เพื่อช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่ได้ผ่านมาตราฐานอ้างอิงจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้100% สามารถใช้ได้ทั้งรถยนต์เครื่องเบนซินและดีเซล ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์สะอาดเหมือนใหม่ ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้วิ่งได้ดีราบรื่น ด้วยค่าความหนืด SAE 5W-40 จึงเหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานเกิน 100,000 กิโลเมตร หรือรถที่มีการใช้งานหนักอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับรถสมรรถนะสูงทุกประเภท
รายละเอียด Eni i-SINT 5W-40 EXTRA TEC
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: สังเคราะห์แท้ 100%
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: เบนซินและดีเซล
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 5W-40
- ปริมาณ: 4 ลิตร
- ราคาประมาณ: 1,590 บาท
3. Liqui Moly SUPER LEICHTLAUF
ขยับมากันที่น้ำมันเครื่องยนต์ Liqui Moly SUPER LEICHTLAUF จากแบรนด์ Liqui Moly อีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเลือกใช้กันมาก ด้วยคุณสมบัติและคุณภาพที่ดีที่ช่วยทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยังช่วยลดแรงเสียดทาน ช่วยหล่อลื่นการทำงานของเครื่องยนต์ได้ดี แถมยังช่วยทำให้เครื่องยนต์สะอาดและที่สำคัญช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้นด้วย จุดเด่นที่น่าสนใจของน้ำมันเครื่องสูตรนี้คือสามารถใช้ได้ทั้งรถยนต์เครื่องเบนซินและดีเซล มีระยะในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมากถึง 15,000 กิโลเมตร และเป็นน้ำมันเครื่องที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เมื่อค้นหารีวิว น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี จะต้องมีน้ำมันเครื่องยี่ห้อนี้อย่างแน่นอน
รายละเอียด Liqui Moly SUPER LEICHTLAUF
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: ดีเซลและเบนซิน
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 10W-40
- ปริมาณ: 7 ลิตร
- ราคาประมาณ: 2,250 บาท
4. PTT Lubricants DYNAMIC COMMONRAIL
ใครมีรถปิคอัพเน้นใช้งานหนักอยากจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเพื่อเพิ่มสมรรถนะให้กับรถยนต์ แต่ยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ว่าจะใช้ น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำ น้ำมันเครื่องรถยนต์ PTT Lubricants DYNAMIC COMMONRAIL จากแบรนด์ PTT น้ำมันเครื่องเทคโนโลยีสังเคราะห์ ที่ออกแบบสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล รุ่นใหม่สมรรถนะสูง เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ทำงานหนักโดยเฉพาะ มีการออกแบบมาให้มีค่าความหนืดที่เหมาะสมตามมาตรฐาน API CI-4 ด้วยเทคโนโลยี CLEAN AND LOCK จะช่วยให้เครื่องยนต์มีความสะอาดและช่วยป้องกันคราบจับติด ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่มีคนรีวิวน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ดีเซล ยี่ห้อไหนดีกันเยอะมากและยกให้เป็นหนึ่งยี่ห้อที่น่าซื้อใช้
รายละเอียด PTT Lubricants DYNAMIC COMMONRAIL
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: สังเคราะห์แท้ 100%
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: ดีเซล
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 10W-30
- ปริมาณ: 6 ลิตร
- ราคาประมาณ: 1,050 บาท
5. TOYOTA น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 CT4
สำหรับแบรนด์ TOYOTA นอกจากจะผลิตรถยนต์ออกมาขายทั่วโลกแล้ว ยังมีน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่ได้รับความนิยมใช้กันมากเช่นกัน อย่าง TOYOTA น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 CT4 เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่มีความหนืดในระดับที่เหมาะสม สามารถใช้งานได้ทั้งกับรถยนต์ TOYOTA และรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ แต่ต้องเป็นเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปและเครื่องยนต์ดีเซลประเภทคอมมอลเรล ซึ่งน้ำมันมีช่วยป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ภายใน ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี ใครกำลังมองหาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ดีเซล ยี่ห้อไหนดี สามารถใช้กับรถดีเซลได้หลากหลายรุ่น ราคาไม่แพง แนะนำยี่ห้อนี้เลย
รายละเอียด TOYOTA น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 CT4
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: ดีเซลทั่วไปและดีเซลประเภทคอมมอลเรล
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 10W-30
- ระยะการใช้งาน: 10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน
- ปริมาณ: 6 ลิตร
- ราคาประมาณ: 1,000 บาท
6. YUKON น้ำมันเครื่องเบนซินสังเคราะห์ 5W30
YUKON น้ำมันเครื่องเบนซินสังเคราะห์ 5W30 จากแบรนด์ YUKON ที่ได้มาตรฐานการรับรอง API SN PLUS เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์แก๊ส (NGV/LPG) ทุกชนิด เป็นน้ำมันหล่อลื่นสมรรถนะสูงสุด รักษาเครื่องยนต์ให้สะอาดอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดการสึกหรอได้ดีเยี่ยม ปกป้องเครื่องยนต์ต่อการสึกกร่อนได้ดี เครื่องยนต์สะอาดเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ที่มีคุณภาพสูง ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้น และผสมสารเพิ่มคุณภาพที่มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ เพื่อการปกป้องที่สูงกว่า สามารถใช้ได้นานมากถึง 15,000 กิโลเมตร ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้นานมากยิ่งขึ้น ทำให้ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อย ๆ เป็นน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดอีกยี่ห้อที่อยากแนะนำให้ลองใช้
รายละเอียด YUKON น้ำมันเครื่องเบนซินสังเคราะห์ 5W30
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: สังเคราะห์แท้ 100%
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: เครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์แก๊ส (NGV/LPG) ทุกชนิด
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 5W30
- ระยะการใช้งาน: 10,000 – 15,000 กิโลเมตร
- ปริมาณ: 4 ลิตร
- ราคาประมาณ: 799 บาท
7. FURIO FULLY SYNTHETIC SP F1 5W40
FURIO FULLY SYNTHETIC SP F1 5W40 แบรนด์ FURIO น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ 100% ได้ผ่านมาตรฐานคุณภาพจากยุโรป อเมริกา และผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก ด้วยนวัตกรรม Respoplex Technology สามารถทำความสะอาดเครื่องยนต์ให้สะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอ สามารถชะล้างคราบเขม่าตะกอนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซินทุกประเภท สามารถใช้ได้ทั้งระบบหัวฉีดตรง (DIG) หรือระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงท่อร่วม (PFI) รถที่มีสมรรถนะสูงต้องการน้ำมันที่ให้ประสิทธิภาพการหล่อลื่นที่ดี มีคุณสมบัติพิเศษมีฟิล์มน้ำมันที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ให้การหล่อลื่นเครื่องยนต์ ป้องกันการสึกหรอได้ดี ทนความร้อนสูง ช่วยป้องกันคราบโคลน ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
รายละเอียด FURIO FULLY SYNTHETIC SP F1 5W40
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: สังเคราะห์แท้ 100%
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: เบนซิน
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 5W40
- ระยะการใช้งาน: 10,000 – 15,000 กิโลเมตร
- ปริมาณ: 4 ลิตร
- ราคาประมาณ: 959 บาท
8. AISIN น้ำมันเครื่องดีเซล 15W-40
น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี พร้อมลุย ทุกสภาพการใช้งาน ต้องนี่เลยกับ AISIN น้ำมันเครื่องดีเซล 15W-40 จากแบรนด์ AISIN เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ได้รับมาตรฐาน API CK-4 และมาตรฐานไอเสียระดับ Euro 5 และ Euro 6 เหมาะสำหรับรถประเภทเครื่องยนต์ดีเซลที่มีระบบกรองเขม่าไอเสีย DPF (Diesel Particular Filter) น้ำมันเครื่องยนต์ยังมีประสิทธิภาพระดับพรีเมียมที่มีความคงทนสูง ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มีสภาวะการใช้งานหนัก ลดการสึกหรอในเครื่องยนต์ ยังทำให้เครื่องยนต์สะอาด และยังคงสภาพความหนืดได้เป็นอย่างดีด้วย และยังคงสภาพความหนืดที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาดสามารถเลือกได้ตามเหมาะสม
รายละเอียด AISIN น้ำมันเครื่องดีเซล 15W-40
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: สังเคราะห์แท้ 100%
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: ดีเซล
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 15W-40
- ปริมาณ: 6 ลิตร / 7 ลิตร / 8 ลิตร
- ราคาประมาณ: 868 บาท / 1,048 บาท / 1,227 บาท
9. MOBIL 1 5W-30 CTN SG
มาต่อกันที่น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้ MOBIL 1 5W-30 CTN SG จากแบรนด์ Mobil เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและนิยมซื้อมาใช้กันมาก โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถเครื่องยนต์เบนซิน ด้วยการออกแบบน้ำมันเครื่องยนต์เพื่อรักษาการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหมือนใหม่ ยังช่วยทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อัตราเร่งที่เร็วแรงทันใจไม่มีสะดุด พร้อมปกป้องต่อการสึกหรอและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังช่วยทำให้คุณประหยัดเงินในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย ใครกำลังมองหาน้ำมันเครื่องยี่ห้อไหนดีที่ช่วยในป้องกันการสึกหรอ ราคาไม่แพง และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี แนะนำยี่ห้อนี้เลย
รายละเอียด MOBIL 1 5W-30 CTN SG
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: สังเคราะห์แท้ 100%
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: เบนซิน
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 5W-30
- ปริมาณ: 4 ลิตร
- ราคาประมาณ: 2,190 บาท
10. Bangchak น้ำมันเครื่อง รุ่น GE NGV 15W40
น้ำมันเครื่องรถยนต์ Bangchak น้ำมันเครื่อง รุ่น GE NGV 15W40 น้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ ชนิดเกรดรวม SAE15W-40 ได้ออกแบบและพัฒนาเป็นพิเศษสำหรับเครื่องยนต์เบนซินที่ดัดแปลงมาใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิง โดยสามารถใช้กับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป CNG, LPG, น้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ และรถยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติเด่นในเรื่องต้านทานการเสื่อมสภาพของน้ำมันได้ดี รองรับการใช้งานของเครื่องยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซ NGV และ LPG ที่มีอุณหภูมิภายในห้องเผาไหม้สูงได้ดี และยังเพิ่มคุณภาพพิเศษที่ช่วยในการรักษาความสะอาดของชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ได้ดีเยี่ยม จึงเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่เราได้นำมารีวิว น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ให้กับทุกคน
รายละเอียด Bangchak น้ำมันเครื่อง รุ่น GE NGV 15W40
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
- เหมาะกับประเภทเครื่องยนต์: เบนซิน หรือ เครื่องยนต์เบนซินที่ดัดแปลงมาใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV)
- ค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง: SAE 15W-40
- ปริมาณ: 4 ลิตร
- ราคาประมาณ: 524 บาท
จบแล้วสำหรับการรีวิว 10 น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ที่ได้รวบรวมนำมาฝากให้กับทุกคน เรียกได้ว่ายกมาให้ครบทุกสายอย่างจุใจกับน้ำมันเครื่องรถยนต์ทั้งเครื่องเบนซินและดีเซล รวมถึงเครื่องยนต์ที่มีการดัดแปลงมาเป็นใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนในเลือกว่าจะเติมน้ำมันเครื่องยนต์ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสำหรับรถยนต์ของคุณ สำหรับใครอยากได้อุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ยางรถยนต์ อุปกรณ์แต่งรถยนต์ ชุดล้อและล้อแม็ก เบาะที่นั่งภายในรถ หรืออื่น ๆ เข้ามาเลือกช้อปออนไลน์กับ Shopee มีสินค้าให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีบทความที่น่าสนใจ เช่น น้ำยาเช็ดกระจกรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรือรถมือสองดีไหม หรือวิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์ด้วยตัวเอง หรือข้อดีข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ ติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog มีบทความสาระน่ารู้มากมาย