รู้หรือไม่การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์โดยไม่มีพรบ. หรือพรบ. ขาดนั้นถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายซึ่งมีโทษปรับตามกฎหมายจราจรที่ปรับไม่เกิน 10,000 บาทจึงควรต่อ พรบ รถจักรยานยนต์ทุกปีและอีกหนึ่งข้อดีคือการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคู่กรณี รวมไปถึงแม้จะไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถล้ม หรือชนวัตถุต่าง ๆ ซึ่งวันนี้จะพาคุณผู้อ่านมาเคลียร์ชัดว่าทำไมถึงควรต่อพรบ.รถจักรยานยนต์ เบิกอะไรได้บ้าง ต่อได้ที่ไหนและมีขั้นตอนอย่างไร

cr. freepik.com
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
พรบ.รถจักรยานยนต์ เบิกอะไรได้บ้าง
การมีพรบ. รถจักรยานยนต์ไม่ใช่เป็นแค่เพียงประกันภัยภาคบังคับตามกฎหมายที่ต้องมีเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากกว่าที่คิดในการช่วยส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นที่ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนสามารถเบิกจากพ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ได้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าใครเป็นฝ่ายผิดซึ่งจะมีในส่วนของวงเงินคุ้มครองโดยแบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้
- กรณีบาดเจ็บ จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน
- กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ จะได้รับเงินชดเชย 35,000 บาท ต่อคน
- กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพหลังจากเข้ารับการรักษาแล้ว จะได้รับเงินชดเชยชดเชย 65,000 บาท ต่อคน
แต่ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด คือไม่ได้เป็นฝ่ายไปชนคู่กรณี หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุ จะมีค่าสินไหมทดแทนโดยแบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้
- กรณีบาดเจ็บ จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน
- กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพสิ้นเชิง จะได้รับเงินชดเชย 300,000 บาทต่อคน
- กรณีสูญเสียอวัยวะ จะแบ่งการชดเชยออกเป็น 3 กรณี ได้แก่
- สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน จะได้รับเงินชดเชย 250,000 บาท
- สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วนขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชย 500,000 บาท
- สูญเสียนิ้วตั้งแต่ 1 ข้อขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชย 200,000 บาท
- กรณีนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยIPD) จะได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน
แล้วเบิก พรบ รถจักรยานยนต์ ได้ที่ไหน? คุณสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล หรือค่าสินไหมทดแทนได้ที่บริษัทประกันภัยที่ทำ พ.ร.บ.ไว้ หรือ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด หรือจะขอเบิกผ่านโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาโดยตรงก็ได้เช่นเดียวกัน

cr. freepik.com
ต่อ พรบ รถจักรยานยนต์เตรียมเอกสารอะไรบ้าง? ยื่นผ่านช่องทางไหน
การดำเนินการต่อพรบ.รถจักรยานยนต์ทุกครั้งจะต้องมีการจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นเป็นหลักฐานยืนยันการเป็นเจ้าของรถซึ่งมักจะใช้เอกสาร ตามรายการดังต่อไปนี้
- เล่มทะเบียน หรือสำเนาเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์
- ใบตรวจสภาพรถ สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี จะต้องนำรถไปสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ต.ร.อ) เพื่อตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษี
- พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจักรยานยนต์
สำหรับช่องทางในการยื่นต่อพรบ. จักรยานยนต์สามารถทำได้หลายช่องทางตามความสะดวกของเจ้าของรถ หรือตัวแทนที่ช่วยในการทำเรื่องขอต่อพรบ. จักรยานยนตฺ์ ได้แก่
- สำนักงานขนส่งทางบกทุกจังหวัด
- ที่ทำการไปรษณีย์
- ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี” (Shop Thru for Tax)
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ เช่น 7-11 ซึ่งหากต่อ พรบ รถจักรยานยนต์ 7-11 กี่บาท? ก็จะคิดราคาตาม ความจุสูงสุดในกระบอกสูบหน่วยเป็นลูกบาศก์เซ็นติเมตร (cc)
- ไม่เกิน 75 cc จะอยู่ที่ 161.57 บาท
- 75-125 cc จะอยู่ที่ 323.14 บาท
- 125-150 cc จะอยู่ที่ 430.14 บาท
- 150 cc ขึ้นไป จะอยู่ที่ 645.12 บาท
ยื่นต่อ พรบ รถจักรยานยนต์ออนไลน์ ทำง่ายแค่ 5 ขั้นตอน
สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปกรมขนส่งทางบกก็สามารถยื่นขอต่อผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ส่วนคนทำงานก็ไม่ต้องหยุดงานไปติดต่อที่ทำได้ง่าย ๆ แค่ 5 ขั้นตอน ดังนี้
1.เข้าสู่เว็บไซต์
ทำการเข้าสู่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกได้ที่ https://eservice.dlt.go.th

2. ลงทะเบียนเพื่อสมัครสมาชิก

- อ่านข้อตกลง จากนั้นกดตกลง

- พิสูจน์ตัวตน โดยกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก แล้วคลิกเลือกรูปแบบการพิสูจน์ตัวตน แล้วกดยืนยัน

- พิสูจน์ตัวตนโดยการกรอกข้อมูลและใส่รหัสหลังบัตรประชาชน คลิกยืนยัน

- กรอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อขอ OTP กด ยืนยัน

- ตรวจสอบข้อมูลแล้วยืนยัน

- เสร็จสิ้น จากนั้นให้เลือกยอมรับข้อมูล ยืนยันตัวตนผ่านอีเมล์จากนั้นจะมีการยืนยันอีเมล์อีกครั้ง พร้อมกรอกข้อมูลการจัดส่งเอกสาร

3. หน้าเมนู เลือกชำระภาษีรถประจำปี
เข้าสู่หน้าเว็บไซต์ สังเกตหน้าเว็บไซต์จะมีช่องบริการ ให้เลือกชำระภาษีรถประจำปี จากนั้นคลิกที่ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต

4. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ รายละเอียดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. เพื่อลงทะเบียนรถ แล้วยื่นชำระภาษี
สำหรับรถที่ยังไม่ลงทะเบียน คลิกลงทะเบียน เลือกประเภทรถ จังหวัด/สาขา เลขทะเบียนรถ ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง กดบันทึก แล้วคลิกเลือก ยื่นชำระภาษี

5. เลือกวิธีการชำระเงิน
กรอกข้อมูล อ่านเงื่อนไข เลือกที่จัดส่งเอกสารและเลือกวิธีการชำระเงิน ได้แก่ ชำระโดยหักบัญชีฝากเงินธนาคาร ชำระผ่านบัตรเครดิต ชำระผ่านเคาร์เตอร์ให้บริการ หรือชำระผ่านคิวร์อาร์โค้ด จากนั้นให้ทำการกดตกลง และรอตรวจสอบสถานะการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสารผ่านระบบ e-serviceและรอรับเอกสารทางไปรษณีย์ประมาณ 5 วันทำการซึ่งจะจัดส่งให้ตามที่อยู้ที่ได้ระบุไว้

จะเห็นได้ว่าต่อ พรบ รถจักรยานยนต์ทำเองได้ง่ายมาก ๆ ผ่านออนไลน์ที่ไม่ต้องไปรอคิวที่กรมการขนส่งทางบกให้เสียเวลาและยังสามารถรอรับเอกสารถึงหน้าบ้านได้เลย สะดวกสุด ๆ พร้อมแนะสำหรับผู้ขับขี่ทุกท่านว่าควรต่อพรบ.จักรยานยนต์ต่อเนื่องทุกปีเพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่างน้อยหากเกิดอะไรขึ้นพรบ. ก็จะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดอุบัติเหตุเหตุ หรือยังมีค่าสินไหมทดแทน หากไม่ใช่ฝ่ายกระทำผิดและที่สำคัญ! ขับขี่ได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกลัวโดนจับเพราะหากไม่มีพรบ. หรือพรบ. จักรยานยนต์ขาดมีโทษปรับตามกฎหมายจราจรไม่เกิน 10,000 บาท
ส่วนใครที่กำลังหาซองติดพรบ ก็สามารถมาหาซื้อผ่านออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่ Shopee และยังมีเกร็ดความรู้สาระดี ๆ เกี่ยวกับ น้ำมันเครื่องรถมอเตอร์ไซต์ เพิ่มสมรรถนะทั้งเกียร์ธรรมดาและออโต้ หรือข้อควรรู้เกี่ยวการตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์ก็สามารถมาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee blog ที่เปิดประตูสู่ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเสิร์ฟสาระดี ๆ ที่ให้คุณเพลิดเพลินกับไอเดียใหม่ ๆ ได้ทุกวัน
อ้างอิง sabuyjai-capital.co.th, rabbitcare.com, car4cash.com, today.line.me