ปัญหา ตู้เย็นไม่เย็น หรือ ตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด อาจสร้างความรำคาญใจและความไม่สะดวกให้คนใช้เป็นอย่างมาก และอาจส่งผลเสียต่อความสดของอาหารได้ อยากถนอมอาหารอะไรไว้หลายชั่วโมงก็อาจจะอยู่ด้านนอกได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะพ่ายแพ้ต่อความร้อนของเมืองไทย ในบทความนี้ เราจะสำรวจสาเหตุทั่วไปว่าตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไร เบื้องหลังตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด เป็นเพราะอะไรได้บ้าง และเสนอวิธีแก้ไขเบื้องต้นตู้เย็นไม่เย็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่สาเหตุต้นตอที่เป็นไปได้แต่ละข้อ
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
7 สาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไรได้บ้าง
1. เทอร์โมสตัททำงานผิดปกติ
ตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไร อย่างแรกที่เป็นไปได้คือหากเทอร์โมสตัทหรือตัวควบคุมอุณหภูมิทำงานไม่ถูกต้อง อาจไม่ส่งสัญญาณให้คอมเพรสเซอร์ทำงานและทำให้ตู้เย็นเย็นลง
2. คอยล์คอนเดนเซอร์สกปรก
ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สะสมบนคอยล์คอนเดนเซอร์สามารถขัดขวางการกระจายความร้อน ทำให้ตู้เย็นสูญเสียความสามารถในการทำความเย็น
3. ซีลประตูที่เสื่อมสภาพหรือเสียหาย
ซีลประตูที่ชำรุดหรือฉีกขาดทำให้ประตูตู้เย็นปิดไม่สนิท และอากาศอุ่นไหลซึมเข้าไปในตู้เย็น ส่งผลให้ความสามารถในการรักษาอุณหภูมิเย็นลดลงทำให้ตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติดนั่นเอง
4. การไหลเวียนของอากาศไม่เพียงพอ
ช่องระบายอากาศที่ถูกบังหรือการไหลเวียนของอากาศภายในตู้เย็นอาจขัดขวางกระบวนการทำความเย็นโดยปกติของการทำงานตู้เย็นได้
5. สารทำความเย็นรั่ว
การรั่วไหลของสารทำความเย็นในระบบทำความเย็นอาจทำให้พลังงานความเย็นไม่เพียงพอ ส่งผลให้ตู้เย็นไม่เย็นในที่สุด
6. พัดลมคอยล์เย็นหรือคอนเดนเซอร์ไม่ทำงาน
พัดลมคอยล์เย็นและคอนเดนเซอร์เป็นอุปกรณ์สองชิ้นที่ช่วยทำให้อากาศเย็นร้อนไหลเวียนเข้าออกได้อย่างเป็นปกติ หากพัดลมหรือคอนเดนเซอร์เสีย ก็จะทำให้ตู้เย็นไม่เย็น แม้ไฟติด เพราะมีส่วนของการทำความเย็นทำงานผิดปกตินั่นเอง
7. ตู้เย็นมีของแน่นเกินไป
ตู้เย็นที่มีของเยอะเกินไป หรือแม้กระทั่งตู้เย็นที่ใส่ของร้อนเข้าไป อาจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก ทำให้ตู้เย็นช่องล่างไม่เย็น หรือไม่ การวางของสิ่งของที่แช่เย็นอยู่อาจไปขัดขวางช่องทางเดินลมของไอเย็น ทำให้จากปกติตู้เย็นเย็น ก็ไม่เย็นขึ้นมาได้
7 วิธีแก้ไขเบื้องต้นตู้เย็นไม่เย็น
1. เทอร์โมสตัทผิดพลาด
วิธีแก้ไขตู้เย็นไม่เย็น: เปลี่ยนเทอร์โมสตัทด้วยอันใหม่ที่เข้ากันได้กับตู้เย็นรุ่นของคุณ ศึกษาคู่มือของผู้ผลิตในส่วนคำแนะนำเฉพาะในการติดตั้งให้ดีว่า ตู้เย็นยี่ห้อที่คุณใช้ ใช้อะไหล่เทอร์โมสตัทแบบไหน รุ่นใด เปลี่ยนอย่างไร เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายจากการซื้อเทอร์โมสตัทมาเปลี่ยนผิดพลาด
2. คอยล์คอนเดนเซอร์สกปรก
วิธีแก้ไขตู้เย็นไม่เย็น: ถอดปลั๊กตู้เย็นและค้นหาคอยล์คอนเดนเซอร์ ซึ่งโดยทั่วไปจะพบอยู่ด้านหลังหรือใต้ตัวเครื่อง ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงคอยล์เพื่อกำจัดฝุ่นและเศษขยะ ทำซ้ำขั้นตอนนี้เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำความเย็นที่ดีที่สุด
3. ซีลประตูเสียหาย
วิธีแก้ไขตู้เย็นไม่เย็น: ตรวจสอบซีลประตูว่ามีร่องรอยการสึกหรอหรือความเสียหายหรือไม่ ลองปิดประตูตู้เย็นให้สนิทแล้วเอามืออังดูว่ารู้สึกถึงแอร์เย็นที่ไหลออกมา (หรือไอร้อนที่ไหลเข้าตู้เย็น) หรือไม่ หากจำเป็น ให้เปลี่ยนซีล หรือ ขอบยางตู้เย็นมาเปลี่ยน เพื่อให้แน่ใจว่าซีลสุญญากาศรอบๆ ประตูตู้เย็นแน่นหนา
4. การไหลเวียนของอากาศไม่เพียงพอ
วิธีแก้ไขตู้เย็นไม่เย็น: จัดเรียงสิ่งของภายในตู้เย็นเพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องระบายอากาศไม่มีสิ่งกีดขวางและไม่มีการอุดตันใดๆ ลองปรับการตั้งค่าอุณหภูมิเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็น
5. สารทำความเย็นรั่ว
วิธีแก้ไขตู้เย็นไม่เย็น: ติดต่อช่างเทคนิคที่มีคุณสมบัติเพื่อวินิจฉัยและซ่อมแซมการรั่วไหลของสารทำความเย็น การซ่อมแซมส่วนนี้ต้องทำโดยช่างมืออาชีพเพราะสารทำความเย็นต้องใช้ความรู้และความระมัดระวังในการจัดการ การพยายามแก้ไขการรั่วไหลของสารทำความเย็นโดยไม่ได้รับการฝึกอบรมและอุปกรณ์ที่เหมาะสมอาจเป็นอันตราย และอาจส่งผลให้ตู้เย็นเสียหายเพิ่มเติมได้
6. พัดลมคอยล์เย็นหรือคอนเดนเซอร์ไม่ทำงาน
วิธีแก้ไขตู้เย็นไม่เย็น: ตรวจสอบพัดลมคอยล์เย็นและคอนเดนเซอร์ว่าทำงานปกติดีหรือไม่ รวมถึงคอมเพรสเซอร์ตู้เย็นด้วย ถ้าอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ทำงานก็ต้องแก้ไขเบื้องต้นตู้เย็นไม่เย็นโดยการซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนใหม่
7. ตู้เย็นมีของแน่นเกินไป
วิธีแก้ไขตู้เย็นไม่เย็น: เคลียร์ตู้เย็น ถ้าตู้เย็นคุณมีขนาดใหญ่กว่าความต้องการใช้งานหรือไม่ประสานกับจำนวนคนในพื้นที่แต่ตู้เย็นคุณยังแน่น ให้สงสัยได้เลยว่าคุณกำลังเก็บของมากเกินไปและต้องเคลียร์ของหมดอายุออก หากเช็คทั้งหมดแล้วว่าในตู้เย็นเป็นของยังไม่หมดอายุก็ให้พิจารณาซื้อตู้เย็นหรือตู้แช่เพิ่มเติม ทั้งนี้เพื่อให้ตู้เย็นของคุณทำงานอย่างเหมาะสม อยู่กับคุณไปนานๆ
สุดท้ายนี้ ให้ลองตรวจสอบว่าการปรับความเย็นของตู้เย็นภายในนั้นเหมาะสมตามที่ต้องการแล้วหรือไม่ ในตู้เย็นบางรุ่นที่มีปุ่มปรับอุณหภูมิภายใน การนำสิ่งของเข้าออกตู้เย็นอาจไปโดนการปรับให้อุณหภูมิไม่เย็นเท่าที่ต้องการก็ได้ แก้ไขเบื้องต้นตู้เย็นไม่เย็นง่ายๆด้วยการปรับให้กลับมาเย็น นอกจากนี้ถ้าเช็คทุกข้อแล้วยังไม่เย็น ก็ติดต่อช่างให้มาตรวจสอบเพื่อประเมินราคาซ่อม หรือพิจารณาซื้อตู้เย็นใหม่เถอะ
วิธีป้องกันไม่ให้ตู้เย็นพังเร็ว ใช้ได้นาน
การป้องกันไม่ให้ตู้เย็นพังที่บ้านถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน ต่อไปนี้เป็นมาตรการป้องกันเพื่อรักษาตู้เย็นให้ใช้ดีและอยู่กับครัวของคุณไปนานๆ ไม่ต้องตู้เย็นเสียและถามมว่าตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไร
– การทำความสะอาดและบำรุงรักษาตามปกติ
ก. ทำความสะอาดคอยล์คอนเดนเซอร์
ฝุ่นและเศษผงสามารถสะสมบนคอยล์คอนเดนเซอร์เมื่อเวลาผ่านไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลง ดูดฝุ่นหรือแปรงคอยล์เป็นระยะเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและกระจายความร้อนได้อย่างเหมาะสม
ข. ตรวจสอบซีลประตู
ตรวจสอบซีลประตูว่ามีร่องรอยการสึกหรอหรือความเสียหายหรือไม่ เปลี่ยนซีลที่ชำรุดเพื่อรักษาซีลให้แน่นและป้องกันไม่ให้อากาศอุ่นเข้าไปในตู้เย็น
ค. ทำความสะอาดส่วนประกอบภายใน
เช็ดชั้นวาง ลิ้นชัก และพื้นผิวภายในเป็นประจำเพื่อป้องกันการสะสมของน้ำที่หก เศษอาหาร และแบคทีเรีย
ง. ละลายน้ำแข็งในช่องแช่แข็งหากน้ำแข็งเกาะตัวเป็นแผ่นเป็นก้อนรอบๆ
หากคุณมีช่องแช่แข็งแบบละลายน้ำแข็งแบบแมนนวล ให้ละลายน้ำแข็งเป็นประจำเพื่อป้องกันการสะสมของน้ำแข็ง ซึ่งอาจขัดขวางการไหลเวียนของอากาศและการทำความเย็น
– การตั้งค่าอุณหภูมิที่เหมาะสม
ก. ตั้งอุณหภูมิตู้เย็นและช่องแช่แข็งตามคำแนะนำของแบรนด์ตู้เย็น
รักษาอุณหภูมิตู้เย็นให้อยู่ระหว่าง 1.7-3.3°C และอุณหภูมิช่องแช่แข็งที่ -18°C เพื่อถนอมอาหารอย่างเหมาะสม
ข. ใช้เทอร์โมมิเตอร์
วางเทอร์โมมิเตอร์ไว้ในตู้เย็นและช่องแช่แข็งเพื่อให้แน่ใจว่าจะรักษาอุณหภูมิที่ถูกต้อง ปรับการตั้งค่าตามความจำเป็นเพื่อรักษาความสอดคล้อง
– จัดระเบียบของในตู้เย็น
ก. หลีกเลี่ยงการตุนของมากเกินไปในตู้เย็น
ความแออัดของของในตู้เย็นอาจขัดขวางการไหลเวียนของอากาศและป้องกันการระบายความร้อนที่เหมาะสม จัดเรียงสิ่งของเพื่อให้อากาศเย็นไหลเวียนได้อย่างเพียงพอ
ข. ปิดประตูไว้
จำกัดความถี่และระยะเวลาในการเปิดประตูตู้เย็นแต่ละครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศร้อนเข้ามา สอนสมาชิกในครอบครัวหรือคนใช้ตู้เย็นนี้ให้ปิดประตูอย่างเหมาะสมและอย่าเปิดนานเพื่อรักษาอุณหภูมิเย็นให้สม่ำเสมอ
– แก้ไขปัญหาเล็กน้อยโดยทันที
ก. แก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ทันที
แก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตู้กดน้ำรั่ว เครื่องทำน้ำแข็งทำงานผิดปกติ หรือพัดลมที่มีเสียงดังทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปสู่ปัญหาที่สำคัญยิ่งขึ้น
ข. บำรุงรักษาตามกำหนดเวลาปกติ
คอยจดจำกำหนดเวลาการตรวจสอบการบำรุงรักษารายปีตามแมนม่วลของตู้เย็นรุ่นที่คุณใช้ และรวมถึงกับช่างเทคนิคที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ให้ลองบันทึกข้อมูลการติดต่อช่างไว้เผื่อใช้ในกรณีตรวจเช็คหรือฉุกเฉิน เพื่อระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะนำไปสู่ความเสียหายที่ใหญ่กว่าที่คุณคิด
– พิจารณาสถานที่และการระบายอากาศ
ก. วางตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน
วางตู้เย็นให้ห่างจากอุปกรณ์ที่สร้างความร้อน เช่น เตาอบ เครื่องล้างจาน และแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไปและลดการใช้พลังงาน
ข. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการระบายอากาศเพียงพอ
คุณควรจัดให้มีพื้นที่รอบๆ ตู้เย็นเพียงพอเพื่อการระบายอากาศที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการปิดกั้นช่องระบายอากาศหรือจำกัดการไหลของอากาศด้วยความยุ่งเหยิง อย่าวางตู้เย็นชิดติดกำแพงแต่ให้มีช่องว่างด้านหลังให้ระบายอากาศร้อนบ้าง
การใช้มาตรการป้องกันเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่ตู้เย็นจะพังที่บ้าน และรับประกันประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของตู้เย็นอย่างต่อเนื่อง การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและการดูแลเชิงรุกเป็นกุญแจสำคัญในการยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพอาหาร
—
ตู้เย็นที่ไม่เย็นอาจเกิดจากปัญหาเบื้องหลังหลายประการ ตั้งแต่การทำงานผิดพลาดเล็กน้อยไปจนถึงความล้มเหลวของระบบที่สำคัญ การระบุสาเหตุของปัญหาและดำเนินการแก้ไขที่เหมาะสมทำให้คุณสามารถฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำความเย็นของตู้เย็นและรักษาความสดของอาหารได้ การบำรุงรักษาตามปกติและการซ่อมแซมอย่างทันท่วงทีเป็นกุญแจสำคัญในการรับประกันประสิทธิภาพสูงสุดของตู้เย็นของคุณให้เย็นเสมอ ใช้ได้นาน ไม่เสียไม่พังบ่อย
Cr. TOP 8 REASONS FOR YOUR REFRIGERATOR NOT COOLING ENOUGH OR PROPERLY – MAYTAG