หม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่ายตอบโจทย์ได้ทุกสไตล์การปรุงอาหาร

หากจะพูดถึงเรื่องจะเลือกซื้อหม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดี คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณแม่บ้านสมัยใหม่ในปัจจุบันนี้ โดยหม้อหุงข้าวจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่จะมีไว้ในทุกครัวเรือนเลย สำหรับการเลือกซื้อหม้อหุงข้าวก็อาจจะเลือกที่ระบบการใช้งาน เช่นจะซื้อหม้อหุงข้าวดิจิตอลยี่ห้อไหนดี หรือจะเป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ซึ่งก็จะต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานจริงและรวมไปถึงขนาดความจุที่เหมาะสมสำหรับสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย

วิธีเลือกซื้อหม้อหุงข้าวให้ใช้งานได้คุ้มค่าที่สุด

1. ดูจากฟังก์ชันการใช้งาน

ระบบความร้อนเป็นฟีเจอร์เด่นในหม้อหุงข้าวที่ทำให้ข้าวหรืออาหารสุกได้ แบ่งคร่าว ๆ ออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่

• ระบบไมโครคอมพิวเตอร์ : หม้อหุงข้าวระบบไมโครคอมพิวเตอร์จะมีราคาถูก จะเหมาะกับครอบครัวที่อาจจะมีสมาชิก 1-2 คน โดยฟังก์ชันการใช้งานไม่ซับซ้อนใช้งานง่าย อีกทั้งการทำความสะอาดก็ง่าย ในส่วนของการกระจายความร้อนอาจจะทำได้ไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งตัวหม้อก็ยังไม่สามารถจะเก็บความร้อนไว้ได้นานมากนัก หรือจะเรียกว่าไม่มีระบบอุ่นนั่นเอง

• IH – Induction Heater  ระบบแม่เหล็กไฟฟ้า : เป็นระบบที่ให้ความร้อนได้ทั่วถึงกว่าแบบไมโครคอมพิวเตอร์ และจะสามารถหุงข้าวได้หลายชนิดและยังทำอาหารได้หลายรูปแบบซึ่งน่าจะเหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกไม่มากนัก และเหมาะที่จะทำอาหารง่าย ๆ ในหม้อหุงข้าวระบบนี้ได้ โดยการเลือกซื้ออาจจะต้องดูหลายแบรนด์ และดูว่ามีประกันด้วยหรือไม่

• IH (Pressure IH) ระบบแรงดัน : จะเป็นหม้อหุงระบบความร้อนแรงดันสูงมีการกระจายความร้อนได้อย่างทั่วและเทคโนโลยีการเพิ่มแรงดันทำให้ข้าวสุกนิ่ม หอมหวาน ได้ความนุ่มลิ้น ช่วยเพิ่มอรรถรสในการกินข้าวมากยิ่งขึ้น คุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างของหม้อหุงข้าวระบบนี้คือ ใช้เวลาในการหุงหรือปรุงอาหารเร็วกว่าหม้อหุงระบบอื่น ๆ ข้อเสียคือถอดทำความสะอาดได้ยาก

• ระบบแก๊ส : การใช้ระบบแก๊สเป็นการใช้ไฟโดยตรงแก่เมล็ดข้าว ทำให้ข้าวที่หุงออกมานุ่มและฟูยังคงรสชาติความหวานที่อยู่ในเมล็ดข้าว และกลิ่นข้าวหอมฟุ้งเมื่อหุงสุกใหม่ไปพร้อม ๆ กับการลิ้มรสชาติของเมล็ดข้าวสุดพิเศษที่หม้อหุงข้าวไฟฟ้าทั่วไปไม่สามารถให้ได้ และสำหรับขั้นตอนการดูแลรักษาก็ง่ายเหมือนใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าทั่วไป

2. เลือกขนาดให้เหมาะสม

การเลือกซื้อหม้อหุงข้าวตามขนาดความจุของหม้อให้เหมาะสมกับจำนวนคนแล้ว ก็ยังจะต้องดูปริมาณการบริโภคด้วยเพราะบางครั้งเป็นครอบครัวใหญ่ก็จริงแต่กับทานข้าวน้อยมากก็อาจจะต้องลดปริมาณการหุงข้าวลง แต่อย่างไรแล้วการเลือกซื้อหม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดี Pantip 2564 กับขนาดที่ใกล้เคียงกับปริมาณการหุงจริงจะช่วยให้ประหยัดไฟได้โดยจะมีแนวทางมาแนะนำว่าจะเลือกขนาดไหนดีดังนี้  

• หากอยู่คนเดียว หุงครั้งละไม่เกิน 3 ถ้วยให้เลือกซื้อหม้อหุงข้าวขนาดเล็กความจุไม่เกิน 1 ลิตร
• ถ้าอยู่กัน 2-5 คน หุงครั้งละ 5 ถ้วยให้เลือกใช้ขนาดความจุ 1-1.5 ลิตร
• ครอบครัวใหญ่ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปหุงครั้งละ 8.5 ถ้วย ให้ซื้อหม้อหุงข้าวขนาดกลาง – ใหญ่ที่ความจุ 1.5-1.8  ลิตรขึ้นไป

3. เลือกจากฟังก์ชันที่ต้องการ

หม้อหุงข้าวควรจะมีการทำความร้อนอยู่อย่างน้อย 2 ระบบหลัก คือการทำความร้อนสำหรับการหุงข้าว และระบบการอุ่นข้าวให้ร้อน เพราะถ้าหากระบบการทำความร้อนมีเพียงแค่ระบบเดียว อาจจะทำให้ข้าวที่สุกแล้วเกิดการไหม้ติดหม้อได้ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความร้อนบริเวณผิวหม้อด้วย โดยพื้นผิวด้านนอกหม้อไม่ควรที่จะเกิดความร้อน เนื่องจากมันอาจทำให้เกิดอันตรายต่อคนที่ใช้งานได้

• ฟังก์ชันการอุ่นข้าวให้นุ่มอร่อยตลอดวัน : เป็นระบบที่ช่วยรักษาความหอม เหนียวนุ่มและอร่อยหลังข้าวสุก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยสามารถกักเก็บความร้อนได้ดีเยี่ยม เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ และเพื่อให้ได้อิ่มอร่อยไปกับข้าวหอมมะลิที่เหมือนเพิ่งหุงใหม่ ๆ ในทุกเวลา

• ฟังก์ชันหุงข้าวพร้อมปรุงอาหาร : จะเป็นหม้อหุงข้าวที่มีฟังก์ชันการปรุงอาหารอยู่ด้วย ซึ่งฟังก์ชันนี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการทำอาหาร โดยมีวิธีง่าย ๆ เพียงใส่ข้าวที่จะหุงลงไปในหม้อ จากนั้นใส่ถาดที่มีอาหารวางซ้อนลงไปแล้วกดปุ่ม Double Cook รอไม่นานทั้งข้าวและอาหารก็จะสุกพร้อมรับประทาน

• ฟังก์ชันหุงด่วนข้าวสุกทันใจ : ฟังก์ชันนี้จะเป็นการหุงข้าวโดยไม่ต้องรอนาน จะใช้เวลาไม่เกิน 30-40 นาทีข้าวก็จะสุก ด้วยเพราะหม้อเคลือบ 5 ชั้นที่ให้ความร้อนสูงจึงทำให้ข้าวสุกเท่ากันเรียกว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานข้าวได้เป็นอย่างดี

4. วัสดุที่ใช้ผลิต

สำหรับการจะเลือกซื้อหม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดีก็อาจจะดูที่วัสดุด้วย โดยหากตัวหม้อผลิตจากสเตนเลส หรืออะลูมิเนียมก็จะยิ่งดีเพราะจะทำให้หม้อหุงข้าวมีความทนทานใช้งานได้นานและยิ่งมีการเคลือบภายในหม้อเพื่อป้องกันข้าวติดหม้อด้วยจะช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาดได้อีกด้วย

หม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์ได้ทุกสไตล์การปรุงอาหาร

1. Tefal Digital Rice Cooker (1.8 L) รุ่น RK732

ราคา 950 บาท

หากยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกหม้อหุงข้าวดิจิตอลยี่ห้อไหนดีสำหรับหม้อหุงข้าวรุ่นนี้จะมีเทคโนโลยีสมองกลของ Fuzzy Logic ช่วยให้การหุงข้าวมีความแม่นยำด้วยอุณหภูมิโดยอัตโนมัติและมีโปรแกรมทำอาหารทั้งหมด 8 โปรแกรมสามารถใช้ทำอาหารได้หลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็นเมนูตุ๋น ต้ม นึ่งและยังสามารถจะหุงข้าวได้หลายชนิดอีกทั้งทำให้ข้าวนุ่ม หอมกรุ่น น่ารับประทาน การใช้งานก็ง่ายด้วยปลายนิ้วสัมผัส ตัวหม้อชั้นในหนา 4 ชั้นมีคุณภาพสูงพร้อมการเคลือบกันติดเพื่อป้องกันอาหารติดหม้อและช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

2. Jenniferoom Macaron Rice Cooker (0.8 L) รุ่น JRTH-R0810

ราคา 2,190 บาท

หม้อหุงข้าวจิ๋วเล็กกะทัดรัด หรือหม้อหุงข้าวทรงขนมมาการองสามารถจะตอบโจทย์ให้กับผู้ที่อยู่คนเดียวหรือมีพื้นที่จำกัดได้เป็นอย่างดี จะมีให้เลือกทั้งหมดสามสีคือสีขาวเหมาะกับสายมินิมอล สีชมพูหวาน ๆ และสีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ สามารถจะใช้งานได้จริงด้วยปุ่มกดพร้อมนาฬิกาดิจิตอล ตัวหม้อจะเคลือบด้วย Non-Stick ทำให้ข้าวไม่ติดหม้อมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง การทำงานหากต้องปิดเครื่องหรือไฟดับกะทันหัน ระบบก็จะจดจำสถานะไว้และกลับมาทำงานในการทำงานเดิมอีกครั้ง สามารถจะอุ่นข้าวได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ฝาปิดด้านในถอดแยกส่วนได้ทำให้การทำความสะอาดง่าย

3. Le Cuisson Digital Rice Cooker (1.8L) 900W

ราคา 764 บาท

เป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่จะแนะนำสำหรับใครที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี  เป็นหม้อที่ให้ความร้อนเร็วขึ้นเหมาะสำหรับใช้หุงข้าวและทำอาหารเมนูต่างๆ มีฟังก์ชันหลากหลายสามารถใช้หุงข้าวและอุ่นอาหารได้ และปรับโหมดการใช้งานให้เข้ากับการหุงข้าวแต่ละประเภทหรือปรุงอาหารแต่ละชนิดได้ มีสัญญาณเแจ้งเตือนให้ทราบเมื่ออาหารพร้อมรับประทานตัวหม้อด้านในเคลือบสารกันติด สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่ายตัวหม้อขนาดกะทัดรัดสะดวกสบายกับการเก็บและการขนย้าย

4. Smarthome Digital Rice Cooker (1.8L) รุ่น SM-RCD903 904 905

ราคา 465 บาท

หม้อหุงข้าวดิจิตอลรุ่นนี้มา พร้อมฟังก์ชันการทำอาหารได้หลายเมนู เพียงการเตรียมวัตถุดิบแล้วเริ่มทำเพียงแค่กดปุ่มช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและใช้เวลาไม่มาก ความจุของหม้อหุงมีขนาด 1.8 ลิตรสามารถจะรองรับสมาชิกหลายคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ หม้อในทำจากสเตนเลสเคลือบเงาอย่างดีมีความหนาแข็งแรงทนต่อความร้อนสูงและเคลือบด้วย Nonstick ทำให้อาหารไม่ติดหม้อ ตัวหม้อผลิตจากวัสดุคุณภาพดีไม่เป็นสนิมมีความแข็งแรงทนทาน ล้างทำความสะอาดได้ง่าย ใช้กำลังไฟ 900 วัตต์ สามารถหุงข้าวได้อย่างรวดเร็วทันใจ

5. Sharp Digital Rice Cooker (1.8 L) รุ่น KS-COM18

ราคา 2,049 บาท

สำหรับหม้อหุงข้าว Sharp อัจฉริยะความจุ 1.8 ลิตรรุ่นนี้จะเป็นอีกทางเลือกหากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อหม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดี Pantip 2564 โดยจะมีทั้งโปรแกรมการปรุงอาหาร การหุงข้าว อาหารคาวหวาน เบเกอรี่ หรือจะตุ๋น และยังอุ่นอาหารได้เช่นกัน สามารถจะตั้งเวลาปรุงอาหารล่วงหน้าได้ถึง 24 ชั่วโมง ด้วยมีจอ LCD ที่มีขนาดใหญ่สามารถจะแสดงเวลาการทำงานได้ และจะมีสัญญาณเตือนเมื่ออาหารสุกแล้ว  จะปรับลดเพิ่มเวลาในการปรุงอาหารได้ตามต้องการ หม้อชั้นใน ฝาหม้อด้านในและช่องระบายอากาศถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

6. Tefal Digital Xpress Fuzzy (1.5L) รุ่น RK522166

ราคา 1,599 บาท

หม้อหุงข้าวรุ่นนี้ ตัวหม้อมีความสมบูรณ์แบบในการทำอาหารโดยใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งเดียวกับระบบ Xpress Cook จะทำให้น้ำเดือดอย่างต่อเนื่องพร้อมการเติมอากาศเข้าไปและหม้อรูปทรงกลมที่จะช่วยให้ข้าวสุกได้ทั่วถึง มีโปรแกรมทำอาหารมากถึง 12 โปรแกรมอัตโนมัติ ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและหลากหลายมีความโดดเด่นในทุกๆ เมนูข้าว ตัวหม้อมีการออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทาน มีแผงควบคุมการทำงานที่ใช้งานง่ายบริเวณด้านบนของหม้อ ด้านในเคลือบสารกันติดช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายและล้างทำความสะอาดได้ด้วยเครื่องล้างจาน

7. Xiaomi Mijia Small Rice Cooker (1.6 L) App Control

ราคา 879 บาท

เป็นหม้อหุงข้าวอเนกประสงค์มีราคาประหยัดกับระบบทำความร้อนแบบไดนามิกที่สามารถจะทำอาหารได้หลากหลายเมนูและหุงข้าวได้หลายชนิด พื้นผิวด้านในเรียบและความทนทานมากมีการออกแบบหม้อหนา 5 ชั้นเคลือบด้วยผงเคลือบ PFA จาก Daikin ที่ช่วยให้ข้าวไม่ติดหม้อ สามารถจะควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน Mi Home บนสมาร์ตโฟนได้และสามารถปรับตามการหุงที่ต่างกันได้ มีที่วัดอุณหภูมิ 2 ชั้น บนและล่างที่ช่วยตรวจสอบอุณหภูมิและปรับอัตโนมัติเพื่อป้องกันการล้นโหมดหุงข้าว อีกทั้งมีโปรแกรมที่ช่วยในการปรุงอาหารแต่ละชนิดอัตโนมัติ

8. Toshiba Digital Rice Cooker (1.8 L) รุ่น RC-18NMF

ราคา 2,390 บาท

หม้อหุงข้าวดิจิตอลยี่ห้อไหนดี กับหม้อหุงข้าว Toshiba ก็หม้อหุงข้าวดิจิตอลที่น่าสนใจ มาพร้อมกับฟังก์ชันตุ๋นและนึ่งและตั้งเวลาตุ๋นได้นาน 1-4 ชั่วโมง ตั้งเวลานึ่งได้นานถึง 60 นาที ตั้งเวลาหุงล่วงหน้าได้นาน 14 ชั่วโมง หุงข้าวได้ทุกประเภทสามารถทำขนมและขนมเค้กได้ มีโปรแกรมหุงด่วน เร่งข้าวให้สุกเร็วขึ้น 15 นาที การปรุงอาหารได้มากถึง 10 เมนู หม้อในหนาพิเศษเคลือบด้วยสาร Healthy Flon ไม่ให้ข้าวติดหม้อช่วยให้ทำความสะอาดง่าย มีหน้าจอ LCD เป็นนาฬิกาบอกเวลาการทำงาน

9. Philips Rice Cooker Induction Heating iSpiral (1.5L) รุ่น HD4528/35

ราคา 4,690 บาท

สำหรับหม้อหุงข้าว Philips รุ่นนี้เป็นอีกตัวเลือกที่กำลังมองหาว่าหม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดีมาพร้อมความจุ1.5 ลิตร กับระบบความร้อนที่ทำให้เมล็ดข้าวทุกเม็ดร้อนอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอด้วยน้ำในหม้อจะหมุนวนเข้าศูนย์กลางอย่างต่อเนื่อง สำหรับหม้อชั้นใน Bakuhanseiki (บาคุฮันเซกิ) เคลือบ 5 ชั้นเพื่อความทนทานและป้องกันรอยขีดขวด ให้ความร้อนและสามารถจะเก็บความร้อนได้ดี ตัวหม้อมีความแข็งแรงทนทาน สามารถจะทำเมนูอาหารได้มากถึง 10 เมนู มีหน้าจอระบบดิจิตอลขนาดใหญ่ ฝาด้านในสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่ายและสามารถทำความร้อนได้ทั่วถึง

10. Intelligent Electric Rice Cooker (3.0L) RSC30L-01

ราคา 899 บาท

เป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่มีการออกแบบรูปทรงกะทัดรัด ภายในตัวหม้อผลิตจากอะลูมิเนียมที่ได้มาตรฐานมีความแข็งแรงและทนความร้อนสูง สามารถจะปรับการใช้งานเพื่อให้ข้าวอุ่นร้อนและอร่อยได้กับทุกมื้ออาหาร มีการใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัสที่เมนูการทำงานด้านบน มีไฟบอกสถานะการทำงานและสามารถจะตั้งเวลาการทำอาหารได้หลากหลายเมนู พร้อมทั้งมีหลายฟังก์ชันไม่ว่าจะเป็นการทำเมนูต้ม เมนูตุ๋น การทำโจ๊ก ข้าวต้ม หรือหุงข้าวเหนียว ก็สามารถจะทำได้ ในการทำความสะอาดก็ง่ายมาก

หม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดี น่าจะเลือกจนถูกใจแล้วก็คลิกเข้าไปซื้อกันเลย!

จากหม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดี Pantip 2564 ที่ต่างก็แนะนำว่าใช้ดี บางรุ่นก็ออกแบบมาน่ารักตะมุตะมิเหมาะสำหรับหนุ่มสาวโสดที่ชอบทำอาหารง่าย ๆ ทานกันเองหรือจะเป็นหม้อหุงข้าวยี่ห้อไหนดีสำหรับครอบครัวระดับกลางขึ้นไปที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่จะทำให้ทุกคนได้ทานอาหารร่วมกันได้อย่างอิ่มอร่อยและต่างก็มีความสุข จะทำเมนูหม้อหุงข้าว หรือเค้กหม้อหุงข้าวก็สามารถทำได้เช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อหม้อหุงข้าวให้เข้ากับการใช้งานจริงและอำนวยความสะดวกได้จึงมีความสำคัญเพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง และอาหารจากหม้อหุงข้าวนั้นก็จะต้องร้อนอย่างมีคุณค่าและอร่อยอีกด้วย