อุปกรณ์เสริมในรถยนต์ที่จำเป็นและผู้ขับขี่ควรจะต้องมี นอกจากพวกอุปกรณ์ชาร์จไฟในรถยนต์ GPS Tracker หรืออุปกรณ์นำทาง GPS ยังจะต้องมีกล้องติดรถยนต์ เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือเกิดกับเพื่อนผู้ขับขี่บนท้องถนน ซึ่งปัจจุบันผู้ใช้รถให้ความสำคัญการติดกล้องหน้ารถยนต์และกล้องติดรถยนต์หน้าหลังมากขึ้น ถ้าใครยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อกล้องติดรถยนต์ รุ่นไหนดี เพราะมีให้เลือกมากมาย วันนี้ Shopee จะรีวิวกล้องติดรถยนต์ที่มาพร้อมระบบและเทคโนโลยีทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งาน จะมีกล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจบ้าง ติดตามไปพร้อมกันเลย
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ทำไมต้องมีกล้องติดรถยนต์?
ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะต่อให้เราขับรถดี ระมัดระวังมากแค่ไหนก็ตาม แต่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนอื่นเขาจะขับรถระมัดระวังเหมือนเราไหม หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาหลักฐานหรือพยานที่จะเล่าเหตุการณ์ได้ดีที่สุดคือ “กล้องติดรถยนต์” จะบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดสามารถใช้เป็นหลักฐานในกรณีเกิดอุบัติเหตุได้ และบอกได้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นใครถูกหรือผิด โดยไม่ต้องพูดอะไรมากมาย นอกจากจะใช้ช่วยเราแล้วยังใช้เป็นหลักฐานให้กับรถยนต์คันอื่นได้อีกด้วย และที่สำคัญการติดกล้องหน้ารถยนต์ จะช่วยให้ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัย 5 – 10% อีกด้วย
ข้อดีและประโยชน์ของการติดกล้องหน้ารถยนต์
ใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกกล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรือยังลังเลว่าจะติดกล้องหน้ารถรถยนต์ดีไหม เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ลองมาดูข้อดีและประโยชน์ของการติดกล้องหน้ารถยนต์ว่ามีอะไรบ้าง ดังนี้
- ใช้เป็นหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ : คือประโยชน์หลักของการติดกล้องหน้ารถยนต์เลย เพราะว่ากล้องจะบันทึกภาพตลอดการเดินทาง เพื่อนำมาเป็นหลักฐานทั้งการสู้คดีโดยที่ไม่ต้องไปเสียเวลาโต้เถียงกับคู่กรณี และใช้ในการเคลมประกันได้ด้วย
- ป้องกันผู้ไม่หวังดีกับเราหรือรถยนต์ : คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจึงต้องป้องกันไว้ก่อนเพราะเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมักจะหาวิธีกลโกงสารพัด เช่น กระโดดตัดหน้ารถ เพื่อต้องการให้เรียกค่าเสียหาย หากไม่จ่ายจะโดนขู่ทำร้าย ดังนั้น การมีติดกล้องรถยนต์จึงสามารถบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเอาผิดแก๊งมิจฉาชีพได้
- บันทึกเสียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในรถยนต์ : กล้องติดรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ สามารถบันทึกเสียงได้ด้วย มีประโยชน์กรณีที่ต้องการบันทึกเสียงสนทนาภายในรถว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
- ใช้เป็นหลักฐานให้กับผู้ขับขี่คนอื่น : อุบัติเหตุไม่จำเป็นจะต้องเกิดขึ้นกับเราเท่านั้น แต่อาจเกิดขึ้นกับรถคันอื่นก็ได้ จึงต้องการภาพผู้เห็นเหตุการณ์รอบ ๆ เพื่อมาประกอบเป็นหลักฐาน หรือบางครั้งกล้องเราอาจจะถ่ายติดภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ทำร้ายร่างกาย คนโดนรถชนแล้วรถหนี เราสามารถที่จะเป็นพลเมืองดีด้วยการนำภาพจากกล้องไปช่วยคนอื่นได้
- เคลมประกันได้ง่ายและลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ : อีกหนึ่งข้อดีของการติดกล้องหน้ารถยนต์เลย เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็สามารถเคลมประกันภัยรถยนต์ได้ง่ายขึ้น เพราะมีหลักฐานที่สามารถยืนยันกับพนักงานประกันได้เลยว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร และที่สำคัญยังได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ได้สูงถึง 5 – 10% จากประกาศของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
ข้อเสียและข้อควรระวังการติดกล้องหน้ารถยนต์
แน่นอนเมื่อมีข้อดีและประโยชน์จากการติดกล้องหน้ารถยนต์แล้ว ย่อมต้องมีข้อเสียหรือข้อควรระวังในการติดกล้องหน้ารถยนต์เช่นกัน ซึ่งเราสรุปมาให้สั้น ๆ ดังนี้
- มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม : กล้องติดหน้ารถยนต์มีราคาตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป ขึ้นอยู่กับคุณภาพความคมชัดของภาพ ฟังก์ชันการใช้งานและเทคโนโลยีที่นำมาใช้กล้องติดรถยนต์ ดังนั้น การติดกล้องจึงจะต้องมีค่าใช้เพิ่มเติมขึ้นมา
- ระมัดระวังเรื่องความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) : หากนำภาพที่บันทึกหรือคลิปวิดีโอที่ถ่ายจากกล้องติดรถยนต์ไปเผยแพร่สื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยไม่มีเหตุอันสมควร อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย และถูกดำเนินคดีได้ ดังนั้น การเผยแพร่ภาพบุคคลอื่นจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ตารางเปรียบเทียบ 10 กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี
ยี่ห้อ/รุ่น | 70mai Dash Cam A200 | 70mai Pro Plus Dash Cam A500s | 70mai M300 Dash Cam | Aston Spark 2K กล้องติดรถยนต์ | ASTON Super 9 กล้องติดรถยนต์ | Dengo Mino กล้องติดรถยนต์ | HIKVISION D1 Dash Cam Car Camera | DDPAI Mola N3 Pro | Azdome M300 | กล้องติดรถยนต์ Full HD WDR รุ่น T626 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
จุดเด่น | ภาพมุมกว้าง คมชัดทั้งกล้องหน้าและหลัง | คมชัด 2K Quad HD และมี GPS ในตัว | บันทึกภาพอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถ และรองรับภาษาไทย | กล้องหน้าหลัง ภาพคมชัด 2K และมีจอกว้าง 4.0 นิ้ว ดูได้เต็มตา | จอขนาดใหญ่ ดูได้เต็มตา กล้องหลังติดนอกรถยนต์ได้ | ดีไซน์มินิมอล ใช้งานง่าย ดูผ่าน Wi-Fi ได้ และสั่งด้วยเสียงได้ | เลนส์หมุมได้ 360 องศา ภาพคมชัด และสั่งงานได้ด้วยเสียง | มุมภาพกว้าง ปรับมุมได้ 360 องศา GPS ในตัว และเชื่อมต่อกับแอปได้ | กล้องไร้จอ เชื่อมต่อกับ Wi-Fi และสั่งงานได้ด้วยเสียง Voice Control | ภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน และมีมุมภาพที่กว้างมาก |
จอแสดงผล | 2 นิ้ว | 2 นิ้ว | ไม่มีจอ | 4 นิ้ว | 4.3 นิ้ว | ไม่มีจอ | ไม่มีจอ | ไม่มีจอ | ไม่มีจอ | 3 นิ้ว |
ความละเอียดภาพ | Full HD | 2K | Full HD | 2K | Full HD | Full HD | 2K | 2K | 2K | Full HD |
มุมกล้องหน้า | 130 องศา | 140 องศา | 140 องศา | 130 องศา | 120 องศา | 131 องศา | 122 องศา | 140 องศา | 150 องศา | 170 องศา |
มุมกล้องหลัง | 130 องศา | 140 องศา | – | 90 องศา | 90 องศา | ไม่มี | ไม่มี | 125 องศา | ไม่มี | ไม่มี |
G – Sensor | มี | มี | มี | มี | มี | มี | มี | มี | มี | มี |
ราคา | 2,299-3,299 บาท | 2,999 บาท | 1,699 บาท | 1,490-1,590 บาท | 1,290 บาท | 1,511 บาท | 1,499 -2,190 บาท | 2,599 บาท | 1,259-1,859 บาท | 583 บาท |
รีวิว 10 กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ภาพคมชัด ฟังก์ชันเยี่ยม ราคาสุดคุ้ม!
ปัจจุบันกล้องติดรถยนต์มีให้เลือกหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละรุ่นมีจุดเด่น ฟังก์ชันการใช้งาน และเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ทำให้หลายคนที่อยากจะติดกล้องบ้างตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลยว่าจะซื้อ กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น เราจึงได้คัดมาให้แล้วกับ 10 กล้องติดรถยนต์ รุ่นยอดนิยม ราคาไม่แพง มาแนะนำให้กับทุกคน มีรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรบ้าง ตามไปช้อปกันเลย
1. 70mai Dash Cam A200
เมื่อพูดถึง กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ต้องแบรนด์ 70mai เป็นบริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์อัจฉริยะและมีความเชี่ยวชาญด้านกล้อง มีให้เลือกหลายรุ่นเลย ถ้าใครยังไม่เคยติดกล้องรถยนต์แนะนำรุ่น 70mai Dash Cam A200 ซึ่งเป็นกล้องระดับเริ่มต้น มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน หน้าจอแสดงผลขนาด 2 นิ้ว ใช้งานคู่กับกล้องหลังได้ดี ภาพมุมกว้าง 130 องศา ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.0 สามารถรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD แบบ HDR ทั้งกล้องหน้าหลัง โหมด 60FPS พร้อมกับเทคโนโลยี MaiColor Vivid+ ซึ่งเป็นอัลกอริทึมช่วยชดเชยสีสัน และความละเอียดในภาพจากที่โดนลดทอนจากกระจกรถ ทำให้ภาพคมชัดมากขึ้น นอกจากยังมี G-Sensor และรองรับโหมดจอดรถ (Parking mode) ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
จุดเด่น
- กล้องหน้ารองรับ HDR
- เชื่อมต่อการตั้งค่าเพื่อดูกล้องผ่านมือถือได้
- รองรับความละเอียด Full HD ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
- มุมมองภาพกว้างกำลังดี สามารถถ่ายถนนได้ชัดเจนถึง 3 เลน
- ภาพกลางวันมีความคมชัดมาก เมื่อเทียบกับกล้องในราคาเดียวกัน
ข้อควรระวัง
- การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต้องอยู่ในวงสัญญาณ Hotspot ของตัวกล้องเท่านั้น
- ใช้งานตอนกลางคืนภาพอาจมีเบลอ ๆ ถ้าอยากให้ภาพคมชัดรถต้องวิ่งไม่เร็ว หรือจอดนิ่ง
2. 70mai Pro Plus Dash Cam A500s
รีวิวกล้องติดรถยนต์ต่อกับแบรนด์ 70mai ที่มีกล้องติดรถยนต์ให้เลือกหลายรุ่นมาก ๆ อย่าง 70mai Pro Plus Dash Cam A500s เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยม ด้วยดีไซน์เรียบหรูที่ไม่เหมือนใคร กล้องหลังเป็นทรงกระบอกขนาดกะทัดรัดติดแล้วเนียนไปกับรถ ใช้งานคู่กับที่บังแดดรถยนต์ได้สบาย กล้องหน้ามีความละเอียด 2K พร้อมเซนเซอร์ SONY IMX335 กล้องหลัง ความละเอียด FHD หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 2 นิ้ว เลนส์กว้างอยู่ที่ 140 องศา บันทึกวิดีโอ 30FPS พร้อมกับเทคโนโลยีการบันทึกแบบ H.265 มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีระบบ Night Vision สามารถให้รายละเอียดที่ครบถ้วนในที่มืดหรือแสงน้อย ความจุแบตเตอรี่ 500 mAh และมีระบบ GPS ให้พร้อมทำให้สามารถระบุพิกัดได้อย่างแม่นยำ ใครอยากได้กล้องติดรถยนต์ที่มีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังภาพคมชัด แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อ กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี แนะนำรุ่นนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน!
จุดเด่น
- GPS ในตัว เช็กพื้นที่ตำแหน่งที่อยู่ได้
- ระบบ ADAS เตือนการออกนอกเลนและระบบแจ้งเตือนการชน
- เซ็นเซอร์ Sony IMX335 ขนาด 5 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ 1944P
- บันทึก 24 ชั่วโมงพร้อม G-sensor ที่บันทุกภาพได้ในขณะจอดรถ
ข้อควรระวัง
- เมนูอังกฤษ ไม่เหมาะสำหรับคนไม่เก่งภาษา
- GPS ทำหน้าที่บันทึกพิกัดและความเร็วเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อติดตามรถ
3. 70mai M300 Dash Cam
ขอต่อกล้องติดรถยนต์แบรนด์ 70mai อีกหนึ่งรุ่น กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี กับ 70mai M300 Dash Cam ที่มีคุณสมบัติพิเศษภาพคมชัดทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เรียกได้ว่าเห็นภาพป้ายทะเบียนชัดเจน แถมยังสะดวกเพราะสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อดึงภาพออกมาใช้งานได้ทันที กล้องรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัด ไม่มีหน้าจอแสดงผลทำให้เวลาติดตั้งจะต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อปรับองศาในการมองเห็น มุมมองกว้าง 140 องศา ความคมชัดของภาพระดับ Full HD พร้อมเทคโนโลยีช่วยประมวลผลในช่วงเวลาแสงน้อยทำให้สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้ในทุกสภาพแสง ยังมี G Sensor แบบ 3 แกน เวลารถยนต์เกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงก็จะทำการบันทึกวิดีโอในโหมดฉุกเฉินอัตโนมัติ และรุ่นนี้รองรับภาษาไทยอีกด้วย ใครที่ไม่ชอบความยุ่งยาก เน้นใช้งาน แนะนำรุ่นนี้
จุดเด่น
- บันทึกภาพอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถ
- สามารถรองรับได้หลากหลายภาษา
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi กับแอปพลิเคชัน 70mai
- มีโหมดบันทึกฉุกเฉินแยกออกมา ทำให้ไม่บันทึกซ้ำเหตุการณ์สำคัญ
ข้อควรระวัง
- ไม่มีจอแสดงผลอาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ
- หากต้องการให้เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง จะต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม
4. Aston Spark 2K กล้องติดรถยนต์
หากกล้องติดรถยนต์หน้าหลังที่แนะนำยังไม่ถูกใจลองมาดูเป็น Aston Spark 2K กล้องติดรถยนต์ จากแบรนด์ ASTON รุ่นนี้เลย มาพร้อมเทคโนโลยี และฟีเจอร์การใช้งานครบครัน ถ้าพูดถึงความคมชัดต้องยกให้รุ่นนี้เลยที่ภาพคมชัด 2K มุมภาพกว้าง 130 องศา หน้าจอใหญ่ 4 นิ้ว ดูภาพได้ชัดเต็มตา คนสูงอายุดูได้สบาย กล้องหลังความคมชัด FHD เก็บได้ทุกรายละเอียดทั้งด้านหน้าและหลัง หมดห่วงเรื่องภาพไม่ชัดตอนกลางคืน เพราะรุ่นนี้มีโหมดวัดแสง จับภาพมืดได้ดี และมีการแจ้งเตือนเปิดไฟอัตโนมัติ ช่วยให้ภาพกลางคืนชัดเจนไม่จกตกแน่นอน เพิ่มความปลอดภัยด้วยโหมดบันทึกภาพขณะจอด ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง และมี G – Sensor ล็อกไฟล์อัตโนมัติทันที เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน ป้องกันไฟล์ถูกลบได้อีกด้วย หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่า กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ที่มีทั้งกล้องหน้าและหลัง ภาพคมชัด ราคาไม่แพง รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
จุดเด่น
- โหมดปรับความสว่างให้อัตโนมัติ
- มีโหมดความปลอดภัยให้ครบครัน
- จอแสดงผลใหญ่ 4 นิ้ว มุมมองภาพกว้าง
- ระบบเสียงคุณภาพดี บันทึกได้ทั้งภาพและเสียง
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการ Touch Screen
- ขนาดอาจจะใหญ่ ทำให้รู้สึกเกะกะสายตาได้
5. ASTON Super 9 กล้องติดรถยนต์
รีวิวกันต่อกับ กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี อย่าง ASTON Super 9 กล้องติดรถยนต์ อีกรุ่นจากยี่ห้อ ASTON ที่ได้รับความนิยมกันมาก! กล้องรุ่นนี้มาในรูปแบบกระจกมองหลัง พร้อมความคมชัดระดับ Full HD มุมมองภาพ 120 องศา สามารถบันทึกได้ทั้งภาพและเสียงพร้อมกันเลย มีฟังก์ชัน WDR เวลาอยู่ในพื้นที่แสงน้อยหรือในที่ปิด ก็จะปรับแสงสว่างอัตโนมัติ ทำให้ภาพคมชัดมองเห็นป้ายทะเบียนได้ชัดเจน มีโหมดการตรวจจับความเคลื่อนไหวทุกขณะ นอกจากนี้กล้องหลังก็ยังติดตั้งนอกรถยนต์ได้ด้วย มาพร้อมไฟ LED ที่ให้มากับกล้องหลังถึง 4 ตัว เรียกได้ว่าภาพชัดทั้งกลางวันและเมนูเป็นภาษาไทย และมีแบตเตอรี่ในตัว 450 mAh เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีผู้ใช้งานรีวิวกล้องติดรถยนต์กันมาก
จุดเด่น
- จอภาพขนาดใหญ่
- รองรับเมนูภาษาไทย
- บันทึกได้ทั้งภาพและเสียง
- กระจกตัดแสงไฟได้สูงถึง 90%
- รอบรับการบันทึกอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถ
ข้อควรระวัง
- รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุดได้แค่ 32GB
6. Dengo Mino กล้องติดรถยนต์
กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ที่ยืนหนึ่งเรื่องภาพคมชัด มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย แต่จ่ายในราคาไม่แพง ก็ต้องยกให้กับ Dengo Mino กล้องติดรถยนต์ จากแบรนด์ Dengo Mino ความคมชัดระดับ Full HD 1080p และการ Adjustment Situation ทำให้ภาพที่ได้มีสีสันที่สดและคมชัด เก็บได้ทุกรายละเอียด พร้อมโหมด WDR ที่ปรับแสงให้อัตโนมัติ เรียกได้ว่าภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน และมุมกล้องกว้าง 131 องศา มองเห็นภาพได้ทุกเลน ความพิเศษกล้องรุ่นนี้คือสามารถสั่งได้ด้วยเสียง รองรับ 8 คำสั่งเสียง ไม่ว่าจะพูดสำเนียงไหนก็สั่งใช้งานได้สบาย ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi เพื่อดูภาพหรือดาวน์โหลดภาพก็ได้เช่นกัน ด้วยคุณภาพขนาดนี้และราคานี้ บอกเลยว่าซื้อยังไงก็คุ้ม
จุดเด่น
- สั่งงานได้ด้วยเสียง
- ภาพคมชัดระดับ Full HD
- เชื่อมต่อ WI-FI ดูผ่านมือถือได้
- รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุดได้แค่ 128GB
ข้อควรระวัง
- ไม่มีกล้องหลัง
- ไม่มีจอแสดงผลอาจจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ
7. HIKVISION D1 Dash Cam Car Camera
กล้องหน้ารถจิ๋วแต่คมชัด แนะนำ HIKVISION D1 Dash Cam Car Camera แบรนด์ HIKVISION ที่มีดีไซน์มินิมอล หากต้องการติดกล้องหน้ารถยนต์ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา บอกเลยตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คน ด้วยความคมชัดกล้องระดับ 2K รูรับแสง F1.55 ช่วยให้มองเห็นภาพในตอนกลางคืนได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เสริมด้วยระบบเซนเซอร์ CMOS บึนทึกภาพหรือวิดีโอได้มีความคมชัดสูง สามารถมองเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ชัดเจน รองรับไมโครโฟนในตัวและลำโพงสำหรับเสียงเข้าและออก และยังมี G-Sensor ที่ช่วยในการบันทึกไฟล์อัตโนมัติ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือรถยนต์สั่นสะเทือน ทำให้ไฟล์ภาพสำคัญไม่สูญหายนั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้อีกด้วย ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเลือก กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี กล้อง Hikvision Dash Cam D1 เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมาก
จุดเด่น
- เลนส์กล้องหมุนได้ 360 องศา
- การจับภาพด้วยการสั่งงานด้วยเสียง
- รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุดได้แค่ 256GB
- ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันเพื่อดูสด บันทึกภาพ และตั้งค่าต่าง ๆ
- รองรับไมโครโฟนในตัวและลำโพงสำหรับเสียงเข้าและออก
ข้อควรระวัง
- ไม่สามารถดูด้านหลังได้เพราะไม่มีกล้องหลัง
- ไม่มีจอแสดงผลผู้สูงอายุอาจจะไม่ค่อยสะดวกในการใช้งาน
8. DDPAI Mola N3 Pro
ใครอยากกล้องติดรถยนต์หน้าหลัง ภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ขอแนะนำ DDPAI Mola N3 Pro จากแบรนด์ DDPAI ดีไซน์มินิมอลทันสมัย น้ำหนักเบา มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว ฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย สำหรับกล้องหน้าบันทึกความละเอียดวิดีโอ 2560 x 1600P Ultra HD มีรูรับแสง F1.8 หัวเลนส์ 6 เลนส์ การถ่ายภาพได้ชัดเจนและสว่างมากขึ้น แม้ว่ารถข้างหน้าอยู่ถึง 10 เมตร ก็สามารถมองเห็นป้ายทะเบียนได้ชัดเจน มุมกว้าง 140 องศา ด้วยเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และยังมี G-Sensor ปรับตรวจจับการสั่นหรือการชนกันได้อย่างรวดเร็ว และบันทึกภาพที่เกี่ยวข้องได้ทันทีพร้อมล็อคไว้ในไฟล์เหตุการณ์สำคัญไว้ให้ด้วย หมดห่วงเรื่องเมมโมรี่เต็มเพราะรุ่นนี้จะเป็นการบันทึกวนทับอัตโนมัติเมื่อเมมโมรี่เต็ม ส่วนกล้องหลังก็มีความชัดไม่น้อยเลย มีความละเอียด1080P กล้องหลังมุมกว้าง125 องศา การใช้งานง่ายมาก ๆ ติดตั้งผ่านแอป DDPAI รองรับภาษาอังกฤษและไทย เมื่อถามว่าเลือก กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ภาพคมชัด ฟังก์ชันครบ เราแนะนำรุ่นนี้
จุดเด่น
- ภาพคมชัดทั้งกล้องหน้าและหลัง
- รองรับพอร์ตแบบ USB Type-C
- เหมาะสำหรับรถยนต์ SUVและรถขนาดใหญ่
- สามารถหมุนกลับเพื่อให้บันทึกในห้องโดยสารได้
- รองรับหน่วยความจำแบบ Micro SD Card ความจุ 128GB
- มี GPS ในตัว บันทึกเส้นทาง คำนวณความเร็วในการเคลื่อนที่
ข้อควรระวัง
- ไม่มีจอแสดงภาพ
- การตั้งค่าทั้งหมดทำได้ผ่านแอป DDPai เท่านั้น
9. Azdome M300
ซื้อกล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ที่กล้องคมชัด 2K ดีไซน์เล็กแบบมินิมอล ราคาคุ้มค่า สำหรับกล้องติดรถยนต์ Azdome M300 เป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยดีไซน์สวยทันสมัย ราคาจับต้องได้ มาพร้อมฟังก์ชันการใช้ครบครัน ความคมชัดภาพระดับ 2K ด้วยมุมมองภาพกว้าง 150 องศา สามารถจับภาพได้กว้างถึง 3 เลน ช่วยให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิคชัน สามารถดูสดและดาวน์โหลดไฟล์ภาพวิดีโอได้จากแอปพลิเคชัน AZDOME APP โดยไม่ต้องถอดการ์ดความจำ เพิ่มความอุ่นใจและมั่นใจมากขึ้น ด้วยระบบ G-Sensor มีระบบบันทึกภาพการหมุนวน และรองรับการส่งงานได้ด้วยเสียง Voice Control อีกด้วย
จุดเด่น
- เซนเซอร์วัดความเร่งแบบ 3 แกนในตัว
- มุมมองเลนส์ภาพมีความกว้างถึง 150 องศา
- สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง Voice Control
- มองเห็นในเวลากลางคืนด้วยภาพคมชัดมากขึ้น
ข้อควรระวัง
- รองรับควบคุมด้วยเสียงภาษาอังกฤษเท่านั้น
- ไม่มีจอภาพแสดง จะต้องดูภาพผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น
10. กล้องติดรถยนต์ Full HD WDR รุ่น T626
ปิดท้ายการรีวิว กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ด้วยกล้องติดรถยนต์ Full HD WDR รุ่น T626 หากคุณกำลังมองหากล้องที่ภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ในราคาสุดคุ้ม กล้องติดรถยนต์รุ่นนี้ตอบโจทย์ความต้องการได้ดี ตัวเครื่องผลิตจากโลหะ มีความแข็งแรง ทนทาน และยังสามารถระบายความร้อนได้ดี ส่วนการบันทึกภาพจะมีความคมชัดระดับ FULL HD 1080p พร้อมฟีเจอร์ WDR ช่วยให้ภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน หากอยู่ในที่มืดหรือตอนกลางคืน จะปรับแสงให้อัตโนมัติ ด้วยเลนส์คุณภาพที่ให้มุมกว้าง 170 องศา มองเห็นภาพชัดเจนและกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี G-Senser ที่ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนขณะมีอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันไฟล์สูญหาย ฟังก์ชันการใช้งานก็ง่าย เพราะเป็นเมนูภาษาไทย ใครกำลังมองหากล้องติดรถยนต์หลักร้อย แต่ประสิทธิภาพที่คุ้มเกินราคา ต้องกล้องติดรถยนต์รุ่นนี้เลย
จุดเด่น
- เมนูภาษาไทย ใช้งานได้ง่าย
- มุมมองภาพกล้องหน้ากว้างถึง 170 องศา
- ตัวเครื่องผลิตด้วยโลหะ ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดี
- บันทึกภาพอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถยนต์ และปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการ Touch Screen
- รองรับ Micro SD card ได้แค่ 32GB
อ่านบทความรีวิวกล้องติดรถยนต์นี้จบแล้ว หวังว่าจะได้คำตอบแล้วว่าควรจะเลือก กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ซึ่งจะเห็นเลยว่ากล้องติดรถยนต์แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติ จุดเด่น และข้อควรระวังอย่างไรบ้าง หากสนใจรุ่นไหนก็สามารถไปหาข้อมูลรีวิวเพิ่มเติมอีกได้เพื่อให้แน่ใจกว่านี้ได้เลย หากอยากได้อุปกรณ์เสริมอื่น เข้ามาเลือกช้อปออนไลน์ได้ที่ Shopee แหล่งรวมสินค้าทุกประเภท โปรโมชั่นสุดพิเศษตลอดทั้งปี และโค้ดส่วนลดมากมายให้คุณได้ช้อปสุดคุ้ม นอกจากนี้ยังมีบทความที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่องรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรือน้ำยาลบรอยขีดข่วนรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรือ GPS ติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี หรืออื่น ๆ สามารถติดตามอ่านได้ที่ Shopee Blog