ฝนตกไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณรู้วิธีดูแลรถมอเตอร์ไซค์ ฤดูฝนให้พร้อมลุย! คราวนี้ Shopee จะพาคุณไปพบกับ 7 จุดสำคัญที่ต้องเซฟเพื่อป้องกันปัญหาที่มาพร้อมกับฤดูฝน ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์โดนน้ำแล้วดับหรือสนิมถามหา! ให้คุณขับขี่อย่างปลอดภัยแม้ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ มาเตรียมรถมอเตอร์ไซค์คันโปรดของคุณให้พร้อมรับหน้าฝนนี้ไปด้วยกัน ตามนี้เลย!
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
3 ปัญหาที่ต้องดูแลรถมอเตอร์ไซค์ ฤดูฝนเป็นพิเศษ
ถึงหน้าฝนทีไรไบค์เกอร์คงเริ่มเป็นกังวลเพราะฝนกับรถมอเตอร์ไซค์นั้นขึ้นชื่อว่าไม่ถูกกัน ทำให้การดูแลรถมอเตอร์ไซค์ฤดูฝนนั้นต้องลงรายละเอียดเป็นพิเศษเนื่องจากฝนและความชื้นก่อปัญหากับรถได้ เช่น
1. น้ำบนพื้นทำให้ยางเกาะพื้นได้น้อยลง
การขับขี่มอเตอร์ไซค์บนพื้นเปียก ๆ นั้นเรียกว่ายากมาก เพราะพื้นลื่นทำให้มอเตอร์ไซค์เกาะผิวการจราจรได้ยาก รถไถลได้ง่าย และกะระยะเบรคลำบาก ทำให้เรื่องยางล้อนี้เองที่เป็นเรื่องแรกสำหรับการดูแลรถมอเตอร์ไซค์ ฤดูฝน ที่ต้องให้ความสำคัญ
2. รถมอเตอร์ไซค์โดนน้ำแล้วดับ
คอไบค์เกอร์อาจเคยเจอมาบ้างเวลาลุยฝนแล้วต้องเจอปัญหารถมอเตอร์ไซค์ดับกลางฝน ซึ่งหากคุณพบกับสถานการณ์นี้ก็อย่าเพิ่งตกใจ ให้ค่อย ๆ หยุดรถและเข็นเข้าข้างทางก่อนเพื่อตรวจสอบแก้ไขต่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปลั๊กหัวเทียนเปียก น้ำเข้าคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองก็ควรติดต่อช่างหรือผู้ชำนาญให้จัดการแก้ไข
3. สนิมกินชิ้นส่วน
ความชื้นและน้ำฝนเป็นศัตรูตัวฉกาจและสร้างรอยคราบสนิมให้กับอุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ ในรถมอเตอร์ไซค์ออโต้ได้ ความเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นเร็วนัก แต่การแก้ไขนั้นยากมาก ดังนั้นการป้องกันตั้งแต่แรกจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า และประหยัดงบกว่ามาก
6 จุดต้องเซฟ วิธีดูแลรถมอเตอร์ไซค์ ฤดูฝนให้ปลอดภัย
การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในฤดูฝนไม่ใช่เรื่องง่าย และการดูแลรถให้พร้อมลุยฝนก็เป็นสิ่งจำเป็น! ถ้าคุณอยากให้รถคู่ใจของคุณปลอดภัยและพร้อมใช้ตลอดฤดูฝนนี้ เรามี 7 จุดสำคัญที่ต้องเช็กให้มั่นใจก่อนลุยฝนไปด้วยกัน
1. ระบบไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้าในมอเตอร์ไซค์ถือเป็นหัวใจหลัก เพราะน้ำฝนสามารถซึมเข้ามาทำให้สายไฟหรือหัวเทียนเสียหายได้ ดังนั้นคุณควรเช็กให้แน่ใจว่าสายไฟไม่หลุดหรือเปียกชื้น และตรวจสอบการทำงานของไฟหน้ากับไฟท้ายว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
2. ยางและล้อ
ยางที่ดอกยางหมดหรือเสื่อมสภาพอาจทำให้รถลื่นบนถนนเปียกได้ง่าย ควรตรวจเช็กยางอย่างสม่ำเสมอ เติมลมยางให้เหมาะสมด้วยหัวเติมลมพร้อมเกจ์วัดลม และหากดอกยางเริ่มสึกหรอ ควรรีบเปลี่ยนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่บนถนนที่ลื่นในช่วงฝนตก
3. ระบบเบรก
ในสภาพถนนเปียก ระบบเบรกเป็นจุดที่ต้องเช็กเลยเพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบแผ่นเบรกและน้ำมันเบรกให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานแบบไม่มีปัญหา นอกจากนี้การตรวจสอบและทำความสะอาดท่อไอเสียด้วยน้ำยาล้างคอท่อไอเสียมอเตอร์ไซค์ก็สำคัญเพราะถ้าน้ำเข้าท่ออาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
4. การกันสนิม
ชิ้นส่วนโลหะของมอเตอร์ไซค์มีความเสี่ยงที่จะเกิดสนิมเมื่อโดนน้ำฝน ควรหมั่นเช็ดรถหลังขับขี่และใช้สเปรย์กันสนิมพ่นเพื่อป้องกันสนิมขึ้นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โซ่และแฮนด์
5. น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องควรอยู่ในสภาพที่ดีเพื่อป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ ควรเช็กระดับน้ำมันเครื่องและคุณภาพเป็นประจำ เช่น น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ Formula Synthetic ที่ให้เครื่องสะอาดใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ควรตรวจสอบสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกบ่อย เพราะน้ำฝนอาจปะปนเข้าไปในถังน้ำมันและส่งผลต่อประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องได้ ถ้าพบว่าเครื่องทำงานกระตุกใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหลังลุยฝนมา ควรรีบไปเช็กถังน้ำมันแบบด่วน ๆ
6. การล้างรถและเคลือบสี
หลังจากลุยฝน ควรล้างรถให้สะอาดทุกครั้ง ด้วยน้ำยาเช็ดรถ น้ำยาขัดยางดำ หรือ สเปรย์ล้างโซ่ เพื่อลดคราบน้ำฝนและสิ่งสกปรกที่เกาะติด นอกจากนี้ การเคลือบสีรถด้วยน้ำยาเคลือบเงาจะช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำเกาะตัวบนผิวรถ ทำให้รถดูดีและยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย
เคล็ดลับดูแลรถมอเตอร์ไซค์และการขับในวันฝนตก
เมื่อถึงฤดูฝน การขับขี่มอเตอร์ไซค์ย่อมมีความท้าทายมากขึ้น ถนนลื่น ฝนตกหนัก และน้ำขังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากไม่มีการเตรียมตัวและขับขี่อย่างระมัดระวัง เรามีเคล็ดลับเด็ดที่ช่วยให้คุณขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างปลอดภัยแม้ในสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ!
1. ลดความแร็ว
ในช่วงที่ฝนตก การลดความเร็วเป็นสิ่งสำคัญมาก! เมื่อถนนเปียก ความสามารถในการยึดเกาะของยางกับพื้นถนนจะลดลง การลดความเร็วจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้น ลดโอกาสที่จะลื่นไถล หรือเสียหลักโดยไม่คาดคิด อย่าลืมชะลอความเร็วทุกครั้งเมื่อเข้าโค้งหรือเจอถนนที่เป็นคลื่นน้ำ
2. รักษาระยะห่าง
น้ำฝนทำให้การมองเห็นลดลงและระบบเบรกทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นการรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเพียงพอจะช่วยให้คุณมีเวลาและพื้นที่เพียงพอในการหยุดรถหากจำเป็น ระยะห่างที่เหมาะสมคืออย่างน้อย 2-3 ช่วงคันรถเพื่อความปลอดภัย
3. หลีกเลี่ยงการขับบนถนนลื่นหรือมีน้ำขัง
ถนนที่ลื่นหรือมีน้ำขังเป็นจุดเสี่ยงที่ทำให้รถมอเตอร์ไซค์สูญเสียการทรงตัวและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากเป็นไปได้ ให้พยายามหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำขังหรือหลุมบ่อ เพราะนอกจากจะเสี่ยงลื่นแล้ว น้ำยังสามารถเข้าท่อไอเสียหรือระบบต่างๆ ของรถได้อีกด้วย หากเลี่ยงไม่ได้ ให้ขับขี่อย่างช้าๆ และระมัดระวังเป็นพิเศษ
ฤดูฝนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับไบค์เกอร์ตัวจริง ถ้าคุณรู้จักดูแลรถมอเตอร์ไซค์ให้พร้อมลุยในทุกสถานการณ์! จาก 6 จุดที่ต้องเช็กตั้งแต่ระบบไฟฟ้าถึงการล้างรถ และเคล็ดลับการขับขี่บนถนนเปียกที่จะทำให้คุณขับปลอดภัยในทุกทริป เมื่อดูแลอย่างครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน คุณก็พร้อมที่จะออกลุย! มาเปลี่ยนวันฝนพรำให้เป็นวันที่ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและสบายใจไปกับการดูแลรถแบบง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้! ถึงตรงนี้หากใครที่ยังไม่จุใจกับบทความที่ Shopee คัดมาให้ในคราวนี้ก็สามารถเข้าไปอัปเดตบทความต่อได้เลยที่ Shopee Blog! หรือเลือกซื้อเลือกช้อปเครื่องชาร์จแบตรถยนต์ มอเตอร์ไซค์คุณภาพ หรือ ที่วัดลมยางรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ต่อได้เลยที่ Shopee!