เมื่อต้องเดินทางระยะไกลด้วยเครื่องบิน หรือไฟลท์บินที่ยาว โดยเฉพาะไฟลท์ที่นานกว่า 10 ชั่วโมง การเตรียมไอเทมขึ้นเครื่องบิน บินยาวนั้นมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากของพกขึ้นเครื่องบินจะช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่นและเหนื่อยหรือเพลียน้อยลงได้อีกด้วย มาดูกันว่าสิ่งควรพก เวลาเดินทางบนเครื่องนานๆ นั้นมีอะไรบ้าง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
การแบ่งประเภทของไฟลท์ตามระยะเวลา
✈ Short-haul flight (ไฟลท์สั้น) – น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
➡ ตัวอย่าง: กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ (~2 ชั่วโมง)
✈ Medium-haul flight (ไฟลท์กลาง) – ประมาณ 3-6 ชั่วโมง
➡ ตัวอย่าง: กรุงเทพฯ – โตเกียว (~5.5-6 ชั่วโมง)
✈ Long-haul flight (ไฟลท์ยาว) – มากกว่า 6 ชั่วโมง
➡ ตัวอย่าง: กรุงเทพฯ – ลอนดอน (~12-13 ชั่วโมง)
✈ Ultra long-haul flight (ไฟลท์ยาวมาก) – มากกว่า 12-15 ชั่วโมง
➡ ตัวอย่าง: กรุงเทพฯ (BKK) → นิวยอร์ก (JFK) (~17-18 ชั่วโมง)
ปัญหาที่อาจทำให้ไม่สะดวกสบายเมื่อเดินทางด้วยไฟลท์ยาว
1️⃣ ที่นั่งแคบ นั่งนานแล้วเมื่อย
- โดยเฉพาะในชั้นประหยัด (Economy) ที่พื้นที่วางขาและความกว้างของที่นั่งจำกัด
- อาจรู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ในท่าเดิมนานๆ
2️⃣ Jet Lag และความเหนื่อยล้า
- การเดินทางข้ามโซนเวลาหลายชั่วโมงอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
- รู้สึกง่วงผิดเวลา หรือนอนไม่หลับหลังลงจากเครื่อง
3️⃣ อากาศแห้ง ทำให้ผิวแห้งและคอแห้ง
- ความชื้นในห้องโดยสารต่ำ อาจทำให้รู้สึกแสบจมูก ผิวแห้ง และปากแห้ง
- ควรดื่มน้ำบ่อยๆ และพกมอยส์เจอไรเซอร์
4️⃣ อากาศเย็นเกินไป
- แอร์บนเครื่องบินมักจะเย็นมาก โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
- แนะนำให้พกเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่มของตัวเอง
5️⃣ เสียงรบกวนจากผู้โดยสารคนอื่น
- เด็กเล็กที่ร้องไห้, คนกรนเสียงดัง, หรือเสียงพูดคุยจากผู้โดยสาร
- ใช้หูฟังตัดเสียงรบกวน (Noise-canceling) ช่วยลดปัญหานี้ได้
6️⃣ อาหารและเครื่องดื่มไม่ถูกใจ
- อาหารบนเครื่องอาจมีตัวเลือกจำกัด หรือไม่อร่อยสำหรับบางคน
- แนะนำให้เตรียมขนมที่ชอบติดตัวไปด้วย
7️⃣ เข้าห้องน้ำลำบาก ถ้ามีคนนั่งขวางทาง
- ถ้าได้นั่งริมหน้าต่าง ต้องรบกวนคนข้างๆ ทุกครั้งที่ลุก
- ถ้าต้องเข้าห้องน้ำบ่อย อาจเลือกที่นั่งริมทางเดิน (Aisle seat)
8️⃣ ขาบวม และความเสี่ยง DVT (ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน)
- นั่งนานๆ ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่ดี ขาอาจบวม หรือมีอาการชา
- ควรขยับตัว ลุกเดินบ้าง หรือใส่ถุงเท้าช่วยกระชับ (Compression Socks)
9️⃣ อินเทอร์เน็ตแพงและช้า
- Wi-Fi บนเครื่องบางสายการบินช้า และมีค่าบริการสูง
- ดาวน์โหลดหนัง เพลง หรือ e-book มาอ่านก่อนเดินทาง
🔟 ความปลอดภัยของทรัพย์สิน
- มีรายงานว่ามีขโมยขึ้นเครื่องบินเพื่อขโมยของจากกระเป๋าหรือผู้โดยสาร
- เก็บของมีค่าติดตัวเสมอ และล็อกกระเป๋าถ้าจำเป็น
รวม 20 ของพกขึ้นเครื่องบิน ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับไฟลท์บินยาว
credit : freepik.com
1. หมอนรองคอ
สายการบินส่วนใหญ่จะมีหมอนใบเล็กให้ในเที่ยวบินระยะไกลหรือไฟล์บินข้ามคืน แต่จะไม่มีหมอนรองคอให้ หากต้องการใช้ต้องพกมาเอง ซึ่งไอเทมหมอนรองคอนั้นเป็นของพกขึ้นเครื่องที่จะช่วยให้การนอนบนเครื่องของคุณสบายขึ้นสำหรับเที่ยวบินระยะไกล ไม่เมื่อยและไม่ปวดคอ เพราะจะมีรูปร่างตามหลักสรีรศาสตร์ที่รองรับบริเวณคอและศีรษะของคุณขณะหลับได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณสามารถนอนหลับได้แม้จะนั่งตัวตรง และหากคุณไม่อยากพกไอเทมขึ้นเครื่องบิน บินยาวแล้วรู้สึกว่าเกะกะ แนะนำให้เลือกหมอนรองคอที่สามารถม้วนเก็บลงในกระเป๋าใส่ของขนาดกะทัดรัดได้ หรือหมอนรองคอแบบเป่าลม
2. พาวเวอร์แบงก์
พาวเวอร์แบงก์ถือเป็นไอเทมขึ้นเครื่องบิน บินยาวที่สำคัญไม่เพียงแต่สำหรับเที่ยวบินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเดินทางโดยทั่วไปอีกด้วย เพราะเป็นของพกขึ้นเครื่องที่ช่วยชีวิตได้เมื่อคุณต้องการฆ่าเวลาด้วยการดูหนังฟังเพลงขณะอยู่บนเครื่องบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณบินสายการบินโลว์คอสหรือที่นั่งชั้นประหยัด ตัวช่วยไฟลท์ยาวอย่างพาวเวอร์แบงก์นั้นควรเลือกเครื่องที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา และต้องระวังในเรื่องของขนาดความจุด้วยว่าต้องไม่เกินกว่าที่สายการบินกำหนด โดยปกติจะต้องไม่เกิน 32,000 mAh และพกขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน
3. หูฟังตัดเสียงรบกวน
หูฟังตัดเสียงรบกวนเป็นของพกขึ้นเครื่องบินที่ให้ประสิทธิภาพเสียงที่ดีขึ้นพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน เหมาะทั้งสำหรับการนอนหลับและใช้เพื่อรับฟังความบันเทิงบนไฟลท์ยาว แนะนำให้เลือกหูฟังคุณภาพสูงเพื่อใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน และเพียงพอสำหรับการบินระยะไกล นอกจากหูฟังจะเป็นไอเทมขึ้นเครื่องบิน บินยาวที่ใช้เพื่อความบันเทิงได้แล้วนั้น ยังเป็นตัวช่วยไฟลท์ยาวที่ทำให้คุณไม่ต้องทนฟังเสียงดังที่รบกวนอย่างเสียงเด็กร้องไห้ เสียงรถเข็นเครื่องดื่ม และเสียงต่าง ๆ ในห้องโดยสาร แนะนำให้เลือกหูฟังที่มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด ที่สำคัญที่สุดคือต้องมีระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีด้วย
4. ลิปบาล์ม
credit : https://www.kiehls.co.th/th_TH/lip-balm-1/307.html
ลิปบาล์มเป็นสิ่งควรพก เวลาเดินทางบนเครื่องนานๆ อย่างมาก เพราะอากาศที่หมุนเวียนบนเครื่องบินมีจะความชื้น และทำให้ผิวหนังและริมฝีปากของคุณมีความแห้งและแตกได้ ลิปบาล์มที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยให้ริมฝีปากของคุณชุ่มชื้นตลอดการเดินทาง ซึ่งลิปบาล์มก็เป็นไอเทมขึ้นเครื่องบิน บินยาวที่พกพาง่ายเพราะมีขนาดเล็ก ทั้งยังมีปริมาณของเหลวที่ไม่เกินกำหนดอีกด้วย และเพื่อความชุ่มชื้นสูงสุดแนะนำให้เลือกลิปบาล์มที่เป็นเนื้อเหลวจะดีที่สุด และเป็นแบบแท่งหรือหลอดเพื่อความสะอาดในการใช้งานบนเครื่อง
5. แปรงสีฟันและยาสีฟัน
ไม่ว่าคุณจะบินข้ามประเทศหรือข้ามฟากของโลก จะต้องมีการรับประทานอาหารบนเครื่องบิน และการที่เราบินไฟลท์ยาวนั้นกว่าจะถึงที่หมายได้อาบน้ำแปรงฟันก็นานหลายชั่วโมง นอกจากจะทำให้คุณไม่มั่นใจในลมหายใจที่อาจจะมีกลิ่นแล้วนั้น ยังเป็นเรื่องสุขอนามัยอีกด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งควรพก เวลาเดินทางบนเครื่องนานๆ เลยก็คือแปรงสีฟันและยาสีฟัน ซึ่งสายการบินบางแห่งจะมีชุดแปรงสีฟันขนาดเล็กไว้ให้ แต่ถ้าคุณบินสายการบินชั้นประหยัดที่ไม่มีให้ก็ควรเตรียมของพกขึ้นเครื่องไปเองเพื่อให้ลมหายใจสดชื่นขึ้น แนะนำแปรงสีฟันขนาดเล็กที่มาพร้อมยาสีฟันเป็นชุดแบบพกพาสำหรับใช้บนเครื่องบินโดยเฉพาะ
6. เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
สเปรย์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือเจลล้างมือกลายเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 และยังคงใช้กันทั่วไปในพื้นที่สาธารณะหลายแห่งรวมถึงสนามบิน แม้ว่าในตอนนี้โรคระบาดจะซาลงบ้างแล้ว แต่การรักษาความสะอาดเมื่อต้องหยิบจับสิ่งของบนเครื่องบินนั้นก็ยังคงสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากโรคโควิดได้อีกด้วย ซึ่งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีปริมาณไม่เกิน 100 มิลลิลิตร สามารถพกขึ้นเครื่องได้
7. ทิชชู่เปียก
เมื่อต้องเดินทางไฟลท์ยาว การรับประทานอาหารบนเครื่องเป็นสิ่งที่ต้องเจอ หรือแม้แต่การหยิบจับสิ่งต่าง ๆ แล้วทำให้มือเลอะเปรอะเปื้อน ของพกขึ้นเครื่องอย่างทิชชู่เปียกจะมีประโยชน์อย่างมาก เพราะไม่เพียงเช็ดทำความสะอาดมือหรือปากของคุณได้เท่านั้น ยังใช้เช็ดทำความสะอาดร่างกายหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่สกปรกได้อีกด้วย แต่แนะนำให้เลือกทิชชู่เปียกแบบพกพาเพื่อที่ปริมาณของเหลวจะได้ไม่เกินชิ้นละ 100 มิลลิลิตร ซึ่งสามารถพกได้มากกว่า 1 ชิ้น
8. ผ้าห่มหรือผ้าพันคอ
อุณหภูมิบนเครื่องบินอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้เนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น อากาศภายนอกเย็น หรือบินไฟลท์กลางคืน ซึ่งการสวมเสื้อผ้าที่หนาขึ้นเป็นสิ่งสำคัญให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นจากอุณหภูมิที่คาดเดาไม่ได้ แต่หากคุณกลัวร้อนเกินไปหรือจะรู้สึกอึดอัดเวลานอน แนะนำไอเทมขึ้นเครื่องบิน บินยาวอย่างผ้าห่มหรือผ้าพันคอ เพราะจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นได้แถมยังพับเก็บใส่กระเป๋าเมื่อใช้เสร็จแล้วได้อย่างสะดวกอีกด้วย
9. ที่ปิดตา
ปัญหาอย่างหนึ่งเวลาที่บินไฟลท์ดึก หรือบินไฟลท์ยาว คือการนอนหลับไม่สนิท ด้วยเพราะปัจจัยสิ่งแวดล้อมอย่างเช่น เสียงที่ดัง หรือแสงที่สว่างเกินไป เพราะฉะนั้น หากคุณเป็นคนที่นอนหลับยากที่ปิดตาเป็นตัวช่วยไฟลท์ยาวที่ควรพกเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้คุณหลับสบายได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้หลับสนิทอีกด้วย ที่ปิดตาไม่ได้เป็นของพกขึ้นเครื่องที่มีประโยชน์ใช้บนเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้เมื่อเข้าพักในโรงแรมที่มีเสียงดังและแสงน้อยได้ด้วย แนะนำที่ปิดตาแบบ 3D ที่มืดสนิท 100% เพื่อที่คุณจะได้พักผ่อนอย่างสบาย
10. มาส์กเจลเย็นรอบดวงตา
ผิวของคุณจะขาดน้ำเมื่ออยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานาน การใช้มาส์กเจลเย็นรอบดวงตาจะช่วยให้ดวงตาที่เมื่อยล้าได้พัก ลดอาการบวม ลดการขาดน้ำ และเพิ่มความสดใสให้กับดวงตาได้ในทันที ถือเป็นของพกขึ้นเครื่องที่ช่วยให้คุณรู้สึกสบายขึ้นเมื่ออยู่บนเที่ยวบินระยะไกล ตัวช่วยไฟลท์ยาวอย่างมาส์กเจลเย็นสำหรับดวงตานั้นจะทำให้ดวงตาของคุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าไปจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง โดยมาส์กเพียง 10 นาทีเท่านั้น
11. ครีมทามือ
อากาศบนเครื่องบินอาจทำให้มือแห้งได้มาก เช่นเดียวกับการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อซ้ำ ๆ ระหว่างการเดินทาง เพราะฉะนั้นสิ่งควรพก เวลาเดินทางบนเครื่องนานๆ คือครีมทามือ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นพิเศษให้กับมือของคุณ ไม่เพียงแต่ทาที่มือเท่านั้น แต่ครีมทามือยังสามารถทาที่ข้อศอก เท้า และแม้กระทั่งใบหน้าได้อีกด้วย แนะนำให้พกครีมทามือขนาดเล็กและมีความชุ่มชื้นสูง เพื่อเป็นตัวช่วยไฟลท์ยาวที่สมบูรณ์แบบของคุณ
12. สเปรย์ฉีดหน้า
สเปรย์ฉีดหน้าไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเท่านั้น แต่ยังช่วยคืนความสดชื่นเมื่อคุณรู้สึกตาพร่ามัวอีกด้วย สเปรย์ขนาดพกพาที่มาพร้อมกับกลิ่นที่ผ่อนคลายหรือให้ความสดชื่นเป็นไอเทมขึ้นเครื่องบิน บินยาวที่ควรพกอย่างมาก เพราะผิวหน้าของเราก็จะมีความแห้งเช่นเดียวกับผิว แต่การจะทาครีมมอยเจอร์ไรเซอร์อาจเป็นเรื่องยุ่งยาก การพกสเปรย์น้ำแร่ที่มีความชุ่มชื้นสูงก็เป็นของพกขึ้นเครื่องไปเดินทางไกลที่สะดวกอย่างมาก อย่าลืมพกที่มีปริมาณไม่เกิน 100 มิลลิลิตรด้วย
13. ที่วางเท้า
หากคุณเดินทางไฟลท์ยาวด้วยที่นั่งชั้นประหยัด แน่นอนว่าเบาะที่นั่งของคุณไม่สามารถปรับเอนราบได้อย่างที่นั่งชั้นธุรกิจ ซึ่งเมื่อต้องเดินทางเที่ยวบินระยะไกลอาจทำให้คุณรู้สึกเมื่อยเท้าได้ แนะนำตัวช่วยไฟลท์ยาวอย่างที่วางเท้าหรือเปลวางเท้า เพราะจะช่วยบรรเทาความปวดเมื่อยได้ดี สามารถใช้งานง่าย ๆ ด้วยการแขวนเชือกเข้ากับโต๊ะวางอาหารด้านหน้าของคุณ และยังสามารถม้วนเก็บในกระเป๋าเดินทางเมื่อไม่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย นับว่าเป็นของพกขึ้นเครื่องบินที่มีประโยชน์อย่างมาก
14. ขวดน้ำส่วนตัว
การขาดน้ำไม่เพียงแต่ส่งผลต่อผิวหนังเท่านั้น แต่ยังทำให้มีอาการปวดหัว ไอแห้ง และรู้สึกอ่อนล้าได้อีกด้วย หลังจากผ่านจุดตรวจแล้ว คุณสามารถพกน้ำดื่มขึ้นเครื่องได้ ขวดน้ำส่วนตัวจึงเป็นสิ่งควรพกเวลาเดินทางบนเครื่องนานๆ อย่าลืมเติมน้ำสะอาดที่ดื่มได้ตามจุดบริการต่าง ๆ ลงในขวดน้ำ แทนการเสียเงินซื้อ แนะนำให้เลือกขวดที่สามารถจุน้ำได้มากและเลือกวัสดุที่ทำจากซิลิโคนฟู้ดเกรด 100% เพราะนอกจากจะทนทานและปลอดภัยแล้ว ยังมีน้ำหนักเบา พับได้ และพกพาง่ายด้วย
15. หน้ากากอนามัย
แม้ว่าปัจจุบันสายการบินไม่ได้มีกฎว่าต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกต่อไป แต่หากคุณต้องการปกป้องตัวเองจากเชื้อโรคต่าง ๆ บนเครื่อง หน้ากากอนามัยเป็นของพกขึ้นเครื่องที่จำเป็น เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้แล้ว หากคุณมีอาการเป็นหวัดหรือไม่สบาย คุณก็ควรสวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน แนะนำยี่ห้อที่สวมใส่สบาย สายรัดไม่เจ็บหู เพื่อให้คุณหายใจได้สะดวกและไม่อึดอัดเวลาสวมใส่เป็นเวลานาน
16. น้ำตาเทียม
การเดินทางอยู่บนเครื่องบินนาน ๆ อาจทำให้ดวงตาแห้งและระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่มีภาวะตาแห้งอยู่แล้วยิ่งต้องระวัง ดังนั้นสิ่งควรพก เวลาเดินทางบนเครื่องนานๆ เลยคือน้ำตาเทียม แนะนำให้พกติดตัวไปด้วย และควรเลือกแบบที่ไม่มีสารกันเสีย น้ำตาเทียมจะช่วยปรับสมดุลและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาที่แห้ง อีกทั้งยังอ่อนโยนพอสำหรับดวงตาที่บอบบางและผู้ที่มีอาการตาแห้งที่เกิดจากการผ่าตัดเลสิกมา หรือสวมใส่คอนแทคเลนส์
17. ยาดม
ยาดมเป็นไอเทมที่หลายคนพกพาในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้เพื่อความสดชื่น ลดอาการวิงเวียน หรือแก้อาการปวดหัวก็ตาม ยาดมเป็นสิ่งสารพัดประโยชน์อย่างมาก และเป็นหนึ่งในของพกขึ้นเครื่องที่ต้องมี เลือกยาดมที่คุณชื่นชอบหรือใช้อยู่ก่อนแล้ว หากเป็นยาดมที่เป็นน้ำอย่าลืมระวังจำนวนของเหลวที่พกขึ้นเครื่องด้วย
18. ยารักษาโรคประจำตัวหรือยาสามัญประจำบ้าน
หากคุณมีโรคประจำตัวและต้องเดินทางด้วยไฟลท์บินยาว แน่นอนว่ายาประจำตัวเป็นสิ่งควรพก เวลาเดินทางบนเครื่องนานๆ เพราะคุณจะต้องได้รับยาตามปกติของชีวิตประจำวัน อย่าลืมเอกสารเกี่ยวกับยา สำเนาใบสั่งยา หรือใบรับรองจากแพทย์ด้วย แต่หากเป็นยารักษาโรคทั่วไปสามารถพกยาในปริมาณที่จำเป็นได้ เช่น ยาพาราเซตามอล ยาแก้แพ้อากาศ ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดยาหยอดตา ยาน้ำหยอดจมูก เป็นต้น เพื่อที่หากมีอาการเจ็บป่วยกะทันหันอย่างปวดท้องอาหารไม่ย่อย ปวดหัวจากอากาศบนเครื่อง ภูมิแพ้จากอากาศเย็น จะได้มียาเพื่อรักษาอาการได้ทันที
19. ลูกอมแก้เจ็บคอ
สำหรับไฟลท์บินระยะยาวอาจทำให้คอแห้ง ลูกอมแก้เจ็บคอเป็นตัวช่วยไฟลท์ยาวที่ดีและควรพกเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณหายระคายเคืองในลำคอแล้วนั้น ยังช่วยลดอาการไอจากการคันคอได้อีกด้วย เลือกลูกอมแก้เจ็บคอยี่ห้อที่คุณโปรดปราน อย่าลืมเลือกที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งหรือมะนาว เพื่อเพิ่มความชุ่มคอ
20. ซองป้องกันการโจรกรรมข้อมูล
ซองป้องกัน RFID เป็นของพกขึ้นเครื่องที่อยากให้ทุกคนมีติดตัว เพราะช่วยป้องกันการโจรกรรมข้อมูลได้ โดยช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องอ่านสัญญาณอ่านข้อมูลจากบัตรของคุณ เนื่องจากในระยะหลังนี้มีข่าวการโจรกรรมดูดข้อมูลจากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแบบเพย์เวฟบนเครื่องบินบ่อย ๆ เพราะฉะนั้น ควรระวังรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย และเลือกซองป้องกัน RFID เป็นไอเทมขึ้นเครื่องบิน บินยาว เพื่อให้ปลอดภัยจากเครื่องสแกน ที่โจรอาจนำมาใช้บนเครื่องขณะคุณเดินทางได้
ข้อควรระวังเมื่ออยู่บนเครื่องบินหรือเดินทางด้วยเครื่องบิน
✈️ 1. การโจรกรรมบนเครื่องบิน
- มีมิจฉาชีพแฝงตัวมาเป็นผู้โดยสาร คอยขโมยของหรือเงินจากกระเป๋าในช่องเก็บของเหนือศีรษะ
- วิธีป้องกัน: เก็บของมีค่าติดตัวเสมอ ล็อกซิปกระเป๋า และระวังผู้โดยสารแปลกหน้าที่มีพฤติกรรมผิดปกติ
✈️ 2. ภาวะขาดน้ำ (Dehydration)
- อากาศบนเครื่องค่อนข้างแห้ง อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำโดยไม่รู้ตัว
- วิธีป้องกัน: ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีนที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำมากขึ้น
✈️ 3. ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (Deep Vein Thrombosis – DVT)
- นั่งนานโดยไม่ขยับร่างกาย อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
- วิธีป้องกัน: ขยับขาหรือเดินทุก 1-2 ชั่วโมง ใส่ถุงเท้าช่วยกระชับหรือถุงเท้ารัดกล้ามเนื้อ (compression socks) และดื่มน้ำให้เพียงพอ
✈️ 4. อาการ Jet Lag
- การเปลี่ยนโซนเวลารวดเร็วอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่งผลต่อการนอนและพลังงาน
- วิธีป้องกัน: ปรับเวลานอนก่อนเดินทาง ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงคาเฟอีน และพยายามออกไปสัมผัสแสงแดดหลังลงเครื่อง
✈️ 5. แรงกดอากาศเปลี่ยนแปลง (Ear Barotrauma)
- การขึ้นและลงของเครื่องบินอาจทำให้หูอื้อหรือเจ็บหู
- วิธีป้องกัน: กลืนน้ำลาย เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือใช้อุดจมูกเป่าลมเบาๆ (Valsalva Maneuver)
✈️ 6. อาหารและเครื่องดื่มที่อาจส่งผลต่อร่างกาย
- อาหารบางชนิดอาจทำให้เกิดแก๊สในท้อง หรือดื่มแอลกอฮอล์แล้วเมาเร็วกว่าปกติ
- วิธีป้องกัน: หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องอืด และดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณพอเหมาะ
✈️ 7. สุขอนามัยและเชื้อโรค
- พื้นผิวบนเครื่องบิน เช่น โต๊ะพับ ที่เท้าแขน หรือห้องน้ำ อาจมีเชื้อโรคสะสม
- วิธีป้องกัน: ล้างมือบ่อยๆ ใช้เจลแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อยเกินไป
✈️ 8. การใช้เข็มขัดนิรภัย
- ควรรัดเข็มขัดตลอดเวลาที่นั่ง เพราะอาจเกิดการสั่นสะเทือนจากอากาศแปรปรวน (Turbulence) ได้ตลอดเวลา
- วิธีป้องกัน: คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาขณะนั่ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากแรงกระแทก
✈️ 9. พฤติกรรมรบกวนผู้อื่น
- การเอนเบาะมากเกินไป เสียงดัง หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาจทำให้เพื่อนร่วมทางไม่สบายใจ
- วิธีป้องกัน: ปรับเบาะให้เหมาะสม เคารพพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่น และรักษามารยาทขณะเดินทาง
✈️ 10. การพกของเหลวหรือแบตเตอรี่ขึ้นเครื่อง
- ของเหลวที่เกิน 100 มล. และแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุสูง อาจถูกยึดที่จุดตรวจสอบความปลอดภัย
- วิธีป้องกัน: ตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินล่วงหน้า และแพ็คของตามข้อกำหนด
การเดินทางทางอากาศจะสะดวกและปลอดภัยขึ้นหากเราระมัดระวังสิ่งเหล่านี้ เพียงเตรียมตัวให้พร้อม คุณก็จะเดินทางอย่างปลอดภัย สะดวกสบาย
วิธีป้องกันตัวจากการถูกขโมยของบนเครื่องบิน
ปัจจุบันมีรายงานเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโจรกรรมบนเครื่องบิน โดยมิจฉาชีพแฝงตัวเป็นผู้โดยสารและขโมยของจากสัมภาระในช่องเก็บของเหนือศีรษะ หรือแม้แต่จากตัวผู้โดยสารขณะหลับ โดยเฉพาะในเที่ยวบินระยะไกลที่ผู้โดยสารอาจเผลอหลับสนิท
🔹 เก็บของมีค่าไว้กับตัวเสมอ – หนังสือเดินทาง กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ควรเก็บในกระเป๋าคาดอกหรือกระเป๋าใบเล็กที่ติดตัวตลอดเวลา
🔹 ล็อกกระเป๋าถือและเก็บสัมภาระให้ปลอดภัย – หากต้องเก็บกระเป๋าไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะ ให้ใช้กุญแจล็อกซิปหรือเลือกช่องเก็บที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่นั่งของคุณเพื่อให้สามารถสังเกตได้ง่าย
🔹 ใช้กระเป๋าที่ปิดสนิทและหันซิปเข้าด้านใน – เพื่อป้องกันไม่ให้โจรเปิดกระเป๋าได้ง่ายระหว่างที่คุณหลับ
🔹 อย่าทิ้งของมีค่าไว้ในกระเป๋าเช็คอิน – กระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยได้มากกว่ากระเป๋าถือ
🔹 ระวังคนแปลกหน้าที่ทำทีเป็นช่วยหยิบของ – หากมีคนแสดงท่าทีแปลกๆ หรือทำเป็นหยิบของผิดช่องเก็บสัมภาระ ให้ตรวจสอบกระเป๋าของคุณทันที
🔹 หมั่นสังเกตและแจ้งลูกเรือเมื่อพบสิ่งผิดปกติ – หากเห็นผู้โดยสารแปลกหน้ามีท่าทางน่าสงสัย เช่น ค้นสัมภาระคนอื่นหรือเดินสำรวจไปมาหลายรอบ ให้แจ้งลูกเรือทันที
การเดินทางทางอากาศควรเป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย การระมัดระวังตัวและเก็บของมีค่าให้ดีจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างอุ่นใจ แม้ต้องโดยสารไฟลท์ยาวก็ตาม ✈️🔒
สำหรับคนที่มีไฟล์ที่ต้องเดินทางระยะยาวนั้น ของพกขึ้นเครื่องบินเหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางของคุณมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นไอเทมตัวช่วยไฟลท์ยาวที่มีประโยชน์อย่างมาก ไม่ต้องกลัวว่าพกไปจะหนักกระเป๋าหรือเกะกะ เพราะรับรองว่าสามารถนำไปใช้ได้จริง และแม้ว่าคุณจะเดินทางไฟลท์สั้น ๆ ของพกขึ้นเครื่องทั้ง 20 อย่างนี้ก็สามารถพกขึ้นเครื่องไปเพื่อใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน และหากใครที่กำลังวางแผนการเดินทางสามารถอ่านรีวิวแอปจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกได้ที่ Shopee Blog เพื่อช่วยให้การเดินทางของคุณประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม และอย่าลืมไปช้อปไอเทมขึ้นเครื่องได้เลยที่ Shopee
ที่มา :