การใส่ถุงยางอนามัยนอกจากจะเป็นหนึ่งในวิธีเบื้องต้นสำหรับการคุมกำเนิดแล้ว ยังเป็นการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ อีกด้วย แต่รู้ไหมว่า “วิธีใส่ถุงยางอนามัย” ที่ถูกต้อง มีขั้นตอนต่าง ๆ ที่ควรรู้ เริ่มตั้งแต่การเลือกไซซ์ถุงยางที่เหมาะสมไปจนถึงการถอดถุงยางอนามัย สำหรับมือใหม่หัดใช้หรือจะเป็นมือเก่าที่อยากเช็กให้ชัวร์ ตามไปดูกันเลยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้
ขั้นตอนการเลือกซื้อถุงยางอนามัย
สำหรับมือใหม่ เชื่อว่าการเดินไปยังชั้นขายถุงยางอนามัยเพื่อไปหยิบทีละกล่องแล้วค่อย ๆ อ่าน คงเป็นเรื่องยากลำบากใจ ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็คงไม่มีใครอยากใช้เวลานาน ๆ อยู่ตรงนั้น ก่อนอื่นเรามาติวเข้มเกี่ยวกับการเลือกซื้อถุงยางกันก่อน ทั้งขนาดถุงยางอนามัย ผิวสัมผัส ความหนา และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่แถมมาให้เพื่อเพิ่มอรรถรสในเพลงรักของคุณ
ไซซ์ถุงยางอนามัย
ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขปี 2535 และมาตรฐาน ISO ปี ค.ศ. 1990
ความกว้าง: ถุงยางมีขนาดความกว้างตั้งแต่ 44 – 56 มิลลิเมตร (วัดจากเส้นรอบวง) โดยในท้องตลาดเมืองไทยจะมีไซซ์หลัก ๆ ที่วางขายอยู่ 3 ขนาด คือ
ความยาว: ถุงยางมีขนาดความยาวไม่น้อยกว่า 160 มิลลิเมตร (วัดตามความยาว)
วิธีวัดขนาดถุงยางอนามัย
วิธีวัดไซซ์ถุงยางอนามัยให้ถูกต้อง ให้วัดไซซ์ขณะที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวเต็มที่ หลังจากนั้นใช้สายวัด เชือก หรือด้าย วัดเส้นรอบวง ใช้หน่วยวัดเป็นมิลลิเมตร เมื่อได้ขนาดเส้นรอบวงแล้วให้นำมาหาร 2
ตัวอย่าง นาย A วัดขนาดเส้นรอบวงได้ 104 มิลลิเมตร 104 ÷ 2 = 52 มิลลิเมตร นาย A ก็ต้องเลือกซื้อไซซ์ถุงยางอนามัย 52 มิลลิเมตรนั่นเอง
เหตุผลที่เราจำเป็นต้องเลือกขนาดถุงยางอนามัยให้เหมาะสมคือ เพื่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดและป้องกันโรค นอกจากนี้การเลือกขนาดถุงยางอนามัยไม่เหมาะสมยังส่งผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายอีกด้วย
วัสดุผลิตถุงยางอนามัย
ปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ
- ถุงยางอนามัยที่ผลิตจากยางธรรมชาติ หาได้ทั่วไปตามท้องตลาดในไทย
- ถุงยางอนามัยที่ผลิตจากสารสังเคราะห์ (โพลียูรีเทน) สำหรับคนแพ้ยางธรรมชาติ แต่ค่อนข้างหายากในท้องตลาดและราคาสูง
ความบางของถุงยางอนามัย
ความบางของถุงยางอนามัยโดยปกติจะอยู่ที่ 0.05-0.07 มิลลิเมตร แต่ปัจจุบันมีถุงยางอนามัยที่ผลิตออกมาให้มีความบางมากกว่านั้น ตั้งแต่ 0.04-0.01 มิลลิเมตร เช่น ถุงยางอนามัย Durex รุ่น Airy ที่บาง 0.044 มิลลิเมตร ถุงยางอนามัย Okamoto รุ่น 003 ที่บางเพียง 0.03 มิลลิเมตร
ผิวสัมผัสถุงยางอนามัย
นอกจากเรื่องของไซซ์และความบางของถุงยางอนามัยแล้ว ถุงยางอนามัยยังมีให้เลือกทั้งแบบผิวเรียบ ผิวขรุขระ หรือผิวแบบปุ่ม ทั้งนี้จะเลือกแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน เช่น ถุงยางอนามัย Durex รุ่น Excita ที่มีผิวแบบขีด หรือถุงยางอนามัย Okamoto รุ่น Dot de Cool ที่มีพื้นผิวแบบปุ่ม
คุณสมบัติอื่น ๆ ของถุงยางอนามัย
นอกจากคุณสมบัติจำเป็นในการเลือกถุงยางอนามัยแล้ว ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่บริษัทผู้ผลิตถุงยางอนามัยผลิตออกมา ไม่ว่าเป็นกลิ่น เจลหล่อลื่น หรือมีส่วนผสมของสารลดความไวต่อความรู้สึกสัมผัส ทำให้เข้าเส้นชัยช้าลง อย่างถุงยางอนามัย Durex รุ่น Performa ที่มีส่วนผสมของสารเบนโซเคน ลดความไวต่อความรู้สึก หรือถุงยางนามัย Okamoto รุ่น Gel Plus ที่มีการใส่เจลหล่อลื่นเป็น 2 เท่า
วิธีใส่ถุงยางอนามัย
- ตรวจเช็กวันหมดอายุ โดยปกติหากเก็บไว้ในที่ที่ไม่โดนแสงแดดจัด ถุงยางอนามัยจะมีอายุประมาณ 3-5 ปี หากโดนแดดหรือแสงเป็นเวลานาน จะทำให้เสื่อมสภาพและเสี่ยงต่อการขาดหรือรั่ว
- การแกะถุงยางอนามัยออกจากซอง ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ค่อย ๆ ใช้มือฉีกซอง ห้ามใช้ปาก หรือของมีคมในการฉีกซองถุงยางอนามัย เพราะเสี่ยงต่อการเกิดรอยรั่ว
- ดึงปลายกระเปาะให้ตั้งขึ้น ให้รอยม้วนของขอบถุงยางอนามัยออกด้านนอก แล้ววางถุงยางอนามัยลงที่อวัยวะเพศชายที่แข็งตัวเต็มที่
- มือหนึ่งบีบตรงปลายกระเปาะเพื่อไล่อากาศออกจากถุงยาง หากมีอากาศค้างอยู่อาจทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขณะทำกิจกรรม
- มืออีกข้างค่อย ๆ รูดขอบถุงยางอนามัยที่ม้วนอยู่ลงเรื่อย ๆ จนสุดความยาวของอวัยวะเพศชาย
วิธีถอดถุงยางอนามัย
- เมื่อเสร็จกิจกรรมแล้ว ก่อนที่อวัยะเพศชายจะหดตัว ให้จับตรงโคนให้แน่นแล้วรีบนำออกจากช่องคลอดเพื่อลดความเสี่ยงที่น้ำอสุจิจะรั่วไหลออกมา
- รอให้อวัยวะเพศอ่อนตัวลงเล็กน้อย แล้วจับตรงขอบถุงยางอนามัยให้แน่นก่อนรูดขึ้นจนลุดออกจากอวัยวะเพศชาย
- หลังจากนั้นให้รูดถุงยางอนามัยไล่น้ำอสุจิให้ลงไปกองที่ปลายกระเปาะถุงยาง เพื่อเช็กดูว่าไม่มีรอบรั่วขณะทำกิจกรรม
- เมื่อไม่มีปัญหาอะไรให้มัดถุงยางอนามัยได้เลย หากระดาษห่อและทิ้งถังขยะ หากแยกได้ควรแยกทิ้งถังขยะติดเชื้อ
ข้อควรปฏิบัติขณะสวมใส่ถุงยางอนามัย
- เช็กวันหมดอายุ และสภาพของถุงยางอนามัยก่อนใช้งานทุกครั้ง
- เปลี่ยนถุงยางอนามัยใหม่ทุกรอบที่มีเพศสัมพันธ์
- ใส่ถุงยางอนามัยตลอดการมีเพศสัมพันธ์ ห้ามถอดระหว่างทาง และห้ามใส่ตอนใกล้จะเสร็จกิจกรรมเพียงอย่างเดียว
- ห้ามใช้น้ำมัน หรือโลชั่นทุกชนิดแทนเจลหล่อลื่นเพราะเสี่ยงต่อการทำให้ถุงยางอนามัยขาดรั่ว
ใส่ถุงยางอนามัยตอนไหน?
ใส่ถุงยางอนามัยตอนที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวแล้วเท่านั้น
ใส่ถุงยางอนามัย มีโอกาสท้องไหม?
มือใหม่หลายคนมักวิตกกังวล หรือแม้แต่คนที่เคยมีประสบการณ์การใช้งานถุงยางอนามัยมาก่อนแล้วก็ตาม การใส่ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูง แต่ไม่เท่ากับการฉีดหรือฝังยาคุมกำเนิด การใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการท้อง จะต้องใช้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่การดูวันหมดอายุ เช็กสภาพถุงยางก่อนใช้ ใส่ถุงยางอนามัยตลอดการสอดใส่ และถุงยางไม่รั่วหรือเสียหายขณะใช้งาน หากใช้งานถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี โอกาสตั้งท้องและติดโรคก็น้อยลง
เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามาก ดังนั้นการศึกษาวิธีการเลือกไซซ์ถุงยางอนามัยที่เหมาะสม วิธีการใส่ถุงยางอนามัย รวมไปถึงวิธีการถอดถุงยางอนามัยหลังเสร็จกิจกรรม ทุกขั้นตอนมีความสำคัญและรายละเอียดที่ต้องรู้ แม้ไม่สามารถพูดได้ว่าการใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งจะทำให้ไม่ตั้งท้องหรือติดโรค 100% แต่ยิ่งเราใช้งานอย่างถูกต้องมากเท่าไหร่ เปอร์เซ็นต์ในการป้องกันก็สูงขึ้นตามไปด้วย เตรียมตัวเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยในวันนี้ ดีกว่าต้องเตรียมของคลอดในวันหน้านะ
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หัดใช้งานถุงยางอนามัย เข้ามาอ่านบทความเพื่อศึกษาวิธีการใช้งานอย่างถูกวิธีแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าเดินไปซื้อที่ร้านค้า สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Shopee สะดวกสบายซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: medthai.com, themomentum.co, med.mahidol.ac.th